สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 12
ไม่แน่ใจเหมือนกันว่ารูปที่ จขกท. เอามาประกอบเกี่ยวกับอุณหภูมิริมทะเลความต่างระหว่างกลางวันกลางคืนอ้างอิงจากแหล่งไหน ...แต่ทฤษฎีที่คุณสันนิษฐานมันมีความเป็นไปได้ถ้าจะหมายถึง "อุปสรรคสำหรับทีมเยียน" (แต่ยังไม่ระบุนะฮะว่าทีมเยือนที่ว่าเป็นทีมมาจากโซนไหน)
- จริงแล้วพอดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า ช่วงโพล้เพล้ พื้นดินจะยังอุ่นกว่าสภาพอากาศ เพราะจากการสะสมของความร้อนแฝงจากดวงอาทิตย์มาทั้งวัน เมื่อหมดแสงอาทิตย์ อุณหภูมิอากาศจะลดลงและเมื่อดินมันยังอุ่นอยู่ก็จะคายความร้อนออกมา นั่นคือ ช่วงหัวค่ำที่เตะกันอยู่ถ้าไม่มีฝนตกเลยตลอดตั้งแต่เย็นยันหัวค่ำ สนามบอลหญ้าแท้ๆ จะคายความร้อนและไอระเหยความชื้นออกมา แน่นอนว่าเอาแค่ปัจจัยเท่านี้บริเวณที่เตะก็อึดอัดแล้วสำหรับประเทศใดๆ ก็ตามที่อุณหภูมิเฉลี่ยฤดูนั้นมันเกิน 30 องศาฯ
- ด้วยการคายความร้อนที่มากช่วงหัวค่ำ เมื่อไอร้อนระเหยขึ้นมันก็ต้องลอยขึ้นข้างบนเพื่อให้อากาศที่เย็นกว่าตกลงมาแทนที่ นี่คือการเกิด "ลม" ตามปกติ ...ปัญหาคือ ถ้าสนามบอลดันอยู่หลังเขาที่กั้นระหว่างทะเลและสนาม มันจะกลายเป็น "กับดักความร้อน" เพราะลมที่เย็นจะโดนภูเขายกมวลอากาศให้ลอยขึ้นสูง ถ้าสนามอยู่ตีนเขา ลมเย็นๆ มันจะลอยข้ามสนามไปก่อนจนได้ระยะถึงจะตกลงสู่เบื้องล่าง เพราะงั้น หากสนามที่แข่งมันอยู่ติดเขาก็อย่าได้แปลกใจว่าทำไมมันถึงได้ร้อน ...มันร้อนทั้งจากการคายความร้อนของดินและหญ้า ทั้งยังไม่มีลมเย็นลงมาหมุนเวียนเนื่องจากโดนเขายกมวลอากาศไป (นี่คือลักษณะภูมิประเทศที่ทำให้ทำไม จ.กาญจนบุรีถึงได้ร้อนจนขนาดมีดินร่วนปนทรายเอาไว้ปลูกอ้อยกับมันได้ เพราะมีเทือกเขายาวเป็นร้อยๆ กิโลเมตรกั้นลมจากมหาสมุทรอินเดียอยู่) ...บวกกับสภาพอากาศแบบเกาะ นั่นคือ "ความชื้นสูง" ...หลายคนอาจจะไม่ทันนึกว่า สิ่งที่เรารู้สึกร้อนแบบอึดอัด ไม่ได้เกิดจากอุณหภูมิอากาศ แต่เกิดจากอุณหภูมิความร้อนจำเพาะของ "ไอน้ำ" เพราะงั้น แค่ 33 องศาฯ ก็ร้อนจนหายใจลำบากได้ถ้าความชื้นสูงมากพอ ...ตรงนี้ทีมงานของซิโก้อาจจะต้องศึกษาสภาพภูมิอากาศของสถานที่แข่ง ณ เวลานั้นไว้ด้วยว่าความชื้นสัมพัทธ์มันมากพอจะมีผลต่อสภาพความฟิตของนักเตะหรือไม่ ...เผื่อในวันข้างหน้า ถ้าต้องเจอแมทช์ทีมเยือนลักษณะนี้อีก จะได้เอาทีมไปซ้อมอุ่นเครื่องในทำเลคล้ายๆ กันในประเทศก่อนออกเดินทางได้ และจะได้ให้ทางแอนดี้ประเมินสภาพความฟิตนักเตะไปในตัวว่าต้องปรับโปรแกรมความฟิตและเตรียมร่างกายยังไงให้พอจะทั้งยิงนำและรักษารูปเกมให้จบ 90+ นาทีได้ ...
.....
ความจริงตอนที่ดูถ่ายทอดสดเมื่อหัวค่ำ ก็รู้สึกถึงสภาพความฟิตที่น่าจะมีปัญหาในกลุ่มนักเตะหลายๆ คนนะ แต่ไม่ใช่ทุกคน เพียงแต่ ณ ตอนนี้ ระบบการทำเกมของซิโก้จำเป็นต้องอาศัยนักเตะที่สภาพความฟิตและความเข้าใจเกม "ใกล้เคียงกัน" ให้มากที่สุด เพราะงั้น เท่าที่ดูสมดุลเกมเราอาจจะแกว่งบ้าง แต่ให้เดาว่าเพราะสภาพความฟิตไม่มากพอเนื่องจากลีกมีการหยุดโปรแกรมมาเป็นเดือนๆ เพราะต้องดูโปรแกรมซีเกมเข้ามาพ่วงด้วย ทำให้นักเตะชุดใหญ่ที่ไม่ได้ไปเตะซีเกม สภาพความฟิตอาจจะแกว่งบ้าง (ต่อให้ซ้อมเก็บตัวอยู่กิเลนวัลเล่ย์เป็นเดือนมันก็สู้เก็บตัว 1 อาทิตย์หลังโปรแกรมลีกไม่ได้ในความคิดข้าเจ้านะ) ...และความจริงช่วงนี้เป็นช่วงเริ่มเข้าหน้าฝน เพราะงั้น นักเตะจำเป็นต้องระวังในเรื่องของโรคด้วย ต่อให้เป็นนักกีฬาอาชีพ แต่ไม่ได้หมายความว่าแกร่งจนสู้ไวรัสต่างๆ ในฤดูฝนได้ ...มองว่าความจริงฟอร์มนักเตะไม่ได้แกว่งเพราะเล่นไม่ดี แต่แกว่งเพราะปัจจัยภายนอกมีส่วนไม่ต่ำกว่า 30-40% และเมื่อมารวมกับความที่นักเตะชุดนี้ไม่ได้รวมตัวมานานเท่ากับกลุ่ม เจ ตัง ต้น หรือพวกซีเกมส์ การที่จะให้เล่นตามภาพที่แฟนบอลเห็นจากพวกชุดนั้นมันต้องให้เวลาในการจูนมากกว่านี้ ไหนจะว่างจากโปรแกรมลีกที่นานจนขาดความต่อเนื่องในเรื่องความฟิตและการฝึกการอ่านเกมอีก ...แต่ถึงกระนั้น ทั้งสกอร์และพื้นฐานที่ทำได้จากเกมเมื่อคืนก็ยังถือว่าไม่หลุดเกณฑ์ที่คาดหวังกันในเรื่องผลลัพธ์นะ ...ถ้าอยากได้ผลต่างประตูได้เสียที่มากกว่านี้ เดี๋ยวเจอในบ้านเรานั้นแหละเหมาะด้วยประการทั้งปวงที่จะเก็บตุนประตูและเล่นในชัยภูมิที่คุ้นเคยกว่า รวมทั้งขนาดผู้เล่นก็น่าจะใหญ่กว่าด้วย ...
สิ่งที่ข้าเจ้ากลับมองเป็นข้อดีของสกอร์เมื่อคืน คือการที่ทำให้ไต้หวันมีกำลังใจว่าสามารถสู้ได้จากเกม Counter ที่เค้าเล่นงานเราเกือบได้ผลในครึ่งหลัง นั่นจะทำให้เค้ามีแรงฮึดและพัฒนาเกมไป "ตัดแต้ม" ทีมที่เหลือในกลุ่มเราเวลาเป็นเกมเหย้าของไต้หวันได้ ...ที่แน่ๆ ข้าเจ้าเห็นอนาคตรางๆ หละว่าไต้หวันมีสิทธิ์ "ไม่แพ้" เวียตนาม ...ที่เหลือกับอิรัก อันนั้นค่อยไปดูสถานการณ์หลังจากที่อิรักเจอไทยนัดแรกไปแล้วอีกที ถ้าเรากดอิรักได้ก่อน มันจะทำเกิดศึก "ชิงอันดับ 2" แบบที่เราลอยตัวขึ้นมาก็ได้ ...แต่นั่นหมายความว่าในบ้านเราต้องชนะอิรักให้ได้นะ
- จริงแล้วพอดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า ช่วงโพล้เพล้ พื้นดินจะยังอุ่นกว่าสภาพอากาศ เพราะจากการสะสมของความร้อนแฝงจากดวงอาทิตย์มาทั้งวัน เมื่อหมดแสงอาทิตย์ อุณหภูมิอากาศจะลดลงและเมื่อดินมันยังอุ่นอยู่ก็จะคายความร้อนออกมา นั่นคือ ช่วงหัวค่ำที่เตะกันอยู่ถ้าไม่มีฝนตกเลยตลอดตั้งแต่เย็นยันหัวค่ำ สนามบอลหญ้าแท้ๆ จะคายความร้อนและไอระเหยความชื้นออกมา แน่นอนว่าเอาแค่ปัจจัยเท่านี้บริเวณที่เตะก็อึดอัดแล้วสำหรับประเทศใดๆ ก็ตามที่อุณหภูมิเฉลี่ยฤดูนั้นมันเกิน 30 องศาฯ
- ด้วยการคายความร้อนที่มากช่วงหัวค่ำ เมื่อไอร้อนระเหยขึ้นมันก็ต้องลอยขึ้นข้างบนเพื่อให้อากาศที่เย็นกว่าตกลงมาแทนที่ นี่คือการเกิด "ลม" ตามปกติ ...ปัญหาคือ ถ้าสนามบอลดันอยู่หลังเขาที่กั้นระหว่างทะเลและสนาม มันจะกลายเป็น "กับดักความร้อน" เพราะลมที่เย็นจะโดนภูเขายกมวลอากาศให้ลอยขึ้นสูง ถ้าสนามอยู่ตีนเขา ลมเย็นๆ มันจะลอยข้ามสนามไปก่อนจนได้ระยะถึงจะตกลงสู่เบื้องล่าง เพราะงั้น หากสนามที่แข่งมันอยู่ติดเขาก็อย่าได้แปลกใจว่าทำไมมันถึงได้ร้อน ...มันร้อนทั้งจากการคายความร้อนของดินและหญ้า ทั้งยังไม่มีลมเย็นลงมาหมุนเวียนเนื่องจากโดนเขายกมวลอากาศไป (นี่คือลักษณะภูมิประเทศที่ทำให้ทำไม จ.กาญจนบุรีถึงได้ร้อนจนขนาดมีดินร่วนปนทรายเอาไว้ปลูกอ้อยกับมันได้ เพราะมีเทือกเขายาวเป็นร้อยๆ กิโลเมตรกั้นลมจากมหาสมุทรอินเดียอยู่) ...บวกกับสภาพอากาศแบบเกาะ นั่นคือ "ความชื้นสูง" ...หลายคนอาจจะไม่ทันนึกว่า สิ่งที่เรารู้สึกร้อนแบบอึดอัด ไม่ได้เกิดจากอุณหภูมิอากาศ แต่เกิดจากอุณหภูมิความร้อนจำเพาะของ "ไอน้ำ" เพราะงั้น แค่ 33 องศาฯ ก็ร้อนจนหายใจลำบากได้ถ้าความชื้นสูงมากพอ ...ตรงนี้ทีมงานของซิโก้อาจจะต้องศึกษาสภาพภูมิอากาศของสถานที่แข่ง ณ เวลานั้นไว้ด้วยว่าความชื้นสัมพัทธ์มันมากพอจะมีผลต่อสภาพความฟิตของนักเตะหรือไม่ ...เผื่อในวันข้างหน้า ถ้าต้องเจอแมทช์ทีมเยือนลักษณะนี้อีก จะได้เอาทีมไปซ้อมอุ่นเครื่องในทำเลคล้ายๆ กันในประเทศก่อนออกเดินทางได้ และจะได้ให้ทางแอนดี้ประเมินสภาพความฟิตนักเตะไปในตัวว่าต้องปรับโปรแกรมความฟิตและเตรียมร่างกายยังไงให้พอจะทั้งยิงนำและรักษารูปเกมให้จบ 90+ นาทีได้ ...
.....
ความจริงตอนที่ดูถ่ายทอดสดเมื่อหัวค่ำ ก็รู้สึกถึงสภาพความฟิตที่น่าจะมีปัญหาในกลุ่มนักเตะหลายๆ คนนะ แต่ไม่ใช่ทุกคน เพียงแต่ ณ ตอนนี้ ระบบการทำเกมของซิโก้จำเป็นต้องอาศัยนักเตะที่สภาพความฟิตและความเข้าใจเกม "ใกล้เคียงกัน" ให้มากที่สุด เพราะงั้น เท่าที่ดูสมดุลเกมเราอาจจะแกว่งบ้าง แต่ให้เดาว่าเพราะสภาพความฟิตไม่มากพอเนื่องจากลีกมีการหยุดโปรแกรมมาเป็นเดือนๆ เพราะต้องดูโปรแกรมซีเกมเข้ามาพ่วงด้วย ทำให้นักเตะชุดใหญ่ที่ไม่ได้ไปเตะซีเกม สภาพความฟิตอาจจะแกว่งบ้าง (ต่อให้ซ้อมเก็บตัวอยู่กิเลนวัลเล่ย์เป็นเดือนมันก็สู้เก็บตัว 1 อาทิตย์หลังโปรแกรมลีกไม่ได้ในความคิดข้าเจ้านะ) ...และความจริงช่วงนี้เป็นช่วงเริ่มเข้าหน้าฝน เพราะงั้น นักเตะจำเป็นต้องระวังในเรื่องของโรคด้วย ต่อให้เป็นนักกีฬาอาชีพ แต่ไม่ได้หมายความว่าแกร่งจนสู้ไวรัสต่างๆ ในฤดูฝนได้ ...มองว่าความจริงฟอร์มนักเตะไม่ได้แกว่งเพราะเล่นไม่ดี แต่แกว่งเพราะปัจจัยภายนอกมีส่วนไม่ต่ำกว่า 30-40% และเมื่อมารวมกับความที่นักเตะชุดนี้ไม่ได้รวมตัวมานานเท่ากับกลุ่ม เจ ตัง ต้น หรือพวกซีเกมส์ การที่จะให้เล่นตามภาพที่แฟนบอลเห็นจากพวกชุดนั้นมันต้องให้เวลาในการจูนมากกว่านี้ ไหนจะว่างจากโปรแกรมลีกที่นานจนขาดความต่อเนื่องในเรื่องความฟิตและการฝึกการอ่านเกมอีก ...แต่ถึงกระนั้น ทั้งสกอร์และพื้นฐานที่ทำได้จากเกมเมื่อคืนก็ยังถือว่าไม่หลุดเกณฑ์ที่คาดหวังกันในเรื่องผลลัพธ์นะ ...ถ้าอยากได้ผลต่างประตูได้เสียที่มากกว่านี้ เดี๋ยวเจอในบ้านเรานั้นแหละเหมาะด้วยประการทั้งปวงที่จะเก็บตุนประตูและเล่นในชัยภูมิที่คุ้นเคยกว่า รวมทั้งขนาดผู้เล่นก็น่าจะใหญ่กว่าด้วย ...
สิ่งที่ข้าเจ้ากลับมองเป็นข้อดีของสกอร์เมื่อคืน คือการที่ทำให้ไต้หวันมีกำลังใจว่าสามารถสู้ได้จากเกม Counter ที่เค้าเล่นงานเราเกือบได้ผลในครึ่งหลัง นั่นจะทำให้เค้ามีแรงฮึดและพัฒนาเกมไป "ตัดแต้ม" ทีมที่เหลือในกลุ่มเราเวลาเป็นเกมเหย้าของไต้หวันได้ ...ที่แน่ๆ ข้าเจ้าเห็นอนาคตรางๆ หละว่าไต้หวันมีสิทธิ์ "ไม่แพ้" เวียตนาม ...ที่เหลือกับอิรัก อันนั้นค่อยไปดูสถานการณ์หลังจากที่อิรักเจอไทยนัดแรกไปแล้วอีกที ถ้าเรากดอิรักได้ก่อน มันจะทำเกิดศึก "ชิงอันดับ 2" แบบที่เราลอยตัวขึ้นมาก็ได้ ...แต่นั่นหมายความว่าในบ้านเราต้องชนะอิรักให้ได้นะ

ความคิดเห็นที่ 51
ใครบอกประเทศเราร้อนชื้นกว่าไต้หวัน
แสดงว่าไม่เคยไปไต้หวันสินะ
นี่พึ่งกลับมาจากไทเป ที่นู่นที่อุณหภูมิ 30-33 ก็เหงื่อท่วมเสื้อหนักกว่าไทยอุณหภูมิ40เนอะค่ะ หายใจลำบาก ทำให้เหนื่อยได้ภายในไม่เกินสิบนาทีแล้วค่ะ
เรามั่นใจว่าเราแข็งแรงพอนะ เราวิ่งออกกำลังกายทุกวันวันละไม่ต่ำกว่า6กิโล ชิวๆนะ
ที่นู่นชื้นกว่าเรามากกกกกกกแถมไม่ลมเลย เอามาเทียบกับภาคใต้เรา ภาคใต้เราเด็กๆไปเลยค่ะ(บ้านเราอยู่หาดใหญ่)
ช่วยเลิกมโนกันได้แล้วนะคะว่าบ้านเราร้อนกว่าชื้นกว่า หรือเท่ากับไต้หวัน
เอาเวลานั่งมโนออกไปท่องโลกมั่งก็ดีนะคะช่วงนี้ตั๋วถูกโคดๆ
แสดงว่าไม่เคยไปไต้หวันสินะ
นี่พึ่งกลับมาจากไทเป ที่นู่นที่อุณหภูมิ 30-33 ก็เหงื่อท่วมเสื้อหนักกว่าไทยอุณหภูมิ40เนอะค่ะ หายใจลำบาก ทำให้เหนื่อยได้ภายในไม่เกินสิบนาทีแล้วค่ะ
เรามั่นใจว่าเราแข็งแรงพอนะ เราวิ่งออกกำลังกายทุกวันวันละไม่ต่ำกว่า6กิโล ชิวๆนะ
ที่นู่นชื้นกว่าเรามากกกกกกกแถมไม่ลมเลย เอามาเทียบกับภาคใต้เรา ภาคใต้เราเด็กๆไปเลยค่ะ(บ้านเราอยู่หาดใหญ่)
ช่วยเลิกมโนกันได้แล้วนะคะว่าบ้านเราร้อนกว่าชื้นกว่า หรือเท่ากับไต้หวัน
เอาเวลานั่งมโนออกไปท่องโลกมั่งก็ดีนะคะช่วงนี้ตั๋วถูกโคดๆ
ความคิดเห็นที่ 43
หนึ่งในกองเชียร์ที่สนามจริงที่ไทเปค่ะ ไทเปเมื่อวาน อากาศร้อนมากค่ะ ร้อนกว่าเมืองไทย ร้อนอึดอัด อบอ้าว ไม่สบายตัวกว่าเมืองไทยค่ะ ขนาดคนเชียร์เองหลังๆยังหมดแรงเชียร์เลยค่ะ ขนาดอยู่มานานแล้ว และไปวิ่งที่สนามที่ใช้แข่งนัดนี้อยู่บ่อยๆ ยังไม่ชินกับอากาศร้อนแบบนี้เลย (บ่นทุกวัน) ประสาไรกะนักเตะที่เพิ่งมาได้วันสองวัน
แสดงความคิดเห็น
ข้อสันนิษฐานที่ ไต้หวัน เลือกใช้สนาม Taipei Municipal Stadium และความฟิตของไทย
มันเริ่มมาจากการเจอข่าวว่า สมาคมฟุตบอลไต้หวันขัดใจแฟน ย้ายสนามจากเมืองหลวงที่จุหลักห้าหมื่น
มาที่สนามตอนเหนือของประเทศที่จุได้แค่ 2 หมื่น http://www.thailandsusu.com/webboard/index.php?topic=355160.0
แต่พอดูดีๆ เมืองไทเปที่เป็นที่ตั้งของสนามเป็นเมืองกลางหุบเขา
ทำไห้เวลาหัวค่ำจึงเกิดลมภูเขา ทำไห้ความกดอากาศ และความชื้นด้านล่างสูงมากๆ
http://kanchanapisek.or.th/kp6/sub/book/book.php?book=4&chap=5&page=t4-5-infodetail06.html
และยังไปคอมโบกับ ลมทะเล
ที่พัดเอาความร้อนจากฝั่งไปไว้กลางทะเล น้ำเกิดการระเหยไปในอากาศ ในระดับสูง
แล้วถ้าบังเอิญมีภูเขาไกล้ๆ ที่เกิดลมภูเขาพอดี มันจะดึงเอาความชื้นจากทั้งบรรยากาศมาไว้กองไต้หลุม
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ลองนึกถึงวันที่ฝนกำลังจะตกแต่ยังไม่ตก
อากาศอบอ้าว หายใจไม่ถนัด เหนอะหนะเหนียวตัว
ทำอะไรก็ลำบาก
แต่นี่คือสิ่งที่ยิ่งกว่าเพราะมันจะกลายเป็นคอมโบความกดอากาศ
โบลิเวีย เคยเล่นลูกไม้คล้ายๆกันนี้ เพื่อสร้างบรรยากาศแบบสุดขั้ว
โดยการแข่งบนที่สูงจนเกิดความกดอากาศต่ำ
แต่นี่แตกต่างเพราะไปแข่งกลางหลุมลึก ทำไห้อากาศรอบตัวหนักขึ้นกว่าเดิม
และผมคิดว่านี่เป็นเหตผลหลัก ที่สมาคมฟุตบอลไต้หวัน แหวกเสียงประชาชี ยอมโดนด่า เพื่อมาแข่งแบบหนีผู้คน
อันเป็นเหตผลที่ทำไห้นักเตะไทยเล่นป้อแป้ หมดแรงเร็ววันนี้ครับผม