คือเราเพิ่งบอกเลิกแฟนไปเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมานี่เองคะ ทั้งที่เรารักกันวางแผนจะแต่งงานกัน(ซึ่งเรื่องแต่งงานนี่คงอีกนานหน่อยเพราะแฟนเพิ่งเริ่มเก็บเงินได้ไม่นาน) สาเหตุที่เลิกกันเพราะการไม่รักษาคำพูดของแฟนเราเองนี่แหละคะ คือแฟนเราเค้าขอไปสังสรรค์กับเพื่อนซึ่งเราก็ ok ไปสิ ให้ไปทุกครั้งแค่แอบเป็นห่วงเรื่องเดินทาง เพราะแฟนมักจะกลับดึกเสมอ อีกอย่างบ้านแฟนถนนค่อนข้างลำบาก คือรถใหญ่เข้าไม่ถึงตัวบ้านค่ะ ต้องมอเตอร์ไซค์เท่านั้น
ทุกๆครั้งอีกเช่นกันเราจะโทรไปหาแฟนแค่ 1 ครั้งคือตอนที่เราจะนอนแล้ว และก็จะย้ำกับทางแฟนเสมอๆว่าถ้ากลับถึงบัานเมื่อไหร่โทรหาเราด้วยนะ โดยทางแฟนก็จะรับปากเราอย่างดิบดีทุกครั้งไป แต่กลับไม่เคยโทรเลยซักครั้ง ซึ่งพอเราสะดุ้ง หรือรู้สึกตัวเมื่อไหร่เราจะรีบโทรถามเค้าทันทีว่าถึงบ้านหรือยัง ทำไมถึงไม่โทรมาบอกเราเป็นห่วงมากรู้มั้ย ยิ่งในบางครั้งที่เค้าไม่ได้รับสายเรายิ่งเครียด วิตก กังวลกลัวเกิดอะไรกับเค้า เพราะเค้าเคยเล่าให้ฟังว่าทะเลาะกับแท็กซี่อะไรแบบนี้อยู่บ่อยๆ เราก็จะโทรๆๆๆอยู่อย่างนั้น จนเช้าเค้าถึงบอกกับเราว่าไม่ได้ยินปิดเสียงไว้ ถึงแม้เราจะโล่งใจที่เค้าถึงบ้านอย่างปลอดภัย แต่ก็อดโมโหไม่ได้ทำให้ต้องทะเลาะกันเรื่องนี้อยู่บ่อยๆ โดยเค้าก็พูดแค่ว่าต่อไปจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว สัญญา!!!ทุกทีไป
ล่าสุดที่เกิดเรื่องเป็นตอนเวลาประมาณตี 4 นิดๆเราตื่นมาใจหายเหมือนทุกครั้ง หยิบโทรศัพท์มาโทร พอเค้ารับเราก็ใส่เป็นชุดเลยค่ะคราวนี้ ด้วยความที่เราโมโหจึงมีคำพูดมากมายซึ่งเราคิดว่าแรงพอสมควรที่เราพูดกับเค้าไปวันนั้น ก็เราไม่เข้าใจว่ามันยากมากนักหรือไงที่จะโทรบอกกันว่าถึงบ้านแล้ว ไม่ต้องเป็นห่วงนะ ครั้งนี้เราเริ่มรู้สึกเหนื่อยมากจริงๆกับคำพูดของเค้า เรายังจะเชื่ออะไรในตัวเค้าได้อีก เพราะแค่คำพูดของเค้าเองยังรักษามันไว้ไม่ได้เลยซักครั้ง ถ้าถามเราใจนึงเราไม่ได้อยากเลิก ไม่อยากเริ่มใหม่กับใครเพราะอายุก็ 30 กว่าแล้ว แต่อีกใจก็ไม่อยากทนกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง ซึ่งเกิดซ้ำๆซากๆอีกต่อไป
ตอนนี้เรากับเค้าก็ไม่ได้คุยกันเลยตั้งแต่วันที่เกิดเรื่อง (วันจันทร์) จะมีคุยก็เฉพาะแค่เรื่องงาน เพราะเราทำงานที่เดียวกันกับเค้า ห้องเดียวกันด้วย บรรยากาศเลยตึงๆแต่เราพยายามไม่แสดงออกมากไม่อยากให้คนอื่นรับรู้ และทนอยู่กับบรรยากาศมาคุซักเท่าไหร่ 555 อาจมีเหงาบ้าง เคว้งคว้างบ้าง คิดถึงบ้าง ก็ต้องยอมตัดใจเดินออกมาคงดีกว่า อยู่อย่างเหนื่อยล้ากับคำสัญญาจอมปลอม เดี๋ยวอะไรๆก็คงจะดีขึ้นเอง
**พิมพ์ซะยาวเลยค่ะ....ถ้ามันยาวไปหรือผิดพลาดตรงไหนต้องอภัยด้วยนะคะ*
เมื่อความรักต้องถึงทางแยก...เมื่อคนใดคนหนึ่งไม่รักษาคำพูดที่ให้ไว้กับอีกคน 😢😢
ทุกๆครั้งอีกเช่นกันเราจะโทรไปหาแฟนแค่ 1 ครั้งคือตอนที่เราจะนอนแล้ว และก็จะย้ำกับทางแฟนเสมอๆว่าถ้ากลับถึงบัานเมื่อไหร่โทรหาเราด้วยนะ โดยทางแฟนก็จะรับปากเราอย่างดิบดีทุกครั้งไป แต่กลับไม่เคยโทรเลยซักครั้ง ซึ่งพอเราสะดุ้ง หรือรู้สึกตัวเมื่อไหร่เราจะรีบโทรถามเค้าทันทีว่าถึงบ้านหรือยัง ทำไมถึงไม่โทรมาบอกเราเป็นห่วงมากรู้มั้ย ยิ่งในบางครั้งที่เค้าไม่ได้รับสายเรายิ่งเครียด วิตก กังวลกลัวเกิดอะไรกับเค้า เพราะเค้าเคยเล่าให้ฟังว่าทะเลาะกับแท็กซี่อะไรแบบนี้อยู่บ่อยๆ เราก็จะโทรๆๆๆอยู่อย่างนั้น จนเช้าเค้าถึงบอกกับเราว่าไม่ได้ยินปิดเสียงไว้ ถึงแม้เราจะโล่งใจที่เค้าถึงบ้านอย่างปลอดภัย แต่ก็อดโมโหไม่ได้ทำให้ต้องทะเลาะกันเรื่องนี้อยู่บ่อยๆ โดยเค้าก็พูดแค่ว่าต่อไปจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว สัญญา!!!ทุกทีไป
ล่าสุดที่เกิดเรื่องเป็นตอนเวลาประมาณตี 4 นิดๆเราตื่นมาใจหายเหมือนทุกครั้ง หยิบโทรศัพท์มาโทร พอเค้ารับเราก็ใส่เป็นชุดเลยค่ะคราวนี้ ด้วยความที่เราโมโหจึงมีคำพูดมากมายซึ่งเราคิดว่าแรงพอสมควรที่เราพูดกับเค้าไปวันนั้น ก็เราไม่เข้าใจว่ามันยากมากนักหรือไงที่จะโทรบอกกันว่าถึงบ้านแล้ว ไม่ต้องเป็นห่วงนะ ครั้งนี้เราเริ่มรู้สึกเหนื่อยมากจริงๆกับคำพูดของเค้า เรายังจะเชื่ออะไรในตัวเค้าได้อีก เพราะแค่คำพูดของเค้าเองยังรักษามันไว้ไม่ได้เลยซักครั้ง ถ้าถามเราใจนึงเราไม่ได้อยากเลิก ไม่อยากเริ่มใหม่กับใครเพราะอายุก็ 30 กว่าแล้ว แต่อีกใจก็ไม่อยากทนกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง ซึ่งเกิดซ้ำๆซากๆอีกต่อไป
ตอนนี้เรากับเค้าก็ไม่ได้คุยกันเลยตั้งแต่วันที่เกิดเรื่อง (วันจันทร์) จะมีคุยก็เฉพาะแค่เรื่องงาน เพราะเราทำงานที่เดียวกันกับเค้า ห้องเดียวกันด้วย บรรยากาศเลยตึงๆแต่เราพยายามไม่แสดงออกมากไม่อยากให้คนอื่นรับรู้ และทนอยู่กับบรรยากาศมาคุซักเท่าไหร่ 555 อาจมีเหงาบ้าง เคว้งคว้างบ้าง คิดถึงบ้าง ก็ต้องยอมตัดใจเดินออกมาคงดีกว่า อยู่อย่างเหนื่อยล้ากับคำสัญญาจอมปลอม เดี๋ยวอะไรๆก็คงจะดีขึ้นเอง
**พิมพ์ซะยาวเลยค่ะ....ถ้ามันยาวไปหรือผิดพลาดตรงไหนต้องอภัยด้วยนะคะ*