[CR] สโลว์ไลฟ์ในถิ่นจิงโจ้ :) --- Melbourne & Sydney ---

กระทู้รีวิว
พวกเราเชื่อว่าตอนเด็กๆ ทุกคนก็คงมีฝันที่อยากจะไปเที่ยวที่นู่น ไปที่นั่นที่นี่
แต่เมื่อโตขึ้นก็มีแค่บางคนเท่านั้น ที่สามารถจะทำฝันในวัยเด็กนั้นให้เป็นจริงขึ้นมาได้
ผมก็มีฝันในทำนองนี้เหมือนกันครับ ฝันที่จะได้ให้ 2 เท้าของเราได้ไปสัมผัสที่ที่เรายังไม่เคยได้ไป
จนในที่สุดเวลาและจังหวะที่ลงตัวจากการที่ผมได้ปิดเทอม ม.6 ขึ้นมหาลัย ปีนี้เป็นปีที่โชคดีสุดๆเลย
เพราะได้ปิดนานถึง 6 เดือน (เพื่อเปิดตาม ASEAN)
เอาเป็นว่าไม่รู้จะทำอะไรกันเลยทีเดียว 55+ ผมจึงได้ชวนเพื่อนออกไปหาอะไรใหม่ๆในชีวิต
โดยตั้งใจจะข้ามน้ำข้ามทะเลไปไกลจากบ้านเราหน่อย
และสุดท้ายก็ลงเอยที่ดินแดนจิงโจ้ "ออสเตรเลีย" ครับ ยิ้ม

ปล. อันนี้เป็นการเขียนรีวิวครั้งแรกของพวกเรา ถ้าตกหล่นอะไรไปก็ขอโทษด้วยนะคับ รูปก็ไม่ค่อยจะสวยซะด้วย 5555+
ปล.2 ทริปนี้จริงๆไปช่วงปีที่แล้วนะคับ ดองมาข้ามปีแล้ว แต่พอดีพึ่งจะปิดเทอมเลยอยากมาแชร์คับ อิอิ



กระทู้นี้ผมตั้งใจจะเล่าว่าที่ไปมาทั้งหมด 9 คืน 8 วันนี้ ผมประทับใจอะไรบ้างในดินแดนนี้ที่เป็นทั้งทวีปและประเทศ
ก็เรามาเริ่มกันเลยละกันนะคร้าบ อมยิ้ม04

8. ส่วนผสมระหว่างดินกับคอนกรีต [Sydney]



สัดส่วนของเมืองที่นี่ค่อนข้างจะแบ่งชัดเจนครับ ส่วนที่เป็นเมืองก็จะเป็นตึก เป็นเมือง มีแต่สีเทาๆ อาคารสูงๆ
แต่ว่าพื้นที่สีเขียวของเขานั้นก็ไม่น้อยเลยทีเดียว จะมีบริเวณที่เป็นสวนสาธารณะ ซึ่งมีไม่น้อย
และแต่ละที่ก็เรียกได้ว่าขนาดใหญ่มากเลยทีเดียว
เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจที่ดีมากๆ จะได้เห็นคนทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะมาเป็นกลุ่มครอบครัวมาทำกิจกรรมร่วมกัน
ทั้งมาวิ่ง มานั่งเล่น มาชมบรรยากาศรอบๆ ซึ่งผมว่าเป็นอะไรที่ดีมากๆ มีการจัดระเบียบและดูแลที่ดี
เห็นแล้วก็สบายตาจริงๆที่ได้เห็นอะไรอย่างนี้ที่อยู่ใกล้เมือง สามารถเดินได้และต้องการจะไปเมื่อไหร่ก็ได้ อิจฉาเบาๆเหมือนกันคับ 55+





ปล. ที่จริงที่เมลเบิร์นน่าจะมีพื้นที่ที่เป็นสวนสาธารณะมากกว่าซิดนีย์อีก แต่ผมว่าที่ซิดนีย์ดูเป็นอะไรที่ contrast กับตัวเมืองของมันมากกว่า
เพราะเมลเบิร์นเป็นเมืองที่เล็กและเดินง่ายมาก ตัวเมืองเป็นรูปเหลี่ยมๆ แต่ถ้าเดินหลุดออกมานิดเดียวก็จะเหมือนอยู่อีกเมืองเลยแล้ว

7. รู้จักเรียนเพื่อเรียนรู้



ถ้าลองชวนหรือพาเด็กๆบ้านเราไปพิพิธภัณฑ์เมื่อไหร่ ก็คงจะโดนการทำหน้าบึ้งใส่ซะส่วนใหญ่
แต่ที่ออสเตรเลียนี้ ไม่ว่าจะเมืองไหนก็จะมี Museum และจัดงาน exibition อยู่อย่างต่อเนื่อง
ซึ่งเท่าที่ผมไปมาทุกๆที่ล้วนมีอะไรที่ทำให้การเดินชมนั้นไม่เคยน่าเบื่อ
ที่นี่จะมีการจัดโซนต่างๆไว้อย่างสร้างสรรค์และมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง
ทุกๆมิวเซียมจะได้เห็นครอบครัวพาเด็กตัวเล็กๆมาเรียนรู้ มาวิ่งเล่น มาเปิดโลกนอกห้องเรียน ซึ่งเด็กๆเหล่านี้ก็ดูมีความสุข
และสนุกกับสิ่งที่เขาได้เห็น แต่ก็ต้องยอมรับว่ามิวเซียมของเขาทำได้ดีจริงๆ และมีค่อนข้างจะครบทุกแนวเลย
ทั้งประวัติศาสตร์ วิทยาศาสตร์ทุกแขนง ศิลปะ และอีกมากมาย
ซึ่งหลายๆอย่างที่ผมเคยเรียนในห้องเรียนก็เพิ่งเคยจะได้มาเห็นของจริงๆในมิวเซียมของที่นี่แหละครับ



อันนี้เป็นโซน Botany ที่จำลองพืชหลายๆชนิดให้ได้เห็นว่า แถวนี้มีต้นไม้อะไรบ้าง โดยจัดเป็นโซน Outdoor ให้คนได้มาเดินชมครับ



เด็กม.ปลายสายวิทย์ต้องได้เรียนแน่นอนเรื่องนี้ เป็นเรื่อง joint ในร่างกายคน ​ซึ่งแน่นอนว่าหลายๆคนที่ผ่านมาก็คงงง
เพราะ ชื่อมันไม่ค่อยสื่อเท่าไหร่ เช่น แบบลูกกลมในเบ้า ฯลฯ ซึ่งก็ไม่ค่อยจะเห็นภาพซักเท่าไหร่ จำล้วนครับ 55+
แต่พอมาเห็นแบบนี้ก็เก็ทขึ้น ยิ้ม



หวังว่าพิพิธภัณฑ์บ้านเราจะพัฒนาและเป็นแหล่งการเรียนรู้ที่สำคัญของเด็กๆในรุ่นต่อๆไป
รวมทั้งเป็นที่ที่ให้เด็กมาเห็นอะไรที่เป็นของจริงในสิ่งที่ตัวเองชอบ มีจัด exibition ที่หลากหลายและมีการประชาสัมพันธ์ที่ดี
อย่างช่วงที่ที่ผมไปก็มีการจัด exibition ของ DREAMWORKS Animation พอดีที่ ACMI บริเวณ Federation square ในเมลเบิร์น
ก็ค่อนข้างคึกคักครึกครื้นทีเดียว เป็นอะไรที่ผมว่าเจ๋งและคูลมากๆเลยคับ



ปล. จริงๆในไทยก็มีมิวเซียมดีๆที่น่าสนใจและน่าจะให้ความสนใจกับเด็กได้นะคับ ที่ผมชอบมากๆเลย คือ
มิวเซียมสยาม กับ นิทรรศน์รัตนโกสินทร์ ซึ่งจะออกเป็นแนวประวัติศาสตร์
แนะนำว่าว่างๆหรือวันหยุด ถ้าไม่มีโปรแกรมไปไหน ลองไปดูของดีกันได้นะครับ น่าสนับสนุน ยิ้ม



อันนี้จาก Powerhouse museum ที่ Sydney คร้าบ

6. บางอย่างยิ่งเก่า ยิ่งมีคุณค่า [Melbourne]



เป็นสิ่งที่ผมยอมซื้อทัวร์แบบ 1 วัน เพื่อไปใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ตามทัวร์บ้าง ซึ่งก็ได้อะไรที่คุ้มค่ากลับมาอย่างมาก
ทัวร์ที่ผมไปคือ การไปนั่งรถไฟไอน้ำแบบยุคเก่า Puffing Billy ซึ่งเป็นรถไฟสายที่เจ๋งที่สุดเท่าที่ผมเคยนั่งมา
บรรยากาศดีสุดๆแม้จะเปียกชื้นนิดหน่อยจากไอน้ำ ได้นั่งห้อยขาชมป่าเขารอบตัว 360 องศา ซึ่งระหว่างนั่งผมก็ได้คิดอะไรไปเรื่อยๆ
เป็นโมเมนต์ที่ชิลที่สุดในทริปนี้ก็ว่าได้ เป็นอะไรที่เก่าแก่แต่ผมว่ามีคุณค่าในตัวมากๆ
มีทั้งเด็ก วัยรุ่น คุณตาคุณยาย ที่เปี่ยมด้วยแววตาแห่งความสุขตลอดเส้นทางรถไฟขบวนแห่งความฝันนี้
เป็นอะไรที่ประทับใจมากๆ จะเสียดายมากๆถ้าไม่ได้มาคับ ยิ้ม





อันนี้ระหว่างทางไปก็มีจุดแวะพักให้ทานข้าวเช้า และชมป่าๆ รวมทั้งบรรยากาศรอบๆซึ่งเป็นต้นไม้ขนาดใหญ่มากๆ
ผมว่ามีหลายๆต้นที่เป็นหลัก 100 ปีแน่ๆ



รวมทั้งเราก็ได้แวะเขตรักษาพันธุ์สัตว์ที่ปล่อยสัตว์ให้อยู่ตามธรรมชาติ แล้วก็ปล่อยให้เราเดินได้อย่างใกล้ชิด
ก็ได้พบกับสัตว์ประจำท้องถิ่นมากมายทั้งโคอาล่า แทสมาเนียเดวิล อีกมากมาย และแน่นอนว่าที่เราตามหาก็คือ "จิงโจ้" ยิ้ม



สงสัยจะเบื่อพวกเรามาถ่ายรูป หน้าตาเลยบึ้งๆ 5555+ แต่เอาจริงๆก็น่ารักดีครับ

5. Arts is everywhere [Melbourne]



เชื่อว่าหลายๆคนคงได้ยินเรื่องความติสของเมืองเมลเบิร์น
ซึ่งก็จริงอย่างที่เขาว่ากันแหละครับ เมืองนี้เป็นเมืองแห่งศิลปะจริงๆ
มี Art gallery อยู่หลายแห่งซึ่งสามารถเข้าชมได้ฟรี มีสถาปัตยกรรมแปลกตาให้เห็นอยู่เรื่อยๆ







ซึ่งก็มีอยู่หลายอย่างที่ผมเข้าไม่ถึง คงไม่ติสพอจะเข้าใจได้ อย่างที่เห็นข้างบนครับ 55+
แต่ที่ชอบที่สุดเลย คือ Street Arts ครับ
ที่นี่มีทั้ง Graffiti มากมาย ศิลปะทั่วไปตามท้องถนน ผู้คนออกมาโชว์ของจำนวนมากทั้งเล่นดนตรี ร้องเพลง มายากล
และอีกมากมายที่น่าหลงใหลมาก โดยปกติผมก็ไม่ใช่คนที่ชอบหรือว่าคลั่งไคล้กับศิลปะมาก
แต่มาที่นี่ต้องยอมรับจริงๆว่าศิลปะอยู่ในทุกๆที่ ในจิตวิญญาณของทุกๆคน และเป็นอะไรที่น่าตามหาและมีสเน่ห์มากจริงๆ
คงให้รูปอธิบายอะไรหลายๆอย่างดีกว่าคับ ยิ้ม





มือกลองที่พอโชว์ปุ๊บ คนจะมายืนล้อมเป็นวงกลมเพื่อดูลีลาเด็ดของเค้า





คนนี้วาดรูปโดยใช้เพียงปากกาดำในการวาดและแรเงา และใช้สก็อตเทปเพื่อแปะผลงานของเขาให้คนได้ชม
นอกจากที่เห็นเขาจะมีการวาดภาพติสๆใส่ A4 แล้วก็แจกให้กับคนที่สนใจเดินผ่านไปมาฟรีเลยครับ
ผมก็ได้หยิบกลับมาเป็นที่ระลึกด้วยอันนง เจ๋งมากๆเลยครับ

ขอพักไว้ก่อนนะครับ เดี๋ยวจะมาแชร์ประสบการณ์ต่อนะครับ ยิ้ม
ชื่อสินค้า:   Australia
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่