ธนาคารควรเป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เงินหมุนเวียน แต่วันนี้ธนาคารคือตัวดูดความมั่งคั่งของชาติ ไปให้ฝรั้งที่มาถือหุ้น

กระทู้คำถาม
ธนาคารควรเป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เงินหมุนเวียน แต่วันนี้ธนาคารคือตัวดูดความมั่งคั่งของชาติ ไปให้ฝรั้งที่มาถือหุ้น


ถ้าบอกว่า ธนาคารไทย     คนจะบอกว่าไอ้เด็ก  ปอ สี่ หน้าโง่เอ้ย


ธนาคารไทยก็ยังเป็นของคนไทย   คนไทยยังบริหารอยู่นิ  ไปดูชือ  คกก.บริหารสิ



ก็จริงตรงนนี้คนไทยบริหาร  แต่ไปชื่อ ผู้ถือหุ้นสิ..


ธนาคารใหญ่ๆ อย่าง  bbl   kbank   คนที่ถือมากสุด คือ  ฝรั่ง


เหลือแต่ ktb ที่กองทุนฟื้นฟู และ คลังถือในสัดส่วนค่อนข้างมา


ส่วน scb"   ก็ถือโดนทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์   แต่สัดส่วนต่างชาติยังไงก็มาก


อย่างที่เราจะเห็น  kbank   โดนด่าเยอะ  เพราะส่วนหนึ่งฝรั่งมาบีบว่าให้ทำกำไรเยอะๆ  เพื่อจะได้จ่ายปันผลมากๆ

คนไทยอาจจะคิดว่า แบงค์ ณ ราคา ปัจจุบันปันผลแค่ 3 เปอร์เซนต์


แต่สามเปอร์เซนต์ในไทย  ไปเทียบกับต้นทุนเงินของต่างขาติที่เข้ามา  ดอกเบี้ยเค้าแค่ 0.5 เปอร์เซนต์

คิดว่า กู้เงินจาก ยุโรป  สหรัฐเสียดอกเบี้ย 1 เปอร์เซนต์มาซื้อหุ้นเมืองไทยยังกำไรเลย

หรือไม่ก็มาซื้อพันธบัตร    ที่แบงค์ชาติสมองน้อย ไม่คิดอะไรเลย  ที่จะรับมือกับปัญหา  ท่องอย่างเดียว

ว่า... ว่า... อยู่เฉยๆ เด่ยวค่าเงินมันสมดุลเอง    มันคือเงินร้อนเข้ามาเด๊ยวก็ออกไป  


ส่วนแบงค์พาณิชย์  ก็กินส่วนต่างดอกเบี้ย  5  เปอร์เซนต์

เงินฝาก  และฝากประจำ ตีให้รวมๆ ว่า  2

แต่เงิยกู้บ้าน   6- 7    ถ้า sme ก็ 8  9   เปอร์เซนต์


ลอง เอาสินเชื่อในระบบ  2 ล้านล้านบาท   คูณ 7  เปอร์๋เซนต์

ก็ กำไร  140000000000   บาท แล้ว  ( 1.4 แสนล้านบาท   )


เอาว่าตีให้เป็นหนี้เสีย 5 เปอร์เซนต์เลย  จากกำไร  ก็ปีละ 7000 ล้านบาท

ยังเหลือกำไรอีกเยอะ    แล้วจจริงๆ แบงค์เวลาได้เงินกู้คืนมาในแต่ละเดือน

ก็เอาไปปล่อยต่อ  ก็หมุนรอบได้อีก 12 รอบ  คือ 12 เดือน  ตีเคร่าๆแค่นี้ละ.




แต่วันนี้แบงค์เวลาเศรษฐกิจไม่ได้  ก็ดึงเงินกลับ ลดการปล่อยสินเชื่อ

คนที่ต้องการกู้และส่งแน่นอน  แต่ต้องการเงินไปประคองธุรกิจ  เอาเอาสดไปเสริมสภาพคล่อง

แบงค์ก็งดปล่อย  หยุดการหมุนเวียนของเงินซะงั้น   แต่กับบรฺิษัทลูก  บ.เพื่อน ปล่อยเต็มที่

แต่เวลาเพือนไม่จ่าย ก็ตีหนี้เสียไป  แล้วก็โยนภาระมาให้พวกรายย่อยต่างๆ รับไป


พวกลื้อ   ... ช่วยแบกดอกเบี้ยที่ขาดทุนจากที่เพื่อนอั๊วว  ล้มบนฝูกให้หน่อย ละกาน


_______________



อะ เอาไปมอบเหรีญญรางวัล ให้กับพวกคนโง่   คนหากินสุจริต   ที่จ่ายดอกเบี้ยอย่างครบถ้วน.
ส่วนพวกอั๊วว   ขอหอบเงินสดออกจากบริษัท  และทิ้งซากให้ขึ้น sp ในตลาดหลักทรัพย์  ใครอยากได้เอาไปเลย




____

และสมัยนี้     เด็กสมัยใหม่เ้ขามารับตำแหน่งต่อจากรุ่นพ่อ    บ้างก็จบนอก

คิดแต่ว่าต้องทำกำไร ให้มากที่สุด

เราจึงเห็นสมัยนี้  แบงค์เปลี่ยนมาใช้  MRR กับสินเชื่อบ้าน

นิคงกะปรับดอกเบี้ยเอง โดนไม่สน กนง.กันแล้ว  mrr มันปรับง่าย

ทำกำไรได้ดี   แม้แต่ออมสินตอนนี้ยังมาใช้  MRR  กับสินเชื่อบ้านเลย


โดนฟันกันทั่วหน้า


___ ส่วนเด็กรุ่นใหม่ก็ เอาประกันมาพ่วงกับธนาคารตนเอง มี   สาระ   ซัมเหมาหมด       กันดีจังเลย


หลอกขายประกันในแบงค์   ส่งเงินไปให้บริษัทประกัน


ผู้บริหาร นังกระดิกเท้ารอรับเงินจากแบงค์  

ถ้าลูกค้าคนไหนเกิดไหวตัวทัน   ก็โยนเรื่องไปมา   ระหว่าง ธนาคาร  กับ บ.ประกัน


ถ้าลูกค้าไปฟ้อง  จะ... จะ.... จะ.... คิดๆๆๆๆสิ

จะฟ้องที่ไหน  จะฟ้องแบงค์ชาตอแถวบางขุนพรม หรือ จะไป ฟ้อง คปภ. ที่รัชดา

ฟ้องแล้วไง  ก็รู้ๆอยู่ หน่วยงานกึ่งราชการ  ก็เหมือนราชการนั้นละ  



โยนเรื่องกันไปมา ไม่อยากรับผิดชอบ....         คิดว่าจะได้เงินคืนมั้ยย


แน่จริงก็มาฟ้องในพันทิปนี่เลย   5555



จึ่งสรุปว่า สมัยนี้ แบงค์ไม่ได้มีคุณธรรม  ไม่ได้เป็นส่วนช่วยให้คนในชาติได้เงินกู้เพือ่ไปลงทุน

ไปค้าขาย และสร้างความมั่งคั่งรวมกันแล้ว

แต่วันนี้  ธนาคารไทย คือมือของต่างชาติที่จะมาล้วงเอาเงินในกระเป๋าของคนไทย


และทำลายระบบการเงิน และเศรษฐกิจของไทย โดยใช้คำว่าทุนนิยม

และการเคลื่อนย้ายเงินทุน....



ถ้าไทยไม่ปรับตัว  แบงค์ชาติยังทำงานเช้า 2 ชาม  เย็น 5 ชาม เช่นนี้

ผู้บริหารแบงค์ต่างๆยังไม่คิดเรื่องการรักษาสภาพคล่องให้กับการเงินของประเทศ


ต่อไปเงินๆๆๆ ที่มีมากมาย มันก็กลับมาเผาธนาคารแห่งนั้นเอง

และต่อไปมันก็จะเป็นแค่กระดาษที่มีตัวเลข   แต่ไม่มีประเทศให้รับรองกระดาษใบนั้น


เพราะสังคมล่มสลาย  ไม่จำเป็นต้องใช้เงินกันอีกแล้ว

....



ขอให้นายแบงค์โชคดี  และ รำร่วย นอนอยู่บนกระดาษเหล่านั้น

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่