สวัสดีครับทุกท่าน นี่เป็นการเล่าประสบการณ์ในการท่องเที่ยวเมืองตากของ "ตาแว่นบอกต่อ" ทั้งที่กิน ที่เที่ยว แล้วก็ที่พัก แต่ในกระทู้นี้จะขอเล่าสถานที่ๆ ที่ไปเยี่ยมเท่านั้นยังมีอีกหลายสถานที่ๆ "ตาแว่นบอกต่อ" ยังไม่ได้ไปเยือน (หากเขียนภาษาไทยผิด หรือตกหล่นอย่างไรก็แนะนำได้ ขอบอกว่า"ตาแว่นบอกต่อ" ไม่สันทันเกี่ยวกับภาษาไทยดีพอที่จะเขียนให้สละสลวยตรงตามหลักของภาษาไทย ดังนั้นขอให้อ่านรู้เรื่องว่ากำลังสื่อสารอะไรเป็นพอ ไม่ได้เขียนเป็นดุษฎีนิพนธ์ แต่ก็จะพยายามที่จะเขียนให้ผิดน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้)



อำเภอแม่สอดเป็นอำเภอที่ติดกับเขตชายแดนพม่าในเขตเมียวดี สามารถทำหนังสือผ่านแดนไปยังพม่าได้ ทางนี้สามารถเดินทางต่อไปยังอินเดียได้เช่นกัน ดังที่เราเห็นป้ายกลางทางตอนที่เลี้ยวเข้ามาทางสายแม่สอด ตอนแรก "ตาแว่นบอกต่อ" ยังคิดอยู่เลยว่า เอ๊ะ!!!..ที่แม่สอดมี "ทัชมาฮาล" ด้วยหรือ แต่พอนึกขึ้นมาอีกที่อ๋อ!!...คิดว่าทางหลวงแผ่นดินสายนี้คงสามารถไปยังอินดียได้ถ้าผิดอย่างไรก็ขออภัยนะครับ

เอาละครับ สถานที่ๆ "ตาแว่นบอกต่อ" ได้ไปเยือน (ทั้งนี้จะมีการบรรยายแบบไม่ตามลำดับนะครับ เพราะสถานที่บางที่ได้แวะตอนขามา และบางที่แวะตอนขากลับ) มีดังนี้ครับ

1. ตลาดดอยมูเซอร์
2. จุดชมวิวแม่สอด
3. ศาลเจ้าพ่อพะวอ
4. วัดโพธิคุณ
5. วัดไทยวัฒนาราม
6. วัดดอนแก้ว
7. วัดมณีไพรสณฑ์
8. พระธาตุดอยหินกิ่ว
9. น้ำตกพาเจริญ
10. น้ำตกแม่อุสา
12. น้ำตกนางครวญ
13. ถ้ำแม่อุสุ
14. อุทยานแห่งชาติตากสินมหาราช
15. ร้านอาหารข้าวเม่า-ข้าวฟ่าง
16. โรงแรมเอราวัณเพลส
17. ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช







สถานที่แรกที่เลยที่ได้แวะคือ "จุดชมวิวแม่สอด" หลังจากที่ขับรถมานานเมื่อยขากับปวดหลัง และเริ่มมีอาการเวียนหัวเพราะโค้งค่อนข้างเยอะและหักมุมอยู่เหมือนกัน กอรปกับอยากเข้าห้องน้ำพอดี ที่นี่มีจุดเด่นคือที่ป้ายครับ ที่เขียนตัวใหญ่ "ไม่เที่ยวแวะเยี่ยวก็ยังดี" มีร้านกาแฟอยู่หน้าทางขึ้นจุดชมวิว เห็นนักท่องเที่ยวแวะมาพักรถอยู่เหมือนกัน ที่นี่เห็นว่าถ้ามาช่วงเช้าจะสวย เห็นทะเลหมอกด้วย แต่น่าเสียดายครับนี่เวลาเกือบเที่ยงแล้ว..ขออภัยนะครับรูปเยอะไปหน่อย







ตอนขาขึ้นเห็นศาลเจ้าอยู่ศาลหนึ่ง ได้ยินเสียงรถบีบแต่กันระงม แต่ละคันได้ยินการบีบแต่ 3 ครั้ง จะอยู่ตรงทางโค้งพอดี จะเลี้ยวเข้าต้องระวังให้ดี ดูกระจกขวาดูรถคันหน้าและคันหลังให้ดีครับ กลัวว่ารถบรรทุกขนาดใหญ่ตอนขาขึ้นที่เหยียบคันเร่ง แต่ว่าถ้าไม่สะดวกก็แวะตอนขากลับก็ได้..ศาลเจ้าพะวอนี้เป็นศาลที่คนในจังหวัดตากให้ความเคารพมาก มีป้ายใหญ่อยู่ด้านหน้า เขียนอย่างชัดเจน "ศาลเจ้าพอพะวอ" มีที่จอดรถกว้างขวางทั้งรถบัส และรถยนต์ส่วนตัว มีที่ขายของที่ระลึก และยังมีศาลเจ้าอีกแห่งหนึ่งที่อยู่ในบริเวณไกล้เคียงที่มีรูปพญานาค 6 เศียร



ต่อมา "ตาแว่นบอกต่อ" ออกจาก "ศาลเจ้าพอพะวอ" เสร็จก็ขับมุ่งหน้าต่อ สักพักจะเห็นเป็นป้ายบอกเป็นระยะๆ ว่า "เนินมหัศจรรย์ MAGIC HILL" หากไปครั้งแรกให้ลองหยุดรถแล้วทำตามคำแนะนำโดยปล่อยเกียร์ว่างไม่ต้องเหยียบอะไรทั้งสิ้น จะสังเกตุเห็นว่ารถขับเคลื่อนขึ้นสู่บนเนินได้ ระยะทางประมาณ 500 เมตรเห็นจะได้ครับ











ต่อมาหลังจากขึ้นเนินเขาไปแล้วก็ขับรถต่อครับ ประมาณ 2 กิโลเมตร จะเห็นป้ายชื่อ "วัดโพธิคุณ" เลยแวะเข้าไปเพราะถ้าจะเข้าขากลับแล้วคงไม่ไหวเพราะยูเทิร์นไกล ห่างจากถนนใหญ่ประมาณ 800 เมตรเห็นจะได้ครับ ขับรถระวังหน่อยเพราะทางขึ้นเนินเขาและค่อนข้างแคบ แต่สามารถนำรถขึ้นไปได้ มีที่จอดรถครับ ตัววัดเป็นรูปทรงเรือ แต่ที่น่าสนใจที่สุดคือพระประธานที่อยู่ชั้น 3 สวยงามมาก





หลังจากนั้น ก็มุ่งหน้าเข้าเมืองแม่สอดทันทีครับ แล้วก็เข้าไปเช็คอินที่ "โรงแรมเอราวัณเพลส" ผมพักที่นี่ที่เดียวตลอดทั้งทริปนี้ครับ ราคาห้องพักที่นี่ไม่แพงครับ 450 บาท ส่วนเตียงใหญ่ราคา 550 บาท นอนได้ 3 คน แต่ต้องจองก่อนเพราะว่ามีเพียงแค่ 2 ห้องเท่านั้น ตัวโรงแรมจะเห็นเด่นชัดมาก ทางไปตลาดริมเมย เลยสี่แยกศาลสมเด็จพระนเรศวรไปไม่ไกล อยู่ด้านขวามือ ต้องยูเทิร์นกลับมา ห้องโอเคเลยกับราคานี้ แล้วก็มีอาหารเช้าด้วย มีแอร์ มีที่จอดรถ มีเครื่องทำน้ำร้อน ตู้เย็น ทีวี เรียบร้อย คิดว่าราคานี้กับโรงแรมอื่นๆที่นี่ถูกสุดครับ เบาะนอนอาจแข็งไปหน่อยนะ แล้วก็หมอนจะเป็นทรงสี่เหลี่ยม ที่นี่กาแฟฟรีด้วยครับ อีกที่หนึ่งอยู่ในบริเวณไกล้เคียง เจ้าของเดียวกันครับ ราคา 350 บาท สำหรับรายชั่วโมง หรือจะค้างคืนก็ได้เช่นกัน แต่ห้องเล็กไปหน่อยถ้ารับได้ก็โอเคอยู่







วันนี้อากาศแจ่มครับ หลังจากเช็คอินเรียบร้อยแล้วเราก็ขับรถออกไปยัง "ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช" เพราะอยู่ไม่ไกลจากตัวโรงแรมมากนัก จะอยู่ใกล้ศูนย์สุขภาพ และศูนย์ทีปังกรรัศมีโชติ อยู่ก่อนถึงสี่แยกไปแม่ระมาดนิดหน่อยครับ รอบๆ บริเวณเป็นสวนสาธารนะ มีสระน้ำ









ต่อมาก็มุ่งหน้าไปยัง "วัดดอนแก้ว" ทางไปแม่ระมาดครับอยู่ก่อนถึงปั้มปตท ถ้าเลยให้ยูเทิร์นกลับมา หรือถามคนแถวนั้นก็ได้ครับ เพราะ "ตาแว่นบอกต่อ" ก็หลงเหมือนกัน เข้าไปไกลเหมือนกัน แต่พอเข้าไปข้างในค่อนข้างสงบ เป็นพระพุทธรูปหินอ่อนสีขาว แบบพม่า สวยงาม ส่วนประวัตินั้นเดี๋ยวจะกลับมาบรรยายอีกทีเมื่อเขียนสถานที่ทั้งหมดเสร็จเรียบร้อยแล้วครับ





ขับรถขึ้นต่อไปอีกหลายสิบกิโลเมตรครับ กว่าจะถึงที่หมายที่เราอยากไปคือ "ถ้ำแม่อุสุ" ครับ เข้ามาจากถนนใหญ่เพียง 2 กิโลเมตร ที่จอดรถด้านนอก แล้วเสียค่าบัตรเข้าชมท่านละ 40 บาท เดินลัดเลาะฝ่าน้ำ ต้องเดินด้วยความระมัดระวังเพราะพื้นลื่น ที่สำคัญต้องมีไฟฉายด้วย ภายในถ้ำมืดมาก มีหินงอกหินย้อยสวยงาม



หลังจากนั้นก็ย้อนกลับมาเข้า "บ่อน้ำพุร้อนแม่กาษา" ภาพประกอบจากทริปที่ไปก่อนนานแล้วครับ ส่วนภาพใหม่ที่ไปมานั้น "ตาแว่นบอกต่อ" เสียดายมากเพราะถ่ายไว้เยอะ หลายที่ด้วยแต่ดัน CF CARD เสียครับ ตอนที่ไปครั้งแรกนั้นบ่อน้ำร้อนแบบนี้อยู่ มีกลิ่นกำมะถันนิดๆ รอบๆ บริเวณกำลังปรับปรุงอยู่ เดี๋ยวนี้สวยขึ้นเยอะ มีการต่อเติมเพิ่มขึ้นรวมทั้งบ่อน้ำร้อนนี้ด้วย มีที่แช่เท้า รอบบริเวณมีการสร้างห้องแช่น้ำร้อน แต่ยังเสร็จเลยดูไม่ค่อยสวยเท่าใหร่ บ่อน้ำร้อนนี้ใช้เวลานานเหมือนกันกว่าไข่จะสุก ตอนนี้เราไม่สามารถเข้าจอดด้านในได้แล้ว ทางอบต. มีการสร้างที่จอดรถด้านบนพร้อมสร้างร้านค้าด้วย ต้องเดินเข้ามาไม่ไกลครับ






"น้ำตกแม่อุสา" ครับท่านผู้อ่าน ตอนนี้มีการปรับปรุงภูมิทัศน์ใหม่หมด สวยงามมาก ตอนที่ "ตาแว่นบอกต่อ" ไปครั้งแรกเลยได้เก็บภาพเหล่านี้มา เสียดายอย่างยิ่งครับที่ไม่สามารถจะให้ดูรูปใหม่ได้ ด้านบนที่เป็นต้นน้ำไม่ใหญ่ มีน้ำใหลตกเป็นทาง ด้านล่างเป็นแหล่งเก็บน้ำ แล้วก็มีศาลเจ้าอยู่ด้านทางขี้นครับ



ค่ำแล้วครับ ก็กลับมาทานอาหารที่ "ร้านอาหารข้าวเม่า-ข้าวฟ่าง" ร้านดังของแม่สอดครับ มาทานที่นี่ทุกมื้อเย็นตลอดทริปเช่นกันไม่ได้รับค่าตอบแทนอะไรทั้งสิ้นนะครับ ควักกระเป๋าเองทั้งหมดทุกบาททุกสตางค์ ผู้อ่านสามารถอ่านรีวิวที่ "ตาแว่นบอกต่อ" เขียนไว้แล้วครับ http://pantip.com/topic/33770143 เป็นรีวิวแรกเลยที่ "ตาแว่นบอกต่อ" เขียนไว้ในบอร์ดพันทิปนี้ หลังจากนั้นก็กลับเข้าที่พักครับ  ขับรถตั้งแต่กรุงเทพมาจนถึงตอนนี้เหนื่อยเอาการเลย









ตื่นขึ้นของเช้าวันที่สองก็อาบน้ำอาบท่าเตรียมไปทานอาหารมื้อเช้าของที่โรงแรม อาหารเช้าแบบเรียบง่ายครับ มีอาหารไทยๆ 3 อย่างครับแต่ละวันจะไม่เหมือนกันผัดเปลี่ยนกันไป ที่เห็นๆ จะมีข้าวต้ม ข้าวสวย แกงเขียวหวาน ขนมจีน ผัดผัก แล้วก็ยังมีขนมปังทานมข้นด้วย ทานอาหารเช้าเสร็จก็ขับรถออกไปยัง "วัดมณีไพรสณฑ์" ในตัวเมืองแม่สอดครับ ไกล้ๆ กับสถานีตำรวจ ตรงวงเวียนหอนาฬิกา ครับ ด้านในสวยงามโดยเฉพาะพระประธาน ใครที่มาแม่สอดแล้วต้องแวะเข้ามา ในกระทู้นี้ขอไม่อธิบายเรื่องของประวัติความเป็นมานะครับ เห็นแล้วท่าจะยาว ช่วงนี้ยังเช้าอยู่นะครับ หากว่าเกิดหิว หรืออยากทานอาหารท้องถิ่นก็เข้าไปในตลาดสดได้เลยครับ มีอาหารเยอะแยะมากมายถ้ามาแม่สอดแล้ว อย่างหนึ่งที่ต้องลองคือขนม "เส็งเผ่"  ไงก็ลองหาดูครับ





ต่อมาออกจากตัวอำเภอ มุ่งหน้าไปยังตลาดริมเมยครับ ตลาดเริ่มมีผู้คน สินค้าไม่ค่อยมีอะไรมาก มีพวกแหนม อาหารแห้งต่างๆ เฟอร์นิเจอร์ที่ทำด้วยไม้ เสื้อผ้า และทับทิบพม่า แล้วก็จำพวกของตกแต่งบ้านยุคเก่าๆ เดินไม่นานก็หมดแล้ว แต่ละร้านจะขายสินค้าจะคล้ายๆ กันไม่ค่อยน่าสนใจช้อปปิ้งเท่าใหร่ แต่ในเมื่อมาแล้วก็ลองดูครับ เผื่อใครสนใจบางอย่างอาจซื้อติดไม้ติดมือกลับไปบ้าง แล้วก็ถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกกับป้ายสีดำที่เขียนตัวใหญ่ๆ ว่า "สุดประจิมที่ริมเมย" บริเวณนี้จะเห็นชาวพม่าข้ามเรือมายังฝั่งไทยมาซื้อของ มาทำงาน และมาขายของตามแนวชายแดน