ผมคิดว่าชาตินี้ผมคงอยู่เป็นโสดไม่มีแฟนหรอก จนกระทั้งมีแฟนครับ และได้รับทั้งความรัก สุข ทุกข์

สวัสดีครับผมเป็นวัยรุ่นธรรมดาคนนึง ตอนนี้อยู่ช่วงปี 4 แล้ว แฟนผมก็อยู่ปี 4 วัยเรียนเหมือนกันนี้ล่ะ ก่อนอื่นนะครับผมบอกก่อนว่าผมเป็น ชาย รักชาย ผมคิดมาเสมอคคับว่าผมคงไม่มีแฟนหรอกคับ เกย์หาแฟนยาก หรือจะมีความรักแบบคบหาดูใจแบบนี้เลยมาก่อนที่ไปไหนมาไหนรู้สึกแบบ ฟินๆ หรือเสียใจในด้านความรักแบบนี้มาก่อนเลยครับ ทุกอย่างคือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในชีวิตของผมนะครับไม่มีแต่งเติมอะไรทั้งสิ้น นี้เป็นกระทู้แรกอาจจะแท็กผิดหรือไงขอโทษด้วยนะครับ
โอเคเข้าเรื่องเลยนะ.......
ครับการอยากคุยกะใครสักคนของผมหรือพวกเกย์ส่วนใหญ่แล้วมักจะคุยกันทางโลกออน์ไลน์ซึ่งผมก็เป็นหนึ่งในนั้นครับ แต่ผมจะนานๆๆออนทีนะครับ เวลาเหงาเบื่อๆ..... วันนั้นน่ะตอนซักดึกๆๆละก็มีคนๆนึงทักมา ผมก็คุยกันปกติครับ คุยๆก็สนุกดีนะ เราคุยกันานๆๆเข้าเราเลยแลกรูป แลกเบอร์มือถือกัน เราคุยแบบนี้จนรู้สึกว่า เออรู้สึกดีว่ะ เราคุยกันนานอยู่นะครับ จนในที่สุดเราได้นัทเจอกัน แต่ก่อนจะเจอกันผมพยายามปฎิเสธเค้ามาหลายครั้งแล้วครับ ในใจก็อยากเจอนะ แต่ก็มีไม่กล้าอยู่ ในที่สุดเราก็ได้นัทไปกินข้าวหลังเลิกเรียนกัน ผมก็เลิกเย็นมากวันนั้นแล้วก็มีธุระต่ออีกเลยบอกปฏิเสธไปอีก แต่เค้าก็ยืนยันว่าจะมาเพราะไกล้ถึงที่เรานัทกันไว้แล้ว โอเคร พอผมถึงหออาบน้ำเสร็จ เต้ย(นามสมมุติ) ก็โทรมาพอดีผมก็รับสาย เออๆๆเดี่ยวไกล้เสร็จละแต่งอยู่กำลังลงไปเรานัทเจอกันใต้หอผม จากนั้นผมก็ลงมาละ หาเต้ยไม่เจอ เลยโทรหาจนเราก็เจอกัน เต้ยไม่เหมือนเกย์เลยครับท่าทางก็ไม่ออกด้วย ตัวสูงๆผิวคล้ำๆหน้าตาก็ไม่น่าจะเป็นเกย์อะครับ ผมเจอก็ไม่ได้แสดงออกอะไรเหมือนกันครับเพื่อนของผมก็ไม่รู้ว่าเป็นเช่นกัน พอเจอผมก็ทักไป
..เออเต้ยหรอ เราก็เริ่มได้คุยกันครับ แต่ก็เขิลบ้าง ตอนนั้นเราสั่งกับข้าวข้างทางมากินกันธรรมดาครับ นั่งคุยกันก็แบบเหมือนเพื่อนปกติ แต่ดูเหมือนเต้ยจะเขิลนิทหน่อย ผมก็เขิลๆนะแต่ชวนคุยมากเลยทำให้อาการเขิลลดน้อยลง เรากินข้าวกันเสร็จผมก็บอกเออรู้สึกคุยกันถูกคอนะ มันดูแมนๆเหมือนชายธรรดาเลยผมก็โอเคกะมันนะแต่ตอนนั้นก็ไม่ได้คิดไรเกินเลยมาก เลยบอกเออไปหาที่นั่งคุยกันไหม มีห้างแถวนี้ไกล้ๆไปนั่งคุยกัน เต้ยก็โอเคครับ เราก็ขับมอไซร์ไปกันเราก็ไปหาที่นั่งคุยเราคุยกันก็โอเครนะสนุกดีอะ พูดนู้นนี้นั้นกันเฮฮาดีจนประมาณ 2 ทุ่มกว่าเลยผมเลยเออๆๆ นัท (นานสมมุติตัวผม) เออกลับบ้านก่อนนะมันดึกละอะ เต้ยเลยบอกเออๆๆเดี่ยวลงไปส่ง ผมก็โอเค ตอนลงไปมันก็ตามว่าเองไปรถเมย์สายไร ผมก็นี้ไปๆๆๆ สายนี้อะ แต่มันขับไปแล้วเลยต้องรออีกสักพักนึง เออ เต้ยกลับเหอะ เดี๋ยวกูกลับเอง มันก็บอกเฮ้ย กูมีรถกูไปส่งป่าว ผมก็เกรงใจมันอะ ไม่ต้องๆๆกูกลับได้ มันก็บอกตึกแล้วๆๆเดี่ยวไปส่งให้กูมีมอไซร์เดี่ยวไปส่งทางไกล้ๆบ้านก็ได้ไม่ส่งถึงบ้านหรอกน่าไม่ต้องกล้ว เคร นั้นล่ะผมก็ซ้อนมอไซร์มาลงแถวหน้าปากซอยแถวบ้านแล้วก็บอกขอบใจมันมากๆ วันนั้นเราก็เพิ่งแลกไลน์กันไป พอดึกๆผมก็ไลน์บอกเออถึงละนะใจมากๆเลย
พอผ่านไปหลายๆๆวันเราก็ไม่ได้นัทเจออีกเพราะผมมีธุระเลยแค่ได้โทรคุยละก็ไลน์หากันบ้าง แต่ยอมรับนะครับว่าช่วงที่เราคุยกันบ่อยๆๆผมก็คิดหวั่นไหวเหมือนกัน เออมันน่ารักดีอะคุยตลอดถามหาผมตลอดไม่ได้คิดไปเองนะ มันโทรมันไลน์มาแบบนี้บ่อยๆจริงๆ จนมีครั้งนึงมันไลน์มา มันบอกว่า นัทรู้ปะว่าวันแรกที่เจอนัทอะเต้ยรู้สึกดีมากๆๆ แถวยังได้แอบโดนมือนัทด้วยเต้ยดีใจมากๆๆเลย พอผมอ่านผมรู้สึกดีมากๆเลย ตอนนั้นฟินยิ้มผ่านไลน์ มันก็เริ่มบ่งบอกแล้วว่าเรากำลังรู้สึกดีๆต่อกัน จนเรานัทกันเจออีกครั้งเพื่อจะไปดูหนังกัน พอถึงวันและเวลาที่เราว่างพร้อมกัน เรานัทเจอกันไว้เจอที่ The mall อะที่เรานั่งคุยกันที่เดิมตอนสักบ่าย 1 ครึ่ง เพราะหนังมาบ่ายสอง พอตอนเช้าของวันนั้นเต้ยโทรหาแต่เช้าเลยแล้วบอกว่า โอ้ยๆๆตื่นเต้นว่ะจะได้เจอนัทแล้วๆๆๆ แต่ผมก็เฉยๆนะตอนนั้นก็บอกไปว่า เออๆเดี๋ยวบ่ายๆๆก็เจอกันแล้วนะใจเย็นๆ พอสักไกล้บ่ายๆผมกลับรู้สึกตื่นเต้นแทนซะงั้น ผมพยายามแต่งตัวให้ดูดีดูตัวเองตรงกระจกตั้งนานตอนนั้นคือแบบ เอ้ยกูไม่เคยเป็นแบบบนี้นาสงสัยจะตื่นเต้นจริงๆ ตัดภาพไปตอนเจอกัน เต้ยเรียกผมว่า อยู่ไหนอะพ่อ นัทอยู่ชั้นหนังสืออะเดี่ยวไปหานะ เราโทรหากันหากัน พอเจอกันปั๊บ ครั้งนี้ผมโคตรรู้สึกดีอะ ไม่ได้รู้สึกแบบหื่นกามหรืออะไรนะ มันเป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูกอะเพราะรู้สึกดีแบบแปลกๆคงเหมือน ช กะ ญ ที่ไปเดชละเจอกันล่ะมั้ง ผมก็เดินไป เอ้อปะๆๆซื้อตั๋วหนังกัน เต้ยเป้นคนเลือกที่นั่งให้แถมจ่ายออกให้ผม ผมก็เกรงใจมันบอก ๆให้กูช่วยออกมั้งก็ได้กูเกรงใจอะ มันบอกงั้นเลี้ยน PoP corn เต้ยละกันมันมาจับหัวและก็บอกไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ โอ้โหหหโคตรฟินอะ แต่ก็เก็บอาการนิ่งไว้ พอมันฉี่เสร็จก็ออกมา แล้วบอกว่าเออยืมสิ่งที่ขอในไลน์นะ ผมก็แกล้งทำเป้นลืมแต่จำได้ 555 ขอไรวะเต้ย เอ้าก็ตอนดูหนังไง เต้ยขอนัทจับมืออะ นัทยังไม่ได้บอกเลยจะให้ป่าวเอาไง? ผมก็เงียบใส่ แอบหนังหน้าไปอีกทางอมยิ้มนิทๆๆๆ ในใจแบบ โอ้ยยยฟินโว้ยยยยยย พอเราได้เข้าไปดูหนังเต้ยก็เดินนำอย่างเร็วไปทางบันไททางขึ้นก่อนไปที่นั่งแล้วมันก็หยุด พร้อมกันยื่นมือด้านขวามันออกมาผมก็หยุดมองหน้ามองมือมัน มันก็ยิ้มละก็พยัคน์หน้าผมก็ยิ้มกลับ แล้วเข้าไปจับมือเต้ย ในใจแบบ โอ้ยยฟินโว้ยยยยอีกครั้ง พอไกล้ถึงผู้คนที่ดูหนังเต้ยก็ปล่อยมือผมออกแล้วก็ไปนั่งดูหนัง พอหนังเริ่มผ่านไปได้สักพัก เต้ยก็ทำเป็นป๊อปคอร์นไว้ทางที่นั้งผม ผมก็ตกใจในใจก็ยังไม่เคยจับมือใครในโรงหนังผมก็ยกมือหนีมัน มันก็มองหน้าผมแล้วก็กับไปไว้ที่เดิมผมก็วางมือลงที่เดิม สักพักเต้ยยื่นมือมาแบมืออันกว้างๆใหญ่แล้วก็หันมายิ้ม แล้วผมก็ไปมองหน้ามัน มันก็พูดแบบไม่มีเสียงว่า ขอ จับ มือ หน่อย ผมก็ยิ้มในใจก็เขิลๆๆอะไม่กล้าจับอะ มันก็ทำหน้าแบบได้โปรดๆๆจับเถอะๆ ตอนนั้นรู้สึกว่าเต้ยน่ารักมากๆๆเลย ผมเลยจับมือเต้ยไว้ หน้าหนังไปดูหนังต่อแต่หัวใจบอกว่า โอ้ยยยยฟินนนนนอ่าาาาา เราดูหนังจนจบแล้วก็ไปห้องของผมเพื่อไปนอนค้างคืนนึง มันสัญญาว่าจะไม่ทำไรผม ผมก็โอเค แต่ในใจก็บอกว่าโถ่ไม่แน่หรอก เอิ๊กๆๆๆ ตัดภาพไปตอนกินข้าวดูหนังอาบน้ำเสร็จ เข้าห้องด้วยกันละ มันไม่ทำไรผมจริงๆครับ นั่งเล่นโทรศัพท์ละเราก็คุยๆกันเหมือนเพื่อนเลย มันดูไม่เหมือนเกย์เลยอะชอบตรงนี้ พอเริ่มดึก มันก็เอาโน็คบุ๊คของมันมาทำงานผมก็ทำงาน พอทำงานเสร็จ ปิดไฟ +++++
เราก็กอดและจูบกันเท่านั้นครับไม่ได้มีไรด้วยกันเลย มันก็บอกมีรมณ์ผก็บอกว่ากูก็มีนะ แต่เราไม่ได้ทำไรกันแค่นอนกอดกัน กอดครั้งนี้ของผมรู้สึกได้ถึงความรักจริงๆๆอะ มันไม่ใช่แบบแค่แบบผิวเผินอะครับ พอเข้าผมไปเรียนันก็คงนอนอยู่ มันบอกปวดหัวเดี๋ยวจะรอผมจนเลิกเรียนเลย พอเลิกเรียนก็ธุระกินข้าวคุยกันทำงานปรกติ ก็ถาม เออเป็นไรหรอเห็นปวดตัวตอนเข้าๆ ไม่ค่อยสบาย ไม่สบายแบบนี้มานานแล้ว อ้อๆๆแต่ผมก็ไม่ได้ถามเพิ่ม เนี่ยเต้ยกินยาวันนึงเยอะมากเลยนะ ผมก็อ้อหรอ ไมกินเยอะ นัทว่าเป็นเยอะนะเนี่ยไม่ใด้ธรรมดาป่าว มันก็เลยบอกว่า เออความจริงแล้วอะ เต้ยเป็นมะเร็งนะ เต้ยอาจจะอยู่ได้ไม่นานนะ ผมอึ่งโคตรแล้วก็เข้าไปกอดมันเอ้ยเต้ยอย่าคิดมามีนัทอยู่นะ เอางี้สิเราก็ใช่เวลาให้มันคุ้มค่าสิเต้ย เดี่ยวว่างๆๆนัทพาไปทำบุญนะเอ็งเป็นขั้นไหนอะ เต้ยบอกขั้นแรก เออนี้ไงมีนัทอยู่เดี่ยวนัทจะช่วยสร้างกำลังใจให้นะ เต้ยจะได้มีพลังบางทีการไปทำบุญบ่อยๆทำจิตใจบ่อยๆกะนัทอาจจะทำให้มะเร็งชั้นแรกมันหายไปได้นะ----------โอเควันนั้นก็นอนหลับไปแต่ก็ไม่ได้มีไรกันเหมือนเคย
ภาพตัดตอนเต้ยไปเรียน แล้วผมก็ไม่เรียนเราทั้งสองก็ไม่ได้เจอกันสักพักช่วงนึง รู้ข่าวอีกที เต้ยป่าวเข้าโรงบาล เพราะกินยาเกินขนาดเพื่อประชดชีวิตตัวเองผมรู้ข่าวผมก็ตกใจนะ ก็เศร้าไปหลายวันเลย เพราะหมอบอกต้องนอนโรงบาลอย่างน้อย 2 อาทิตย์ ไลน์หรือโทรคุยกันไม่ได้เพราะจะทำให้คนไข้จิตวิตกซุ่มซ่าน วันนั้นผมก็เรียนปกติ จนประมาณสัก 11 โมงเช้าผมก็เรียนอยู่ล่ะ เต้ยโทรมาร้องไห้หนักเลย พูดประมาณว่า เต้ยขอโทษ ขอโทษๆ ผมก็ได้ยินมันก็สงสารอะ เพราะปกติมันเป็นคนร่าเริงพอได้ยินเสียงมันร้องผมก็หงอยเลย มันก็ขอโทษกะสิ่งที่ทำไป มันคิดมาก มันทำไปเพราะตัวผมเนี่ยรับไม่ได้ว่าป่วยเป็นมะเร็งแล้วจะทิ้งมันไปเหมือนกะคนอื่นๆ ผมก็บอกจะทิ้งได้ไงละ แค่มะเร็งขั้นแรกเอง เดี่ยวไม่แน่เราช่วยๆกันให้กำลังใจก็หายนะ ผมคุยแบบให้กำลังใจจนมันเลิกคิดมากได้ แล้วตกเย็นวันนั้นผมก็กลับหอ แต่ก็คิดถึงตามทางเดินที่เคยเดินด้วยกัน นึงถึงตอนชอบตบหัวผม นึกถึงหลายๆอย่างพอขึ้นบันไดขอก็จะนึกถึงตอนนี่เราพูดคุยกันพอเข้าห้องเท่านั้นล่ะ เจอว่ามันจัดห้องให้แถมซักเสื้อผ้า นักศึกษาให้ด้วยด้วย พอปิดประตู ผมก็ร้องไห้เฉย??? มันเป็นอาการที่ผมไม่เคยเป็น พอนึกถึงก็แปลกดีนะ อ้อกูมีคงมีความรักแล้วล่ะมั้งแบบนี้ ตอนนี้เรียนผมก็เอาแต่เหม่อๆลอยๆ ไลน์ให้เต้ยก็เพ้อแบบคนบ้าๆ แต่เต้ยก็ไม่ได้อ่านหรอกหมอยึดโทรศัพท์ไปแล้ว เพ้อในเฟสจนเพื่อนถามแปลกๆเพราะผมไม่ค่อยโฟสเรื่องความรักเท่าไหร่ พอผ่านไปได้สัก 1 อาทิตย์แล้วก็มีโทรศัพท์เบอร์ไม่คุ้นโทรมา ผมก็รับสายแต่ในใจก็คิดว่าอาจจะเป็นเต้ยล่ะ อัลโหลครับ? อัลโหลขอสายนัทหน่อยครับ เต้ยหรอ ผมถามกลับอย่างไว อื้มเต้ยเอง ผมร้องดีใจมากในตอนที่กำลังข้ามสะพานไปเรียนมีคนมองเยอะเลยแต่ตอนนั้นไม่สนใจคนที่มองเลย ความรักนี้ก็แปลกจริงๆทำให้คนแบบผมเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ นั้นล่ะผมก็ไปหาเพื่อนสนิทผมคนนึงที่ผมจะบอกเรื่องราวต่างๆให้รู้เสมอผมเราสนิทกันมาก ผมก็เล่าเรื่องเจ้าเต้ยให้ฟังไรงี้ ว่าตอนนี้มันป่วยนะไรงี้
ดูเหมือนข้อความที่โพสจะจำกัดปริมาณการพิมพ์คับครับ เดี่ยวผมจะมาโพสต่อนะคับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่