เว็บไซต์ 9to5Mac อ้างแหล่งข่าววงใน รายงาน นาฬิกาอัจฉริยะรุ่นที่สองจากแอปเปิล (ซึ่งจะมาในปี 2016) อาจมาพร้อมคุณสมบัติใหม่อย่าง กล้องบันทึกวีดีโอและชิปไร้สาย ซึ่งจะช่วยให้การทำงานเป็นอิสระจากไอโฟนมากกว่าแต่ก่อน นอกจากนี้ ยังอาจเพิ่มรุ่นพรีเมี่ยมพิเศษด้วย
รุ่นเปิดตัวของ Apple Watch ที่เริ่มขายครั้งแรกเมื่อเดือนเมษายน ได้สร้างสีสันให้กับตลาดสมาร์ทโฟนที่คราคร่ำไปด้วยผู้เล่นจากหลากหลายค่าย ตั้งแต่ซัมซุงและแอลจี ไปจนถึงโมโตโรลา, หัวเว่ย และ Pebble โดยราคาสำหรับ Apple Watch จากการโจมตีครั้งแรกในธุรกิจอุปกรณ์สวมใส่ จะอยู่ในช่วง 349 ดอลลาร์สหรัฐ (สำหรับรุ่นเบสิค Sport) ไปจนถึง 17,000 ดอลลาร์สหรัฐ (สำหรับเวอร์ชั่นทองคำ รุ่นตัวท็อปสุดในไลน์การผลิต)
แม้แอปเปิลจะไม่ได้เปิดเผยถึงยอดจำหน่ายของ Apple Watch ว่ามีมากเท่าใด แต่บริษัทวิจัย Slice Intelligence ชี้ น่าจะมีตัวเลขราวๆ 2.8 ล้านชิ้น ณ ปัจจุบัน
เช่นเดียวกับสมาร์ทวอทช์จากค่ายอื่น Apple Watch จะมีข้อจำกัดบางอย่าง อย่างเช่น ต้องทำงานควบคู่ไปกับสมาร์ทโฟนของแอปเปิล โดยเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา แอปเปิล ได้เปิดตัวระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นใหม่สำหรับสมาร์ทวอทช์ WatchOS ซึ่งได้เพิ่มการปรับปรุงการทำงานหลายอย่าง เช่น แอพสามารถทำงานบนอุปกรณ์ได้โดยตรงและมีตัวเลือกปรับแต่งมากขึ้น นั่นหมายความว่า แอพจะทำงานได้ดีขึ้นเมื่อไม่ได้จับคู่การทำงานกับไอโฟน ซึ่งการอัพเดตดังกล่าวจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในฤดูใบไม้ร่วงนี้
สำหรับรุ่นถัดไปของ Apple Watch ตามข้อมูลจากเว็บไซต์ 9to5Mac ระบุ จะมีกล้องบันทึกวีดีโอฝังอยู่บริเวณฝาด้านบน ซึ่งจะช่วยให้ผู้สวมใส่สามารถใช้ FaceTime เพื่อพูดคุยวีดีโอคอลแบบเห็นหน้าได้ ในขณะเดียวกัน ภายใต้แนวคิดริเริ่มที่จะทำงานจากภายใน "tether-less" แอปเปิล ได้วางแผนให้อุปกรณ์สวมใส่รุ่นที่สองนี้ มีการฝังชิปไร้สายไว้ภายใน เพื่อให้สามารถใช้งานการสื่อสารพื้นฐาน เช่น การส่งข้อความและอีเมล โดยปราศจากความช่วยเหลือจากไอโฟนได้ และแม้จะเพิ่มความสามารถและฟังก์ชั่นเข้ามาเพิ่มขึ้น ซึ่งโดยปกติแล้วจะทำให้อายุการใช้งานของแบตเตอรี่สั้นลง แต่แอปเปิลได้ตัดสินใจว่า จะยังคงให้แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้ตลอดทั้งวันเหมือนเดิม
ที่มา CNET
ลือ Apple Watch จะถ่ายวีดีโอได้ในปี 2016
เว็บไซต์ 9to5Mac อ้างแหล่งข่าววงใน รายงาน นาฬิกาอัจฉริยะรุ่นที่สองจากแอปเปิล (ซึ่งจะมาในปี 2016) อาจมาพร้อมคุณสมบัติใหม่อย่าง กล้องบันทึกวีดีโอและชิปไร้สาย ซึ่งจะช่วยให้การทำงานเป็นอิสระจากไอโฟนมากกว่าแต่ก่อน นอกจากนี้ ยังอาจเพิ่มรุ่นพรีเมี่ยมพิเศษด้วย
รุ่นเปิดตัวของ Apple Watch ที่เริ่มขายครั้งแรกเมื่อเดือนเมษายน ได้สร้างสีสันให้กับตลาดสมาร์ทโฟนที่คราคร่ำไปด้วยผู้เล่นจากหลากหลายค่าย ตั้งแต่ซัมซุงและแอลจี ไปจนถึงโมโตโรลา, หัวเว่ย และ Pebble โดยราคาสำหรับ Apple Watch จากการโจมตีครั้งแรกในธุรกิจอุปกรณ์สวมใส่ จะอยู่ในช่วง 349 ดอลลาร์สหรัฐ (สำหรับรุ่นเบสิค Sport) ไปจนถึง 17,000 ดอลลาร์สหรัฐ (สำหรับเวอร์ชั่นทองคำ รุ่นตัวท็อปสุดในไลน์การผลิต)
แม้แอปเปิลจะไม่ได้เปิดเผยถึงยอดจำหน่ายของ Apple Watch ว่ามีมากเท่าใด แต่บริษัทวิจัย Slice Intelligence ชี้ น่าจะมีตัวเลขราวๆ 2.8 ล้านชิ้น ณ ปัจจุบัน
เช่นเดียวกับสมาร์ทวอทช์จากค่ายอื่น Apple Watch จะมีข้อจำกัดบางอย่าง อย่างเช่น ต้องทำงานควบคู่ไปกับสมาร์ทโฟนของแอปเปิล โดยเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา แอปเปิล ได้เปิดตัวระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นใหม่สำหรับสมาร์ทวอทช์ WatchOS ซึ่งได้เพิ่มการปรับปรุงการทำงานหลายอย่าง เช่น แอพสามารถทำงานบนอุปกรณ์ได้โดยตรงและมีตัวเลือกปรับแต่งมากขึ้น นั่นหมายความว่า แอพจะทำงานได้ดีขึ้นเมื่อไม่ได้จับคู่การทำงานกับไอโฟน ซึ่งการอัพเดตดังกล่าวจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในฤดูใบไม้ร่วงนี้
สำหรับรุ่นถัดไปของ Apple Watch ตามข้อมูลจากเว็บไซต์ 9to5Mac ระบุ จะมีกล้องบันทึกวีดีโอฝังอยู่บริเวณฝาด้านบน ซึ่งจะช่วยให้ผู้สวมใส่สามารถใช้ FaceTime เพื่อพูดคุยวีดีโอคอลแบบเห็นหน้าได้ ในขณะเดียวกัน ภายใต้แนวคิดริเริ่มที่จะทำงานจากภายใน "tether-less" แอปเปิล ได้วางแผนให้อุปกรณ์สวมใส่รุ่นที่สองนี้ มีการฝังชิปไร้สายไว้ภายใน เพื่อให้สามารถใช้งานการสื่อสารพื้นฐาน เช่น การส่งข้อความและอีเมล โดยปราศจากความช่วยเหลือจากไอโฟนได้ และแม้จะเพิ่มความสามารถและฟังก์ชั่นเข้ามาเพิ่มขึ้น ซึ่งโดยปกติแล้วจะทำให้อายุการใช้งานของแบตเตอรี่สั้นลง แต่แอปเปิลได้ตัดสินใจว่า จะยังคงให้แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้ตลอดทั้งวันเหมือนเดิม
ที่มา CNET