พอดีเราเพิ่งจบใหม่ค่ะ และเพิ่งเริ่มทำงานค่ะ ซึ่งทำงานค่อนข้างไกลบ้านพอสมควรค่ะ บ้านอยู่เลียบทางด่วนรามอินทรา (คริสตัลพาร์ค) ต้องเดินทางไปทำงานที่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยใช้เส้นทางคือ
- ใช้ถนนเลียบทางด่วนรามอินทรา กลับรถเข้าถนนเกษตร-นวมินทร์ เลี้ยวซ้ายตัดเข้าถนนรัชดา-รามอินทรา ไปออกถนนรามอินทรา แล้ววิ่งวงแหวนรอบนอก(มอเตอร์เวย์) มุ่งหน้าไปสนามบินสุวรรณภูมิ
(ที่บอกเส้นทาง เพื่อให้พี่ๆประเมินว่า เส้นทางที่เราใช้เดินทางนั้นอ้อมหรือไม่อย่างไร และพี่ๆมีเส้นทางในการเดินทางที่ใช้เวลาสั้นๆและไม่อ้อมแนะนำบ้างไหมคะ?)
ซึ่งงานที่เราทำต้องเข้างานเป็นกะค่ะ และไม่สะดวกที่จะเดินทางด้วยรถสาธารณะอย่างแน่นอนค่ะ จึงเอารถที่บ้านซึ่งเป็นรถของพี่ชายมาใช้ก่อน (พี่ชายไม่อยู่ค่ะ ไปเรียนต่อที่อังกฤษ อีกปีกว่าๆถึงเขาจะกลับ) แล้วรถพี่ชายกินน้ำมันมากๆๆๆ ซึ่งค่าใช้จ่ายในการเดินทางต่อวันเฉลี่ยตกวันละ 300-400 บาทเลยค่ะ (รวมค่าทางด่วน) เงินเดือนเรารับจริงแค่แถวๆ 16,000 บาท +/- *รวม O.T.แล้ว (เงินเดือนที่รับจริงไม่แน่นอนนะคะเพราะขึ้นอยู่กับ O.T. ด้วย) บอกตรงๆค่ะไม่ไหว ไม่พอใช้ ครั้นจะเอารถพี่ชายไปติดแก๊สก็กลัวพี่ชายจะดุเอาเพราะเป็นรถยุโรปและรถยังใหม่ กลัวจะมีปัญหา และอีกปีกว่าๆเขากลับมาก็ต้องใช้รถแน่นอน จึงเลิกล้มความคิดที่จะติดแก๊สนี้ไป ไหนจะค่าน้ำมันรถ ค่าทางด่วน ค่ากิน ฯลฯ เหลือเก็บเดือนนึงไม่เท่าไหร่เองค่ะ บางเดือนไม่เหลือเลย
ปรึกษากับคุณพ่อ คุณแม่ มีตัวเลือกมาดังนี้ค่ะ
1. "สลับรถกับของคุณพ่อ หรือ ของคุณแม่ใช้" ซึ่งเราไม่ทราบว่าคันไหนกินน้ำมันมากที่สุด
- รถคุณพ่อ BMW 520i อายุรถประมาณ 4 ปี
- รถคุณแม่ Subaru XV อายุรถประมาณ 6 เดือน
- รถพี่ชาย BMW 320i อายุประมาณเกือบๆ 1 ปี
* โดยการแลกรถกับคุณพ่อหรือคุณแม่นั้น ท่านยินดีแลกรถให้เราใช้เพื่อหวังจะบรรเทาค่าเดินทาง(ค่าน้ำมัน)ของเราลงได้บ้าง แต่อยากรบกวนพี่ๆที่พอมีความรู้เรื่องรถยนต์ประเมินให้หน่อยค่ะว่า "คันไหนที่จะเซฟค่าเดินทาง(ค่าน้ำมัน)ที่สุด" โดยที่คุณพ่อบอกว่า Subaru XV ของคุณแม่น่าจะประหยัดที่สุด แต่อยากให้พี่ๆคอนเฟิร์มว่าประหยัดที่สุดจริงหรือไม่คะ? เพราะคุณพ่อใช้แค่ความรู้สึกวัดแต่ทางเทคนิคแล้วท่านไม่ทราบค่ะ
2. ซื้อรถยนต์ขนาดเล็ก (Eco car)
- แต่เราไม่อยากจะให้คุณพ่อ/คุณแม่ซื้อให้ เพราะทำงานแล้ว อยากจะลองพึ่งตัวเองดูบ้าง โดยอาจจะให้ท่านทั้ง 2 ซื้อให้ก่อน แล้วเราผ่อนงวดรายเดือนกับท่านเอง แต่มาคำนวนดูแล้วไหนจะค่าน้ำมัน/ค่าผ่อนรายเดือนที่ต้องให้คุณพ่อคุณแม่ ซึ่งภาระก็มีเหมือนเดิม และรถที่บ้านก็ต้องจอดไม่ได้ใช้งานอย่างน้อย 1 คัน ซึ่งเรามองว่า "ฟุ้มเฟือย" เกินไป
*และ ณ ตอนนี้เราไม่อยากได้รถสักเท่าไหร่ ไม่อยากมีภาระค่าใช้จ่ายแฝง เช่น ค่าบำรุงรักษา ค่าประกัน ค่าภาษี ค่าฯลฯ เงินเดือนยังน้อย ภาระตรงนี้ตัดได้ เราก็อยากจะตัดค่ะ
ปล. ที่รถต้องจอดอย่างน้อย 1 คันเพราะพี่ชายเขาแต่งรถไปเยอะเลยไม่ยอมให้ขาย จึงกลายเป็นการซื้อเพิ่มเข้าบ้านอีก 1 คันค่ะ
ปล.2 หากจะต้องซื้อจริงๆ เราสนใจ Mazda2 Diesel ค่ะ ไม่ทราบว่าน่าสนใจไหม
** หลายๆท่านอาจจะสงสัยหรือคิดว่า ทำไมไม่ให้คุณพ่อ/คุณแม่ซื้อรถ Eco ให้เลย โดยให้ภาระไปตกกับท่าน ซึ่งเหตุผลก็ตามที่ได้กล่าวไว้ข้างบนเลยค่ะว่า "เราอยากลองสู้ด้วยตัวเองดูสักครั้งค่ะ ไม่อยากเคยตัวด้วยการที่ท่านหยิบยื่นทุกสิ่งทุกอย่างให้จนกลายเป็นทำอะไรไม่เป็น ไม่อยากเป็นคนที่สู้นิดๆหน่อยๆก็ท้อ ชีวิตยังอีกยาวไกล เราไม่อยากเคยชินแบบนั้นค่ะ อยากลองหาทางออก ทางแก้ดูก่อน บางทีอาจเป็นแรงผลักดันให้เราพยายามมากว่าเดิม แต่ถ้าหากสู้แล้วจนสุดความสามารถและไม่ไหวจริงๆแบบนั้นค่อยว่ากันอีกครั้งค่ะ
3.เช่าหอพักอยู่
- แน่นอนว่า คุณพ่อคุณแม่ ไม่ยอมและเราก็ไม่อยากอยู่หอด้วยค่ะ ชอบอยู่บ้านกับคุณพ่อคุณแม่มากกว่าจึงตัดข้อนี้ทิ้งไป
4.
- รอคำแนะนำจากพี่ๆค่ะ
พี่ๆท่านใดพอมีคำแนะนำบ้างไหมคะ? รบกวนขอความคิดเห็นหลายๆท่านด้วยนะคะ
ขอบพระคุณพี่ๆทุกท่านอย่างสูงค่ะ
เงินเดือนน้อย แต่ค่าเดินทางสูง พี่ๆมีวิธีแก้ปัญหายังไงกันบ้างคะ ? รายละเอียดด้านในค่ะ
- ใช้ถนนเลียบทางด่วนรามอินทรา กลับรถเข้าถนนเกษตร-นวมินทร์ เลี้ยวซ้ายตัดเข้าถนนรัชดา-รามอินทรา ไปออกถนนรามอินทรา แล้ววิ่งวงแหวนรอบนอก(มอเตอร์เวย์) มุ่งหน้าไปสนามบินสุวรรณภูมิ
(ที่บอกเส้นทาง เพื่อให้พี่ๆประเมินว่า เส้นทางที่เราใช้เดินทางนั้นอ้อมหรือไม่อย่างไร และพี่ๆมีเส้นทางในการเดินทางที่ใช้เวลาสั้นๆและไม่อ้อมแนะนำบ้างไหมคะ?)
ซึ่งงานที่เราทำต้องเข้างานเป็นกะค่ะ และไม่สะดวกที่จะเดินทางด้วยรถสาธารณะอย่างแน่นอนค่ะ จึงเอารถที่บ้านซึ่งเป็นรถของพี่ชายมาใช้ก่อน (พี่ชายไม่อยู่ค่ะ ไปเรียนต่อที่อังกฤษ อีกปีกว่าๆถึงเขาจะกลับ) แล้วรถพี่ชายกินน้ำมันมากๆๆๆ ซึ่งค่าใช้จ่ายในการเดินทางต่อวันเฉลี่ยตกวันละ 300-400 บาทเลยค่ะ (รวมค่าทางด่วน) เงินเดือนเรารับจริงแค่แถวๆ 16,000 บาท +/- *รวม O.T.แล้ว (เงินเดือนที่รับจริงไม่แน่นอนนะคะเพราะขึ้นอยู่กับ O.T. ด้วย) บอกตรงๆค่ะไม่ไหว ไม่พอใช้ ครั้นจะเอารถพี่ชายไปติดแก๊สก็กลัวพี่ชายจะดุเอาเพราะเป็นรถยุโรปและรถยังใหม่ กลัวจะมีปัญหา และอีกปีกว่าๆเขากลับมาก็ต้องใช้รถแน่นอน จึงเลิกล้มความคิดที่จะติดแก๊สนี้ไป ไหนจะค่าน้ำมันรถ ค่าทางด่วน ค่ากิน ฯลฯ เหลือเก็บเดือนนึงไม่เท่าไหร่เองค่ะ บางเดือนไม่เหลือเลย
ปรึกษากับคุณพ่อ คุณแม่ มีตัวเลือกมาดังนี้ค่ะ
1. "สลับรถกับของคุณพ่อ หรือ ของคุณแม่ใช้" ซึ่งเราไม่ทราบว่าคันไหนกินน้ำมันมากที่สุด
- รถคุณพ่อ BMW 520i อายุรถประมาณ 4 ปี
- รถคุณแม่ Subaru XV อายุรถประมาณ 6 เดือน
- รถพี่ชาย BMW 320i อายุประมาณเกือบๆ 1 ปี
* โดยการแลกรถกับคุณพ่อหรือคุณแม่นั้น ท่านยินดีแลกรถให้เราใช้เพื่อหวังจะบรรเทาค่าเดินทาง(ค่าน้ำมัน)ของเราลงได้บ้าง แต่อยากรบกวนพี่ๆที่พอมีความรู้เรื่องรถยนต์ประเมินให้หน่อยค่ะว่า "คันไหนที่จะเซฟค่าเดินทาง(ค่าน้ำมัน)ที่สุด" โดยที่คุณพ่อบอกว่า Subaru XV ของคุณแม่น่าจะประหยัดที่สุด แต่อยากให้พี่ๆคอนเฟิร์มว่าประหยัดที่สุดจริงหรือไม่คะ? เพราะคุณพ่อใช้แค่ความรู้สึกวัดแต่ทางเทคนิคแล้วท่านไม่ทราบค่ะ
2. ซื้อรถยนต์ขนาดเล็ก (Eco car)
- แต่เราไม่อยากจะให้คุณพ่อ/คุณแม่ซื้อให้ เพราะทำงานแล้ว อยากจะลองพึ่งตัวเองดูบ้าง โดยอาจจะให้ท่านทั้ง 2 ซื้อให้ก่อน แล้วเราผ่อนงวดรายเดือนกับท่านเอง แต่มาคำนวนดูแล้วไหนจะค่าน้ำมัน/ค่าผ่อนรายเดือนที่ต้องให้คุณพ่อคุณแม่ ซึ่งภาระก็มีเหมือนเดิม และรถที่บ้านก็ต้องจอดไม่ได้ใช้งานอย่างน้อย 1 คัน ซึ่งเรามองว่า "ฟุ้มเฟือย" เกินไป
*และ ณ ตอนนี้เราไม่อยากได้รถสักเท่าไหร่ ไม่อยากมีภาระค่าใช้จ่ายแฝง เช่น ค่าบำรุงรักษา ค่าประกัน ค่าภาษี ค่าฯลฯ เงินเดือนยังน้อย ภาระตรงนี้ตัดได้ เราก็อยากจะตัดค่ะ
ปล. ที่รถต้องจอดอย่างน้อย 1 คันเพราะพี่ชายเขาแต่งรถไปเยอะเลยไม่ยอมให้ขาย จึงกลายเป็นการซื้อเพิ่มเข้าบ้านอีก 1 คันค่ะ
ปล.2 หากจะต้องซื้อจริงๆ เราสนใจ Mazda2 Diesel ค่ะ ไม่ทราบว่าน่าสนใจไหม
** หลายๆท่านอาจจะสงสัยหรือคิดว่า ทำไมไม่ให้คุณพ่อ/คุณแม่ซื้อรถ Eco ให้เลย โดยให้ภาระไปตกกับท่าน ซึ่งเหตุผลก็ตามที่ได้กล่าวไว้ข้างบนเลยค่ะว่า "เราอยากลองสู้ด้วยตัวเองดูสักครั้งค่ะ ไม่อยากเคยตัวด้วยการที่ท่านหยิบยื่นทุกสิ่งทุกอย่างให้จนกลายเป็นทำอะไรไม่เป็น ไม่อยากเป็นคนที่สู้นิดๆหน่อยๆก็ท้อ ชีวิตยังอีกยาวไกล เราไม่อยากเคยชินแบบนั้นค่ะ อยากลองหาทางออก ทางแก้ดูก่อน บางทีอาจเป็นแรงผลักดันให้เราพยายามมากว่าเดิม แต่ถ้าหากสู้แล้วจนสุดความสามารถและไม่ไหวจริงๆแบบนั้นค่อยว่ากันอีกครั้งค่ะ
3.เช่าหอพักอยู่
- แน่นอนว่า คุณพ่อคุณแม่ ไม่ยอมและเราก็ไม่อยากอยู่หอด้วยค่ะ ชอบอยู่บ้านกับคุณพ่อคุณแม่มากกว่าจึงตัดข้อนี้ทิ้งไป
4.
- รอคำแนะนำจากพี่ๆค่ะ
พี่ๆท่านใดพอมีคำแนะนำบ้างไหมคะ? รบกวนขอความคิดเห็นหลายๆท่านด้วยนะคะ