เทคโนโลยีปัจจุบันนี้ก้าวกระโดดไปไกลมากๆ การจะนำเกมส์ๆนึงเมือซัก 20 ปีที่แล้วมาปรับปรุง กราฟฟิกเสียใหม่นั้นไม่น่าจะเป็นเรื่องที่ยากจนเกินไป
แล้วอะไรทำให้เกมส์ความทรงจำของใครหลายต่อหลายคนเกมส์นี้ ใช้เวลาถึง 18 ปีกว่าจะได้ฤกษ์ นำกลับมาทำใหม่อีกครั้ง
ต้นเหตุหลักๆเลยผมคิดว่า มาจากชายที่ชื่อ เท็ตซึยะ โนมูระ
***Final Fantasy 7 ในสมัยก่อนนั้นเป็นอย่างไร
Final Fantasy 7 ฉบับ 1997 กำกับโดย Yoshinori Kitase โดยทีโนมูระในตอนนั้นดูแลในส่วนคาแรคเตอร์ดีไซน์กับ แบทเทิลซิสเต็ม
ถ้ามองย้อนกลับไปจากมุมมองของเราในปัจจุบัน เราจะนึกภาพไฟนอล 7 ว่าเป็นแนวแฟนตาซีไซไฟมันก็ไม่ผิดนัก
แต่มันใช่ไซไฟอย่างที่เราคิดจริงๆหรือ ?
ในยุคนั้นจะเรียกได้ว่าเป็นยุคที่งานดีไซน์ประเภท Mecha(เครื่องจักร)ได้รับความนิยมอย่างสูงเลยก็ว่าได้
ถ้าใครนึกภาพไม่ออกให้นึกไปถึงเกมส์ดังๆอย่าง ROCKMAN หรือ Metal Slug
ภาพของเหล็กหนาๆ น๊อตตัวใหญ่ๆ ในสมัยสงครามโลกครั้งที่สองอะไรทำนองนั้น
ซีรีย์ไฟนอลแฟนตาซี เองก็หนีไม่พ้น อิทธิพลที่ว่านี้ด้วยเช่นกัน และมีวิวัฒนาการให้เห็นใน ไฟนอล 6
และเป็นรูปธรรมขึ้นอย่างชัดเจนใน ภาค 7 จากการพัฒนาของกราฟฟิกที่ก้าวกระโดดด้วยพลังของเครื่อง Play Station
นี่เป็นภาพของโปสเตอร์ ของไฟนอล 7 ในสมัยนั้น
กลิ่นเหล็กหนาๆ น๊อตตัวใหญ่ๆ โชยมาแต่ไกลเลยใช่รึเปล่า
ภาพของคลาวด์ยิ้มเท่ห์ๆ ถือดาบอันเท่าช้าง กับ ปืนกลคิดแขน แบเร็ต เป็นอะไรที่ว๊าวมากๆสำหรับเด็กในสมัยนั้น (เด็กสมัยนั้นไม่ได้คิดกันถึงเรื่องก้อนเนื้อเท่าไร จริงๆนะ)
พูดง่ายๆก็คือถ้าย้อนกลับไปเมื่อซัก 18 ปีที่แล้วไม่มีใครที่จิตนาการออกหรอกครับว่า Final Fantasy 7 ที่ดูเป็นการ์ตูนเท่ห์ๆสไตล์ Mecha
มันจะกลายมาเป็นไอ้หนุ่ม อิโม หน้าหวาน ชุดหนังรัดติ้ว อย่างในทุกวันนี้ ด้วยมือของ เท็ตซึยะ โนมูระ...
การเปลียนแปลงสำคัญน่าจะเรื่มมาจากปี 2005 ที่ Final Fantasy 7 AC ได้ฤกษ์เปิดตัวนั่นแหละครับ
ด้วยพลังของ CG สมัยใหม่ และการก้าวเข้ามาเป็นผู้กำกับเต็มตัวของ โนมูนะ
โลกทัศน์ ของ Final Fantasy 7 ก็ได้เปลียนไปอย่างสิ้นเชิง
และนั้นนำมาซึ่งเหตุผลที่ว่าทำใมการนำมันกลับมาทำใหม่อีกครั้งจึงเป็นเรื่องที่ยากชนิดที่ทาง SE เองก็กล้าๆกลัวๆที่จะทำ
***ทำใมถึงไม่ยอมรีเมคซักที ?
หลักๆเลยน่าจะเป็นเพราะ Final Fantasy 7 นั้นเป็นเกมส์ครับไม่ใช่ภาพยนตร์
ด้วยพลังเทคโนโลยีปัจจุบัน จะสร้าง Final 7 AC 2 ขึ้นมานั้นไม่ได้ยากเย็นอะไรเท่าไรนักสำหรับ SE แต่การจะทำเกมส์ให้สนุกนั้นมันคนละเรื่อง
และด้วยพลังของเทคโนโลยีนี่แหละที่ทำให้ SE แทบจะขุดหลุมฝังตัวเองใน ไฟนอลแฟนตาซีภาคต่อๆมา
แม้แต่บุคลากรภายในของ SE เองก็ออกมายอมรับว่าระยะหลัง SE เน้นไปที่ความอลังการณ์ของ CG มากจนเกินไป
เพราะยิ่งภาพสวยสมจริงมากขึ้นเท่าไร ข้อจำกัดในการสร้างเกมส์มันก็จะยิ่งมากขึ้นไปด้วย
ไฟนอล 13 เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนสำหรับเรื่องนี้ เรียกได้ว่าแทบไม่เหลือเค้าเดิมของ JRPG เลยก็ว่าได้
นั่นแหละที่ทำให้การสร้าง FF7 มีปัญหา
เพราะความเป็น JRPG ขนานแท้ของมันทำให้ โลกทัศน์ ภายในเกมส์ของไฟนอล 7 นั้นกว้างใหญ่มาก
และยากมากขึ้นซ้ำซ้อนมากขึ้นไปอีกจากการตีความใหม่เน้นความสมจริงของซีรีย์ ไฟนอล ในยุคต่อๆมาของโนมูระ
จะมีเด็กซักกี่คนในสมัยนี้นึกถึง ไฟนอล 7 ในแบบของการ์ตูน Mecha ได้กลิ่นของเหล็กแผนหนาๆ ตะปูตัวใหญ่ๆ และคราบสนิม
ทุกคนนึกถึง คลาวด์ แอริธ และทีฟา ในภาพลักษณ์ของมนุษย์จริงๆ สวยใส ไร้สิว กันไปหมด
ในเมือตัวละครมันสมจริง ......อะไรๆภายในเกมส์มันก็หนีไม่พ้นต้องสมจริงตามไปด้วยโดยปริยายใช่มะ
ไหนจะพวกมินิเกมส์ต่างๆที่แทรกเข้ามาอยู่ตลอด หรือแม้แต่เนื้อเรื่องในบางช่วงของ ไฟนอล 7 ออริจินอลเอง ก็ยังยากที่จะทำออกมาให้เหมาะสมด้วยพลังของเทคโนโลยีปัจจุบัน
เนื่องจากความสนุกของบทและเนื้อหาของ ไฟนอล 7 ถูกออกแบบมาให้เหมาะสมกับระดับเทคโนโลยีในยุคสมัยนั้น
คลาวด์ที่โนมูระตีความขึ้นมาใหม่ในยุคหลังๆ จึงถูกนำไปล้อจนกลายเป็นเรื่องขำขันถึงความไม่เข้ากันอย่างรุนแรงของบทกับคาแรคเตอร์
(แต่ก็อยากจะรอชม ว่ามันจะออกมาเป็นยังไงวะ ฮา)
(เครดิต:รูปมาจากกระทุ้อื่นในพันทิพครับ)
เพราะเหตุผลอย่างที่ว่าไปนั่นแหละ
ทำให้ Final Fantasy 7 ไม่เคยถูกนำมา Remaster (ทำกราฟฟิกใหม่) เลยซักครั้ง แม้จะถูกเรียกร้องโดยแฟนมาตลอด 20 ปี
และนำมาซึ่งการ Remake(ทำใหม่หมดเบย) อย่างที่เราได้ทราบกัน
โดยที่อดีตผู้กำกับเดิมอย่างคุณ คิทาเสะ เลือนขึ้นไปอยู่ฝ่ายอำนวยการผลิต และคณ โนมุระ นั่งแทนผู้กำกับแทน...ตามระเบียบ
สำหรับผมนั้น แม้ความหวังที่จะได้เห็น Final Fantasy 7 กลับไปเป็นอย่างที่มันควรจะเป็น(ให้ได้มากที่สุด)จะดูเลือนลางเต็มที
แต่กำขี้ ก็ยังดีกว่ากำตดละนะ
จริงปะ ?
ปล.บทความนี้เขียนขึ้นจากมุมมองส่วนตัวและประสบการณ์ของผมล้วนๆ อ่านเอาสนุกๆพอได้ และไม่ได้หมายถึงว่ามันจะถูกต้องทั้งหมด
แสดงความเห็นได้แต่กรุณาสุภาพด้วยนะครับ
Final Fantasy 7 สาเหตุที่มันไม่ถูกนำมา รีมาสเตอร์มาตลอดระยะเวลา 20 ปี
แล้วอะไรทำให้เกมส์ความทรงจำของใครหลายต่อหลายคนเกมส์นี้ ใช้เวลาถึง 18 ปีกว่าจะได้ฤกษ์ นำกลับมาทำใหม่อีกครั้ง
ต้นเหตุหลักๆเลยผมคิดว่า มาจากชายที่ชื่อ เท็ตซึยะ โนมูระ
***Final Fantasy 7 ในสมัยก่อนนั้นเป็นอย่างไร
Final Fantasy 7 ฉบับ 1997 กำกับโดย Yoshinori Kitase โดยทีโนมูระในตอนนั้นดูแลในส่วนคาแรคเตอร์ดีไซน์กับ แบทเทิลซิสเต็ม
ถ้ามองย้อนกลับไปจากมุมมองของเราในปัจจุบัน เราจะนึกภาพไฟนอล 7 ว่าเป็นแนวแฟนตาซีไซไฟมันก็ไม่ผิดนัก
แต่มันใช่ไซไฟอย่างที่เราคิดจริงๆหรือ ?
ในยุคนั้นจะเรียกได้ว่าเป็นยุคที่งานดีไซน์ประเภท Mecha(เครื่องจักร)ได้รับความนิยมอย่างสูงเลยก็ว่าได้
ถ้าใครนึกภาพไม่ออกให้นึกไปถึงเกมส์ดังๆอย่าง ROCKMAN หรือ Metal Slug
ภาพของเหล็กหนาๆ น๊อตตัวใหญ่ๆ ในสมัยสงครามโลกครั้งที่สองอะไรทำนองนั้น
ซีรีย์ไฟนอลแฟนตาซี เองก็หนีไม่พ้น อิทธิพลที่ว่านี้ด้วยเช่นกัน และมีวิวัฒนาการให้เห็นใน ไฟนอล 6
และเป็นรูปธรรมขึ้นอย่างชัดเจนใน ภาค 7 จากการพัฒนาของกราฟฟิกที่ก้าวกระโดดด้วยพลังของเครื่อง Play Station
นี่เป็นภาพของโปสเตอร์ ของไฟนอล 7 ในสมัยนั้น
กลิ่นเหล็กหนาๆ น๊อตตัวใหญ่ๆ โชยมาแต่ไกลเลยใช่รึเปล่า
ภาพของคลาวด์ยิ้มเท่ห์ๆ ถือดาบอันเท่าช้าง กับ ปืนกลคิดแขน แบเร็ต เป็นอะไรที่ว๊าวมากๆสำหรับเด็กในสมัยนั้น (เด็กสมัยนั้นไม่ได้คิดกันถึงเรื่องก้อนเนื้อเท่าไร จริงๆนะ)
พูดง่ายๆก็คือถ้าย้อนกลับไปเมื่อซัก 18 ปีที่แล้วไม่มีใครที่จิตนาการออกหรอกครับว่า Final Fantasy 7 ที่ดูเป็นการ์ตูนเท่ห์ๆสไตล์ Mecha
มันจะกลายมาเป็นไอ้หนุ่ม อิโม หน้าหวาน ชุดหนังรัดติ้ว อย่างในทุกวันนี้ ด้วยมือของ เท็ตซึยะ โนมูระ...
การเปลียนแปลงสำคัญน่าจะเรื่มมาจากปี 2005 ที่ Final Fantasy 7 AC ได้ฤกษ์เปิดตัวนั่นแหละครับ
ด้วยพลังของ CG สมัยใหม่ และการก้าวเข้ามาเป็นผู้กำกับเต็มตัวของ โนมูนะ
โลกทัศน์ ของ Final Fantasy 7 ก็ได้เปลียนไปอย่างสิ้นเชิง
และนั้นนำมาซึ่งเหตุผลที่ว่าทำใมการนำมันกลับมาทำใหม่อีกครั้งจึงเป็นเรื่องที่ยากชนิดที่ทาง SE เองก็กล้าๆกลัวๆที่จะทำ
***ทำใมถึงไม่ยอมรีเมคซักที ?
หลักๆเลยน่าจะเป็นเพราะ Final Fantasy 7 นั้นเป็นเกมส์ครับไม่ใช่ภาพยนตร์
ด้วยพลังเทคโนโลยีปัจจุบัน จะสร้าง Final 7 AC 2 ขึ้นมานั้นไม่ได้ยากเย็นอะไรเท่าไรนักสำหรับ SE แต่การจะทำเกมส์ให้สนุกนั้นมันคนละเรื่อง
และด้วยพลังของเทคโนโลยีนี่แหละที่ทำให้ SE แทบจะขุดหลุมฝังตัวเองใน ไฟนอลแฟนตาซีภาคต่อๆมา
แม้แต่บุคลากรภายในของ SE เองก็ออกมายอมรับว่าระยะหลัง SE เน้นไปที่ความอลังการณ์ของ CG มากจนเกินไป
เพราะยิ่งภาพสวยสมจริงมากขึ้นเท่าไร ข้อจำกัดในการสร้างเกมส์มันก็จะยิ่งมากขึ้นไปด้วย
ไฟนอล 13 เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนสำหรับเรื่องนี้ เรียกได้ว่าแทบไม่เหลือเค้าเดิมของ JRPG เลยก็ว่าได้
นั่นแหละที่ทำให้การสร้าง FF7 มีปัญหา
เพราะความเป็น JRPG ขนานแท้ของมันทำให้ โลกทัศน์ ภายในเกมส์ของไฟนอล 7 นั้นกว้างใหญ่มาก
และยากมากขึ้นซ้ำซ้อนมากขึ้นไปอีกจากการตีความใหม่เน้นความสมจริงของซีรีย์ ไฟนอล ในยุคต่อๆมาของโนมูระ
จะมีเด็กซักกี่คนในสมัยนี้นึกถึง ไฟนอล 7 ในแบบของการ์ตูน Mecha ได้กลิ่นของเหล็กแผนหนาๆ ตะปูตัวใหญ่ๆ และคราบสนิม
ทุกคนนึกถึง คลาวด์ แอริธ และทีฟา ในภาพลักษณ์ของมนุษย์จริงๆ สวยใส ไร้สิว กันไปหมด
ในเมือตัวละครมันสมจริง ......อะไรๆภายในเกมส์มันก็หนีไม่พ้นต้องสมจริงตามไปด้วยโดยปริยายใช่มะ
ไหนจะพวกมินิเกมส์ต่างๆที่แทรกเข้ามาอยู่ตลอด หรือแม้แต่เนื้อเรื่องในบางช่วงของ ไฟนอล 7 ออริจินอลเอง ก็ยังยากที่จะทำออกมาให้เหมาะสมด้วยพลังของเทคโนโลยีปัจจุบัน
เนื่องจากความสนุกของบทและเนื้อหาของ ไฟนอล 7 ถูกออกแบบมาให้เหมาะสมกับระดับเทคโนโลยีในยุคสมัยนั้น
คลาวด์ที่โนมูระตีความขึ้นมาใหม่ในยุคหลังๆ จึงถูกนำไปล้อจนกลายเป็นเรื่องขำขันถึงความไม่เข้ากันอย่างรุนแรงของบทกับคาแรคเตอร์
(แต่ก็อยากจะรอชม ว่ามันจะออกมาเป็นยังไงวะ ฮา)
(เครดิต:รูปมาจากกระทุ้อื่นในพันทิพครับ)
เพราะเหตุผลอย่างที่ว่าไปนั่นแหละ
ทำให้ Final Fantasy 7 ไม่เคยถูกนำมา Remaster (ทำกราฟฟิกใหม่) เลยซักครั้ง แม้จะถูกเรียกร้องโดยแฟนมาตลอด 20 ปี
และนำมาซึ่งการ Remake(ทำใหม่หมดเบย) อย่างที่เราได้ทราบกัน
โดยที่อดีตผู้กำกับเดิมอย่างคุณ คิทาเสะ เลือนขึ้นไปอยู่ฝ่ายอำนวยการผลิต และคณ โนมุระ นั่งแทนผู้กำกับแทน...ตามระเบียบ
สำหรับผมนั้น แม้ความหวังที่จะได้เห็น Final Fantasy 7 กลับไปเป็นอย่างที่มันควรจะเป็น(ให้ได้มากที่สุด)จะดูเลือนลางเต็มที
แต่กำขี้ ก็ยังดีกว่ากำตดละนะ
จริงปะ ?
ปล.บทความนี้เขียนขึ้นจากมุมมองส่วนตัวและประสบการณ์ของผมล้วนๆ อ่านเอาสนุกๆพอได้ และไม่ได้หมายถึงว่ามันจะถูกต้องทั้งหมด
แสดงความเห็นได้แต่กรุณาสุภาพด้วยนะครับ