สวัสดีค่ะ
ชวนคุยกันสักนิดก่อนเข้าเรื่องนะคะ
ปกติเราทำสีผมเอง (ทำเองคนเดียวจริงๆ) ทำเองมาประมาณ 3 ปีแล้ว
มันเริ่มจากการเข้าร้านเพื่อทำสีครั้งแรก แล้วติดใจการทำสี พอทำครั้งที่สอง สีไม่ตรงตามต้องการ
ราคาในการเข้าทำสีแต่ละครั้ง 1 พันกว่าบาทขึ้นไป แต่แต่แต่ มันไม่ได้สีที่ต้องการ บางครั้งสีหลุดเร็ว
พอเปลี่ยนร้านก็เหมือนเป็นการเปลี่ยนช่างใหม่ต้องลุ้นว่าจะออกมาโอเคไหม ถ้าไม่โอเคก็ ต้องเปลี่ยนร้าน
....จนเหตุมาเกิด ครั้งก่อนสุดท้ายในการทำสีผมที่ร้าน คือ
คุยราคากับช่าง ค่านู๋นี้นั้น รวมแล้ว 1800 เราก็โอเค เราก็ทำราคาประมาณนี้แหละ และทุกร้านที่เราเข้าเราจะเลือกให้ยี่ห้อ -อ ลี -ัล ตลอด เพราะเราคิดเอาเองว่าราคาดีก็น่าจะคุณภาพดี ไม่ทำให้ผมเสียมาก
พอช่วงที่ช่างเอาครีมเปลี่ยนสีผมมาทาให้เรา กลิ่นมาเลยคร๊าาาา กลิ่นฉุนมาก เรารู้เลยว่าไม่ใช่ที่คุยกันไว้
เราเลยพูดกับช่าง
เรา : พี่ นี้มันไม่ใช่-อลี-ัล หรอค่ะ
ช่าง: ใช่สิน้อง ทำไมมันจะไม่ใช่
เรา : ปกติกลิ่นมันแรงขนาดนี้นะคะ
ช่างก็ยังเถียงและยืนยันว่านี้นะ -อลี-ัล แน่นอน แถมไปหยิมกล่องมาให้ดูว่าแกะจากกล่องเลย
เรา : งั้นหนูขอซื้อ -อลี-ัล กล่องนึง แล้วพี่ไปเอาถ้วยมา หนูจะแกะเดี๋ยวนี้เลย หนูจะได้รู้ว่ามันเป็นกลิ่นแบบนี้จริงๆ
ช่างลังเล สักพัก ก็เข้ามาคุยกับเราเบาๆ ว่าจริงๆ มันไม่ใช่หรอก เป็นยี่ห้ออื่น เค้าเห็นว่าสภาพผมเราแข็งแรงใช้ตัวนี้ สีติดดีว่าด้วย
ช่างขอโทษเรา และจะลดราคาให้ครึ่งหนึ่ง
แต่เราไม่เอาค่ะ เราขอให้เค้าแค่ล้างผมให้ (ลงสีที่ท้ายทอยไปช่อแล้ว)
หมดค่ะ หมด ความไว้ใจ เข้าร้านต้องจ่ายเงินขนาดนี้ ยังไม่ได้ที่ต้องการ แถมเกือบโดนหลอกอีก
หรือ จะให้ไปร้านโปรแบบราคา 3000-4000 ก็คงไม่ไหว เราก็ไม่ได้เงินเยอะแยะอะไร
มันเลยเกิดจร้าาาาาา อารมณ์คะ อารมณ์ หุหุ
ถ้ามันจะพัง ก็ขอพังด้วยมือเราเองละกัน เรายังไม่เคยทำ ไม่ได้แปลว่าทำไม่ได้
ดังนั้นเราจึงเริ่มการทำสีผมเองคะ
อ่านและศึกษาจาก อากู๋ ในเรื่องของเม็ดสีเพื่อให้ได้สีที่ต้องการ
ลองผิด ลองถูก ลองตั้งแต่ราคาแพงไปจนไปถึงราคาถูก
หลังจากที่ลองมาหลายตัว เรามาเจอกับยี่ห้อที่เราทำวันนี้คะ ซึ่งมัน
เหมาะกับเราที่สุด
ก่อนหน้านี้เคยใช้อีกยี่ห้อ คือ เ-อรี-่า สีติดดีเหมือนกัน แต่เราดันแพ้ ตอนที่ลงสีตรงด้านหน้าแล้วทิ้งเวลาไว้ เราแสบหน้าและมีผื่นขึ้นที่หน้าผาก
แต่พอล้างสีออก ผื่นก็หายไป
ต้องบอกก่อนนะ
เน้น สะดวกเรา ประหยัดเรา และผลที่ได้เป็นไปตามความพอใจของเรา
1.นี้คือรูปสีผมเดิม ก่อนที่จะทำสีในครั้งนี้นะคะ สีค่อนข้างอ่อน และรูปที่ใส่เสื้อสีดำ มีเลขหนึ่งกำกับข้างบน คือเช้าของวันที่จะทำสีคะ
จากครั้งก่อนที่ทำสีไว้ ผ่านมาประมา สองเดือนครึ่งคะ ผมยาวเพิ่มขึ้นมาประมาณ สองนิ้วคะ
2.สีผม ก่อนลงมือทำคะ เราทำตอนทุ่มกว่า แสงในห้องจะขาวมัวๆนิดนะคะ เพราะหลอดไฟในห้องเป็นหลอดกลมๆสีขาวคะ
3. เราใช้ของตามนี้เลยคะ
- สีผม เบอร์ 711 น้ำตาลประกายเทา ราคากล่องประมาร 47 บาท จำนวน 5 กล่องคะ
ใช่คะ ไม่ได้เขียนผิด 5 กล่องคะ
- น้ำยา (ขวดสีชมพูเล็กๆ) สำหรับ ผสมในสี เพื่อช่วยบำรุง และ
ลดกลิ่นของสีคะ ราคาประมาณ 50 บาท ยี่ห้ออะไรก็ได้
- ล้างเคมี (ขวดสีฟ้าเล็กๆ) สำหรับล้างเคมีหลังทำสีในผมออกคะ ประมาณ 50 บาท ยี่ห้ออะไรก็ได้
- วิตามินใส่ผม หลังสระคะ ยี่ห้ออะไรก็ได้
- เบบี้ออย สำหรับทาหน้า และ
ทาตัวคะ
อุปกรณ์อื่น ตามสะดวกคะ
- ถุงมือยาง เอาที่พอดีมือใส่แล้วกระชับนะคะ จะยิ่งทำให้หยิบจับได้สะดวกมากขึ้น เตรียมไว้หลายๆคู่หน่อย 4-5 คู่ยิ่งดี
- ผ้าคลุมไหล่ แต่เรามีเสื้อยืดตัวเก่งคะ เก็บไว้สำหรับทำสีผมเลย ใช่เสร็จก็ซักเอา เพราะมันเปื้อนและเลอะเทอะแน่นอน
- กิ๊กปากเป็ด สำหรับหนีบผมคะ
- เอ็มแรป สำหรับปิดผมช่วงที่รอเวลา
ของเราหมดแล้ว เลยถุงพลาสติดใบใหญ่ๆคะ ใช่ได้เหมือนกัน
- ถ้วย ถัง กะละมัง อะไรก็ได้....ที่เป็นพลาสติกสำหรับ ผสมสีผม
4.เทสีลงผสมคะ และใส่เจ้าตัวน้ำยาที่ช่วยดับกลิ่น
***** สำคัญมากๆ ช่วงที่ผสมสี
ห้าม ห้าม ห้าม ห้าม โดนลมคะ และต้องคนสีไปในทางเดียวกัน เพื่อไม่ให้อากาศเข้าไปในเนื้อครีมคะ
5. หวีผมให้เรียบร้อยแล้ว แบ่งผมคะ ยิ่งแบ่งมาก ก็จะยิ่งง่ายในการลงสี เพราะอย่าลืมนะ ว่าเราต้องลงสีเอง เราแบ่งครึ่งซ้ายขวา และแต่ละข้าง เราแบ่งเป็น 5 ช่อคะ
และ
อย่าลืม ทาเบบี้ออยที่ กรอบหน้า หู หลังใบหู ต้นคอ ด้านหน้าด้านหลัง ถ้าใครใช้ผ้าคลุมกันเปื้อนแบบที่ร้านก็ไม่ต้องกังวลมากแต่เราใช้แค่เสื้อยืดตัวใหญ่ๆ เราเลยทา แขนทั้งแขน
ขั้นตอนการลงสีคะ เราไม่ได้ถ่ายไว้นะ เพราะมันเลอะเทอะมาก (นึกภาพตามนะคะ) เราต้องเอื้อมือไปด้านหลังเพื่อลงสีโดยที่มองไม่เห็นนะจ๊ะ
*** เริ่มทำจากท้ายทอยคะ ทำจากท้ายสุด ซ้ายขวา แล้วค่อยๆแกะกิ๊บไล่มาจนถึงข้างหน้าสุด
*** เวลาลงสี ให้เว้นโคนผมประมาณ 2 cm. ถามว่า มองไม่เห็นข้างหลังแล้วจะรู้ได้ไงว่าเว้น 2 cm. แล้ว ให้ใช้นิ้วมือในการช่วยวัดคะ
*** ใช้มือในการลงสีคะ
เพราะเหตุนี้ เราจึงต้องใช้สีผมหลายกล่องกว่าปกติ ถ้าไปทำที่ร้านหรือมีเพื่อนช่วยลงสีให้อาจใช้แค่สองกล่อง แต่ในเมื่อต้องทำเอง เพื่อการลงสีที่ทั่วถึงสีติดทั่วกันทั้งหัว ปริมาณจึงเป็นสิ่งจำเป็นคะ แต่ขนาดเราใช้ 5 กล่อง ค่าเสียหายก็เพียง 235 บาท เองคะ
*** เวลาลงสีไม่ควรโดนพัดลม หรือโดนลมนะ ใครไม่มีห้องแอร์ก็ร้อนหน่อยนะ
*** เวลาลงสี ก็ใส่ถุงมือเรียบร้อยแล้ว ก็ใช้มือนี้แหละคะ ตักสีให้ติดปลายมือมาสักหน่อยไม่ต้องเยอะมาก เดี๋ยวจะหกซะก่อนที่ได้ทาลงบนเส้นผม
อันนี้แหละที่สำคัญคือ ช่วงที่เราจับช่อผมมาเพื่อจะลงสี เราก็ใช้นิ้วชี้วางลงบนโคนผมโดยประมาณ ก็จะเป็นการช่วยกะระยะเว้นโคนผมไปด้วย
เมื่อ ป้ายครีมลงบนเส้นผมแล้วก็
ใช้วิธี ค่อยบีบๆ บีบให้ครีมเข้าไปในเส้นผม บีบแล้วค่อยๆไล่มือลงมา พอรู้สึกว่าไม่มีเนื้อครีมก็ตักครีมมาป้ายเพิ่ม * ตอนที่จับจะรู้สึกได้เลยคะ ว่าเนื้อครีมแทรกเข้าไประหว่างเส้นผมแล้ว
ป้าย บีบ ไล่ ลูบ/บีบ
ป้าย ครีมลงเส้นผม
บีบ ให้เนื้อครีมแทรกเข้าไปในเส้นผม
ไล่ ค่อยๆไล่มือลงมาทีละน้อย
ลูบและบีบ เบาๆบนช่อผมที่ลงครีมแล้วเพื่อเช็คว่าครีมทั่วถึงทุกเส้นผม
6. เมื่อลงครีมทุกช่อแล้ว ก็ใช้ เอ็มแรป คลุมผม แต่ แต่ แต่ เราไม่มี เลยจัดถุงพลาสติกใหญ่ๆนี้แหละจร้า
คลุมเพื่อไม่ให้ตัวครีมโดนลมจร้า (ไม่ควรเปิดพัดลมเป่านะจ๊ะ ถ้าโดนลม ผลคือสีไม่ออกคะ ไม่ได้สีตามที่ต้องการจร้า) เราทำให้ห้องแอร์เลย สบายๆ แต่ก็ต้องไม่ให้โดนลมแอร์ด้วยนะ
แล้วทิ้งเวลาไว้ ประมาณ 50 นาทีจร้า ใครสีติดยาก ก็ทิ้งไว้สักชั่วโมงเลยก็ได้นะ
7. พอครบเวลา ก็แกะออกมาเช็ค ว่าสีติดหรือยัง ถ้ายังก็ทิ้งเวลาต่อไปอีกหน่อย แต่ถ้าครบแล้ว ก็มาลงสีที่โคนผมเลย เริ่มจากท้ายทอยเหมือนเดิม แต่ครั้งนี้จะลงง่ายขึ้น เพราะตักครีมป้ายไปตรงโคนผมแล้วบีบๆ ให้ทั่วโคนผมได้เลย ทำจนครบแล้วทิ้งเวลาไว้ สัก 10 - 15 นาที (โคนผมสีจะติดง่ายมากๆคะ)
ดูจากรูปก็คงรู้นะ ว่า เลอะเทอะแน่นอน แต่ล้างออกแน่นอนจร้า
9. เมื่อครบเวลา ก็ไป อาบน้ำกัน เถอะ
ค่อยแกะผมออก แล้วเอาน้ำค่อย พรมลงบนเส้นผม นวดๆ พรมน้ำ นวดๆ พรมน้ำ ทิ้งๆสัก 5-10 นาที
จากนั้นก็ไปล้างผมกันคะ
ตอนล้างจะรู้สึกเลยว่า เสียดายครีม 555 เพราะมันเยอะมาก ล้างน้ำเยอะ ๆ หลาย ๆ น้ำ ล้างจนไม่มีครีม ล้างจนน้ำใส ไม่มีครีมไม่มีฟองติดออกมา
จากนั้นก็ สระด้วยแชมพูหนึ่งรอบ แล้วลงน้ำยาล้างเคมีคะ(ไอ้เจ้าขวดสีฟ้าเล็กๆอะคะ) นวดๆ แล้วล้างน้ำเปล่าออกอีกรอบ แล้วค่อยลงครีมนวดผม
นี้แหละจร้า สีผมตอนเปียกน้ำ
เอ่อ เราไม่ได้เปลี่ยนสีคิ้วนะคะ ไม่ชอบและคิดว่าคิ้วมันอยู่ใกล้ดวงตามากเกินไป ใครกลัวสีคิ้วโดด ใช้วิธีเขียนและปัดมาคาร่าเปลี่ยนสีดีกว่าเนอะ
และแล้ว
สีผมตอนเป่าแห้งแล้วนะคะ ถ่ายในห้องแสงน้อย + ง่วงแล้วด้วย (สังเกตุได้จากหน้าและใต้ตาเริ่มดำ)
และนี้ ตอนเช้าคะ ถ่ายจากแสงต่างๆนะคะ
และนี้ กลับห้องมา เลยถ่ายจากแสงในห้องเราอีกครั้งนะคะ แสงน้อย เพราะในห้องเป็นหลอดไฟกลมๆ เราเลยรู้สึกว่ามันมัวๆหน่อยนะคะ
จบแว้วววว
* ไว้ถ้าหารูปเจอ จะเอารูปตอนทำสี ด้วยเบอร์อื่นๆมาให้ดูจร้า
** ใคร ทำสีอะไร แบบไหนยังไง สีออกมาสวยไหม มาแบ่งกันดูได้นะคะ
*** ใครสงสัย มีคำถาม ยินดีตอบนะคะ
ถ้าผิดพลาดยังไง ก็ต้องขอโทษด้วยนะคะ
มาทำสีผมด้วยตัวเองกันเถอะ
ชวนคุยกันสักนิดก่อนเข้าเรื่องนะคะ
ปกติเราทำสีผมเอง (ทำเองคนเดียวจริงๆ) ทำเองมาประมาณ 3 ปีแล้ว
มันเริ่มจากการเข้าร้านเพื่อทำสีครั้งแรก แล้วติดใจการทำสี พอทำครั้งที่สอง สีไม่ตรงตามต้องการ
ราคาในการเข้าทำสีแต่ละครั้ง 1 พันกว่าบาทขึ้นไป แต่แต่แต่ มันไม่ได้สีที่ต้องการ บางครั้งสีหลุดเร็ว
พอเปลี่ยนร้านก็เหมือนเป็นการเปลี่ยนช่างใหม่ต้องลุ้นว่าจะออกมาโอเคไหม ถ้าไม่โอเคก็ ต้องเปลี่ยนร้าน
....จนเหตุมาเกิด ครั้งก่อนสุดท้ายในการทำสีผมที่ร้าน คือ
คุยราคากับช่าง ค่านู๋นี้นั้น รวมแล้ว 1800 เราก็โอเค เราก็ทำราคาประมาณนี้แหละ และทุกร้านที่เราเข้าเราจะเลือกให้ยี่ห้อ -อ ลี -ัล ตลอด เพราะเราคิดเอาเองว่าราคาดีก็น่าจะคุณภาพดี ไม่ทำให้ผมเสียมาก
พอช่วงที่ช่างเอาครีมเปลี่ยนสีผมมาทาให้เรา กลิ่นมาเลยคร๊าาาา กลิ่นฉุนมาก เรารู้เลยว่าไม่ใช่ที่คุยกันไว้
เราเลยพูดกับช่าง
เรา : พี่ นี้มันไม่ใช่-อลี-ัล หรอค่ะ
ช่าง: ใช่สิน้อง ทำไมมันจะไม่ใช่
เรา : ปกติกลิ่นมันแรงขนาดนี้นะคะ
ช่างก็ยังเถียงและยืนยันว่านี้นะ -อลี-ัล แน่นอน แถมไปหยิมกล่องมาให้ดูว่าแกะจากกล่องเลย
เรา : งั้นหนูขอซื้อ -อลี-ัล กล่องนึง แล้วพี่ไปเอาถ้วยมา หนูจะแกะเดี๋ยวนี้เลย หนูจะได้รู้ว่ามันเป็นกลิ่นแบบนี้จริงๆ
ช่างลังเล สักพัก ก็เข้ามาคุยกับเราเบาๆ ว่าจริงๆ มันไม่ใช่หรอก เป็นยี่ห้ออื่น เค้าเห็นว่าสภาพผมเราแข็งแรงใช้ตัวนี้ สีติดดีว่าด้วย
ช่างขอโทษเรา และจะลดราคาให้ครึ่งหนึ่ง
แต่เราไม่เอาค่ะ เราขอให้เค้าแค่ล้างผมให้ (ลงสีที่ท้ายทอยไปช่อแล้ว)
หมดค่ะ หมด ความไว้ใจ เข้าร้านต้องจ่ายเงินขนาดนี้ ยังไม่ได้ที่ต้องการ แถมเกือบโดนหลอกอีก
หรือ จะให้ไปร้านโปรแบบราคา 3000-4000 ก็คงไม่ไหว เราก็ไม่ได้เงินเยอะแยะอะไร
มันเลยเกิดจร้าาาาาา อารมณ์คะ อารมณ์ หุหุ
ถ้ามันจะพัง ก็ขอพังด้วยมือเราเองละกัน เรายังไม่เคยทำ ไม่ได้แปลว่าทำไม่ได้
ดังนั้นเราจึงเริ่มการทำสีผมเองคะ
อ่านและศึกษาจาก อากู๋ ในเรื่องของเม็ดสีเพื่อให้ได้สีที่ต้องการ
ลองผิด ลองถูก ลองตั้งแต่ราคาแพงไปจนไปถึงราคาถูก
หลังจากที่ลองมาหลายตัว เรามาเจอกับยี่ห้อที่เราทำวันนี้คะ ซึ่งมันเหมาะกับเราที่สุด
ก่อนหน้านี้เคยใช้อีกยี่ห้อ คือ เ-อรี-่า สีติดดีเหมือนกัน แต่เราดันแพ้ ตอนที่ลงสีตรงด้านหน้าแล้วทิ้งเวลาไว้ เราแสบหน้าและมีผื่นขึ้นที่หน้าผาก
แต่พอล้างสีออก ผื่นก็หายไป
ต้องบอกก่อนนะ
เน้น สะดวกเรา ประหยัดเรา และผลที่ได้เป็นไปตามความพอใจของเรา
1.นี้คือรูปสีผมเดิม ก่อนที่จะทำสีในครั้งนี้นะคะ สีค่อนข้างอ่อน และรูปที่ใส่เสื้อสีดำ มีเลขหนึ่งกำกับข้างบน คือเช้าของวันที่จะทำสีคะ
จากครั้งก่อนที่ทำสีไว้ ผ่านมาประมา สองเดือนครึ่งคะ ผมยาวเพิ่มขึ้นมาประมาณ สองนิ้วคะ
2.สีผม ก่อนลงมือทำคะ เราทำตอนทุ่มกว่า แสงในห้องจะขาวมัวๆนิดนะคะ เพราะหลอดไฟในห้องเป็นหลอดกลมๆสีขาวคะ
3. เราใช้ของตามนี้เลยคะ
- สีผม เบอร์ 711 น้ำตาลประกายเทา ราคากล่องประมาร 47 บาท จำนวน 5 กล่องคะ ใช่คะ ไม่ได้เขียนผิด 5 กล่องคะ
- น้ำยา (ขวดสีชมพูเล็กๆ) สำหรับ ผสมในสี เพื่อช่วยบำรุง และ ลดกลิ่นของสีคะ ราคาประมาณ 50 บาท ยี่ห้ออะไรก็ได้
- ล้างเคมี (ขวดสีฟ้าเล็กๆ) สำหรับล้างเคมีหลังทำสีในผมออกคะ ประมาณ 50 บาท ยี่ห้ออะไรก็ได้
- วิตามินใส่ผม หลังสระคะ ยี่ห้ออะไรก็ได้
- เบบี้ออย สำหรับทาหน้า และ ทาตัวคะ
อุปกรณ์อื่น ตามสะดวกคะ
- ถุงมือยาง เอาที่พอดีมือใส่แล้วกระชับนะคะ จะยิ่งทำให้หยิบจับได้สะดวกมากขึ้น เตรียมไว้หลายๆคู่หน่อย 4-5 คู่ยิ่งดี
- ผ้าคลุมไหล่ แต่เรามีเสื้อยืดตัวเก่งคะ เก็บไว้สำหรับทำสีผมเลย ใช่เสร็จก็ซักเอา เพราะมันเปื้อนและเลอะเทอะแน่นอน
- กิ๊กปากเป็ด สำหรับหนีบผมคะ
- เอ็มแรป สำหรับปิดผมช่วงที่รอเวลา ของเราหมดแล้ว เลยถุงพลาสติดใบใหญ่ๆคะ ใช่ได้เหมือนกัน
- ถ้วย ถัง กะละมัง อะไรก็ได้....ที่เป็นพลาสติกสำหรับ ผสมสีผม
4.เทสีลงผสมคะ และใส่เจ้าตัวน้ำยาที่ช่วยดับกลิ่น ***** สำคัญมากๆ ช่วงที่ผสมสี ห้าม ห้าม ห้าม ห้าม โดนลมคะ และต้องคนสีไปในทางเดียวกัน เพื่อไม่ให้อากาศเข้าไปในเนื้อครีมคะ
5. หวีผมให้เรียบร้อยแล้ว แบ่งผมคะ ยิ่งแบ่งมาก ก็จะยิ่งง่ายในการลงสี เพราะอย่าลืมนะ ว่าเราต้องลงสีเอง เราแบ่งครึ่งซ้ายขวา และแต่ละข้าง เราแบ่งเป็น 5 ช่อคะ
และ อย่าลืม ทาเบบี้ออยที่ กรอบหน้า หู หลังใบหู ต้นคอ ด้านหน้าด้านหลัง ถ้าใครใช้ผ้าคลุมกันเปื้อนแบบที่ร้านก็ไม่ต้องกังวลมากแต่เราใช้แค่เสื้อยืดตัวใหญ่ๆ เราเลยทา แขนทั้งแขน
ขั้นตอนการลงสีคะ เราไม่ได้ถ่ายไว้นะ เพราะมันเลอะเทอะมาก (นึกภาพตามนะคะ) เราต้องเอื้อมือไปด้านหลังเพื่อลงสีโดยที่มองไม่เห็นนะจ๊ะ
*** เริ่มทำจากท้ายทอยคะ ทำจากท้ายสุด ซ้ายขวา แล้วค่อยๆแกะกิ๊บไล่มาจนถึงข้างหน้าสุด
*** เวลาลงสี ให้เว้นโคนผมประมาณ 2 cm. ถามว่า มองไม่เห็นข้างหลังแล้วจะรู้ได้ไงว่าเว้น 2 cm. แล้ว ให้ใช้นิ้วมือในการช่วยวัดคะ
*** ใช้มือในการลงสีคะ เพราะเหตุนี้ เราจึงต้องใช้สีผมหลายกล่องกว่าปกติ ถ้าไปทำที่ร้านหรือมีเพื่อนช่วยลงสีให้อาจใช้แค่สองกล่อง แต่ในเมื่อต้องทำเอง เพื่อการลงสีที่ทั่วถึงสีติดทั่วกันทั้งหัว ปริมาณจึงเป็นสิ่งจำเป็นคะ แต่ขนาดเราใช้ 5 กล่อง ค่าเสียหายก็เพียง 235 บาท เองคะ
*** เวลาลงสีไม่ควรโดนพัดลม หรือโดนลมนะ ใครไม่มีห้องแอร์ก็ร้อนหน่อยนะ
*** เวลาลงสี ก็ใส่ถุงมือเรียบร้อยแล้ว ก็ใช้มือนี้แหละคะ ตักสีให้ติดปลายมือมาสักหน่อยไม่ต้องเยอะมาก เดี๋ยวจะหกซะก่อนที่ได้ทาลงบนเส้นผม
อันนี้แหละที่สำคัญคือ ช่วงที่เราจับช่อผมมาเพื่อจะลงสี เราก็ใช้นิ้วชี้วางลงบนโคนผมโดยประมาณ ก็จะเป็นการช่วยกะระยะเว้นโคนผมไปด้วย
เมื่อ ป้ายครีมลงบนเส้นผมแล้วก็ ใช้วิธี ค่อยบีบๆ บีบให้ครีมเข้าไปในเส้นผม บีบแล้วค่อยๆไล่มือลงมา พอรู้สึกว่าไม่มีเนื้อครีมก็ตักครีมมาป้ายเพิ่ม * ตอนที่จับจะรู้สึกได้เลยคะ ว่าเนื้อครีมแทรกเข้าไประหว่างเส้นผมแล้ว
ป้าย บีบ ไล่ ลูบ/บีบ
ป้าย ครีมลงเส้นผม
บีบ ให้เนื้อครีมแทรกเข้าไปในเส้นผม
ไล่ ค่อยๆไล่มือลงมาทีละน้อย
ลูบและบีบ เบาๆบนช่อผมที่ลงครีมแล้วเพื่อเช็คว่าครีมทั่วถึงทุกเส้นผม
6. เมื่อลงครีมทุกช่อแล้ว ก็ใช้ เอ็มแรป คลุมผม แต่ แต่ แต่ เราไม่มี เลยจัดถุงพลาสติกใหญ่ๆนี้แหละจร้า
คลุมเพื่อไม่ให้ตัวครีมโดนลมจร้า (ไม่ควรเปิดพัดลมเป่านะจ๊ะ ถ้าโดนลม ผลคือสีไม่ออกคะ ไม่ได้สีตามที่ต้องการจร้า) เราทำให้ห้องแอร์เลย สบายๆ แต่ก็ต้องไม่ให้โดนลมแอร์ด้วยนะ
แล้วทิ้งเวลาไว้ ประมาณ 50 นาทีจร้า ใครสีติดยาก ก็ทิ้งไว้สักชั่วโมงเลยก็ได้นะ
7. พอครบเวลา ก็แกะออกมาเช็ค ว่าสีติดหรือยัง ถ้ายังก็ทิ้งเวลาต่อไปอีกหน่อย แต่ถ้าครบแล้ว ก็มาลงสีที่โคนผมเลย เริ่มจากท้ายทอยเหมือนเดิม แต่ครั้งนี้จะลงง่ายขึ้น เพราะตักครีมป้ายไปตรงโคนผมแล้วบีบๆ ให้ทั่วโคนผมได้เลย ทำจนครบแล้วทิ้งเวลาไว้ สัก 10 - 15 นาที (โคนผมสีจะติดง่ายมากๆคะ)
ดูจากรูปก็คงรู้นะ ว่า เลอะเทอะแน่นอน แต่ล้างออกแน่นอนจร้า
9. เมื่อครบเวลา ก็ไป อาบน้ำกัน เถอะ
ค่อยแกะผมออก แล้วเอาน้ำค่อย พรมลงบนเส้นผม นวดๆ พรมน้ำ นวดๆ พรมน้ำ ทิ้งๆสัก 5-10 นาที
จากนั้นก็ไปล้างผมกันคะ
ตอนล้างจะรู้สึกเลยว่า เสียดายครีม 555 เพราะมันเยอะมาก ล้างน้ำเยอะ ๆ หลาย ๆ น้ำ ล้างจนไม่มีครีม ล้างจนน้ำใส ไม่มีครีมไม่มีฟองติดออกมา
จากนั้นก็ สระด้วยแชมพูหนึ่งรอบ แล้วลงน้ำยาล้างเคมีคะ(ไอ้เจ้าขวดสีฟ้าเล็กๆอะคะ) นวดๆ แล้วล้างน้ำเปล่าออกอีกรอบ แล้วค่อยลงครีมนวดผม
นี้แหละจร้า สีผมตอนเปียกน้ำ
เอ่อ เราไม่ได้เปลี่ยนสีคิ้วนะคะ ไม่ชอบและคิดว่าคิ้วมันอยู่ใกล้ดวงตามากเกินไป ใครกลัวสีคิ้วโดด ใช้วิธีเขียนและปัดมาคาร่าเปลี่ยนสีดีกว่าเนอะ
และแล้ว
สีผมตอนเป่าแห้งแล้วนะคะ ถ่ายในห้องแสงน้อย + ง่วงแล้วด้วย (สังเกตุได้จากหน้าและใต้ตาเริ่มดำ)
และนี้ ตอนเช้าคะ ถ่ายจากแสงต่างๆนะคะ
และนี้ กลับห้องมา เลยถ่ายจากแสงในห้องเราอีกครั้งนะคะ แสงน้อย เพราะในห้องเป็นหลอดไฟกลมๆ เราเลยรู้สึกว่ามันมัวๆหน่อยนะคะ
จบแว้วววว
* ไว้ถ้าหารูปเจอ จะเอารูปตอนทำสี ด้วยเบอร์อื่นๆมาให้ดูจร้า
** ใคร ทำสีอะไร แบบไหนยังไง สีออกมาสวยไหม มาแบ่งกันดูได้นะคะ
*** ใครสงสัย มีคำถาม ยินดีตอบนะคะ
ถ้าผิดพลาดยังไง ก็ต้องขอโทษด้วยนะคะ