นักกีฬาไทยพัฒนาการดีขึ้นมาก นักเรียนไทยพัฒนาการเป็นอย่างไรบ้าง...ว่าแต่มันเกี่ยวกันยังไง

กระทู้สนทนา
ผมได้มีโอกาสชมการถ่ายทอดและผลการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ในช่วงนี้ รู้สึกยินดีด้วยกับนักกีฬาไทยที่ทำผลงานได้ดีมาก ตามคาด ฟุตบอลไทยที่ดีขึ้นมากตั้งแต่ปรับชุดบริหารจัดการใหม่ วอลเล่บอลหญิงก็สุดยอดเหมือนเดิม นักแบดมินตันก็ไม่เบา และอื่นๆอีกหลายประเภทกีฬาที่ต้องชมเชยนักกีฬาและผู้ที่เกี่ยวข้องเป็นอย่างยิ่ง

ประเด็นที่ผมมาโพสนี้เพราะ ส่วนตัวเห็นด้วยบางส่วนในการสนับสนุนและอัดฉีดเงินให้กับนักกีฬาและทีมสมาคม แต่ไม่ทั้งหมด เพราะหากถ้าจะว่าไปกันตามจริงแล้วคงต้องมองให้ออกก่อนครับว่า กีฬาเหล่านี้เป็นไปเพื่ออะไร ... เพื่อแรงจูงใจให้เยาวชนมาสนใจเล่นกีฬาและทำให้สุขภาพแข็งแรง หรือ ต้องการให้เยาวชนไทยมาทำอาชีพเป็นนักกีฬาระดับนานาชาติ หากถ้าเด็กและผู้ปกครองเองก็เห็นดีงามที่จะทำอาชีพเป็นนักกีฬาก็คงไม่ได้ผิดอะไรนัก แต่หากมองให้กว้างในระดับประเทศแล้ว เงินทุนเหล่านี้ในการอัดฉีดสำหรับนักกีฬาระดับชาติ มีสัดส่วนมากน้อยแตกต่างจาก นักเรียนที่เข้าแข่งขันคณิตวิทยาศาสตร์ระดับโลกและได้รับรางวัลอย่างต่อเนื่องเช่นไร ... ?

เมื่อสมัยวัยเรียนส่วนตัวได้มีโอกาสร่วมทดสอบการคัดเลือกคณิตวิทยาศาสตร์โอลิมปิก ต้องยอมรับนะครับว่าครีมของประเทศไทยมีความคิดความสามารถระดับ Genius  หากคุณต้องการดูข้อมูลคราวๆ ตามลิงค์นี้ได้เลย

https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%82%E0%B8%AD%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3

http://olympic.ipst.ac.th/

คุณจะพบว่ามีนักเรียนไทยได้เหรียญรางวัลโอลิมปิกระดับโลก นะครับไม่ใช่ระดับภูมิภาค แต่ละปีจำนวนไม่น้อยเลย ว่าแต่เด็กเหล่านี้มีเส้นทางชีวิตเป็นอย่างไร .... ข้อมูลสมัยก่อนนะครับ แต่สมัยนี้ผมก็ไม่ได้ติดตามว่ามีนโยบายสนับสนุนเด็กอย่างไรเพิ่มเติมกว่าแต่ก่อนบ้าง แต่สมัยก่อน เด็กที่ได้เข้าร่วมแข่งขันเป็นตัวแทนประเทศจะได้สิทธิ์เข้าเรียนคณะวิทยาศาสตร์โดยไม่ต้องสอบแข่งขัน Entrance ... คือผมก็ไม่เข้าใจคนวางนโยบายนะครับ เพราะเด็กระดับนี้เค้าสอบ Entrance คะแนนเข้าติด Top rank ไม่ยาก และเค้าคงไม่อยากเรียนสาขาเฉพาะวิทยาศาสตร์หรอกครับ แต่ระยะหลังมีทุนการศึกษาและอะไรอีกมากมายเพิ่มเติมเข้ามา แต่สิ่งที่ผมอยากให้ผู้ที่เกี่ยวข้องและมีอำนาจมองการณ์ให้ไกล ท่านจะทราบว่าแต่ละปีมีตัวแทนเด็กไทยที่เป็นตัวแทนประเทศปีละไม่ต่ำกว่า 30 คน จริงๆแล้วเด็กที่ไม่ติดเป็นตัวแทนว่าจะไม่เก่ง เค้าก็เก่งมาก ถ้ารวมๆแล้วแต่ละปีน่าจะไม่ต่ำกว่า 100 คน

ผมฐานะที่ผ่านล่วงมาจนวัยทำงานแล้ว มาคิดย้อนหลังว่า ทำไมรัฐบาลไทยไม่ก่อตั้งหน่วยงานที่ดูแล และรวมกลุ่มเด็กเหล่านี้ และหาช่องทางเพื่อพัฒนาศักยภาพของเด็กเหล่านี้ตามความสนใจของเด็กเอง(ไม่ใช่มีตัวเลือกนิดๆหน่อยๆให้เด็ก) แล้วสนับสนุนเด็กให้เต็มที่ และวางแผนให้เด็กที่จบการศีกษามาพัฒนาระบบต่างๆในประเทศไทยให้ก้าวหน้า แน่นอนเรื่องค่าตอบแทนการดำรงชีวิตกับครอบครัวในอนาคตของเด็กก็เป็นเรื่องที่สำคัญและทำให้เด็กและครอบครัวตัดสินแยกเดินทางตามฝันด้วยตนเองได้เพราะเด็กเหล่านี้ ครอบครัวส่วนใหญ่มีฐานะอยู่แล้วระดับหนึ่ง นั่นหมายความว่าถ้าเส้นทางอนาคตไม่ดีพอเค้าก็แยกเดินไปด้วยตนเอง

นอกจากนี้เมื่อรวมกลุ่มเด็กที่มีความสามารถระดับนี้ได้แล้ว ก็สามารถอบรมคุณธรรมจริยธรรมให้กับเด็กได้ ในที่สุด ประเทศก็จะได้ทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพสูงมากเป็นกำลังของประเทศ เพราะประเทศก็มีบทเรียนแล้วที่ นักเรียนทุนของรัฐมีการแสดงออกไม่เหมาะสม

คำถามแล้วตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน เด็กเก่งเหล่านั้นหายไปไหน ส่วนใหญ่ก็เข้าสู่คณะสายวิทย์คณิตกันหมด แล้วก็สอบติดคณะระดับต้นๆของประเทศ หรือไม่ก็ไปตามฝันเรียนต่อต่างประเทศ บ้างก็กลับมาไทย บ้างก็อยู่เมืองนอกกันไป และอยู่กันอย่างกระจัดกระจายแต่ก็ยังทำประโยชน์ให้ประเทศได้ไม่มากก็น้อย  แต่หากรวมกลุ่มคนที่มีศักยภาพเหล่านี้และสร้างความเป็นหนึ่งเดียวกันได้ตั้งแต่วัยเรียน ส่วนตัวคิดว่าน่าจะมีผลดีมากกว่าผลเสียนะครับ

จริงๆประเทศไทยมีสิ่งที่ต้องนำเข้าและเสียดุลการค้ามากมาย เช่น การคิดค้นเทคโนโลยีใหม่ การนำเข้าพลังงาน การคิดค้นยาและสารเคมีเพื่อสุขภาพใหม่ๆ รวมทั้งการคิดค้นวางแผนระบบการศึกษาที่ยังไม่เข้าเป้า

ถ้าสังคม รัฐบาล และประชาชนไทยมองเห็นว่าประเทศต้องเดินหน้าอย่างมั่นคง ต้องพึ่งตนเองได้และไม่พึ่งเทคโนโลีต่างประเทศมากมายเช่นนี้ และก้าวหน้าเพื่อเป็นประเทศที่มีศักยภาพด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การวิจัย และ สาธารณสุข ต้องเริ่มตั้งแต่การสนับสนุนและพัฒนาเด็กไทยเองให้ดี แล้วให้เค้าวางระบบและเป็นพี่เลี้ยงให้กันเองเหมือนตอนอยู่ในค่ายวิชาการที่รุ่นพี่รุ่นน้องก็ช่วยกันเองและมีอาจารย์เป็นพี่เลี้ยง ทำให้เด็กมีศักยภาพที่พัฒนาได้อย่างรวดเร็ว อาจจะเพราะ คุยภาษาเดียวกัน

แต่ถ้ามัวแต่เอาเงินไปอัดฉีดแต่ด้านที่ไม่ได้ก่อประโยชน์อย่างยั่งยืนให้โครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ก็คงคล้ายๆกับการเอาเงินไปจับจ่ายใช้สอยเที่ยวได้ความสนุกสนานชั่วคราว แต่จัดสรรเงินแค่บางส่วนสำหรับการดำรงชีวิตที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน ซึ่งอาจจะพออยู่ได้แต่มีคุณภาพชีวิตที่ไม่ดีพอ ก็คงคล้ายกับประเทศที่จะมีกีฬาที่โดดเด่นกว่าระบบพื้นฐานที่จำเป็นของประเทศ

จากความคิดเห็นหนึ่งในสังคมไทย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่