เก็บกระเป๋าเที่ยว "คุนหมิง" ฉบับสาวๆ

คุนหมิง เป็นเมืองๆหนึ่งทางตอนใต้ของจีนที่เราไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะไปมาก่อน เพราะไม่เคยรู้จักคุนหมิงเลยว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง
แต่ก็มีโอกาสได้ไป เพราะป้าเราชวนไปกับน้องสาวอีกคนนึง เที่ยวกันเองสามคน ชิวๆ  มีหรือที่เราจะปฏิเสธโอกาสไปสัมผัสความหนาว อยู่เมืองไทยร้อนเกินไปแล้ว



   เราไปคุนหมิงช่วงปีใหม่ อุณหภูมิที่นั่นเฉลี่ยประมาณ 2-6 องศา ปากแตกกำลังดีเลย ฮึ ฮึ เป็นการเที่ยวที่ไม่มีการแพลนอะไรล่วงหน้ามากมายว่าจะไปที่ไหนยังไง คืออยากเปลี่ยนบรรยากาศแค่นั้น

   เรายืนเคว้งอยู่ที่สนามบินของคุนหมิงพักหนึ่ง ก็มีไกด์คนจีนเข้ามาคุยด้วย เราก็คิดว่าดีเหมือนกันนะ ถ้าจะมีคนพาเที่ยว สะดวกกว่าเดินทางเอง รู้สึกโล่งอกที่ไกด์คนนี้พูดภาษาอังกฤษค่อนข้างดี หลังจากนั้นเขาก็พาเราไปส่งที่โรงแรม Green lake shore hotel เป็นโรงแรมสไตล์โรงเตี้ยมในหนังจีนกำลังภายใน ได้บรรยากาศสุดๆ ถึงแม้จะดูเก่าแก่ แต่สะอาดกว่าที่คิดนะ หลังจากจ่ายเงินอะไรเรียบร้อย คุณไกด์ก็ออกตัวกับป้าเราว่า เขาติดธุระคงพาเที่ยววันต่อๆไปไม่ได้ แต่คนที่จะรับหน้าที่พาเราเที่ยวดันเป็นอีกคนที่หน้าตาเหมือนคุณตัน อิชิตัน พูดภาษาอังกฤษได้นิดหน่อย ย้ำว่านิดหน่อยจริงๆ

    ภายในโรงเตี้ยม เอ๊ย โรงแรมอากาศเย็นมากกก มีประตูแต่ไม่ปิด ไม่รู้ทำไม ประหยัดไฟมั้ง พนักงานที่นี่พูดจีนคำอังกฤษคำเหมือนกัน ก็พยายามใช้มือกับวุ้นแปลภาษาสื่อสารกันไป

    เข้าห้องมาแล้วแทนที่จะอบอุ่นขึ้นเหรอ เปล่าเลย ถอดรองเท้าออกไม่ได้นะ เย็นเฉียบ ต้องสวมรองเท้าในห้อง บวกกับเปิดฮีตเตอร์ ไม่ก็ซุกตัวอยู่ในผ้าห่ม

    หลังจากเก็บของเสร็จแล้วก็ออกมาเดินหาอะไรกิน แถวโรงแรม คือตอนนั้นหิวมากอะ เจออะไรก็เข้าร้านนั้นแหละ เดินมาก้ไกลพอสมควรไม่เจอร้านอาหารซะที เจอร้านเบเกอรี่น่ารักๆร้านนึง ก็เลยเข้าไปซะเลย

    ใจเราอยากดื่มอะไรอุ่น ๆ ก็เลยสั่ง Hot chocolate แต่เราคงสื่อสารผิดเองอะ พนักงานเขาเอา เค้ก ช็อกโกแลตมาให้ แต่อร่อยอะ ให้อภัยได้ หุๆ คราวนี้เลยเอาใหม่ สั่งนมแล้วกัน หนิว หน่าย เวลานั้นรู้อยู่คำเดียว นมที่ได้มานี่จืดมาก จืดสมชื่อจริงๆ เหมือนเอานมมาผสมกับน้ำเปล่า



     หลังจากนั้นก็ถึงเวลาไปเดินเล่นที่ทะเลสาปหลังโรงแรม ที่ขึ้นชื่อของคุนหมิง สวยมากๆ มีนก (อะไรไม่รู้สินะ555) สีขาวบินไปเวียนมาอยู่ตรงนั้นตลอด จะโรแมนติกถ้าคนน้อยกว่านี้



มีคนซื้ออาหารไปให้นกเต็มเลย เราก็เอาบ้างสิ มีร้านแผงลอยขายอาหารนกอยู่ข้างๆทะเลสาป เราก็ถามป้าดูว่าเท่าไหร่ แกชูมาหนึ่งนิ้ว เราก้เลยให้แบงค์ 10 หยวนไป ปรากฎ ป้าแกไม่ทอนจ้า เราก็ไม่รู้จะคัดค้านยังไง คุยกับป้าแกไมเ่ป็น กลับมานั่งคิดๆดุ อาหารนกถุงนึง 50 บาทเลยรึเนี่ยยย โอ้วว พอป้าเรารู้ว่าเราซื้ออาหารนกมา 10 หยวนก็บอกว่า เด็กพวกนี้โดนคนจีนโกงเข้าแล้ว ป้าซื้อหมั่นโถวมายังไม่ถึง 10 หยวนเลย

อืม... อาหารนกแพงกว่าอาหารคน รู้งี้ซื้อหมั่นโถวให้นกซะก็ดี



เรื่องห้องน้ำนี่เป็นเรื่องที่ใครๆก็ล่ำลื่อว่าน่ากลัวแค่ไหน แต่โชคดีที่เราไม่เจอ ประสบการณ์อะไรทำนองนั้น แต่ก็ได้รับข้อมูลมาจากปากของน้องสาวเราแทน น้องเราจำเป็นต้องเข้าห้องน้ำ เป็นห้องน้ำใน McDonald เราคิดว่ามันไม่น่าจะมีปัญหาอะไรนะ ปรากฎว่า ไม่มีห้องไหนที่ปิดประตู ผ้าอนามัยก็วางไว้เรี่ยราด พอน้องเราปิดประตูก็มีคนมาเตะๆ ประตูแล้วก็รัวภาษาจีนใส่ - -* รู้แบบนี้แล้ว เราไม่มีทางที่จะเข้าห้องน้ำที่จีนเด็ดขาดเลย

วันนี้ทั้งวันหมดไปกับการช็อปปิ้ง เหมือนย่านสยามของบ้านเรา เราซื้อเสื้อโค้ทกับรองเท้าใหม่สำหรับเดินทางไปภูเขาน้ำตกหิมะวันพรุ่งนี้ เป็นโปรแกรมใหม่ที่เพิ่งตัดสินใจจะไปกัน ตอนที่อยู่บนเครื่อง จากตอนแรกที่ว่าจะอยู่แค่ในเมือง แหม ก็ไม่ค่อยจะตื่นเต้นอะไรหรอกนะ  

คนจีนนี่ก็ตลกดีนะ รู้ว่าเราพูดจีนไม่ได้ก็ยังรัวพูดจีนใส่ บางคนนี่ดีหน่อย พยายามที่จะใช้ภาษามือสื่อสารกับเรา กดเครื่องคิดเลขให้เราดู พอหลายวันเข้าหน่อยก็เลยเริ่มซึมซับภาษาจีนมากขึ้น ภาษาจีนที่เคยเรียนๆมาตอนมัธยมก็เริ่มกระดิกดีกๆ ก็เลยพอสื่อสารพื้นฐานได้บ้าง โดยเฉพาะการต่อราคา
ตัวเซ่า = เท่าไหร่  ไท่กุ้ยเลอ = แพงไปหน่อย คำพวกนี้เราใช้บ่อยมากสำหรับการซื้อของช็อปปิ้งตามภาษาสาวๆ วัยรุ่น ที่เรากับน้องตะลุยช็อปในเมืองตั้งแต่วันแรก

การเดินทางครั้งนี้ต้องขอบคุณ Google ที่ช่วยแปลภาษาให้ ขาดไม่ได้เลยจริงๆสิ่งนี้ คุยแต่ภาษาใบ้กันสนุกเลย ภาษาอังกฤษถึงกับเก็บเข้ากรุไปเลยพออยู่ที่นี่  


วันต่อมาตื่นมา 7.30 น. แต่นัดไกด์ที่หน้าตาเหมือนคุณตันเอาไว้ 8.00 คือมีโทรศัพท์โทรเข้ามาในห้องแล้ว แต่ฟัง Reception พูดไม่เข้าใจเลยวางหูไป และหลับต่อ คิดว่าจะทันไหมล่ะคะ อาบน้ำ แต่งตัว กินข้าว แอบสาย ฮิฮิ !! ขอโทษค่ะคุณตัน

อาหารเช้าของโรงแรมจัดไว้ให้นี่ดีกว่าที่คิดไว้ค่ะ รสชาติจัดว่าอร่อยเลยทีเดียว เสียอย่างเดียว ยกมาตั้งได้ไม่เกิน 5 นาที กลายเป็นหมี่เย็นทันที



อากาศตอนเช้านี่หนาวมากถึงกับควันออกปากกันเลยทีเดียว คุณตันนำรถตู้มารอรับอยู่แล้ว ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมงกว่าจะถึงภูเขาน้ำตกที่กลายเป็นน้ำแข็ง ก้นชากันเลยทีเดียว ในใจเราแอบคิดนะว่า จะพาเราไปขายรึเปล่า มีแต่ผู้หญิงทั้งนั้น พูดจีนก็ไม่ได้ ในมือนี่พร้อมกดแชร์ที่อยู่ในไลน์ไปให้แม่ทันทีถ้ามีอะไรผิดปกติ (ดูหนังมากไป)



เริ่มเห็นหิมะแล้ว..


แต่ก็ต้องขอบคุณที่คุณตันเขาพาเรามาส่งถึงที่แถมอารมณ์ดียิ้มแย้มอีกต่างหาก ข้างล่างว่าหนาวแล้วข้างบนหนาวกว่ามาก อ็อกซิเจนก็น้อยลง เพราะต้องเดินขึ้นเขาสูงมาก และความกดอากาศต่ำ ป้ากับน้องเราหายใจไม่ไหว เป็นหน้าที่ของคุณตันผู้ใจดีที่หาอ็อกซิเจนกระป๋องมาให้  แต่ก็แปลกนะทำไมเราไม่เป็นอะไร สงสัยเราจะถึก 555



เหนื่อยแต่ก็ถือว่าคุ้มนะ


ยิ่งสูงยิ่งหนาวจริงๆ


รูปนี้มีแค่เรากับคุณไกด์ที่ขึ้นมาถึง มันสูงแล้วก็หนาวเหน็บมากจริงๆ นี่คือสิ่งที่พิสูจน์ว่าเราเป็นสาวถึก เย้ !

เสร็จแล้วก็ลงมาสมทบกับป้าและน้อง พักกินอะไรอุ่นๆที่บ้านขายของเล็กๆ รู้สึกดีมากอะ เวลานั่งอยู่ในนี้ คนขายของเขาก็ถามกับไกด์ว่าพวกเราเป็นคนที่ไหน (ประมาณนั้น) เราได้ยินไกด์ตอบว่ามาเลเซีย ก็เลยรีบบอกไปว่า “หว่อเมิน ไท่กั๋วเหริน” พวกเราเป็นคนไทยนะค๊าาาา
นี่แหละ ! ที่เราพอจะพูดได้ อย่าถามมากไปกว่านี้แล้วกัน
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่