(เพิ่มเติมข้อความใหม่)
นึกว่ากระทู้จะตกไปซะแล้ว กลับมาดูอีกทีขึ้นแนะนำซะงั้น
ขอบคุณทุกโหวตนะครับ ขอบคุณทุกคำติชม ขอบคุณหลายๆ ท่านที่ร่วมแชร์ภาพ
ขอบคุณคุณ ชมพูพิมพ์ใจ ณ ดอยหลวง จากสถาบัน วิจัยดาราศาสตร์
ที่ช่วยอธิบายว่า ปรากฏการณ์ที่เห็นเป็น "หมวกเมฆสีรุ้ง" คนละอย่างกับ "เมฆสีรุ้ง"
ตาม คห. 1-1 และคำอธิบายใน คห. ที่ 41 และ 42
ขอบคุณคุณ สมาชิกหมายเลข 703022 ที่ทักท้วงเรื่องคำบรรยายภาพครับ
////////////////////__________\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\
วันนี้ (12 พฤษภาคม 57) เวลาประมาณห้าโมงเย็น ผมเอาจักรยานขึ้นหลังรถไปปั่นเล่นกับครอบครัวที่สวนน้ำบุ่งตาหลั่ว (โคราช)
เหมือนมีอะไรดลใจไม่รู้ ผมหยิบกล้อง D800 ติดเลนส์ 24-70 mm และก็ 70-200 mm อีกตัวยัดใส่กระเป๋าหลังสะพายไปด้วย
ทั้งๆ ที่ปกติก็ไม่ค่อยคิดจะแบกไปให้หนัก...
ปั่นได้รอบที่สองเท่านั้นผมก็ต้องจอดแล้วก็งัดกล้องออกมาเก็บภาพ...
สิ่งที่อยู่ตรงหน้าเป็นปรากฏการณ์ที่ผมเคยเห็นมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อหลายปีก่อน แต่ตอนนั้นผมมีเพียง iPad อย่างเดียวที่สามารถถ่ายภาพได้
แต่วั้นนี้ต้องบอกว่าบังเอิญและเป็นโชคดีมากที่มีกล้องติดอยู่ข้างหลัง จึงไม่รอช้าที่จะงัดมันออกมา แล้วถ่าย
แต่ต้องยอมรับว่า "มั่ว" มาก เพราะไม่เคยมีข้อมูลการถ่ายภาพแนวนี้มาก่อน ได้แต่เดาๆ ปรับนู่นแต่งนี้ไปเรื่อย
ดีที่เป็นยุคดิจิตอล ถ่ายไป ดูภาพไป ปรับค่าไป กลับมาบ้านใช้ PS ช่วยอีกนิดหน่อย ก็ได้ออกมาอย่างที่เห็น...
ดีอีกอย่างคือปรากฏการ์ "เมฆสีรุ้ง" เกิดขึ้นค่อนข้างนาน ผมจึงมีเวลามากพอที่จะเรียนรู้ในการเก็บภาพหายากนี้
ปรากฏการณ์เมฆสีรุ้ง หรือ Irisation เรียกว่า Iridescence ก็ได้ เกิดจากการที่แสงอาทิตย์สีขาวตกกระทบเม็ดน้ำขนาดต่างๆ ในเมฆจางๆ ซึ่งเป็นเมฆที่มีจำนวนหยดน้ำไม่หนาแน่นมากนัก เมื่อแสงตกกระทบหยดน้ำแต่ละหยด จะเกิดการหักเหเปลี่ยนทิศทางไปจากแนวเดิม แต่เนื่องจากแสงสีต่างๆ (ที่ประกอบขึ้นเป็นแสงสีขาว) หักเหได้ไม่เท่ากัน ผลก็คือ แสงสีขาวแตกออกเป็นสีรุ้ง และเนื่องจากในเมฆจางๆ ที่ว่านี้มีเม็ดน้ำขนาดต่างๆ กัน ทำให้สีรุ้งสีหนึ่ง (เช่น สีเขียว) ที่หักเหออกจากเม็ดน้ำขนาดหนึ่งๆ ซ้อนทับกับสีรุ้งอีกสีหนึ่ง (เช่น สีเหลือง) ที่มาจากเม็ดน้ำอีกขนาดหนึ่ง จึงทำให้มองเห็นสีรุ้งมีลักษณะเหลือบซ้อนทับกันอย่างสลับซับซ้อน บางทีก็คล้ายสีรุ้งบนผิวไข่มุก บางทีก็ซ้อนกันเป็นชั้นๆ ปรากฏการณ์สีรุ้งอาจเกิดในเมฆจางๆ บนท้องฟ้า โดยที่ไม่ต้องมีเมฆก้อนใหญ่ (อย่างเมฆฝนฟ้าคะนอง) มาเกี่ยวข้องด้วยก็ได้ แต่เท่าที่พบกันบ่อยๆ ก็คือ สีรุ้งที่อยู่เหนือเมฆก้อนขนาดใหญ่ โดยเฉพาะในช่วงเวลาเย็นที่ดวงอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้า
ที่มา :
http://www.narit.or.th/index.php/astro-photo/atmosphere-phenomenon/867-2013-10-24-07-41-56
ภาพปรากฏการณ์หายาก "เมฆสีรุ้ง" หรือ หรือ "Irisation" : ความบังเอิญ บวกกับความมั่ว
นึกว่ากระทู้จะตกไปซะแล้ว กลับมาดูอีกทีขึ้นแนะนำซะงั้น
ขอบคุณทุกโหวตนะครับ ขอบคุณทุกคำติชม ขอบคุณหลายๆ ท่านที่ร่วมแชร์ภาพ
ขอบคุณคุณ ชมพูพิมพ์ใจ ณ ดอยหลวง จากสถาบัน วิจัยดาราศาสตร์
ที่ช่วยอธิบายว่า ปรากฏการณ์ที่เห็นเป็น "หมวกเมฆสีรุ้ง" คนละอย่างกับ "เมฆสีรุ้ง"
ตาม คห. 1-1 และคำอธิบายใน คห. ที่ 41 และ 42
ขอบคุณคุณ สมาชิกหมายเลข 703022 ที่ทักท้วงเรื่องคำบรรยายภาพครับ
////////////////////__________\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\
วันนี้ (12 พฤษภาคม 57) เวลาประมาณห้าโมงเย็น ผมเอาจักรยานขึ้นหลังรถไปปั่นเล่นกับครอบครัวที่สวนน้ำบุ่งตาหลั่ว (โคราช)
เหมือนมีอะไรดลใจไม่รู้ ผมหยิบกล้อง D800 ติดเลนส์ 24-70 mm และก็ 70-200 mm อีกตัวยัดใส่กระเป๋าหลังสะพายไปด้วย
ทั้งๆ ที่ปกติก็ไม่ค่อยคิดจะแบกไปให้หนัก...
ปั่นได้รอบที่สองเท่านั้นผมก็ต้องจอดแล้วก็งัดกล้องออกมาเก็บภาพ...
สิ่งที่อยู่ตรงหน้าเป็นปรากฏการณ์ที่ผมเคยเห็นมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อหลายปีก่อน แต่ตอนนั้นผมมีเพียง iPad อย่างเดียวที่สามารถถ่ายภาพได้
แต่วั้นนี้ต้องบอกว่าบังเอิญและเป็นโชคดีมากที่มีกล้องติดอยู่ข้างหลัง จึงไม่รอช้าที่จะงัดมันออกมา แล้วถ่าย
แต่ต้องยอมรับว่า "มั่ว" มาก เพราะไม่เคยมีข้อมูลการถ่ายภาพแนวนี้มาก่อน ได้แต่เดาๆ ปรับนู่นแต่งนี้ไปเรื่อย
ดีที่เป็นยุคดิจิตอล ถ่ายไป ดูภาพไป ปรับค่าไป กลับมาบ้านใช้ PS ช่วยอีกนิดหน่อย ก็ได้ออกมาอย่างที่เห็น...
ดีอีกอย่างคือปรากฏการ์ "เมฆสีรุ้ง" เกิดขึ้นค่อนข้างนาน ผมจึงมีเวลามากพอที่จะเรียนรู้ในการเก็บภาพหายากนี้
ปรากฏการณ์เมฆสีรุ้ง หรือ Irisation เรียกว่า Iridescence ก็ได้ เกิดจากการที่แสงอาทิตย์สีขาวตกกระทบเม็ดน้ำขนาดต่างๆ ในเมฆจางๆ ซึ่งเป็นเมฆที่มีจำนวนหยดน้ำไม่หนาแน่นมากนัก เมื่อแสงตกกระทบหยดน้ำแต่ละหยด จะเกิดการหักเหเปลี่ยนทิศทางไปจากแนวเดิม แต่เนื่องจากแสงสีต่างๆ (ที่ประกอบขึ้นเป็นแสงสีขาว) หักเหได้ไม่เท่ากัน ผลก็คือ แสงสีขาวแตกออกเป็นสีรุ้ง และเนื่องจากในเมฆจางๆ ที่ว่านี้มีเม็ดน้ำขนาดต่างๆ กัน ทำให้สีรุ้งสีหนึ่ง (เช่น สีเขียว) ที่หักเหออกจากเม็ดน้ำขนาดหนึ่งๆ ซ้อนทับกับสีรุ้งอีกสีหนึ่ง (เช่น สีเหลือง) ที่มาจากเม็ดน้ำอีกขนาดหนึ่ง จึงทำให้มองเห็นสีรุ้งมีลักษณะเหลือบซ้อนทับกันอย่างสลับซับซ้อน บางทีก็คล้ายสีรุ้งบนผิวไข่มุก บางทีก็ซ้อนกันเป็นชั้นๆ ปรากฏการณ์สีรุ้งอาจเกิดในเมฆจางๆ บนท้องฟ้า โดยที่ไม่ต้องมีเมฆก้อนใหญ่ (อย่างเมฆฝนฟ้าคะนอง) มาเกี่ยวข้องด้วยก็ได้ แต่เท่าที่พบกันบ่อยๆ ก็คือ สีรุ้งที่อยู่เหนือเมฆก้อนขนาดใหญ่ โดยเฉพาะในช่วงเวลาเย็นที่ดวงอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้า
ที่มา : http://www.narit.or.th/index.php/astro-photo/atmosphere-phenomenon/867-2013-10-24-07-41-56