ผมมาถึงที่นัดหมายกับแป้งไว้ก่อนเวลาเกือบยี่สิบนาที แม้จะพยายามให้ถึงที่หมายให้ตรงเวลาที่สุด ความรู้สึกของผมนั้นบอกไม่ถูก ไม่รู้ว่าจะวางท่าทางหรือทำสีหน้าอย่างไรเวลาพบแป้ง ร้านกาแฟร้านเดิมริมชายหาดเปลี่ยนชื่อเปลี่ยนเจ้าของมาหลายคนในรอบสามปีถ้านับจากที่ผมพบแป้งครั้งแรกที่นี่
ผมเดินขึ้นไปยังลานพื้นไม้ระแนงมองไปที่มุมร้านโต๊ะประจำก็พบเธอนั่งอยู่ก่อนแล้ว แป้งไม่เคยมาสายเลยสักครั้งแม้ครั้งนี้ผมจะมาก่อนเวลา แต่ก็ยังช้ากว่าเธออยู่ดี
“หวัดดี ถึงนานรึยัง”
“ถึงก่อนตัวเองห้านาที” ผมมองแก้วโกโก้เย็นที่มีหยดน้ำเกาะพราวแล้วก็รู้ว่าเธอบอกเวลาเคลื่อนไปพอควร
ผมสั่งลาเต้ร้อนแก้วโปรด แป้งผินหน้าที่สวมแว่นกันแดดมามองผมแล้วหันหน้าออกไปมองผืนน้ำทะเล
“เหมือนฝนกำลังจะตกเลย” เธอว่า
“ทางการเขาประกาศว่าประเทศไทยเข้าสู่หน้าฝนแล้วนี่นะ”
ราวเมฆฝนจะเข้ามากุมเราสองคนให้เงียบงันไปกว่านาที
“แป้งสบายดีนะ”ผมถามเธอ เจ้าของคำตอบที่ผมรอหยิบยางรัดผมในกระเป๋าใบโตมารัดผมหยิกยาวที่ปลิวล้อลมทะเลอยู่เมื่อครู่จนตึง
“ถามเป็นทางการจังเลยนะ”
นี่แหละแป้ง วาจาของเธอจิกกัดแบบนิ่ม ๆ สามปีที่เราห่างกันเป็นใครก็ต้องสำนึกตัวเองว่าความคุ้นเคยเดิมที่เคยมี มันคงเหลือไม่เท่าก่อน ผมยกกาแฟขึ้นจิบ
“แป้งมาถึงตั้งแต่เมื่อวานแล้วล่ะ อยากมาดื่มด่ำบรรยากาศเก่า ๆ”
“ทำไมไม่โทรหาเรา”
“ก็ตัวเองนัดแป้งวันนี้นี่”
ฝนเริ่มลงเม็ดราวกับจะรับรู้ว่าการสนทนาของเราสองคนมันมีช่องไฟของความห่างเหินผสมอยู่
“ตัวเองยังอยู่กับจี๊ดหรือเปล่า” แป้งถามขณะยื่นมือไปแต่ะน้ำฝนที่ไหลจากชายคาลงพื้นหญ้า
“เลิกกันไปสองปีแล้ว หลังจากแป้งไปอเมริกา” ผมยื่นมือไปไล้ฝนเล่นเหมือนเธอบ้าง
“ตัวเองก็หัดรักใครจริง ๆ สักที” แป้งเอ่ยเบา ๆ
“พยายามอยู่ จริง ๆ แล้วโสดก็ไม่เลวร้ายนักนะ” ผมว่าแล้วถามต่อ
“กลับเมื่อไหร่”
“ไฟลท์พรุ่งนี้ คืนนี้ตัวเองอยู่ค้างเป็นเพื่อนแป้งไหม”
ผมรับปากเธอ
ฝนยังพรมลงมาเป็นม่านน้ำตกขณะที่แดดลอดผ่านเมฆสีเทาออกมาพบกันแล้วเกิดสายรุ้งทาบแผ่นน้ำทะเลตรงหน้า
ผมเห็นแป้งยิ้มเป็นครั้งแรกให้กับปรากฏการณ์นี้
“อธิษฐานสิ” เราสองคนพูดขึ้นพร้อมกัน
...
ผมไม่รู้ว่ารักแรกของผมอธิษฐานต่อโค้งรุ้งว่าอย่างไร แม้ฝนจะตกหนักและฟ้าคำรามทั้งคืน ผมรู้ว่าแป้งลุกจากอ้อมกอดผม แต่งตัวและคว้ากระเป๋าเป้ออกจากห้องไปตอนตีสี่ เธอคงคิดว่าผมยังหลับสนิทยามฝนตกพรำ ๆ เธอคงอธิษฐานไว้เช่นนั้น
ปล. ติชม พูดคุย แลกเปลี่ยนกันได้ครับ
Cr ภพจาก
http://raumrot.com/
เรื่องสั้นหน้าเดียว : รุ้งแรก
ผมเดินขึ้นไปยังลานพื้นไม้ระแนงมองไปที่มุมร้านโต๊ะประจำก็พบเธอนั่งอยู่ก่อนแล้ว แป้งไม่เคยมาสายเลยสักครั้งแม้ครั้งนี้ผมจะมาก่อนเวลา แต่ก็ยังช้ากว่าเธออยู่ดี
“หวัดดี ถึงนานรึยัง”
“ถึงก่อนตัวเองห้านาที” ผมมองแก้วโกโก้เย็นที่มีหยดน้ำเกาะพราวแล้วก็รู้ว่าเธอบอกเวลาเคลื่อนไปพอควร
ผมสั่งลาเต้ร้อนแก้วโปรด แป้งผินหน้าที่สวมแว่นกันแดดมามองผมแล้วหันหน้าออกไปมองผืนน้ำทะเล
“เหมือนฝนกำลังจะตกเลย” เธอว่า
“ทางการเขาประกาศว่าประเทศไทยเข้าสู่หน้าฝนแล้วนี่นะ”
ราวเมฆฝนจะเข้ามากุมเราสองคนให้เงียบงันไปกว่านาที
“แป้งสบายดีนะ”ผมถามเธอ เจ้าของคำตอบที่ผมรอหยิบยางรัดผมในกระเป๋าใบโตมารัดผมหยิกยาวที่ปลิวล้อลมทะเลอยู่เมื่อครู่จนตึง
“ถามเป็นทางการจังเลยนะ”
นี่แหละแป้ง วาจาของเธอจิกกัดแบบนิ่ม ๆ สามปีที่เราห่างกันเป็นใครก็ต้องสำนึกตัวเองว่าความคุ้นเคยเดิมที่เคยมี มันคงเหลือไม่เท่าก่อน ผมยกกาแฟขึ้นจิบ
“แป้งมาถึงตั้งแต่เมื่อวานแล้วล่ะ อยากมาดื่มด่ำบรรยากาศเก่า ๆ”
“ทำไมไม่โทรหาเรา”
“ก็ตัวเองนัดแป้งวันนี้นี่”
ฝนเริ่มลงเม็ดราวกับจะรับรู้ว่าการสนทนาของเราสองคนมันมีช่องไฟของความห่างเหินผสมอยู่
“ตัวเองยังอยู่กับจี๊ดหรือเปล่า” แป้งถามขณะยื่นมือไปแต่ะน้ำฝนที่ไหลจากชายคาลงพื้นหญ้า
“เลิกกันไปสองปีแล้ว หลังจากแป้งไปอเมริกา” ผมยื่นมือไปไล้ฝนเล่นเหมือนเธอบ้าง
“ตัวเองก็หัดรักใครจริง ๆ สักที” แป้งเอ่ยเบา ๆ
“พยายามอยู่ จริง ๆ แล้วโสดก็ไม่เลวร้ายนักนะ” ผมว่าแล้วถามต่อ
“กลับเมื่อไหร่”
“ไฟลท์พรุ่งนี้ คืนนี้ตัวเองอยู่ค้างเป็นเพื่อนแป้งไหม”
ผมรับปากเธอ
ฝนยังพรมลงมาเป็นม่านน้ำตกขณะที่แดดลอดผ่านเมฆสีเทาออกมาพบกันแล้วเกิดสายรุ้งทาบแผ่นน้ำทะเลตรงหน้า
ผมเห็นแป้งยิ้มเป็นครั้งแรกให้กับปรากฏการณ์นี้
“อธิษฐานสิ” เราสองคนพูดขึ้นพร้อมกัน
...
ผมไม่รู้ว่ารักแรกของผมอธิษฐานต่อโค้งรุ้งว่าอย่างไร แม้ฝนจะตกหนักและฟ้าคำรามทั้งคืน ผมรู้ว่าแป้งลุกจากอ้อมกอดผม แต่งตัวและคว้ากระเป๋าเป้ออกจากห้องไปตอนตีสี่ เธอคงคิดว่าผมยังหลับสนิทยามฝนตกพรำ ๆ เธอคงอธิษฐานไว้เช่นนั้น
ปล. ติชม พูดคุย แลกเปลี่ยนกันได้ครับ
Cr ภพจาก http://raumrot.com/