แอบน้อยใจเล็กๆทุกครั้ง ที่ได้ยินผู้หญิงชอบบอกว่า
ผู้หญิงรักด้วยหัวใจ แต่ผู้ชายรักด้วยสมอง
สรุปก็คือว่าผู้ชายอย่างเราๆเป็นพวกไม่มีหัวใจหรือ
วันนี้ขอระบายความในใจผู้ชายอกสามศอกครึ่งคนหนึ่ง
ทั้งที่เรื่องที่ผู้หญิงชอบเหน็บแนมผู้ชายนั้นเป็นเรื่องจริง
ทำไมผู้หญิงจึงกล่าวเช่นนั้น ก็เพราะแต่ไหนแต่ไรมา ผู้ชายคือผู้นำที่ต้องมีหน้าที่ปกป้องดูแลครอบครัวที่อ่อนแอทั้งลูกทั้งเมีย
ซึ่งก็คือหนึ่งในคนที่ชอบพูดประโยคนี้
ก็แหงล่ะ ขืนผู้ชายที่ออกไปนอกถ้ำไปผจญกับเสือเขี้ยวดาบ
หรือฮายีน่าโบราณใช้หัวใจมากๆ แทนที่จะใช้สมอง
จะมีโอกาสรอดกลับมาหาลูกเมียไหม
ส่วนผู้หญิงที่อยู่เฝ้าถ้ำไม่ค่อยได้รับรู้อะไรของโลกภายนอกเท่าไหร่
ก็จะใช้ความรู้สึกตัดสินเรื่องต่างๆมากกว่า อย่างเช่น
อยากได้อาหารอะไรอร่อยๆก็จะอ้อนผู้ชายไปหาเนื้อสมันตัวผู้อายุไม่เกินหกเดือนให้หน่อยสิ อยากกิน
หารู้ไม่ว่าต้องไปแย่งกับสิงห์โตฝูงเบ้อเร่อ ขอเปลี่ยนเป็นเนื้อหมูป่าแก่ๆสักตัวได้ไหม แม่ก็งอนไม่พูดด้วยไปหลายวัน
พอมาถึงยุคปัจจุบัน ชักเริ่มมีคำถามแล้วว่าผู้หญิงใช้หัวใจ
ผู้ชายใช้สมองจริงหรือ
ในเรื่องความรักน่ะใช่ครับ ยังไม่เปลี่ยนแปลง
แต่ก็เฉพาะเรื่องความรักเท่านั้น
เพราะในปัจจุบันผู้หญิงได้ก้าวออกจากถ้ำมาสู่โลกภายนอกอย่างเต็มตัวแล้ว
แต่ปัจจุบันนี้ความรักไม่ใช่ทั้งหมดแต่เป็นเพียงเสี้ยวหนึ่งของชีวิตเท่านั้นเองสำหรับคนส่วนใหญ่ที่โตพอ
และมีสังคมที่ค่อนข้างจะใหญ่โตอลังการ
คงจะเคยได้ยินบางคนพูดว่า ผู้หญิงชอบคนหล่อ รอรักกับคนดีๆ และสุดท้ายรอไม่ไหว แต่งกับคนรวย
ถ้าประโยคนี้คือความจริง มันก็แสดงให้เห็นชัดว่าผู้หญิงยังคงใช้หัวใจในเรื่องความรัก
แต่ไม่ได้ใช้หัวใจตัดสินอนาคตของตัวเองอย่างเช่นในอดีตอีกแล้ว
ขณะที่ผู้ชายยังคงต้องใช้สมองให้มากกว่าหัวใจอยู่เช่นเดิม
เพราะไม่เช่นนั้น ก็อาจจะไม่สามารถเอาตัวรอดอยู่ปกป้องดูแลคนที่ตัวเองรักและต้องรับผิดชอบได้
แต่ผู้ชายจะรักได้เฉพาะคนที่ตัวเองมีความสามารถพอที่จะรักเท่านั้น
เพราะถ้ารักโดยไร้ซึ่งเหตุผลที่ผู้หญิงยุคใหม่มีเต็มเปี่ยม
อาจจะเจ็บปวดทรมานกับการผิดหวังในความรักไปจนวันตาย
ทั้งๆที่ความจริงผู้ชายก็มีหัวใจไม่ต่างกับผู้หญิงนั่นแหละครับ
การที่ผู้ชายต้องใช้สมองให้มากก็เพราะรักตัวเดียว
จำไว้นะครับคุณผู้หญิงทั้งหลาย
ขอเวลาไปทำใจหนึ่งชาติ
ผู้ชายไม่มีสิทธิ์ใช้หัวใจ ถ้าไร้ซึ่งเหตุผล
ผู้หญิงรักด้วยหัวใจ แต่ผู้ชายรักด้วยสมอง
สรุปก็คือว่าผู้ชายอย่างเราๆเป็นพวกไม่มีหัวใจหรือ
วันนี้ขอระบายความในใจผู้ชายอกสามศอกครึ่งคนหนึ่ง
ทั้งที่เรื่องที่ผู้หญิงชอบเหน็บแนมผู้ชายนั้นเป็นเรื่องจริง
ทำไมผู้หญิงจึงกล่าวเช่นนั้น ก็เพราะแต่ไหนแต่ไรมา ผู้ชายคือผู้นำที่ต้องมีหน้าที่ปกป้องดูแลครอบครัวที่อ่อนแอทั้งลูกทั้งเมีย
ซึ่งก็คือหนึ่งในคนที่ชอบพูดประโยคนี้
ก็แหงล่ะ ขืนผู้ชายที่ออกไปนอกถ้ำไปผจญกับเสือเขี้ยวดาบ
หรือฮายีน่าโบราณใช้หัวใจมากๆ แทนที่จะใช้สมอง
จะมีโอกาสรอดกลับมาหาลูกเมียไหม
ส่วนผู้หญิงที่อยู่เฝ้าถ้ำไม่ค่อยได้รับรู้อะไรของโลกภายนอกเท่าไหร่
ก็จะใช้ความรู้สึกตัดสินเรื่องต่างๆมากกว่า อย่างเช่น
อยากได้อาหารอะไรอร่อยๆก็จะอ้อนผู้ชายไปหาเนื้อสมันตัวผู้อายุไม่เกินหกเดือนให้หน่อยสิ อยากกิน
หารู้ไม่ว่าต้องไปแย่งกับสิงห์โตฝูงเบ้อเร่อ ขอเปลี่ยนเป็นเนื้อหมูป่าแก่ๆสักตัวได้ไหม แม่ก็งอนไม่พูดด้วยไปหลายวัน
พอมาถึงยุคปัจจุบัน ชักเริ่มมีคำถามแล้วว่าผู้หญิงใช้หัวใจ
ผู้ชายใช้สมองจริงหรือ
ในเรื่องความรักน่ะใช่ครับ ยังไม่เปลี่ยนแปลง
แต่ก็เฉพาะเรื่องความรักเท่านั้น
เพราะในปัจจุบันผู้หญิงได้ก้าวออกจากถ้ำมาสู่โลกภายนอกอย่างเต็มตัวแล้ว
แต่ปัจจุบันนี้ความรักไม่ใช่ทั้งหมดแต่เป็นเพียงเสี้ยวหนึ่งของชีวิตเท่านั้นเองสำหรับคนส่วนใหญ่ที่โตพอ
และมีสังคมที่ค่อนข้างจะใหญ่โตอลังการ
คงจะเคยได้ยินบางคนพูดว่า ผู้หญิงชอบคนหล่อ รอรักกับคนดีๆ และสุดท้ายรอไม่ไหว แต่งกับคนรวย
ถ้าประโยคนี้คือความจริง มันก็แสดงให้เห็นชัดว่าผู้หญิงยังคงใช้หัวใจในเรื่องความรัก
แต่ไม่ได้ใช้หัวใจตัดสินอนาคตของตัวเองอย่างเช่นในอดีตอีกแล้ว
ขณะที่ผู้ชายยังคงต้องใช้สมองให้มากกว่าหัวใจอยู่เช่นเดิม
เพราะไม่เช่นนั้น ก็อาจจะไม่สามารถเอาตัวรอดอยู่ปกป้องดูแลคนที่ตัวเองรักและต้องรับผิดชอบได้
แต่ผู้ชายจะรักได้เฉพาะคนที่ตัวเองมีความสามารถพอที่จะรักเท่านั้น
เพราะถ้ารักโดยไร้ซึ่งเหตุผลที่ผู้หญิงยุคใหม่มีเต็มเปี่ยม
อาจจะเจ็บปวดทรมานกับการผิดหวังในความรักไปจนวันตาย
ทั้งๆที่ความจริงผู้ชายก็มีหัวใจไม่ต่างกับผู้หญิงนั่นแหละครับ
การที่ผู้ชายต้องใช้สมองให้มากก็เพราะรักตัวเดียว
จำไว้นะครับคุณผู้หญิงทั้งหลาย
ขอเวลาไปทำใจหนึ่งชาติ