[CR] แบกเป้ตะลุยเดี่ยว เฟี้ยวอินคันไซ

แบกเป้ตะลุยเดี่ยว เฟี้ยวอินคันไซ – Day1 (DMK-KIX-Hotel)

ก่อนอื่นเลยต้องขอบอกว่า ได้มีโอกาสไปญี่ปุ่นแถบนาริตะ โตเกียวเมื่อปีที่แล้วกับกรุ๊ปทัวร์ ซึ่งบอกเลยว่าส่วนตัวแล้วชอบญี่ปุ่นมากๆ
จนกระทั่งเมื่อมกราที่ผ่านมาได้โปรค่อนข้างดีจาก airasiago ซึ่งจองแบบตั๋วเครื่องบินไป-กลับกับ airasiaX พร้อมที่พัก 5คืน Foe Leaves Inn-Uehonmachi อยู่ที่ราวๆหมื่นหก เดินทางช่วงวันหยุดของวิสาขบูชา 30/05 – 05/06 ซึ่งไฟลท์ขาไปออกจากดอนเมือง15:20 ถึงคันไซ22:40 และขากลับออกจากคันไซ00:10 ถึงดอนเมือง 04:00

บอกตรงๆเลยว่า หลังจากได้ตั๋วมา ก็เริ่มหาข้อมูล แหล่งหลักๆ ก็จากพันทิป อยากรู้อะไรก็หาเอาจากในนั้น บางครั้งก็โพสกระทู้ถามไป ก็จะมีเพื่อนๆในพันทิปเข้ามาให้ความกระจ่าง กับหลากหลายความคิดเห็น อันไหนที่เอามาปรับกับเราได้มากที่สุด ก็จัดไป

ก่อนเดินทางสักวีคนึงเห็นจะได้ ผมได้ทำการซื้อที่นั่งไป-กลับ ในโซนquiet zoneในราคา 500บาทต่อเที่ยว และเป็นseatที่อยากจะแนะนำให้จอง เพราะส่วนตัวแล้วเป็นคนที่ชอบจองที่นั่งล่วงหน้า และนั่งริมทางเดิน จะได้ไม่ต้องลุ้นว่าเราจะได้นั่งตรงไหน โซนนี้เป็นโซนที่อยู่หลังbusiness class หรือflat bed seatที่อยู่ส่วนหน้าของเครื่อง เป็นการหลีกเลี่ยงกับผดส.ที่มีลูกเล็กเด็กแดงได้เป็นอย่างดี โซนนี้จะไม่มีผดส.ที่มีอายุต่ำกว่า 10ขวบ เราเองจะได้พักผ่อนเต็มที่ ในเรื่องของไฟในโซนนี้ เค้าก็จัดเป็นแสงสีฟ้านวลตา ซึ่งถามว่าคุ้มมั้ย บอกเลยว่าคุ้มเพราะราคาแพงกว่าธรรมดาแค่ร้อยเดียว ในขณะเดียวกัน เราว่ามันไม่มีความจำเป็นเลยที่จะต้องจ่ายเพิ่มอีกตั้ง800บาท เพื่อที่จะได้นั่งแถวหน้าสุดของโซน และแค่ที่มีพื้นที่ข้างหน้ากว้างขึ้นเท่านั้น!!!  มาต่อด้วยการซื้ออาหารสำหรับขาไป เพราะช่วงที่เสริฟ ก็ถือว่าเป็นมื้อเย็นพอดี เราสั่งข้าวคลุกกระเพราไก่ไข่เจียว 150บาท ส่วนขากลับไม่ได้ซื้อเพราะกว่าจะเสริฟก็ตี1กว่า นอนดีกว่ามั้ย และที่ขาดไม่ได้สำหรับการเดินทางคนเดียวในต่างประเทศครั้งแรก ซื้อประกันครับ 320บาท กับการคุ้มครองหลายๆอย่าง ซื้อเถอะครับ ส่วนในเรื่องของน้ำหนักกระเป๋า เราไม่ได้ซื้อ แต่ขากลับถ้าจำเป็น ก็ค่อยซื้อที่นู้นก่อนเดินทางอย่างน้อย 4ชั่วโมงก็ยังทัน

ยังมีอีก 2อย่างที่เราเตรียมตัวก่อนเดินทาง อย่างแรกคือการซื้อ sugoi sim เอาไว้ไปเล่น internetที่นู้น 7วัน 390บาท (จากราคาปกติ800บาท) ซึ่งถือว่าถูกมาก มากที่สุดกับวิธีการอื่น เพราะด้วยการเดินทางคนเดียว จะมาเช่าpocket wifiก็ไม่ไหว ถึงจะถูกว่าการเปิด roamingก็ตาม หรือการใช้ซิมแบบอื่น ก็แพงกว่านี้อยู่ดี อย่างที่สองคือการซื้อ kansai thru pass ด้วยการที่ไปถึงดึก และวันรุ่งขึ้นไม่อยากเสียเวลาในหาซื้อที่นู้น ก็เตรียมไปซะที่นี่แหละ ปกติราคา 5200เยน ก็ราวๆ1450บาท แต่เราซื้อผ่านเอเจ้นท์ที่ 1560บาท ในส่วนต่างที่เกิดขึ้น ถือว่าแลกกับความสะดวกก็แล้วกัน

อีกอย่างที่ต้องเตรียม อันนี้คือขาดไม่ได้เลยจริงๆ นั่นคือการแลกเงิน อิ๊อิ๊ ซึ่งพยายามเช็คดูเรื่อยๆ ว่าเรทเป็นยังไง เพราะช่วงที่ไปฟุกุโอกะเมื่อปลายเมษา เราแลกได้ 0.274 ที่super rich เหมือนเคย แต่หลังจากที่กลับมา เงินเยนค่อนข้างแข็งตัว และเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็มาวัดใจกันก่อน 3วันล่วงหน้า ได้มาที่ 0.278 ซึ่งน่าพอใจ และถือว่าคิดถูกที่รอมาซื้อตอนนี้ อิ๊อิ๊  เช่นเดียวกับอากาศที่คอยเช็คอยู่ตลอด ทำให้รู้ว่าช่วงที่ไปอาจจะมีฝน 1-2วัน เลยเตรียมเสื้อกันฝนไปด้วย

จากข้อมูลที่ได้มาไม่ว่าจะจากพันทิป เพื่อนที่รู้จักกัน พนง.โรงแรมที่จะไปพัก จนท.ของสนามบิน ก็เตรียมเอาไปด้วย ถึงแม้จะยังคงงงๆก็ตาม โดยเฉพาะการเดินทางที่นู้น การขึ้น-ลงรถไฟ ใต้ดิน รถเมลล์ คืองงหมด เพราะด้วยชีวิตประจำวันคือขับรถเองทุกที่ ใช้รถสาธารณะคือน้อยมาก เอาเป็นว่านั่งbts ใต้ดินบ้านเรา ยังงงๆเลย555 ได้แต่คิดว่ามันแน่ละงานนี้ และอะไรจะเกิดก็ช่าง งงมากทำอะไรไม่ถูก ก็กลับโรงแรม555

และวันเดินทางก็มาถึง เอกสารทุกอย่างเตรียมพร้อม ไม่ว่าจะเป็น passport เงินที่แลกไว้(แอบเอาดอลล่าไปเผื่อๆด้วย) ข้อมูลต่างๆ เอกสารยืนยันที่พัก boarding passที่ทำcheck in ล่วงหน้าไว้แล้วทั้งไป-กลับ สำเนาpassport กล้องถ่ายรูป ซิม ktp เอกสารตม. เราก็กรอกเตรียมไปเรียบร้อย และของใช้ส่วนตัว

ไปถึงสนามบินนานาชาติดอนเมือง ก็ตรงปรี่เข้าไปที่ด้านในเพื่อผ่านด่านตม.ได้เลย ไม่ต้องมาเสี่ยงกับคิวกรอกข้อมูลที่บางครั้งคิวก็ยาวมาก ในช่วงรอขึ้นเครื่องก็ฝากท้องมื้อเที่ยงไว้ที่ฟูจิ(จะไปญี่ปุ่นอยู่แล้ว ยังจะกินร้านนี้อีก555) ก็คิดว่าคุ้มกว่าการกินที่ข้างนอกชั้น2ป่ะ กินอิ่มเรียบร้อย พร้อมเอาชาเขียวที่กินไม่หมดกับน้ำเปล่าเตรียมขึ้นไปกินบนเครื่องด้วย อิ๊อิ๊ เรามีกระเป๋าเป้สะพายหลัง 1ใบ และcabin baggage 1ใบ ผ่านกระบวนการเช็คอินเรียบร้อย ไม่มีปัญหา ทำให้ทุกอย่างรวดเร็ว ราบรื่นมาก

ขึ้นเครื่องก็เรียบร้อยดี มีคนนั่งริมทางเดินอีกฝั่งของแถวเรา ตรงกลางว่าง take offตรงเวลา สัก1ชั่วโมงหลัง take off อาหารก็เริ่มเสริฟ คือจะว่าไป ยังอิ่มจากฟูจิอยู่เลย555 รสชาติผ่าน อิ่มไว้ก่อน เสร็จก็นั่งๆ นอนๆ ฟังเพลงบ้างดูหนังบ้างดูคอนเสิร์ตบ้าง ก็ที่โหลดเก็บไว้แหละ เลยทำให้รู้สึกว่าถึงจะนั่งlow costแต่ก็ไม่ขาดสิ่งentertainใดๆ555

เวลาผ่านไปค่อนข้างเร็ว ลูกเรือทยอยแจกเอกสารตม.ของญี่ปุ่นและใบสำแดง ก็กรอกไปครับ เสร็จก็เก็บสอดในเล่มpassportให้เรียบร้อย ถึงเวลายื่นจะได้ไม่ต้องควานหา และเราก็ได้ทำการเปลี่ยนซิมมือถือ แนะนำเลยว่าคุณไม่จำเป็นต้องพกเข็มของไอโฟนไป แค่คลิปหนีบกระดาษก็พอแล้ว

ประมาณ 1ชั่วโมงก่อนlanding เมื่อเครื่องเริ่มลดระดับลง  ความตื่นเต้นเริ่มเพิ่มมากขึ้นๆ(ถึงจะเป็นคร้งที่3 สำหรับญี่ปุ่น แต่มันคือครั้งแรกที่เที่ยวคนเดียวในต่างแดนนี่นา)555 แล้วก็ถึงตามกำหนดการ ดูจากพื้นสนามบินแล้ว ฝนคงเพิ่งตกไปแน่ๆ แต่ก็ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีว่าพรุ่งนี้อากาศคงจะดี  เนื่องด้วยเตรียมตัวมาค่อนข้างดี ไม่มีกระเป๋าโหลด ลงเครื่อง ถึงอาคารผดส.ปุ๊บ สิ่งที่เห็นและแอบบงงคือ เหล่าคนไทยที่มากันเป็นกรุ๊ป เป็นครอบครัว ต่างวิ่งกรูแบบไม่คิดชีวิต เปรียบประหนึ่งมีเหตุจลาจล เราก็งงๆ และเดินตามทั้งป้ายบอกทางสำหรับผดส.ขาเข้า และเหล่าคนไทยที่วิ่งไป จนกระทั่งไปถึงชานชลารถรางที่จะพาเราออกจากอาคารนี้ไปยังอาคารตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งรับกระเป๋า ที่อาคารนี้ด้วยเช่นกัน ช่วงที่รอคิวตม. เราก็ทำการตั้งค่ามือถือตามคำแนะนำในคู่มือซึ่งง่ายมาก ทีนี้ก็เล่นเน็ทได้สบายใจ อิ๊อิ๊

หลังจากผ่านตม. เราก็ไม่ต้องเสียเวลารอกระเป๋า ก็เดินออกไปยื่นเอกสารสำแดงให้จนท. แล้วก็เดินที่ตามป้ายบอกทางไปขึ้นรถไฟ ความงงเริ่มมา555 ไม่รอช้ารีบตรงไปหาจนท.ที่ยืนอยู่หน้าเครื่องซื้อตั๋ว เราก็ถามเค้าเพื่อความแน่ใจอีกที จากข้อมูลที่ได้มา ก็ตรงตามนั้น คือไปลงที่สถานีนัมบะ 920เยน และจากข้อมูล ก็ต้องไปต่อใต้ดินอีกสถานีนึง เพื่อไปสถานีที่ใกล้โรงแรม แต่ตอนนั้นไม่รู้อะไรดลใจ ทำให้ลืมข้อมูลจุดนี้ไปได้ นี่ก็เพิ่งมนึกออกตอนทำรีวิว..กำ555 เลยทำให้เข้าใจว่าทุกสถานีปิดหมดแล้ว ก็เลยเดินไปโรงแรมจ้า(บ้าไปแล้ว) ประมาณครึ่งชั่วโมงแบบเดินเร็วๆน่ะ โดยมีผู้ช่วยอย่าง google mapเป็นเพื่อนตลอดการเดินในครั้งนี้ จะเป็นลม เหงื่อแตก ทั้งๆที่อากาศเย็นสบาย ทั้งกำทั้งบ้า555

ถึงโรงแรม ก็เจอคุณลุงรอเช็คอินเราอยู่ ก็เรียบร้อยดี ได้ห้องมุมชั้น 4 มีwifiแบบที่ต้องเล่นที่บริเวณโต๊ะทำงาน แล้วสัญญาณจะดี เปิดดูยูทูปเพลิ้นนนน ห้องถือว่าโอเคเลย เก่าแต่สะอาด เป็นสัดส่วน ไม่อึดอัด หลังจากจัดแจงกับข้าวของเสร็จ ก็อาบน้ำ นอนสลบแบบรวดเดียวถึงเช้ากันเลย

สำหรับรูป จะรีบลงให้น่ะครับ นี่อาจเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยคลายความสงสัยให้ใครหลายๆคนได้ ก่อนเดินทาง
ชื่อสินค้า:   เที่ยวคันไซ
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่