[CR] ฝ น นี้ ที่ " ห ลี เป๊ ะ " (ฉ บั บ 3 วั น 2 คื น)

สวัสดีเพื่อนๆห้องบลูนะครับ หลังจากที่ดูรีวิวของเพื่อนๆมาเยอะแล้ว คราวนี้ขอทำรีวิวเองบ้าง ถ้าไม่ดียังไงขออภัยด้วยนะครับ
เริ่มกันเลยดีกว่า หลังจากที่แพลนว่าอยากไปทะเลนานแล้ว ประจวบเหมาะกับตรงวันหยุดยาวพอดี (30พ.ค.-1มิ.ย.) สุดท้ายก็จบลงที่ ไป ”หลีเป๊ะ” แล้วกัน  ว่าแล้วก็จัดการจองรถ จองเรือ จองที่พัก อย่างไว แล้วก็ตั้งหน้าตั้งตารอให้ถึงวันนั้น

รูปของทริปนี้ได้จากกล้อง CANON 600D, SJ4000wifi, iPhone 5S และ oppo Find 7A

วันแรกก็รีบตื่นแต่เช้าเพื่อไปสนามบิน ไฟท์แรกเลย รีบเช็คอินแล้วก็ไปที่เกต ได้เกตสุดท้ายของตัวอาคาร เดินกันเหนื่อยเลย ทริปนี้ไป-กลับ กับหางแดงครับจองช่วงโปร แต่เอาดีๆก็ไม่ค่อยถูกนะ หรือเป็นเพราะเราไปวันหยุดด้วยนี่ละ (ค่าเสียหายจะสรุปให้ตอนท้ายนะครับ)

เราจองรถกับเรือผ่านทาง Cathay Tour เพราะคิดดูแล้วสะดวกกว่า ราคาไม่ต่างกับไปหาเอาเอง และไม่ต้องเสียเวลาด้วย พอลงเครื่องแล้วรีบเปิดโทรศัพท์ทันที คนขับรถโทรเข้าพอดีเลย รถมารอแล้ว รีบไปขึ้นรถเพื่อไปท่าเรือกัน สะดวกดี ลงเครื่องปุ๊ปต่อรถปั๊ป ใช้เวลานั่งรถประมาณ 2 ชั่วโมง นั่งกันเมื่อยเลยกว่าจะถึงท่าเรือปากบาราที่สตูล

ถึงท่าเรือแล้ว ก็รีบไปเอาตั๋วเรือกับเคาท์เตอร์ของ Cathay Tour แล้วรีบไปตุนของกัน แน่นอนไม่พ้น 7-11 ซื้อน้ำกันยกโหลไปเลย ขนม ของกินของใช้ที่จำเป็น เพราะของบนเกาะราคาเป็นสองเท่าตัว จากนั้นก็รีบไปขึ้นเรือกันเลย ขนาดเรามาหน้าโลนะ คนก็ยังเยอะอยู่ดี แน่นเรือเลย

หลังจากนั่งเรือสปีดโบ๊ทไปเกือบชั่วโมง ก็มาถึงเกาะไข่ก่อนเลย แค่เห็นไกลๆก็สวยมากแล้ว น้ำใสมากๆเลย เรามาหน้าโล ดังนั้นอุทยานตะรุเตาปิด จึงแวะแค่เกาะไข่แล้วก็ไปเกาะหลีเป๊ะเลย แน่นอน โซนดำน้ำหลักๆก็ปิดตามไปด้วย แอบเซงเบาๆ แต่รู้อยู่แล้วเลยชิวๆ ได้เห็นน้ำทะเลใสๆก็ฟินแล้ว


และแล้วก็มาถึงเกาะหลีเป๊ะแล้ว แต่ต้องเปลี่ยนขึ้นเรือที่โป๊ะก่อนเข้าไปที่เกาะ นั่งเรือเข้าเกาะดูวิวไป น้ำใสมากจนอยากจะเล่นน้ำแล้ว พอขึ้นเกาะแล้วก็หา taxi เพื่อขนของไปที่พัก ทริปนี้เราพักกับ Bay view sunset resort เจ้าของชื่อพี่ผึ้ง น่ารักมาก เปิดแอร์ไว้รอเราเลย ที่นี่เพิ่งเปิดให้บริการไม่กี่ห้อง ดู private ดีมากอ่ะ พอเปิดเข้าห้องไป หายเหนื่อยเลย ห้องสวย วิวห้องดีมาก อาบน้ำไปดูวิวไปสวยดี ที่สำคัญ เดินลงไปเล่นน้ำตรงหาดด้านล่างได้เลย

เก็บของเรียบร้อยก็ขอลงไปเล่นน้ำกับนอนเล่นริมหาดหน่อยแล้วกัน ตรงหาดนี้เป็นโซนหาดประมง เงียบสงบมาก น้ำทะเลน้ำใส ลมเย็นดี

จากนั้นเย็นๆก็ได้เวลาไป walking street เนื่องจากเป็นหน้าโลจึงไม่เปิดกันทุกร้าน บางร้านที่ตั้งใจไปก็ปิด แต่ไม่เป็นไร ร้านอื่นมีอีกเยอะ มื้อเย็นวันนี้    เลยฝากท้องไว้กับร้าน Thai lady pancake shop ไปกันสองคนเลยสั่งแค่ 2 อย่างคือไก่ผัดเม็ดมะม่วงกับแกงป่ากุ้ง รสชาติเข้มข้นใช้ได้เลย

จากนั้นก็มาต่อกันที่ของหวาน แน่นอน ต้องโรตีกับชาชักเจ้าดังคือร้าน “เตอร์บิลัง” นั่นเอง คิวยาวตลอดแต่ก็รอ เมนูก็มีให้เลือกเยอะ สุดท้ายก็สั่งมะตะบะไก่+โรตีธรรมดา+ชาชัก รสชาติอร่อยจริงตามรีวิว ไม่เสียเวลาที่รอ

เมื่ออิ่มแล้วก็ไปเดินเล่นกันหน่อย แวะดู 7-11 สินค้าราคาสองเท่าจริงๆ จากนั้นก็หาร้านที่เราจะไปดำน้ำกัน สุดท้ายได้ไปกับร้านนี้ “บังรุณ” นัดแนะเวลากันเรียบร้อยให้เรือมารับเราวันพรุ่งนี้

เช้าวันที่สองก็ตื่นแต่เช้า เพื่อไปรอเรือ ทางร้านก็ดีโทรมาถามอีกว่าขึ้นเรือรึยัง จากนั้นเรือก็ไปรับเพื่อนร่วมดำน้ำวันนี้ที่เมาท์เทน วิวเมาท์เทนสวยอยู่นะ      ไว้คราวหน้าค่อยมาพักที่นี่แล้วกัน จากนั้นก็ลุยโลด ไปดำน้ำกัน แอบหวั่นใจฟ้าไม่ใสเลย พอดำน้ำกันได้สักพัก เอาแล้วไง ฝนตกลงมาจนได้ ต้องหลบฝนกันก่อนเพื่อรอฝนหยุด เซงเบาๆละ

พอฝนหยุด ฟ้าก็ใสแล้ว แดดเริ่มมา ดีใจมากเลย ไม่งั้นได้ภาพไม่สวยแน่ๆ ทะเลกับแดดมันของคู่กัน แล้วก็ลุยดำน้ำกันต่อ ถึงจะเป็นการดำน้ำในระแวกเกาะ แต่ก็สวยใช้ได้อยู่ ที่สำคัญ หอยเม่นเยอะมาก ระวังขากันดีๆนะ

พอดำน้ำเสร็จก็กลับห้องพักผ่อน รอเวลาไปหาอะไรกินแถว walking street วิวยามเย็นก็สวยใช่ย่อย ส่วนมื้อนี้ขอฝากท้องไว้กับร้านดังอีกร้าน “รักษ์เล” นั่นเอง มาทะเลทั้งทีก็ต้องกินอาหารทะเล เลือกแล้วให้เขาย่างกันสดๆหน้าร้านเลย มื้อนี้เราสั่ง ข้าวผัดต้มยำทะเล ข้าวผัดเครื่องแกงทะเล ปลาหมึกย่าง และก็ทอดมันกุ้ง ของทุกอย่างสดจริงๆ แต่ราคาก็แอบแพงอยู่ ส่วนเรื่องรสชาติยกนิ้วให้เลย อร่อยจริง

อิ่มแล้วก็ไปต่อด้วยของหวานคือโรตีเจ้าเดิมอีกรอบ จากนั้นก็ไปเดินหาของฝาก ซึ่งมีให้ดูหลายร้าน เดินดูไปได้เรื่อยๆ

วันที่สามก็ตื่นแต่เช้าเช่นเคย รีบเช็คเอาท์เพื่อไปให้ทันเรือเที่ยวแรกตอน 9 โมงเช้า พี่ผึ้งเจ้าของรีสอร์ทก็ใจดีโทรเรียก taxi ให้เราอีก บริการดีมาก พอถึงท่าเรือก็ไปเช็คอินที่เคาท์เตอร์เดิมตอนขาไป เพื่อรอขึ้นรถกลับไปสนามบิน ระหว่างรอรถก็หาอะไรกินรอ สุดท้ายก็ได้โรตีอีกแล้ว แม่ค้าอัธยาศัยดีมาก เลยจัดโรตีมาสองอัน อร่อยใช้ได้ ยอมรับจริงๆว่าโรตีกับชาชักที่นี่อร่อยจริงๆ  สามวันผ่านไปไวมาก ไม่อยากกลับเลย แต่คราวหน้าจะกลับมาแน่นอน ลาก่อนนะ “หลีเป๊ะ”

สุดท้ายนี้ขอสรุปค่าเสียหายของทริปนี้กันนะครับ
ค่าตั๋วเครื่องบิน 2 คน    =         5,453     บาท (รวมค่าจองที่นั่ง)
ค่าที่พัก 3 วัน 2 คืน            =        3,398    บาท (ได้โปรโมชันพอดี)
ค่ารถ+ค่าเรือ (ไป-กลับ)    =    2,600    บาท (คนละ 1,300 บาท)
ค่าดำน้ำ 2 คน            =    1,100    บาท (คนละ 550 บาท)
ค่าธรรมเนียมท่าเรือ+เกาะ    =    140    บาท (อุทยานปิดเลยไม่เสียค่าธรรมเนียม)
ค่า taxi ที่เกาะ            =    200    บาท (เรานั่งเฉพาะขนของไปห้องพักกับมาขึ้นเรือกลับ ที่เหลือเดินเอา)
ค่ากิน                          =    2,000    บาท (โดยประมาณ)
รวมค่าเสียหายทริปนี้    =    14,891    บาท (จริงๆบวกลบไม่เกินหมื่นห้าพันบาท ไม่รวมกับค่าของฝากนะครับ)

หวังว่าคงเป็นประโยชน์สำหรับคนที่จะไปนะครับ ถ้ามีอะไรเพิ่มเติม inbox ไว้ได้นะครับ ขอบคุณที่มาดูรีวิวนะครับ
ชื่อสินค้า:   Lipe, Satun, Thailand
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่