รบกวนขอความช่วยเหลือด้านกฎหมาย โดนเพื่อนหลอกให้รูดบัตรเครดิตซื้อของไปแปดหมื่น!!

เป็นเรื่องของเพื่อนนะคะ เพื่อนฝากมาตั้งกระทู้
คือเพื่อนเราเป็นผู้หญิง สมมติว่าชื่อ A คือ A เนี่ยทำงานและอาศัยอยู่ที่บ้านเช่าแห่งหนึ่ง อยู่คนเดียว
ช่วงนั้นบังเอิญมี B เข้ามาในชีวิต B เป็นผู้ชาย ซึ่งเป็นเพื่อนกับ A มาก่อน เป็นเพื่อนสมัยมัธยม อยู่บ้านข้างๆกันตอนเด็กๆ
เป็นเพื่อนกันมาสิบกว่าปี ช่วงนั้น A ก็ตัดสินใจคุยกับ B คุยไปได้ซักพัก

B ก็ไปคุยกับแม่ A บอกว่าจะขออนุญาตมาดูแล A ได้มั้ย ในช่วงที่ A ป่วย แม่ก็คิดว่าจะมาหามาเยี่ยมเป็นระยะๆ
แต่ไม่ใช่งั้นค่ะ B ย้ายข้าวย้ายของเข้ามาอยู่ในบ้าน A เลย (ทราบภายหลังว่าหมดสัญญาหอเก่า ไม่มีที่ไป ไปบ้านแม่ไม่ได้ ไม่มีเงิน)
ระหว่างที่ B ย้ายมาอยู่บ้าน A ตัว B ไม่ได้ทำงานเลยค่ะ ทีแรกขอมาอยู่ 2 อาทิตย์ เพื่อหางาน สุดท้ายไม่ยอมไปทำงานซักที
ใช้ชีวิตแบบกินอยู่ที่บ้าน A เกือบเดือน

ระหว่างนั้น B ก็บอก A ว่าเนี่ย จะให้ไปรูดบัตรซื้อนาฬิกาให้ก่อน ซื้อมาเพื่อขาย เนื่องจาก B เปิดร้านขายนาฬิกาออนไลน์
รูดไปทั้งหมด 80000++ นอกนั้นยังมีให้รูดซื้อทีวี บอกว่าเอามาดูด้วยกัน หมื่นกว่าบาท (แต่ปกติ A ไม่ดูทีวี แต่ทนรบเร้าไม่ไหว)
ค่าใช่จ่ายส่วนที่ B ออกคือ ซื้อที่นอน (ซึ่งทีแรกจะให้ A รูดบัตร แต่ A ไม่อยากซื้อ เลยจำยอมจ่ายเอง)
ซื้อตู้เสื้อผ้า (ใส่แต่เสื้อผ้าของ B ) ติดแอร์ในห้อง หมื่นกว่าบาท นอกนั้นค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำค่าไฟ ไม่ได้ช่วยออกเลย

นอกนั้นยังมีที่ B มาแย้บๆพูดว่า เนี่ยอาจจะให้ A กู้เงินให้นะ เอามาลงทุนเปิดร้านขายนาฬิกา

สุดท้ายพอเริ่มรู้สึกว่ามาแนวนี้ ไม่ใช่ละ A บอกให้ย้ายออก B ก็อ้างว่ารัก อยากใช้ชีวิตอยู่ด้วย อยากขอจดทะเบียน (แต่ไม่จัดงานแต่งงาน)
แม่ A มาพูด B ก็บอกว่าขออยู่จนหางานทำ (สนิทกับแม่ด้วย เนื่องจากบ้านใกล้และเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก แม่เลยไว้ใจ)

สุดท้าย A หาทางให้ B ออกจากบ้านได้ แต่ปัญหาตอนนี้คือ
นาฬิกาที่ใช้บัตร A รูดซื้อ ตอนนี้ส่วนมากอยู่ที่บ้าน A แต่ B เอาติดตัวไปได้เรือนนึง ซึ่งราคาสองหมื่นห้า เป็นเรือนที่แพงที่สุด

เมื่อมาเครียกัน B บอกว่าไม่มีเงินจะจ่ายค่านาฬิกา (80000+ ซึ่ง A จะต้องผ่อนบัตรเครดิต) จะขอเอานาฬิกาเรือนอื่นๆไปก่อน
เพื่อไปขาย เอาเงินมาใช้หนี้  A เลยบอกว่าจะไม่ให้ของ จนกว่าจะเอาเงินล็อตแรกมาคืน แล้วถึงจะทยอยให้นาฬิกาไป

B ขอต่อรองเหลือ 45000 เนื่องจากอ้างถึงค่าใช้จ่ายอื่นๆที่เคยจ่าย ซึ่งจริงๆแล้วมีแค่ ค่าแอร์ (ตรงนี้ยินดีให้หักหรือมาแกะแอร์คืนไป หมื่นกว่าบาท)
ค่าที่นอน (ยกออกมาคืน แต่ไม่ยอมเอาคืน ห้าพัน) ค่าตู้เสื้อผ้า (อันนี้จะคืน แต่ยังไม่ยอมมาเอาคืน ราวๆพันกว่าบาท)

สุดท้ายล่าสุด B โทรมา บอกว่าจะขอเอานาฬิกาไปขาย A บอกว่าไม่ให้จนกว่าจะเอาเงินคืนมาก่อน B เลยบอกว่างั้นจะเอาของส่วนตัว
ที่มีมาก่อนย้ายมาอยู่ คือส่วนที่ไม่ได้ใช้บัตรรูด A บอกว่าถ้างั้นให้เอาเรือน สองหมื่นห้า ที่ใช้บัตรรูดมาแลกเอาของ B ไป

B บอกว่างั้นจะจ่ายเงินสดให้ 25000 ค่านาฬิกาเรือนที่อยู่กับ B ส่วนนาฬิกาที่เหลือ ไม่เอา แล้วจบกัน ไม่งั้นให้ไปคุยที่โรงพัก
แถมบอกว่าให้เอาเพื่อนไปเยอะๆนะ (พูดในเชิงข่มขู่ แต่อัดเสียงไว้ไม่ทัน)

อยากสอบถามว่าในกรณีนี้ ควรทำยังไงดี มีช่องทางในการดำเนินการทางกฎหมายมั้ยคะ
คือตอนนี้มีของบางส่วนของ B ที่ยังอยู่ที่บ้าน A เป็นพวกเครื่องเสียง ลำโพง โน้ตบุ๊ค คอม อะไรพวกนี้
ซึ่งเรายินดีจะให้คืนทุกอย่าง รวมทั้งนาฬิกาที่ซื้อมาด้วย แต่เราก็อยากได้เป็นเงินสดคืนมา เพื่อนำมาจ่ายบัตรเครดิตที่รูดไป
ในกรณีนี้ถ้าไปคุยที่โรงพัก จะคุยไปในแนวทางไหนดีคะ เพื่อให้ผลออกมาโอเคที่สุด
เพราะตอนนี้ A ก็กลัว ไม่กล้าอยู่บ้าน เนื่องจากเป็นผู้หญิงอยู่คนเดียว แล้วไม่รู้ว่า B จะมาทำอะไรรึเปล่า

ถ้าเราอธิบายตรงไหนงง ถามเพิ่มได้นะคะ เรียบเรียงไม่ค่อยเก่ง

รบกวนด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่