คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
คำสอนที่อนุญาติการให้ฆ่า
รายละเอียดข่างล่างนี้
อัลกุรอานสอนความรุนแรง
จนนำไปสู่ปัญหาการก่อการร้าย
อ. อับดุลสุโก ดินอะ
เมื่อเราเปิดอัลกุรอานจะพบว่ามีบางข้อความ
ในอัลกุรอานพูดถึงความรุนแรงจริง
เช่นโองการที่หนึ่งอัลลอฮฺได้ตรัสความว่า
"และจงฆ่าพวกเขา ณ ที่ใดก็ตาม
ที่สูเจ้าพบพวกเขา" (กุรอาน 2:191)
และโองการที่สองอัลลอฮฺได้ตรัสความว่า
"แต่ถ้าพวกเขาหันหลังให้ ก็จงจับพวกเขา
และฆ่าพวกเขา ณ ที่สูเจ้าจับพวกเขาได้
และ (ไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม)
จงอย่าเอาพวกเขามาเป็นมิตรและผู้ช่วยเหลือ"
(กุรอาน 4:89)
ทำไม ?
คัมภีร์กุรอานถึงได้กล่าวเช่นนั้น
ความเป็นจริงข้อความข้างต้น
ยังมีข้อความก่อนหน้านี้
และข้อความต่อท้ายอีกหลายประโยค
หากนำเพียงข้อความข้างต้นอย่างเดียว
จะทำให้เข้าใจว่าอิสลามหรืออัลกุรอาน
สอนให้ฆ่าได้ทุกคน
ข้อความทั้งหมดในโองการที่หนึ่งมีดังนี้
อัลลอฮฺได้ตรัสความว่า
"และพวกเจ้าจงต่อสู้ในหนทางของอัลลอฮฺ
ต่อบรรดาผู้ที่ทำร้ายพวกเจ้า และจงอย่ารุกราน
แท้จริง อัลลอฮฺมิทรงรักผู้รุกราน
และจงฆ่าพวกเขา ณ ที่ใดก็ตามที่เจ้าพบพวกเขา
และจงขับไล่พวกเขาออกไปจากที่
ที่พวกเขาเคยขับไล่พวกเจ้าออกไป
เพราะการกดขี่ข่มเหงนั้นร้ายแรงยิ่งกว่าการฆ่า
และจงอย่าสู้รบกับพวกเขาในมัสญิดอัลฮะรอม
(เมืองมักกะฮฺ ประเทศซาอุดิอารเบีย)
เว้นเสียแต่ว่าพวกเขาจะทำร้ายพวกเจ้าในที่นั้น
ถ้าหากพวกเขาต่อสู้พวกเจ้า ก็จงฆ่าเขาเสีย
เช่นนั้นแหละคือการตอบแทนผู้ปฏิเสธศรัทธา
แล้วถ้าหากพวกเขายุติ แน่นอน อัลลอฮฺนั้น
เป็นผู้ทรงอภัย ผู้ทรงเมตตาเสมอ
และจงต่อสู้พวกเขาจนกว่าจะไม่มี
การก่อความวุ่นวายและการกดขี่เกิดขึ้น
และจนกว่าความยุติธรรม
และการเคารพภักดีทั้งหมด
จะเป็นสิทธิของอัลลอฮฺเท่านั้น
แต่ถ้าพวกเขายุติ
จงอย่าให้การเป็นศัตรูใดๆ เกิดขึ้น
เว้นแต่พวกที่สร้างความอธรรมเท่านั้น
เดือนต้องห้ามก็ด้วยเดือนต้องห้าม
และบรรดาสิ่งที่จำเป็นต้องเคารพนั้น
ก็มีกฎแห่งความเท่าเทียมกัน
ดังนั้นถ้าผู้ใดละเมิดต่อสูเจ้า ก็จงตอบโต้
(การป้องกันตัว) การละเมิดของเขา
เช่นเดียวกับที่เขาละเมิดพวกเจ้า
แต่จงเกรงกลัวอัลลอฮฺ
และจงรู้เถิดว่าอัลลอฮฺนั้น
ทรงอยู่กับบรรดาผู้ยำเกรง"
(กุรอาน 2:190-194)
ส่วนข้อโองการที่สองมีข้อความทั้งหมดดังนี้
"พวกเขาชอบถ้าหากพวกเจ้าปฏิเสธศรัทธา
เหมือนดังพวกเขา ดังนั้นพวกเจ้าจะได้กลายเป็น
ผู้ที่เท่าเทียมกัน ดังนั้น
จงอย่าได้ยึดเอาใครในหมู่พวกเขาเป็นมิตร
จนกว่าพวกเขาจะอพยพในหนทางของอัลลอฮฺ
(จากสิ่งที่ต้องห้าม)
แต่ถ้าพวกเขาผินหลังให้ก็จงจับพวกเขาไว้
และฆ่าพวกเขา ณ ที่ที่สูเจ้าพบพวกเขา
และไม่ว่ากรณีใดก็ตามจงอย่าเอาผู้ใด
ในหมู่พวกเขามาเป็นมิตรและผู้ช่วยเหลือ
นอกจากบรรดาผู้ที่เข้าร่วมกับกลุ่ม
ที่พวกเจ้ามีสัญญาสันติภาพระหว่างกัน
หรือบรรดาผู้ที่เข้ามาหาเจ้าด้วยหัวใจที่ยับยั้ง
พวกเขามิให้ต่อสู้เจ้าเช่นเดียวกับ
ที่จะต้องต่อสู้กับพวกเขาเอง
และถ้าหากอัลลอฮฺทรงประสงค์แล้ว
พระองค์ทรงสามารถที่จะให้พวกเขา
มีอำนาจเหนือสูเจ้าและพวกเขาจะต่อสู้เจ้า
ดังนั้นถ้าหากพวกเขาถอนตัวออกไปจากพวกเจ้า
และไม่ต่อสู้พวกเจ้าแล้ว
และให้หลักประกันสันติภาพแก่พวกเจ้าแล้ว
ดังนั้น อัลลอฮฺก็มิทรงเปิดหนทางใดสำหรับเจ้า
(ที่จะทำสงครามต่อพวกเขา)
พวกเจ้าจะพบพวกอื่นๆ
ที่ต้องการจะได้รับความปลอดภัยจากพวกเจ้า
เช่นเดียวกับพวกเขาเอง
คราใดที่พวกเขาถูกส่งกลับไปสู่การล่อลวง
อีกพวกเขาก็จะกลับไปสู่สิ่งนั้นตามเดิม
ดังนั้น หากพวกเขามิได้ถอนตัวออกจากพวกเจ้า
และมิได้ให้(หลักประกัน)สันติภาพแก่พวกเจ้า
และมิได้ยับยั้งมือของพวกเขาไว้แล้ว
ก็จงจับพวกเขาไว้ และจงฆ่าพวกเขา
ณ ที่ใดก็ตามที่พวกเจ้าพบพวกเขา
ในกรณีของพวกเขาเหล่านี้แหละ
ที่เราได้ให้อำนาจที่ชัดเจนต่อพวกเจ้า? "
(กุรอาน4:89-91)
คำสอนดังกล่าวถูกนำไปตีความผิดๆ
เรื่องจริงที่มุสลิมบางกลุ่มนำเอาไปใช้
เราจะต้องร่วมกันประณาม
การก่อการร้ายทุกรูปแบบ
รายละเอียดข่างล่างนี้
อัลกุรอานสอนความรุนแรง
จนนำไปสู่ปัญหาการก่อการร้าย
อ. อับดุลสุโก ดินอะ
เมื่อเราเปิดอัลกุรอานจะพบว่ามีบางข้อความ
ในอัลกุรอานพูดถึงความรุนแรงจริง
เช่นโองการที่หนึ่งอัลลอฮฺได้ตรัสความว่า
"และจงฆ่าพวกเขา ณ ที่ใดก็ตาม
ที่สูเจ้าพบพวกเขา" (กุรอาน 2:191)
และโองการที่สองอัลลอฮฺได้ตรัสความว่า
"แต่ถ้าพวกเขาหันหลังให้ ก็จงจับพวกเขา
และฆ่าพวกเขา ณ ที่สูเจ้าจับพวกเขาได้
และ (ไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม)
จงอย่าเอาพวกเขามาเป็นมิตรและผู้ช่วยเหลือ"
(กุรอาน 4:89)
ทำไม ?
คัมภีร์กุรอานถึงได้กล่าวเช่นนั้น
ความเป็นจริงข้อความข้างต้น
ยังมีข้อความก่อนหน้านี้
และข้อความต่อท้ายอีกหลายประโยค
หากนำเพียงข้อความข้างต้นอย่างเดียว
จะทำให้เข้าใจว่าอิสลามหรืออัลกุรอาน
สอนให้ฆ่าได้ทุกคน
ข้อความทั้งหมดในโองการที่หนึ่งมีดังนี้
อัลลอฮฺได้ตรัสความว่า
"และพวกเจ้าจงต่อสู้ในหนทางของอัลลอฮฺ
ต่อบรรดาผู้ที่ทำร้ายพวกเจ้า และจงอย่ารุกราน
แท้จริง อัลลอฮฺมิทรงรักผู้รุกราน
และจงฆ่าพวกเขา ณ ที่ใดก็ตามที่เจ้าพบพวกเขา
และจงขับไล่พวกเขาออกไปจากที่
ที่พวกเขาเคยขับไล่พวกเจ้าออกไป
เพราะการกดขี่ข่มเหงนั้นร้ายแรงยิ่งกว่าการฆ่า
และจงอย่าสู้รบกับพวกเขาในมัสญิดอัลฮะรอม
(เมืองมักกะฮฺ ประเทศซาอุดิอารเบีย)
เว้นเสียแต่ว่าพวกเขาจะทำร้ายพวกเจ้าในที่นั้น
ถ้าหากพวกเขาต่อสู้พวกเจ้า ก็จงฆ่าเขาเสีย
เช่นนั้นแหละคือการตอบแทนผู้ปฏิเสธศรัทธา
แล้วถ้าหากพวกเขายุติ แน่นอน อัลลอฮฺนั้น
เป็นผู้ทรงอภัย ผู้ทรงเมตตาเสมอ
และจงต่อสู้พวกเขาจนกว่าจะไม่มี
การก่อความวุ่นวายและการกดขี่เกิดขึ้น
และจนกว่าความยุติธรรม
และการเคารพภักดีทั้งหมด
จะเป็นสิทธิของอัลลอฮฺเท่านั้น
แต่ถ้าพวกเขายุติ
จงอย่าให้การเป็นศัตรูใดๆ เกิดขึ้น
เว้นแต่พวกที่สร้างความอธรรมเท่านั้น
เดือนต้องห้ามก็ด้วยเดือนต้องห้าม
และบรรดาสิ่งที่จำเป็นต้องเคารพนั้น
ก็มีกฎแห่งความเท่าเทียมกัน
ดังนั้นถ้าผู้ใดละเมิดต่อสูเจ้า ก็จงตอบโต้
(การป้องกันตัว) การละเมิดของเขา
เช่นเดียวกับที่เขาละเมิดพวกเจ้า
แต่จงเกรงกลัวอัลลอฮฺ
และจงรู้เถิดว่าอัลลอฮฺนั้น
ทรงอยู่กับบรรดาผู้ยำเกรง"
(กุรอาน 2:190-194)
ส่วนข้อโองการที่สองมีข้อความทั้งหมดดังนี้
"พวกเขาชอบถ้าหากพวกเจ้าปฏิเสธศรัทธา
เหมือนดังพวกเขา ดังนั้นพวกเจ้าจะได้กลายเป็น
ผู้ที่เท่าเทียมกัน ดังนั้น
จงอย่าได้ยึดเอาใครในหมู่พวกเขาเป็นมิตร
จนกว่าพวกเขาจะอพยพในหนทางของอัลลอฮฺ
(จากสิ่งที่ต้องห้าม)
แต่ถ้าพวกเขาผินหลังให้ก็จงจับพวกเขาไว้
และฆ่าพวกเขา ณ ที่ที่สูเจ้าพบพวกเขา
และไม่ว่ากรณีใดก็ตามจงอย่าเอาผู้ใด
ในหมู่พวกเขามาเป็นมิตรและผู้ช่วยเหลือ
นอกจากบรรดาผู้ที่เข้าร่วมกับกลุ่ม
ที่พวกเจ้ามีสัญญาสันติภาพระหว่างกัน
หรือบรรดาผู้ที่เข้ามาหาเจ้าด้วยหัวใจที่ยับยั้ง
พวกเขามิให้ต่อสู้เจ้าเช่นเดียวกับ
ที่จะต้องต่อสู้กับพวกเขาเอง
และถ้าหากอัลลอฮฺทรงประสงค์แล้ว
พระองค์ทรงสามารถที่จะให้พวกเขา
มีอำนาจเหนือสูเจ้าและพวกเขาจะต่อสู้เจ้า
ดังนั้นถ้าหากพวกเขาถอนตัวออกไปจากพวกเจ้า
และไม่ต่อสู้พวกเจ้าแล้ว
และให้หลักประกันสันติภาพแก่พวกเจ้าแล้ว
ดังนั้น อัลลอฮฺก็มิทรงเปิดหนทางใดสำหรับเจ้า
(ที่จะทำสงครามต่อพวกเขา)
พวกเจ้าจะพบพวกอื่นๆ
ที่ต้องการจะได้รับความปลอดภัยจากพวกเจ้า
เช่นเดียวกับพวกเขาเอง
คราใดที่พวกเขาถูกส่งกลับไปสู่การล่อลวง
อีกพวกเขาก็จะกลับไปสู่สิ่งนั้นตามเดิม
ดังนั้น หากพวกเขามิได้ถอนตัวออกจากพวกเจ้า
และมิได้ให้(หลักประกัน)สันติภาพแก่พวกเจ้า
และมิได้ยับยั้งมือของพวกเขาไว้แล้ว
ก็จงจับพวกเขาไว้ และจงฆ่าพวกเขา
ณ ที่ใดก็ตามที่พวกเจ้าพบพวกเขา
ในกรณีของพวกเขาเหล่านี้แหละ
ที่เราได้ให้อำนาจที่ชัดเจนต่อพวกเจ้า? "
(กุรอาน4:89-91)
คำสอนดังกล่าวถูกนำไปตีความผิดๆ
เรื่องจริงที่มุสลิมบางกลุ่มนำเอาไปใช้
เราจะต้องร่วมกันประณาม
การก่อการร้ายทุกรูปแบบ
แสดงความคิดเห็น
อิสลามสอนให้ก่อการร้ายจริงมั้ยครับ ขอดูคำสอนหน่อยครับ
มีผู้รู้จริงท่านไหนให้ผมดูได้บ้างมั้ยครับ คำสอน เงื่อนไข ต่างๆ
ปล. ขอให้ปลอดเรื่องอื่น แค่เรื่องคำสอนด้านนี้และที่เกี่ยวข้องพอครับ