ครั้งแรกที่มาเขียนเลยนะ
มันเกิดจากเราอัดอั้นใจในเรื่องที่ทำงาน อึดอัด เราทำงานเป็นพนักงานขายบริษัทชื่อดังระดับประเทศกะว่าได้ สังคมในที่ทำงาน(ที่เราเจอ)มันไม่น่าอยู่เลย 55 รึว่าเราโลกสวยไป เราทำงานที่นี่มาปีกว่าละ แรกๆเพื่อนร่วมงานก็ดีนะ แต่...หลังๆเริ่มนินทาเราบ้าง (รึอาจนินทามาตลอดแต่เราไม่รู้555) ความลับไม่มีในโลกไง
เรื่องที่เขาเอาเราไปนินทา ก็พัดมาถึงหูคนโลกสวยอย่างเราจนได้ เชื่อว่าหลายๆคนก็คงไม่ชอบให้ใครมานินทา (นินทามันก็คงไม่ใช่เรื่องดีแน่นอนอ่ะเน๊อะ) ก็มีคนในกลุ่มที่ทำงานนี่แหล่ะ เรียกตัวเองว่า >ผู้หวังดี< คาบข่าวมาบอก เช่น ว่าให้เรามาสายบ้าง ทำงานช้าบ้าง ของหายก็ว่าเราขโมยบ้าง
อืมมมม...มาสายหรอค่ะ กุลงเวลาเข้างานให้เมิงทุกวันอิห่า ขโมยของก็เมิงนั่นแหล่ะกลับบ้านทีหิ้วของไปเยอะแยะ บางอันยังไม่ได้จ่ายเมิงก็เอาไปกิน เห็นกุเด็กใหม่ เสียใจ!!!.....กุจดบันทึกรายละเอียดทุกวัน มีหลักฐานเอาผิดเมิงได้เลยนะ ถ้าแจ้งหัวหน้างาน คุกเลยนะ (ขอโทษที่ใช้คำไม่สุภาพนะคะ)
พอเรารู้ เรากับเขาที่ทำงานด้วยกันก็เริ่มไม่พูดกัน ไม่คุยกัน >>>เราก็ไม่กล้าถามเขาตรงๆนะ ดูจากการกระทำที่เขาทำกะเราก็เดาไม่ยาก ก็เริ่มอยู่กันไม่ได้ เพราะ...มันมีผลกับการทำงานนะ เวลาลูกค้าสั่งของทีเขาก็จะไม่บอกเรา พอลูกค้ามาเอาของ ไอ้เราก็ไม่รู้เรื่องไงโดนว่า (อาจโดน call centerเข้าสักวัน) อยู่ได้ไม่กี่เดือน ก็ต้องย้ายไปอยู่อีกที่ เพราะปัญหานี้
พอย้ายมาที่2 อยู่ได้สักพัก...เอาอีกละ คือ>>มันเกิดจากคนที่เราอยู่ด้วยที่แรก เอาเราไปนินทาให้เพื่อนในกลุ่มที่ทำงานด้วยกันฟังหมดดดดดค่ะ
คนที่สองที่เราอยู่ด้วยกะรับฟังมาเช่นกัน การอยู่ร่วมกัน มีอะไรก็ควรพูดคุยกัน ตักเตือนกัน ไม่ใช่เอาไปพูด เอาไปนินทา สังคมที่ทำงานที่นี่...มีแต่คนเอาเปรียบ เขาทำได้ แต่พอเราทำบ้างไม่พอใจค่ะ เห็นแก่ตัวมาก ไม่พอใจก็เอาไปพูดต่อๆๆๆค่ะ ก็ทนอยู่นะค่ะ บางครั้งแอบร้องไห้ค่ะ ท้อมาก หันหน้าคุยกะใครไม่ได้สักคนเพราะใส่หน้ากากไม่เป็นค่ะ มาสายลงเวลาให้เราก็ไม่เคยว่านะ เวลางานออกไปเที่ยวไปเดินช็อปปิ้ง ซื้อของให้เราอยู่ขายของคนเดียวก็ไม่ว่านะ บางครั้งเราทำงานเขาไม่ทำเอาแต่นั่งแต่งหน้าทำสวย เราก็ไม่ว่านะ พอเราทำเสร็จมาขายของเขาก็ทำเป็นจัดของยังไม่พอนะไลน์ไปบอกเพื่อนบ้านใกล้เรื่องเคียงมาดูจ้ายังนะยังไม่พอค่ะไลน์ไปบอกว่าเราเนี๊ยะไม่ทำงานยืนอยู่เฉยๆเขาเนี๊ยะทำงานง๊กๆๆ พอดีเคยยืมมือถือเขาส่งงานอ่ะเลยเจอในไลน์พอดี😤😤มีอีกนะ แฟนเรามารับมาส่งก็เอาไปพูดนินทาอยากถามเลยนะ เมิงทำเพื่ออออออ อยู่ลำบากอีกละกุ เห้อออออ!!!อดทนอยู่ได้ครึ่งปีได้ค่ะหัวหน้าให้ย้ายอีกค่ะ ที่3แล้วนะคะ เราก็ไม่รู้เหมือนกันอ่ะนะว่าไปทำอะไรไว้ถึงได้เจอแต่เรื่องแบบนี้ ที่3ก็เหมือนกันค่ะ ไม่ต่างกันเลย เราจำได้นะทุกๆที่ที่เราทำงานเราบอกเพื่อนร่วมงานไว้เลยนะว่า หากมีอะไรก็ขอให้พูดคุยกันตรงๆ อยู่กันเหมือนพี่เหมือนน้อง เรื่องที่นี่ก็ขอให้จบที่นี่ แต่ละที่แต่ละคนก็รับปาก อืม จ้า เคร! สุดท้ายก็เหมือนเดิม ที่3คนที่เราอยู่ด้วยเอาแต่คุยโทรศัพท์ทั้งวัน เราก็ไม่ว่าไรเรื่องของเขา เราทำหน้าที่เราดีกว่า เรามีเรื่องอึดอัดใจเราก็เริ่มที่จะคุยกะเพื่อนอีกคนทำงานบริษัทเดียวกันแต่อยู่คนละจังหวัด ไว้ใจเพื่อนคนนี้มามีอะไรปรึกษา กลุ้มใจก็พูด ระบายให้เพื่อนคนนี้ฟังมันรู้สึกสบายใจนะ มากด้วย ก็คบกันเป็นเพื่อนเรื่อยๆมา จนวันนี้ ตอนนี้รู้ความจริงซึ้งใจเลย อะไรที่เราพูดที่เราคุยให้เพื่อนคนนี้ฟัง เพื่อนคนนี้ก็เอาไปพูดอีก เอาง่ายๆเพื่อนคนนี้หักหลังเรา แต่เขาก็ยังทำเนียนคุยกะเราเหมือนปกติ เพราะเขาคงไม่รู้ว่า ณ ตอนนี้เรารู้ความจริงทั้งหมดนั้นแล้ว อีกอย่างเพื่อนคนนี้ปกติเที่ยว พูดคุยกันตลอด แต่พอเวลาอยู่ในกลุ่มที่ทำงานหลายๆคน เขาจะไม่มาคุยกะเราเลย ก็ไม่รู้เหมือนกัน...ว่าเราไปทำอะไรให้เขาเกลียดรึไม่ชอบ เข้าใจนะเขาไม่ชอบก็คือไม่ชอบถึงแม่เราจะทำดีแค่ไหนเขาก็ไม่ชอบ เสียใจค่ะ ร้องไห้เลย ท้อสุดๆ สังคมในที่ทำงานนี้เหมือนเรายืนอยู่คนเดียวโดยมีพวกอิแร้งคอยดู คอยหาโอกาสบินลงมาจิกกัด อึดอัดมาก มากที่สุด บางครั้งอยากลาออกไปให้พ้นๆนะ แต่ก็เหมือนว่าเราหนีปัญหา มีแค่คำๆเดียวคือคำว่า *อดทน*
ใครเป็นแบบเราบ้าง แล้วหากเจอแบบนี้เราควรทำยังไงต่อดี
ต้องอดทนต่อๆไปรึ ไม่อดทนก็ไม่ได้ อึดอัดใจมากๆ
อยากบอกนะว่าบางครั้งคนเราก็ควรฟังหูไว้หู อย่าตัดสินใครเพียงเพราะคุณฟังเขามา...😢😢
สังคมในที่ทำงานคุณเป็นเหมือนเราไหม๊
มันเกิดจากเราอัดอั้นใจในเรื่องที่ทำงาน อึดอัด เราทำงานเป็นพนักงานขายบริษัทชื่อดังระดับประเทศกะว่าได้ สังคมในที่ทำงาน(ที่เราเจอ)มันไม่น่าอยู่เลย 55 รึว่าเราโลกสวยไป เราทำงานที่นี่มาปีกว่าละ แรกๆเพื่อนร่วมงานก็ดีนะ แต่...หลังๆเริ่มนินทาเราบ้าง (รึอาจนินทามาตลอดแต่เราไม่รู้555) ความลับไม่มีในโลกไง
เรื่องที่เขาเอาเราไปนินทา ก็พัดมาถึงหูคนโลกสวยอย่างเราจนได้ เชื่อว่าหลายๆคนก็คงไม่ชอบให้ใครมานินทา (นินทามันก็คงไม่ใช่เรื่องดีแน่นอนอ่ะเน๊อะ) ก็มีคนในกลุ่มที่ทำงานนี่แหล่ะ เรียกตัวเองว่า >ผู้หวังดี< คาบข่าวมาบอก เช่น ว่าให้เรามาสายบ้าง ทำงานช้าบ้าง ของหายก็ว่าเราขโมยบ้าง
อืมมมม...มาสายหรอค่ะ กุลงเวลาเข้างานให้เมิงทุกวันอิห่า ขโมยของก็เมิงนั่นแหล่ะกลับบ้านทีหิ้วของไปเยอะแยะ บางอันยังไม่ได้จ่ายเมิงก็เอาไปกิน เห็นกุเด็กใหม่ เสียใจ!!!.....กุจดบันทึกรายละเอียดทุกวัน มีหลักฐานเอาผิดเมิงได้เลยนะ ถ้าแจ้งหัวหน้างาน คุกเลยนะ (ขอโทษที่ใช้คำไม่สุภาพนะคะ)
พอเรารู้ เรากับเขาที่ทำงานด้วยกันก็เริ่มไม่พูดกัน ไม่คุยกัน >>>เราก็ไม่กล้าถามเขาตรงๆนะ ดูจากการกระทำที่เขาทำกะเราก็เดาไม่ยาก ก็เริ่มอยู่กันไม่ได้ เพราะ...มันมีผลกับการทำงานนะ เวลาลูกค้าสั่งของทีเขาก็จะไม่บอกเรา พอลูกค้ามาเอาของ ไอ้เราก็ไม่รู้เรื่องไงโดนว่า (อาจโดน call centerเข้าสักวัน) อยู่ได้ไม่กี่เดือน ก็ต้องย้ายไปอยู่อีกที่ เพราะปัญหานี้
พอย้ายมาที่2 อยู่ได้สักพัก...เอาอีกละ คือ>>มันเกิดจากคนที่เราอยู่ด้วยที่แรก เอาเราไปนินทาให้เพื่อนในกลุ่มที่ทำงานด้วยกันฟังหมดดดดดค่ะ
คนที่สองที่เราอยู่ด้วยกะรับฟังมาเช่นกัน การอยู่ร่วมกัน มีอะไรก็ควรพูดคุยกัน ตักเตือนกัน ไม่ใช่เอาไปพูด เอาไปนินทา สังคมที่ทำงานที่นี่...มีแต่คนเอาเปรียบ เขาทำได้ แต่พอเราทำบ้างไม่พอใจค่ะ เห็นแก่ตัวมาก ไม่พอใจก็เอาไปพูดต่อๆๆๆค่ะ ก็ทนอยู่นะค่ะ บางครั้งแอบร้องไห้ค่ะ ท้อมาก หันหน้าคุยกะใครไม่ได้สักคนเพราะใส่หน้ากากไม่เป็นค่ะ มาสายลงเวลาให้เราก็ไม่เคยว่านะ เวลางานออกไปเที่ยวไปเดินช็อปปิ้ง ซื้อของให้เราอยู่ขายของคนเดียวก็ไม่ว่านะ บางครั้งเราทำงานเขาไม่ทำเอาแต่นั่งแต่งหน้าทำสวย เราก็ไม่ว่านะ พอเราทำเสร็จมาขายของเขาก็ทำเป็นจัดของยังไม่พอนะไลน์ไปบอกเพื่อนบ้านใกล้เรื่องเคียงมาดูจ้ายังนะยังไม่พอค่ะไลน์ไปบอกว่าเราเนี๊ยะไม่ทำงานยืนอยู่เฉยๆเขาเนี๊ยะทำงานง๊กๆๆ พอดีเคยยืมมือถือเขาส่งงานอ่ะเลยเจอในไลน์พอดี😤😤มีอีกนะ แฟนเรามารับมาส่งก็เอาไปพูดนินทาอยากถามเลยนะ เมิงทำเพื่ออออออ อยู่ลำบากอีกละกุ เห้อออออ!!!อดทนอยู่ได้ครึ่งปีได้ค่ะหัวหน้าให้ย้ายอีกค่ะ ที่3แล้วนะคะ เราก็ไม่รู้เหมือนกันอ่ะนะว่าไปทำอะไรไว้ถึงได้เจอแต่เรื่องแบบนี้ ที่3ก็เหมือนกันค่ะ ไม่ต่างกันเลย เราจำได้นะทุกๆที่ที่เราทำงานเราบอกเพื่อนร่วมงานไว้เลยนะว่า หากมีอะไรก็ขอให้พูดคุยกันตรงๆ อยู่กันเหมือนพี่เหมือนน้อง เรื่องที่นี่ก็ขอให้จบที่นี่ แต่ละที่แต่ละคนก็รับปาก อืม จ้า เคร! สุดท้ายก็เหมือนเดิม ที่3คนที่เราอยู่ด้วยเอาแต่คุยโทรศัพท์ทั้งวัน เราก็ไม่ว่าไรเรื่องของเขา เราทำหน้าที่เราดีกว่า เรามีเรื่องอึดอัดใจเราก็เริ่มที่จะคุยกะเพื่อนอีกคนทำงานบริษัทเดียวกันแต่อยู่คนละจังหวัด ไว้ใจเพื่อนคนนี้มามีอะไรปรึกษา กลุ้มใจก็พูด ระบายให้เพื่อนคนนี้ฟังมันรู้สึกสบายใจนะ มากด้วย ก็คบกันเป็นเพื่อนเรื่อยๆมา จนวันนี้ ตอนนี้รู้ความจริงซึ้งใจเลย อะไรที่เราพูดที่เราคุยให้เพื่อนคนนี้ฟัง เพื่อนคนนี้ก็เอาไปพูดอีก เอาง่ายๆเพื่อนคนนี้หักหลังเรา แต่เขาก็ยังทำเนียนคุยกะเราเหมือนปกติ เพราะเขาคงไม่รู้ว่า ณ ตอนนี้เรารู้ความจริงทั้งหมดนั้นแล้ว อีกอย่างเพื่อนคนนี้ปกติเที่ยว พูดคุยกันตลอด แต่พอเวลาอยู่ในกลุ่มที่ทำงานหลายๆคน เขาจะไม่มาคุยกะเราเลย ก็ไม่รู้เหมือนกัน...ว่าเราไปทำอะไรให้เขาเกลียดรึไม่ชอบ เข้าใจนะเขาไม่ชอบก็คือไม่ชอบถึงแม่เราจะทำดีแค่ไหนเขาก็ไม่ชอบ เสียใจค่ะ ร้องไห้เลย ท้อสุดๆ สังคมในที่ทำงานนี้เหมือนเรายืนอยู่คนเดียวโดยมีพวกอิแร้งคอยดู คอยหาโอกาสบินลงมาจิกกัด อึดอัดมาก มากที่สุด บางครั้งอยากลาออกไปให้พ้นๆนะ แต่ก็เหมือนว่าเราหนีปัญหา มีแค่คำๆเดียวคือคำว่า *อดทน*
ใครเป็นแบบเราบ้าง แล้วหากเจอแบบนี้เราควรทำยังไงต่อดี
ต้องอดทนต่อๆไปรึ ไม่อดทนก็ไม่ได้ อึดอัดใจมากๆ
อยากบอกนะว่าบางครั้งคนเราก็ควรฟังหูไว้หู อย่าตัดสินใครเพียงเพราะคุณฟังเขามา...😢😢