สวัสดีค่ะ วันนี้ขอมารีวิวร้านอาหารที่มีชื่อว่า "แจ่มจันทร์ บาร์ แอนด์ บิสโทร" ที่ตั้งอยู่ย่านถนนพระอาทิตย์นะค่ะ
เรื่องมีอยู่ว่า...
ด้วยความที่เราอยากนั่งหาร้านนั่งชิวบนดาดฟ้า ที่มีวิวสวยๆบรรยากาศดีๆ มีดนตรีสด เพื่อนั่งกินข้าวพบปะสังสรรค์กับเพื่อนๆ เราก็เลยลองเปิดเวปดูว่ามีร้านไหนบ้างที่น่านั่ง แล้วบังเอิญไปเจอเว็ปๆนึง เขียนว่า "10 ร้าน Rooftop bar วิว 360 องศา ใจกลางกรุง.... " อ่านๆดูสะดุดตากับร้านนี้เข้าพอดี ก็เลยแคปหน้าจอส่งไปในกลุ่มเพื่อนในไลน์เลยจ้า "ไปๆร้านนี้กันเพื่อนๆ วิวดี สวยๆ ดินเนอร์ กินข้าวกันเบาๆ" ประโยคนี้เลยที่ชวนเพื่อน เสมือนเคยไปมาก่อน55++

ภาพนี้เป็นภาพบรรยากาศที่ดูมาจากเวปนะค่ะ ผสมกับคนที่เพิ่งรู้จักส่งรูปให้บอกร้านนี้เด็ดต้องไปให้ได้เลย เราก็เลยตัดสินใจไปกันเลยคะแต่ต้องโทรจองก่อนนะค่ะเดี๋ยวโต๊ะเต็ม
ขอบอกเส้นทางการมาร้านก่อนดีกว่าค่ะ ร้านตั้งอยู่ชั้น 5 (Rooftop) อาคาร Fortville Guesthouse ถนนพระสุเมรุ หรือ สังเกตง่ายๆ เลยค่ะ ตั้งอยู่อยู่ติดกับปั๊มปตท. ตรงป้อมพระสุเมรุค่ะ

พอมาถึงก็จะเห็นชื่อร้านตั้งอยู่ไฟส่องสว่างเด่นมากเลยค่ะ มาถึงจังหว่ะนี้แหละ ความตื่นเต้นกำลังจะบังเกิด เราก็เดินๆมา เอ๊ะทางเข้าร้านอยู่ตรงไหน มองๆเข้าไปในโรงแรมนี้มั้ง คือรู้แต่ว่าร้านอาหารอยู่บนดาดฟ้า โอเคเราก็เดินเข้ามา มาคนเดียวนะค่ะ เพื่อนมาถึงกันก่อนแล้ว และบรรยากาศค่อนข้างเงียบมาก เป็นช่วงเวลาประมาณ 2 ทุ่มคึ่งค่ะ ใจเราก็หวิวๆและทำไมไม่มีคนเลย คิดในใจเดินเข้าไปเดี๋ยวก็เจอพนักงานสักคนแหละ

นี่คือภาพทางเข้านะค่ะ แต่ภาพนี้ถ่ายตอนขากลับค่ะ เนื่องจากตอนมาคือ ไม่มีอารมณ์จะหยิบโทรศัพท์มาถ่ายเลยด้วยความตกใจนิดๆกลัวหน่อยๆ55++
พอเดินเข้ามาก็จะเจอประตูทางเข้านะค่ะ เป็นประตูกระจกค่ะ เราก็เปิดเข้ามา มีคุณลุงแก่ๆผมยาวๆมีหนวดเครารุงรังนั่งเล่นอินเตอร์เน็ตอยู่ เราก็พยายามมองๆ อีกใจก็กลัวๆจะถามทางดีไหมน้อ เข้ามาแล้วไปทางไหนต่อหล่ะ ไม่มีพนักงานนั่งหน้าเคาเตอร์เลยสักคน คิดในใจ เราคงมาผิดที่แล้วมั้ง

จังหวะกำลังจะตัดสินใจว่าจะเอาไงดี จะไปทางไหน จะถามใคร ก็มีผู้ชายคนนึงเดินเข้ามาพอดี โอ้วพระเจ้า นี่แหละตัวช่วยเรา เราก็มองเขาอยู่พักนึง เขาก็มองเราประมาณว่าเราคงต้องการความช่วยเหลือ เราก็เลยเอ่ยปากถามว่า "ขอโทษนะค่ะ ไม่ทราบว่าลิฟท์อยู่ตรงไหนค่ะ" ผู้ชายตอบ "คือผมก็ไม่รู้อะคับ เพิ่งเคยมา" เอิ่ม!!!! คือช่วยอะไรไม่ได้เลย จังหวะนั้นนึกขึ้นได้ โทรหาเพื่อนทันที เพื่อนก็บอกว่ามาถูกแล้วให้ขึ้นลิฟท์มา เราก็ไหนหล่ะ ไหนหล่ะลิฟท์ ระหว่างเราคุยโทรศัพท์กับเพื่อนผู้ชายก็เดินหาลิฟท์ เราก็หันมาเจอปุ่ม 2 ปุ่ม สีแดงกับสีเขียว พร้อมกับกรงแดงๆ เอ๊ะหรือว่านี่หรอลิฟท์??

ภาพนี้ถ่ายตอนกลับอีกเช่นกันค่ะ 555++
ในขณะที่เรากำลังสงสัยว่านี่ใช่ลิฟท์ไหม ก็คุยโทรศัพท์ถามเพื่อนไป เพื่อนบอกว่าใช่ให้กดลิฟท์แล้วขึ้นมาเลย เราก็หันไปบอกผู้ชายข้างๆว่า "นี่ค่ะลิฟท์ แล้วเปิดยังไงอะค่ะ" ผู้ชายคนนั้นก็เข้ามาช่วยดู แล้วก็กดปุ่มสีเขียวไป ลิฟท์ก็ขึ้นมา เราก็รู้สึก เฮ้อ! โล่งอก ดีใจนิดๆเห็นลิฟท์และ ว่าแต่...เปิดยังไง เราต้องเปิดเข้าไปเองใช่ม๊ะ?? และแล้วผู้ชายคนนั้นก็มาเปิด เปิดครั้งแรกไม่ออก ครั้ง 2 ไม่ออก สรุปใช้แรงเปิด 3 ครั้งค่ะ เอิ่ม!! เรามาที่ไหนหว่ะเนี่ยคิดในใจ

ระหว่างทางที่ลิฟท์ขึ้นเราก็จะมองเห็นห้องพักแต่ละชั้น บรรยากาศดูวังเวงและน่ากลัวมากเลยค่ะ คือตั้งแต่เห็นลิฟท์ก็นึกถึงบรรยากาศอารมณ์ประมาณตึกแถวร้างแล้วค่ะ (ดูหนังผีมากไปหน่อย อึ๋ยยย...น่ากลัวชะมัด)

พอออกจากลิฟท์มาก็เลี้ยวขวา จะเจอประตูในภาพนี้ค่ะ แล้วก็พลักประตูเดินขึ้นมา พอขึ้นมาถึง คำแรกที่พูดกับเพื่อน "นี่มันร้านไรนี่ กว่าจะขึ้นมาได้ โอ้วพระเจ้า ทำไมมันน่ากลัวจัง" เพื่อนก็ขำกันบอก ใครหล่ะ เลือกร้าน เอิ่มม.. เราเองนี่หว่า ><"
แต่พอขึ้นมาด้วยความที่เรามามืดแล้ว ภาพที่เห็นก็เลยไม่สวยเหมือนดังรูปในเวป แต่บรรยากาศก็ค่อนข้างโอเคค่ะ แต่มืดไปหน่อย มันจะมีชั้นบนที่นั่งกับพื้นกับชั้นล่างที่นั่งโต๊ะและมีดนตรีสด เราเลือกนั่งกับพื้นตามรูปที่เปิดเวปเจอเลยค่ะ

บรรยากาศค่อนข้างมืด มีตะเกียงให้ 1 อันสำหรับ 1 โต๊ะ เรียกได้ว่า สั่งกับข้าวมากิน มองแทบไม่ค่อยเห็นเลยค่ะ รสชาติอาหารก็ไม่ค่อยถูกปากสักเท่าไหร่ แต่ก็แล้วแต่ความชอบของแต่ละคนด้วย เพราะแต่ละคนมีความชอบไม่เหมือนกัน เราสั่งอาหารกันมา 5 อย่าง มีต้มยำน้ำข้น หมูมะนาว ยำวุ้นเส้น เห็ดสามอย่างผัดน้ำมันหอยและก็เอ็นข้อไก่ มีที่อร่อยอย่างเดียวคือต้มยำน้ำข้นค่ะ

Coronitarita ราคาประมาณ 359 บาทค่ะ รสชาติโอเคค่ะ แนะนำเลยค่ะ


ภาพนี้ถ่ายด้วยกล้องฟรุ้งฟิ้ง ถ้าไม่เปิดแฟลตคือจะ มืดมากเลยค่ะ เรากับเพื่อนก็ไม่สนใจโต๊ะรอบข้างเลย เม้าท์กันกระจายด้วยความที่นานๆเจอกันทีและถ่ายรูปเปิดแฟลตเยอะมาก จนโต๊ะข้างๆบ่นว่า แสบตา 555+++
*
*
*
จากที่ได้ไปสัมผัสบรรยากาศภาพรวมก็ถือว่าค่อนข้างโอเคนะค่ะ แต่จะเหมาะสำหรับคู่รักซะมากกว่า เพราะบรรยากาศโรแมนติกซะเหหลือเกิน มีเสียงเพลงคลอเบา แต่สำหรับเพื่อนๆก็นั่งได้ค่ะ ถ้าเน้นการพูดคุยค่อนข้างโอเค ถ้าคุยสนุกจะไม่หลับ เพราะหลังจากที่พวกเราคุยกันมากพอแล้ว ฟังเพลงไปก็พาง่วงไปค่ะ 555++
[CR] แจ่มจันทร์ ร้านนั่งชิวบนดาดฟ้า ย่านถนนพระอาทิตย์
เรื่องมีอยู่ว่า...
ด้วยความที่เราอยากนั่งหาร้านนั่งชิวบนดาดฟ้า ที่มีวิวสวยๆบรรยากาศดีๆ มีดนตรีสด เพื่อนั่งกินข้าวพบปะสังสรรค์กับเพื่อนๆ เราก็เลยลองเปิดเวปดูว่ามีร้านไหนบ้างที่น่านั่ง แล้วบังเอิญไปเจอเว็ปๆนึง เขียนว่า "10 ร้าน Rooftop bar วิว 360 องศา ใจกลางกรุง.... " อ่านๆดูสะดุดตากับร้านนี้เข้าพอดี ก็เลยแคปหน้าจอส่งไปในกลุ่มเพื่อนในไลน์เลยจ้า "ไปๆร้านนี้กันเพื่อนๆ วิวดี สวยๆ ดินเนอร์ กินข้าวกันเบาๆ" ประโยคนี้เลยที่ชวนเพื่อน เสมือนเคยไปมาก่อน55++
ภาพนี้เป็นภาพบรรยากาศที่ดูมาจากเวปนะค่ะ ผสมกับคนที่เพิ่งรู้จักส่งรูปให้บอกร้านนี้เด็ดต้องไปให้ได้เลย เราก็เลยตัดสินใจไปกันเลยคะแต่ต้องโทรจองก่อนนะค่ะเดี๋ยวโต๊ะเต็ม
ขอบอกเส้นทางการมาร้านก่อนดีกว่าค่ะ ร้านตั้งอยู่ชั้น 5 (Rooftop) อาคาร Fortville Guesthouse ถนนพระสุเมรุ หรือ สังเกตง่ายๆ เลยค่ะ ตั้งอยู่อยู่ติดกับปั๊มปตท. ตรงป้อมพระสุเมรุค่ะ
พอมาถึงก็จะเห็นชื่อร้านตั้งอยู่ไฟส่องสว่างเด่นมากเลยค่ะ มาถึงจังหว่ะนี้แหละ ความตื่นเต้นกำลังจะบังเกิด เราก็เดินๆมา เอ๊ะทางเข้าร้านอยู่ตรงไหน มองๆเข้าไปในโรงแรมนี้มั้ง คือรู้แต่ว่าร้านอาหารอยู่บนดาดฟ้า โอเคเราก็เดินเข้ามา มาคนเดียวนะค่ะ เพื่อนมาถึงกันก่อนแล้ว และบรรยากาศค่อนข้างเงียบมาก เป็นช่วงเวลาประมาณ 2 ทุ่มคึ่งค่ะ ใจเราก็หวิวๆและทำไมไม่มีคนเลย คิดในใจเดินเข้าไปเดี๋ยวก็เจอพนักงานสักคนแหละ
นี่คือภาพทางเข้านะค่ะ แต่ภาพนี้ถ่ายตอนขากลับค่ะ เนื่องจากตอนมาคือ ไม่มีอารมณ์จะหยิบโทรศัพท์มาถ่ายเลยด้วยความตกใจนิดๆกลัวหน่อยๆ55++
พอเดินเข้ามาก็จะเจอประตูทางเข้านะค่ะ เป็นประตูกระจกค่ะ เราก็เปิดเข้ามา มีคุณลุงแก่ๆผมยาวๆมีหนวดเครารุงรังนั่งเล่นอินเตอร์เน็ตอยู่ เราก็พยายามมองๆ อีกใจก็กลัวๆจะถามทางดีไหมน้อ เข้ามาแล้วไปทางไหนต่อหล่ะ ไม่มีพนักงานนั่งหน้าเคาเตอร์เลยสักคน คิดในใจ เราคงมาผิดที่แล้วมั้ง
จังหวะกำลังจะตัดสินใจว่าจะเอาไงดี จะไปทางไหน จะถามใคร ก็มีผู้ชายคนนึงเดินเข้ามาพอดี โอ้วพระเจ้า นี่แหละตัวช่วยเรา เราก็มองเขาอยู่พักนึง เขาก็มองเราประมาณว่าเราคงต้องการความช่วยเหลือ เราก็เลยเอ่ยปากถามว่า "ขอโทษนะค่ะ ไม่ทราบว่าลิฟท์อยู่ตรงไหนค่ะ" ผู้ชายตอบ "คือผมก็ไม่รู้อะคับ เพิ่งเคยมา" เอิ่ม!!!! คือช่วยอะไรไม่ได้เลย จังหวะนั้นนึกขึ้นได้ โทรหาเพื่อนทันที เพื่อนก็บอกว่ามาถูกแล้วให้ขึ้นลิฟท์มา เราก็ไหนหล่ะ ไหนหล่ะลิฟท์ ระหว่างเราคุยโทรศัพท์กับเพื่อนผู้ชายก็เดินหาลิฟท์ เราก็หันมาเจอปุ่ม 2 ปุ่ม สีแดงกับสีเขียว พร้อมกับกรงแดงๆ เอ๊ะหรือว่านี่หรอลิฟท์??
ภาพนี้ถ่ายตอนกลับอีกเช่นกันค่ะ 555++
ในขณะที่เรากำลังสงสัยว่านี่ใช่ลิฟท์ไหม ก็คุยโทรศัพท์ถามเพื่อนไป เพื่อนบอกว่าใช่ให้กดลิฟท์แล้วขึ้นมาเลย เราก็หันไปบอกผู้ชายข้างๆว่า "นี่ค่ะลิฟท์ แล้วเปิดยังไงอะค่ะ" ผู้ชายคนนั้นก็เข้ามาช่วยดู แล้วก็กดปุ่มสีเขียวไป ลิฟท์ก็ขึ้นมา เราก็รู้สึก เฮ้อ! โล่งอก ดีใจนิดๆเห็นลิฟท์และ ว่าแต่...เปิดยังไง เราต้องเปิดเข้าไปเองใช่ม๊ะ?? และแล้วผู้ชายคนนั้นก็มาเปิด เปิดครั้งแรกไม่ออก ครั้ง 2 ไม่ออก สรุปใช้แรงเปิด 3 ครั้งค่ะ เอิ่ม!! เรามาที่ไหนหว่ะเนี่ยคิดในใจ
ระหว่างทางที่ลิฟท์ขึ้นเราก็จะมองเห็นห้องพักแต่ละชั้น บรรยากาศดูวังเวงและน่ากลัวมากเลยค่ะ คือตั้งแต่เห็นลิฟท์ก็นึกถึงบรรยากาศอารมณ์ประมาณตึกแถวร้างแล้วค่ะ (ดูหนังผีมากไปหน่อย อึ๋ยยย...น่ากลัวชะมัด)
พอออกจากลิฟท์มาก็เลี้ยวขวา จะเจอประตูในภาพนี้ค่ะ แล้วก็พลักประตูเดินขึ้นมา พอขึ้นมาถึง คำแรกที่พูดกับเพื่อน "นี่มันร้านไรนี่ กว่าจะขึ้นมาได้ โอ้วพระเจ้า ทำไมมันน่ากลัวจัง" เพื่อนก็ขำกันบอก ใครหล่ะ เลือกร้าน เอิ่มม.. เราเองนี่หว่า ><"
แต่พอขึ้นมาด้วยความที่เรามามืดแล้ว ภาพที่เห็นก็เลยไม่สวยเหมือนดังรูปในเวป แต่บรรยากาศก็ค่อนข้างโอเคค่ะ แต่มืดไปหน่อย มันจะมีชั้นบนที่นั่งกับพื้นกับชั้นล่างที่นั่งโต๊ะและมีดนตรีสด เราเลือกนั่งกับพื้นตามรูปที่เปิดเวปเจอเลยค่ะ
บรรยากาศค่อนข้างมืด มีตะเกียงให้ 1 อันสำหรับ 1 โต๊ะ เรียกได้ว่า สั่งกับข้าวมากิน มองแทบไม่ค่อยเห็นเลยค่ะ รสชาติอาหารก็ไม่ค่อยถูกปากสักเท่าไหร่ แต่ก็แล้วแต่ความชอบของแต่ละคนด้วย เพราะแต่ละคนมีความชอบไม่เหมือนกัน เราสั่งอาหารกันมา 5 อย่าง มีต้มยำน้ำข้น หมูมะนาว ยำวุ้นเส้น เห็ดสามอย่างผัดน้ำมันหอยและก็เอ็นข้อไก่ มีที่อร่อยอย่างเดียวคือต้มยำน้ำข้นค่ะ
Coronitarita ราคาประมาณ 359 บาทค่ะ รสชาติโอเคค่ะ แนะนำเลยค่ะ
ภาพนี้ถ่ายด้วยกล้องฟรุ้งฟิ้ง ถ้าไม่เปิดแฟลตคือจะ มืดมากเลยค่ะ เรากับเพื่อนก็ไม่สนใจโต๊ะรอบข้างเลย เม้าท์กันกระจายด้วยความที่นานๆเจอกันทีและถ่ายรูปเปิดแฟลตเยอะมาก จนโต๊ะข้างๆบ่นว่า แสบตา 555+++
*
*
*
จากที่ได้ไปสัมผัสบรรยากาศภาพรวมก็ถือว่าค่อนข้างโอเคนะค่ะ แต่จะเหมาะสำหรับคู่รักซะมากกว่า เพราะบรรยากาศโรแมนติกซะเหหลือเกิน มีเสียงเพลงคลอเบา แต่สำหรับเพื่อนๆก็นั่งได้ค่ะ ถ้าเน้นการพูดคุยค่อนข้างโอเค ถ้าคุยสนุกจะไม่หลับ เพราะหลังจากที่พวกเราคุยกันมากพอแล้ว ฟังเพลงไปก็พาง่วงไปค่ะ 555++