บันทึกการเดินเทรคครั้งแรกในต่างแดน .. Har Ki Dun



ขออนุญาตแชร์บันทึก ..
ทริปแรกในชีวิตของการเดินเทรคต่างแดน
ให้พี่ๆเพื่อนๆในห้องบลู ได้ลองอ่านนะคะ
ถ้าหากผิดพลาดอย่างไร ขอโทษด้วยนะคะ
เพราะไม่เคยเขียนลงที่นี่เลย .. (.. ")


ขอบคุณค่ะ (^_^)

.. จบลงด้วยความประทับใจ ..
สำหรับทริปการเดินเขาต่างแดนครั้งแรกของพวกเรา
เริ่มจากการเปลี่ยนแผนกระทันหัน
จากเหตุแผ่นดินไหวที่เนปาล ..
หางปลาที่ ABC จึงถูกระงับไว้ก่อน
พอตั้งสติกันได้ ก็หาจุดหมายใหม่
เริ่มจาก พม่า ฟิลิปปินส์ และที่อื่นๆ
ในแพลนวัน เวลาเดิม
..
จนสุดท้ายเพื่อนรักคนนึงในกลุ่ม
ส่งรูปและชื่อสถานที่มาให้
พร้อมกับบอกว่า อยากให้เป็นทริปเทรค
และอยากใช้อุปกรณ์ต่างๆที่เตรียมไว้
เพื่อนปรึกษาว่า ถ้าเราจะเลื่อนการเดินทางออกไป
เพื่อศึกษาสถานที่ และแพลนให้ดี
ไม่ต้องรีบเร่งเพื่อให้ได้ไป จะดีกว่าไหม
เราเห็นด้วยอย่างมาก
เพราะการท่องเที่ยวสำหรับเรา ควรเกิดจากความพร้อม
ความพร้อมของสภาพร่างกาย จิตใจ
และสภาวะแวดล้อมที่ดี
..
การเลื่อนแพลนคร่าวๆจึงเกิดขึ้น
มีกำหนดหนึ่งเดือนหลังจากแพลนเดิม ..
ตามปกติการแพลนทริปเที่ยว
จะแพลนก่อนล่วงหน้า 4-5เดือน
จองที่พักก่อน2-3เดือน
แต่คราวนี้ เวลาน้อยกว่าเดิม
สถานที่ก็ไม่มีคนรู้จักมากนัก
โดยเฉพาะคนไทย ซึ่งคงนับได้ว่าเคยไปน้อยมาก
..
ทริป Har Ki Dun ที่ประเทศอินเดีย
จึงเริ่มขึ้นอย่างเป็นรูปร่าง ..
การติดต่อเอเจนท์จึงเริ่มขึ้น
และสุดท้าย เราก็ได้เลือกเอเจนท์ที่ดูน่าจะเชื่อถือได้ที่สุด
..
จำนวนคนในทริปกว่าจะนิ่งได้
ก็ทำเอาราคาตั๋วเครื่องบินพุ่งไปจากเดิมหลายพันบาท
แต่พวกเราที่ตัดสินใจแน่นอน
ก็ไม่มีใครบ่น
พวกเรามีงบในใจ และพยายามไม่ให้เกินงบที่วางไว้
ในข้อจำกัดของเวลาสำหรับเพื่อนร่วมทางที่เป็นพนักงานประจำ
..
วันเดินทางได้เริ่มขึ้นของคืนวันที่ 29 พฤษภา
เวลาห้าทุ่มกว่าๆ พวกเรา12คน
ออกเดินทางจากกรุงเทพสู่เดลี
สี่ชั่วโมงกว่าต่อมา เราถึงเดลีด้วยสภาพอิดโรย
บางคนได้นอน บางคนแทบจะไม่
แต่ยังคงไม่ขาดเสียงหัวเราะ
เช้ามืดที่เดลีร้อนมาก เนื่องจากช่วงที่เราไป
มีคลื่นความร้อนปกคลุมอินเดียอย่างหนัก
อากาศร้อนผิดปกติ
จากนั้นการเดินทางได้เริ่มขึ้น
จากเดลีเช้ามืด รถเลท
อากาศร้อน รถติดหนักเนื่องจากเป็นวันหยุด
กว่าจะถึงจุดหมาย ที่แคว้นUttarakhandใช้เวลาเกือบ12ชม.
Mussoorie คือเมืองแรกที่ได้นอนเต็มตา
..
เช้าวันรุ่งขึ้นเราออกเดินทางไป Sankri เพื่อใช้เป็นเบสในการเตรียมของ
แยกกระเป๋าในการเดินเทรค
ถนนระหว่างทางมาSankri เป็นเขาคดเคี้ยว
หลายคนต้องขอจอดรถ เพื่อปลดปล่อยความคลื่นเหียน แล้วจึงไปกันต่อ
อากาศเริ่มหนาวขึ้น ไม่ถึง20องศา
อุปกรณ์กันหนาวต่างๆเริ่มทยอยออกจากกระเป๋า
ที่ Sankri พวกเราได้ทำให้ชาวบ้านรู้จัก "ไข่ลวก" และ "กาแฟว๊อดก้า"
ร้านค้าเล็กๆห้องเดียวโดนพวกเราบุกถึงครัว
ชาวบ้านเต็มไปด้วยรอยยิ้มและคำทักทายที่แม้จะคุยกันไม่รู้เรื่อง
แต่พวกเราก็สามารถ ..
เลย์รสมะเขือเทศโดนเหมาจากร้าน
แน่นอน .. พวกเรากินไม่เหลือ
คืนนั้นที่ Sankri เราอาบน้ำด้วยเสียงร้องของความหนาว ..
..
เช้าวันที่ 1มิถุนา เราเดินทางด้วยรถจิ๊ปไปเมือง Taluka
ด้วยเวลา40นาที ของระยะทางแห่งความตื่นเต้นบนรถ
ขับผ่านน้ำตก แอ่งน้ำ ริมขอบเหว
และแน่นอน คนขับรถเหมือนเพิ่งดูหนังฟาสท์หกมาหมาดๆ
..
ถึง Taluka ด้วยความงง และยังไม่รู้ชะตากรรมข้างหน้า
เรานึกว่าวันนี้เดินกันไม่มาก
ไม่เกิน9โมง พวกเราเริ่มเดิน
เดิน และเดิน ..
วันนี้เราเดินทั้งหมด 18กม.
เรื่องเล่าระหว่างทางนับไม่ถ้วน
เรามีกลุ่มเดินแบ่งไปตามความเร็ว
ความฟิต และ ความขำ
เราอยู่กลุ่มท้ายสุด ช้าสุด และ ขำสุด เพราะมีเจ้าเพื่อนรักคอยเล่นมุกตลอดเวลา
พี่ต่อขาพลิกระหว่างทาง ทำให้เดินได้ช้าลง
กว่าจะถึงที่พักของเทรควันแรก
ก็เกือบ5โมงเย็น ..
ระยะทาง2กิโลเมตรก่อนถึง Osla
เป็นความทรมานมากของพวกเรา
ทำเอาป่วยไปตามๆกัน
การอาบน้ำเป็นความแปลกไปเลยสำหรับพวกเรา เพราะ ..
มัน หนาว มาก ..
เรากินอาหารท้องถิ่น และนอนหลับด้วยความเพลีย
..
เช้าวันที่ 2ของการเดิน
เราออกจาก Osla ตั้งแต่7โมงครึ่ง
วันนี้เราจะถึง Har Ki Dun
เราเดินไปเรื่อยๆ ผ่านหมู่บ้านอื่น
ทันกันบ้าง ไม่ทันบ้าง
จนสุดท้ายก็อยู่รั้งท้ายเหมือนเดิม
อากาศเริ่มหนาวขึ้น ลมแรง
และกิโลเมตรสุดท้ายก่อนถึงแคมป์
ฝนตกหนักและหมอกลงหนามาก
กลุ่มเราหลบฝนกันอยู่หลังหินก้อนใหญ่ เหลือกันอยู่4คน จนสุดท้าย
ตัดสินใจเดินฝ่าฝนฝ่าหมอก เดินกันต่อ
.. ก่อนถึงแคมป์ไม่กี่ร้อยเมตร ด้วยความที่หมอกลงจัด หาทางข้ามไปแคมป์ไม่เจอ
อยู่ๆก็มีคนวิ่งฝ่าหมอกออกมา
ไม่ใช่ใครที่ไหน
เราจำรองเท้าแดงได้ ..
เพื่อนเราหนึ่งคนในกลุ่ม
ที่ไปถึงก่อนหน้า ฝ่าฝนและหมอกออกมารับกลุ่มเรา ..
เย็นวันนั้น เรารอให้ฝนหยุด แล้วออกมากินข้าวเย็นกันท่ามกลางความหนาว ลมแรง
คืนนั้น พวกเราหลายคนหลับ
หลายคนยังนั่งเล่นรอบกองไฟ ..
..
3 มิถุนา โต๊ะอาหารเช้าของพวกเรา
มีฉากหลังเป็นภูเขาน้ำแข็ง Har Ki Dun
ถือว่าเป็นหนึ่งในอาหารเช้าที่มีวิวสวยมากๆอีกครั้งในชีวิต
แต่ครั้งนี้ ต่างตรงที่เราใช้ขาทั้งสองข้างเดินเข้ามาเอง
เราข้ามเขามาหลายลูก
ทุกครั้งที่มองกลับไปข้างหลัง
จะเกิดความภูมิใจ และคำถามไปพร้อมๆกัน
ว่า นี่เราเดินมาเองจริงๆเหรอ?
วันนี้เป็นวันพักผ่อนของพวกเรา
โดยการเดินขึ้นไปดูธารน้ำแข็ง Juandhar
ใช้เวลาเดินทางไปกลับ 5-6ชม.
ระหว่างเส้นทางที่ไปแทบจะบอกได้ว่า
กดชัตเตอร์รูปไหนก็สวย
เพราะวิวอลังการมากสำหรับคนเขตร้อนอย่างพวกเรา
มีทั้งทุ่งดอกหญ้า และธารน้ำแข็ง
เราเดินไต่ขึ้นไปจนถึงจุดสูง 3800เมตร
ฝนเริ่มตั้งเค้า และเราก็ต้องรีบกลับลงมา
เสื้อกันฝนหลากสีถูกเอาออกมาใช้อีกครั้ง
พวกเราเดินกลับลงมาทางสันเขา
ทั้งตื่นเต้น น่ากลัว และสนุกมาก
ก่อนถึงแคมป์ เส้นทางกลับของเราเสียหาย
ไกด์ตัวโตของเราต้องแบกท่อนเหล็กมาวางบนโขดหิน
เพื่อให้เราข้าม การผจญภัยของพวกเราครบรสจริงๆ
แล้วคืนสุดท้ายบน Har Ki Dunของเราก็มาถึง
เรานอนหลับในเตนท์ที่กันลมหนาวได้พอประมาณ
แต่เชื่อว่าทุกคนก็จะเก็บไว้เป็นประสบการณ์ที่ดี
..
โบกมือบ๊ายบาย Har Ki Dunแต่เช้า
เราเดินกลับกันลงมาด้วยเวลาที่ดี
จนมาถึง Seema กลุ่มเราเริ่มเหนื่อยเพราะวันนี้ฟ้าเปิดมาก
แดดแรง และทางที่เป็นหินก้อนใหญ่
แต่สุดท้ายก็มาถึงแคมป์ของเราตอนบ่ายๆ ระยะทางที่เดิน14 กิโลเมตร
วันนี้แคมป์เราตั้งอยู่ริมแม่น้ำ Tons
ซึ่งน้ำในแม่น้ำคือน้ำแข็งที่ละลายลงมาจากภูเขา
พวกเราเข้าเตนท์ แล้วออกมาล้างหน้าล้างตา
เราลองสระผมแลกกับการชาไปทั่วหัว
แล้วทุกคนก็ต้องอึ้ง
แม้กระทั่ง Baldev ไกด์ท้องที่ของพวกเรา
ฉลาม โดด น้ำ !!!!!!
น้ำที่เย็นสุดๆเหมือนช่องฟรีซ
แล้วต่อมา การลงบ่อศักดิ์สิทธิ์ก็เกิดขึ้น
เป็นการลงบ่อแบบหมู่คณะ
เสียงโหยหวนเหมือนโดนของร้อน
แต่ตรงข้าม มัน เย็น มาก ..
เย็นวันนั้นเหมือนเป็นวันพักผ่อนของพวกเรา
เล่นน้ำ ตากแดด กาแฟว๊อดก้า
มาม่าร่วมสาบาน คาราโอเกะบันลือโลก
และที่ลืมไม่ได้ เรามีแขกร่วมพักผ่อนกับเราเป็นแพะและแกะร่วมร้อยตัว
นอนพักอยู่ข้างๆเตนท์พวกเรา
คืนนั้นเราหลับไปพร้อมกับเสียงแพะเสียงแกะ และมีแม้กระทั่งโดนแพะพุ่งชนระหว่างคืน
..
เช้าสุดท้ายของการเทรค
พวกเรากินอาหารเช้าเหมือนทุกวัน
ต่างที่วันนี้ เจ้าเพื่อนรักตัวแสบเอาหมูหยองลองให้หมาเลี้ยงแกะชิม !!
เจ้าหมาถึงกับทำความสะอาดหินซะเงาวับ ..
วันนี้เป็นวันทุบหม้อข้าวของพวกเรา
เสบียงที่พวกเราขนกันมา จัดว่าไม่มีทางอด
เราแบ่งให้คนท้องถิ่นชิมอาหารไทย
จากนั้นพวกเราเริ่มออกเดิน
ระยะทางของวันสุดท้ายไม่ได้น้อย
เราเดินกัน 16.5 กิโลเมตร
แต่พวกเราก็ทำเวลาได้ดี
กลุ่มแรก ฝนกับยอร์ช ถึงจุดหมายที่ Taluka ตอน 13:30น.
กลุ่มสอง เรา พี่ต่อ เอ๋ ธัญ นุ่น
ถึงเวลา 14:15น.
และกลุ่มสุดท้าย ต้องยกนิ้วให้นกและวัลย์ ที่เข่าและขาเจ็บ เอก ฉลาม พี่ตรี มาถึงเวลา 14:55น.
และพวกเราทั้งหมดทำสำเร็จ
ไกด์ทั้งสองคนเข้ามาแสดงความยินดีที่พวกเราเป็นคนไทยกลุ่มแรกของพวกเค้าที่มา Har Ki Dun
ระยะทาง 65 กิโลเมตร ในระยะเวลา 5วัน
และการเดินไต่ระดับจากความสูง 2400 เมตร
ไปจนถึง 3800 เมตร ในการเดินเทรคครั้งแรกของพวกเรา
เราบอกได้เลยว่า เราภูมิใจมาก สำหรับคนที่ไม่ได้ออกกำลังกายมาอย่างหนัก ..
..
เรานั่งรถจิ๊ปคันเดิมกลับมา Sankri
อาบน้ำ และลงมานั่งคุยกันที่ร้านไข่ลวกร้านเดิม
ฝนเริ่มตกลงมา ทำให้อากาศยิ่งเย็น
และมื้อค่ำคืนนั้น
คือไข่เจียวลาบ และไข่เจียวคั่วกลิ้ง
หลายคนบอกว่า เป็นมื้อที่อิ่มมากอีกมื้อนึง ..
..
6 มิถุนา เช้าของการจากลาอากาศหนาวมาถึง
พวกเราลงจาก Sankri ล่องลงมาเรื่อยจนถึง Dehradun
ระหว่างทางแวะพักกินอาหารกันเป็นระยะ
เราพักโรงแรม Ambassador ในเมือง
และมื้อเย็นวันนั้น
พวกเราสนุกสนานกับการสั่งแมคโดนัลในต่างแดน
คืนนั้นหลายคนมีปาร์ตี้เล็กๆ
บางกลุ่มเดินเล่น และบางคนนอนพักผ่อนเพราะความเพลีย
..
เช้าสุดท้ายในต่างแดน
7มิถุนา ออกจาก Dehradun หลังอาหารเช้า
ทริปนี้เรามีของที่ระลึกให้เพื่อนร่วมทริป
สำหรับมิสป๊อปปิวล่า นางงามมิตรภาพ
มิสคัลเลอร์ฟูล
ซุปเปอร์ฮีโร่ มิสเตอร์ไนซ์กาย
และ มิสเตอร์โจ๊กเกอร์
ระหว่างทางกลับมาเดลี คนขับรถของเราไม่ได้อย่างใจนัก
ทำให้บ่ายของเราในเดลี หมดไปกับสนามบิน
เราสิงสถิตย์อยู่สนามบินตั้งแต่สี่โมงเย็น
จนถึงห้าทุ่ม แต่พวกเราก็หาเรื่องหัวเราะกันได้ตลอดเวลา
แล้วห้าทุ่มครึ่ง หลังจากการช๊อปปิ้งลิปมันกันอย่างสนุกสนานของสาวๆ
เครื่องบินโบวอิ้ง TG316ก็พาพวกเราทั้ง12คน ออกจากดินแดนจาปาตีที่กว้างใหญ่
และไม่นานนัก พวกเราทั้งหมดก็ถึงบ้าน
การร่ำลามาถึงในเช้านั้น 8มิถุนา
แต่อีกไม่นาน พวกเราทั้งหมด จะกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง
เมื่อมีโอกาสและเวลาที่พร้อม ...
...
ขอบคุณทุกคนในทริปนี้ที่ทำให้รู้ว่า
เพื่อนร่วมทางที่ดีทำให้ความเหนื่อย
และความลำบาก
กลายเป็นความสนุก
ขอบคุณขาทั้งสองข้าง ที่ทำให้จบทริปนี้
..
จนกว่าเราจะพบกันใหม่ ..

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
Vannalek

Cr. ภาพ : เอก คาเมไรเดอร์
Cr. คลิปวิดีโอ : Thun K Mungwattana

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่