ว่ากันตรง ๆ เลย หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่ผมอยากจะหยิบดูเป็นเรื่องท้าย ๆ เพราะด้วยชื่อภาษาไทยของมันที่ดูเป็นนิยายเลี่ยน ๆ และหน้าหนังของมันที่ดูพื้น ๆ หลังจากที่ผลัดมาหลายรอบกับการดูหนังเรื่องนี้ ทำให้รู้ได้ว่าอย่าตัดสินหนังสือแค่เพียงหน้าปก แต่นี่เปลี่ยนเป็นอย่าตัดสินเนื้อหนังแค่พียงหน้าหนัง เพราะนี่เป็นหนังที่ดูธรรมด๊าธรรมดา แต่ข้างในไม่ธรรมดาจริง ๆ
หนังเล่าถึง "แพท" ชายผู้มี 2 บุคคลิก หรือเรียกอีกอย่างว่าเป็นไบโพบาร์นั่นเอง เกิดไปทำร้ายร่างกายชู้ของภรรยาตัวเอง จนทำให้ต้องเข้าไปรับการบำบัดในโรงพยาบาลจิตเวชเป็นเวลา 8 เดือน และ "ทิฟฟานี่" หญิงอาภัพรักที่สูญเสียสามีไป ทำให้เกิดอาการสติแตก อารมณ์แปรปรวน จนต้องเข้ารับการบำบัดอยู่ช่วงหนึ่งเช่นกัน พอทั้งคู่ได้มาเจอกันก็เกิดเรื่องราวต่าง ๆ ตามมา
เอาเข้าจริงถ้าทราบแค่เนื้อเรื่องแต่ไม่เคยเห็นหน้าหนังมาก่อนอาจจะคิดว่านี่เป็นหนังเครียด ๆ ที่แทรกบุคลิกตัวพระนางให้มีมิติขึ้นด้วยการใส่โรคไบโพลาร์ให้กับพระเอกและการมีปมเรื่องสามีให้นางเอกเรื่องหนึ่งที่ดูแล้วจะหดหู่ หูตกกันไป แต่พอทราบว่าเป็นหนังโรแมนติค-คอมเมดี้ ก็ทำให้น่าสนใจ และอยากดูขึ้นมาว่าจะมีการดำเนินเรื่อง เล่นเรื่องราวอย่างไร
ในหนังมีเนื้อหาที่น่าสนใจ มีการเดินเรื่องได้อย่างเป็นระดับ สนุกตั้งแต่ต้นเรื่อง แต่ดีตรงที่มันดันขยับความสนุกซึ่งสนุกอยู่แล้วขึ้นไปเรื่อย ๆ ทำให้น่าติดตามตลอดทั้งเรื่อง และไม่รู้สึกเบื่อและเสียเวลาเลยแม้แต่น้อย อีกทั้งยังมีการแทรกมุขตลกเล็ก ๆ น้อย ๆ โดยเฉพาะแดนนี่ ที่เป็นเพื่อนแพทระหว่างการบำบัดในโรงพยาบาลจิตเวช ทุกครั้งที่ออกมา รู้สึกว่าจะต้องมีอะไรให้ยิ้มออกมาทุกครั้ง และอีกหลาย ๆ ตัวละคร ที่ดูเหมือนไม่ได้จะตลก แต่ด้วยสีหน้า ท่าทางและคำพูด ทำให้มันตลกขึ้นมา
หนังเรื่องนี้ยังทำให้เจนนิเฟอร์ได้รางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมด้วย (ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งให้การเลือกหนังเรื่องนี้มาดู) ทำให้ผมอยากเห็นการแสดงของเจนนิเฟอร์เข้าไปอีก ในเรื่องแบรดลี่ย์แสดงได้ดึงดูดมาก เป็นนักแสดงที่สายตามีเสน่ห์มากจนทำให้ผู้ชายอย่างผมยังหลงเขาเลย ส่วนเจนนิเฟอร์ก็แสดงได้สุดมาก สลับอารมณ์ได้เหลือเชื่อ แต่ผมดูหนังรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมของปีนั้นไม่ครบ ทำให้ผมคิดว่า เอ๊ะ นี่ได้นักแสดงนำหญิงเลยหรอ ไม่ได้ว่าแสดงไม่ดีนะครับ แสดงดีมาก แต่ผมคิดว่าคาแรกเตอร์มันทำให้ใช้ความสามารถในการแสดงได้ไม่สุดนัก ไปหน่อย ไม่น่าได้นักแสดงนำหญิง แต่ผมก็ต้องไปย้อนดูหนังเรื่องอื่นก่อนว่านางเหมาะกับรางวัลนี้ในปีนั้นจริง ๆ
ทั้งนี้ ไปดูเถอะครับ ไม่อยากให้พลาดจริง ๆ เรื่องนี้ ไม่ได้เป็นแค่หนังรักธรรมดา ๆ ข้างในยังสอดแทรกเรื่องครอบครัว เรื่องชีวิต และได้กำลังใจในการใช้ชีวิตอีกด้วย
ปล. เพิ่งเคยรีวิวครั้งแรก มีปัญหาอะไรตรงไหน บอกได้เลยนะครับ จะนำไปปปรับปรุง
รีวิว Silver linings playbook ให้ฟังครับ (เพิ่งเคยรีวิว เข้ามาช่วยฟังหน่อยครับ)
หนังเล่าถึง "แพท" ชายผู้มี 2 บุคคลิก หรือเรียกอีกอย่างว่าเป็นไบโพบาร์นั่นเอง เกิดไปทำร้ายร่างกายชู้ของภรรยาตัวเอง จนทำให้ต้องเข้าไปรับการบำบัดในโรงพยาบาลจิตเวชเป็นเวลา 8 เดือน และ "ทิฟฟานี่" หญิงอาภัพรักที่สูญเสียสามีไป ทำให้เกิดอาการสติแตก อารมณ์แปรปรวน จนต้องเข้ารับการบำบัดอยู่ช่วงหนึ่งเช่นกัน พอทั้งคู่ได้มาเจอกันก็เกิดเรื่องราวต่าง ๆ ตามมา
เอาเข้าจริงถ้าทราบแค่เนื้อเรื่องแต่ไม่เคยเห็นหน้าหนังมาก่อนอาจจะคิดว่านี่เป็นหนังเครียด ๆ ที่แทรกบุคลิกตัวพระนางให้มีมิติขึ้นด้วยการใส่โรคไบโพลาร์ให้กับพระเอกและการมีปมเรื่องสามีให้นางเอกเรื่องหนึ่งที่ดูแล้วจะหดหู่ หูตกกันไป แต่พอทราบว่าเป็นหนังโรแมนติค-คอมเมดี้ ก็ทำให้น่าสนใจ และอยากดูขึ้นมาว่าจะมีการดำเนินเรื่อง เล่นเรื่องราวอย่างไร
ในหนังมีเนื้อหาที่น่าสนใจ มีการเดินเรื่องได้อย่างเป็นระดับ สนุกตั้งแต่ต้นเรื่อง แต่ดีตรงที่มันดันขยับความสนุกซึ่งสนุกอยู่แล้วขึ้นไปเรื่อย ๆ ทำให้น่าติดตามตลอดทั้งเรื่อง และไม่รู้สึกเบื่อและเสียเวลาเลยแม้แต่น้อย อีกทั้งยังมีการแทรกมุขตลกเล็ก ๆ น้อย ๆ โดยเฉพาะแดนนี่ ที่เป็นเพื่อนแพทระหว่างการบำบัดในโรงพยาบาลจิตเวช ทุกครั้งที่ออกมา รู้สึกว่าจะต้องมีอะไรให้ยิ้มออกมาทุกครั้ง และอีกหลาย ๆ ตัวละคร ที่ดูเหมือนไม่ได้จะตลก แต่ด้วยสีหน้า ท่าทางและคำพูด ทำให้มันตลกขึ้นมา
หนังเรื่องนี้ยังทำให้เจนนิเฟอร์ได้รางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมด้วย (ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งให้การเลือกหนังเรื่องนี้มาดู) ทำให้ผมอยากเห็นการแสดงของเจนนิเฟอร์เข้าไปอีก ในเรื่องแบรดลี่ย์แสดงได้ดึงดูดมาก เป็นนักแสดงที่สายตามีเสน่ห์มากจนทำให้ผู้ชายอย่างผมยังหลงเขาเลย ส่วนเจนนิเฟอร์ก็แสดงได้สุดมาก สลับอารมณ์ได้เหลือเชื่อ แต่ผมดูหนังรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมของปีนั้นไม่ครบ ทำให้ผมคิดว่า เอ๊ะ นี่ได้นักแสดงนำหญิงเลยหรอ ไม่ได้ว่าแสดงไม่ดีนะครับ แสดงดีมาก แต่ผมคิดว่าคาแรกเตอร์มันทำให้ใช้ความสามารถในการแสดงได้ไม่สุดนัก ไปหน่อย ไม่น่าได้นักแสดงนำหญิง แต่ผมก็ต้องไปย้อนดูหนังเรื่องอื่นก่อนว่านางเหมาะกับรางวัลนี้ในปีนั้นจริง ๆ
ทั้งนี้ ไปดูเถอะครับ ไม่อยากให้พลาดจริง ๆ เรื่องนี้ ไม่ได้เป็นแค่หนังรักธรรมดา ๆ ข้างในยังสอดแทรกเรื่องครอบครัว เรื่องชีวิต และได้กำลังใจในการใช้ชีวิตอีกด้วย
ปล. เพิ่งเคยรีวิวครั้งแรก มีปัญหาอะไรตรงไหน บอกได้เลยนะครับ จะนำไปปปรับปรุง