
ฝนตกใหม่ ๆ ในช่วงเข้าหน้าฝนแบบนี้ ถ้าเป็นสมัยก่อนตามท้องร่อง เรือกสวน ที่มีร่องน้ำสำหรับรดน้ำให้น้ำไม้ผลกันในย่านบางกอกน้อย บางขุนนนท์ ที่มักมีปลาเล็กปลาน้อยจำพวกปลากระดี่ ปลาหมอตะกรับ หมอไทย กระดี๊กระด๊าใช้หางตีน้ำเพี๊ยะ ๆ กันเป็นฝูง เป็นที่มาของคำว่า “ กระดี่ได้น้ำ ” นี่แล

ปลากระดี่พวกนี้ ชอบไปรวมตัวกันปลายสวน ซึ่งเป็นสระกระจับด้านนึง อีกด้านจะปล่อยโล่ง น้ำมีระดับลึกพอสมควร เพราะเป็นเสมือนอ่างเก็บน้ำไว้ใช้ในสวนนั่นอง โดยใช้ต้นมะพร้าวขุดทั้งต้นจนทะลุเป็นท่อธรรมชาติ ต่อน้ำจากลำประโดงสาธารณะ นำน้ำเข้ามาในสวนนั่นแล

คนสวนชอบนำสวิงใหญ่ ๆ ไปแช่ไว้ก้นบ่อ รอจนปลากระดี่มารวมกันฮุบอากาศให้เป็นฝูงใหญ่ ก็จะยกสวิงขึ้นมา ติดมาเกือบทั้งฝูงนั่นเลย

ปลากระดี่ตัวโตหน่อย จะย่างคาบตับ คือ ตัวหัว ควักไส้ทิ้ง เคล้าเกลือทะเลป่นนิด ๆ พอบาง ๆ ผ่าไม้ไผ่มาคีบปลาเป็นไม้ ๆ ละ 5 – 7 ตัว ย่างรมควันกาบมะพร้าวจนสุกเหลืองทอง กินกับน้ำปลาบีบมะนาวพริกขี้หนู แค่นี้ก็อร่อยแล้ว แต่จะดีที่สุดคือ น้ำปลา พริกขี้หนูซอย มะกอกซอย ใส่น้ำตาลปี๊บนิดนึง กินข้าวราวแหกหม้อ

ปลากระดี่ตัวเล็ก ๆ คุณยายจะให้ช่วยกันตัดหัว ควักไส้ออก เคล้าเกลือทะเลป่น เรียงปลากระดี่เป็นวง ให้ครีบเกยกันจับเป็นวงกลม ตากแดดให้แห้งทั้งสองด้าน แล้วมาทอดกรอบ ๆ กินแนมกับแกงเผ็ดนั้นชั้นเลิศ กินแบบแนมกับข้าวคลุกน้ำพริกรสจัด ๆ นั้นชั้นเยี่ยม หรือกินเล่น ๆ ก็ชั้นยอด

ในร่องสวนนั้นมีมากพอกิน แต่ถ้าช้อนจากในคลองบางกอกน้อยแล้วจะได้มากเป็นถัง ๆ ก็จะนำมาหมักเป็นปลาร้ากันแบบพอกินพอแจกกันให้สนุก ตามธรรมเนียมวัฒนธรรมแกงข้ามรั้ว แบ่งปันเจือจาน ซึ่งในสมัยนี้ ไม่มีให้เห็นแล้ว อยู่บ้านติดกันยังไม่รู้จักกันเลยก็มีถมเถไป

ปลาร้าปลากระดี่แบบภาคกลางจะใส่เกลือทะเลป่นและข้าวคั่วเป็นหลัก แต่ถ้าเป็นปลาร้า ปลา-ของทางภาคอีสาน จะเป็นปลาเล็กปลาน้อยสารพัด หมักเกลือและรำเป็นหลัก เพราะฉะนั้น กลิ่นและรสของปลาร้าทั้งสองแหล่งนี้จะต่างกันเล็กน้อยตามวัตถุดิบและเครื่องประกอบ

ปลาร้าปลากระดี่นั้น ทำกับข้าววิเศษอย่างนึง ที่มักจะมีตามสำรับวงข้าวชาวภาคกลางคือพวกเครื่องจิ้มประเภท หลน ซึ่งปลาร้าหลนนั้น จะเป็นรองก็แค่เต้าเจี้ยวหลนเท่านั้นเองนะครับ ด้วยเครื่องเคราจะมากกว่าเต้าเจี้ยวหลนเล็กน้อย แต่ถ้ากลิ่นและรสแล้ว ชายกางให้ปลาร้าหลนกินขาด

วันนี้ ชายกางมาชวนเข้าครัว ทำกับข้าวไทย ๆ แบบในสมัยก่อนแท้ ๆ ที่กินมาตั้งแต่เด็ก ก็คือ “ ปลาร้าหลน ” ในวันนี้นี่เองครับ

โลก และเวลาที่เร่งรัดในสมัยนี้ ทำให้ไม่ได้หวังว่าใครจะต้องทำตามให้ได้ แต่อยากจะฝากอาหารไทยพื้นบ้านดั้งเดิม ไม่ได้ในรั้วในวังใดที่ชอบอ้างกัน แต่เป็นกับข้าวไทยแท้ในสำรับที่กินมาตั้งแต่เด็ก จนทำเองได้เรื่อยมา หวังให้ห้องก้นครัวแห่งนี้ เก็บตำรับอาหารที่คนมองข้ามไปไว้บ้าง ให้ผ่านตาบ้างว่าเคยเห็น เคยมี ก็พอแล้วครับ

เข้าครัวกันดีกว่าครับ
“ ปลาร้าหลน ” ของชายกางในวันนี้ครับ
<< ชายกางเข้าครัว ... ปลาร้าหลน >>
“ ปลาร้าหลน ” ของชายกางในวันนี้ครับ