บทเรียนราคาแพงที่ทำให้ชีวิตเปลี่ยนไปทั้งชีวิต

จุดประสงค์ของกระทู้นี้  1 . ต้องการคำแนะนำว่าจะมีวิธีการดำเนินการทางกฏหมายอย่างไรได้บ้าง
                                2.อยากให้เป็นอุทธาหรณ์สอนใจให้กับผู้หญิงอีกหลายๆท่าน

เจ้าของกระทู้ได้รู้จักผู้ชายคนนี้ผ่านคำแนะนำของเพื่อนคนนึง เมื่อช่วงเดือน สิงหาคม 2557  จขกท.อายุ 30 ปี อดีตแฟนจขกท.อายุ 35 ปี(สัญชาติญี่ปุ่น,ฟังและพูดภาษาไทยได้ระดับหนึ่ง)
โดยเจ้าของกระทู้ก็มีการพูดคุย ทักทาย กันตามปกติ แล้วมีการขอแลกไอดีไลน์กัน ก็พูดคุยคบกันเรื่อยมา จนเดือน ตุลาคม 2557 ได้มีการนัดไปกินข้าวและตกลงจะคบกันเป็นแฟน เวลาผ่านไปได้เพียงเดือนกว่า จขกท.ก็เลิกกับผู้ชายคนนี้เนื่องจากจับได้ว่าเขากำลังคบคนอื่นด้วย แล้วเค้าก็ส่งเมซเซจมาว่า
"ขอเวลาคิดก่อนว่าจะทำยังไง" และด้วยเวลา ณ ตอนนั้น จขกท.ก็ทำงานหนักมาก ไม่ได้สนใจอะไรเท่าไหร่
จนเมื่อช่วง ต้นเดือนธ.ค 2557 เค้าก็กลับมาง้อ จขกท.ก็คิดว่าเค้าคงเปลี่ยนตัวเองได้(เพราะความคิดน้อยของ จขกท.)
ก็คบกันเรื่อยมาไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้น (ระยะเวลาตั้งแต่เดือน ธ.ค จนถึงช่วงก่อนเลิกกัน จขกท.ย้ายมาอยู่กับผช.คนนี้แล้วนะค่ะ) จขกท.ก็ป้องกันมาโดยตลอด จนกระทั่งเดือน กุมภาพันธ์ 2558 จขกท.ประจำเดือนมาไม่ปกติ แต่ซื้อที่ตรวจครรภ์มาไม่พบสิ่งปกติใดๆ แต่ด้วยความกังวลใจ จึงไปตรวจเลือดที่โรงพยาบาล พบคุณหมอ คุณหมอก็แนะนำให้เลิกทานยาคุมฉุกเฉิน  พอกลับบ้านมาตามปกติ ก็บอกอดีตแฟนว่า คุณหมอให้เลิกทานยาแล้ว และควรป้องกันโดยการสวมถุงยาง ฝ่ายอดีตแฟน จขกท.ก็เอ่ยเพียงว่า อยากมีลูก อยากมีครอบครัว ด้วยความเป็นจริงระยะเวลาแค่นั้น จขกท.ไม่สมควรเชื่อคำพูด แต่ ณ เวลาตอนนั้น จขกท.รักเค้ามากและอยู่ด้วยกันมาแบบไม่มีปัญหาอะไร และคิดว่าเค้าเชื่อถือได้ในระดับนึงแล้ว ก็เลยสมยอมเค้าโดยไม่ป้องกัน พอต้นเดือน มี.ค 2558 เจ้าของกระทู้ตั้งครรภ์ ฝ่ายอดีตแฟน จขกท.ก็ยินดียอมรับทุกอย่างที่เกิดขึ้น และต้องการไปพบครอบครัว จขกท. และฝ่ายอดีตแฟน จขกท.ก็บอกทางบ้านเค้า เพราะจะจดทะเบียนสมรสต้องใช้เอกสารฝ่ายชายเยอะมาก ทุกอย่างก็ดำเนินการไปตามปกติ จนมาถึงช่วงปลายเดือน เม.ย 2558 ฝ่ายอดีตแฟน จขกท.ก็พูดขึ้นมาว่า พ่อและแม่เค้าตัดสินใจแล้วว่า ไม่ยอมรับ จขกท.เนื่องจาก จขกท.เป็น ผญ.ไทย (ตอนนั้นรู้สึกได้ว่าเหมือนโดนตบหน้ากลางสี่แยก) แต่จขกท.พูดกับอดีตแฟนว่า "แล้วเราจะทำอย่างไรหละ การ์ดแต่งงานก็เริ่มทยอยแจกแล้ว จองสถานที่แล้ว" ฝ่ายอดีตแฟน จขกท.พูดสั้นๆได้ใจความว่า "ไม่รู้" แล้วก็ไม่มีการพูดถึงเรื่องนี้กัน ซึ่ง ณ เวลานั้นทุกอย่างก็ยังดำเนินการไปตามปกติ ไม่มีปัญหาใดๆกัน อีกทั้งอดีตแฟน จขกท.ก็พาไปพบเพื่อนของเค้าเพื่อแจกการ์ด พบผู้ใหญ่ที่ออฟฟิสของเค้า ทุกอย่างดูจะราบรื่นไปด้วยดี จนมาถึงช่วงเดือนพฤษภาคม  2558  (ตั้งแต่ต้นเดือน) ที่ผ่านมา อดีตแฟน จขกท.ได้เริ่มไปสังสรรค์หนักขึ้นกว่าปกติ (ปกติแฟน จขกท จะสังสรรค์ตามปกติธรรมดาของคนญี่ปุ่นหลังเลิกงาน แต่ จขกท.ไม่เคยโมโหเพราะเราตกลงกันไว้แล้วว่าต้องเข้าใจกัน)  จากที่กลับบ้าน 2-3 ทุ่ม เริ่มเป็น 5ทุ่ม เที่ยงคืน  จขกท.ยอมรับ ณ ช่วงเวลานั้น มีการโทรตามบ้าง เพราะเป็นห่วงว่าเค้าเมาแล้วจะขับรถกลับบ้านยังไง แล้วกลับบ้านจะทานข้าวมั๊ย จากที่แฟน จขกท.เคยรายงานตลอดเวลา เคยโทรบอก กลับกลายเป็นไม่รับโทรศัพท์เลย เราก็เริ่มมีการทะเลาะกัน แล้วแฟน จขกท.ก็เริ่มมีการบอกว่า ถ้าทนไม่ได้ก็ออกไป ณ เวลานั้น ถ้าจขกท.ไม่ได้ตั้งครรภ์กับเค้า จขกท.ก็คงไม่ทน แต่จขกท.ต้องยอมทน แต่ทุกครั้งที่เราทะเลาะกัน วันรุ่งขี้นก็จะเข้าสู่สภาวะปกติ.........จนถึงวันที่ 14 พฤษภาคม 2558 อดีตแฟน จขกท.ไม่กลับบ้าน แต่โทรมาบอกตอนตี 2 ว่ากลับบ้านไม่ไหว เมามาก ให้ไปรับที่ออฟฟิสหน่อย จขกท.ก็ว่ากลับไป ว่าไม่มีรถแล้วจะไปรับได้ยังไง จนอดีตแฟนจขกท. บอกว่างั้น นอนที่ออฟฟิสนะ .... พอตกเย็นวันที่ 15 พฤษภาคม 2558 อดีตแฟน จขกท.โทรมาก่อนกลับบ้าน ถามว่า จขกท.อยู่ไหน   จขกท.ก็ตอบกลับไปว่าอยู่บ้านไง   แล้วอดีตแฟน จขกท.ก็เริ่มบทสนทนาที่จขกท.ไม่คาดคิดมาก่อน (บทสนทนาทางโทรศัพท์)

อดีตแฟน จขกท.     : จะออกลูกเมื่อไหร่นะ เดือน 11 ใช่มั๊ย? เนี่ย ผมก็ไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับคุณและลูก
จขกท.                  : อืม เดือน 11 แล้วเป็นอะไรอะ บ้าหรอ? เมาหรอ?
อดีตแฟน จขกท      : ไม่ได้เมา แต่คนที่โรงงานก็ถามว่า แฟนเป็นยังไงบ้าง สบายดีมั๊ย กี่เดือนแล้ว ผมก็ตอบอะไรไม่ได้เลย
                              ผมก็ยังไปเที่ยวบ่อยๆ ไปกินเบียร์บ่อยๆ ไปคาราโอเกะบ่อยๆ คุณทำไมไม่โมโหหล่ะ คุณบ้าหรอ?

จขกท                    : ก็คุณบอกว่าไม่ให้โมโหฉันก็ไม่โมโหไง มีอะไรกลับมาคุยที่บ้านเหอะ
อดีตแฟน จขกท.      : ผมก็คิดว่าอนาคตออกลูก ก็ยังเที่ยวอยู่ ยังกินเบียบ่อยๆคิดว่าอะไรก็ไม่สนใจ ก็ขี้เกียจคิดแล้ว เลิกกันดีกว่า
จขกท.          ไม่ได้เอ่ยคำใดๆมีแต่น้ำตาแล้วตัดสายเค้าไป จนอีก20นาทีต่อมา เค้ากลับมาถึงบ้าน ด้วยสีหน้าเรียบเฉยแล้วไม่พูดอะไร  จนจขกท.ทนไม่ไหว เลยถามเค้าว่า ตกลงจะเอายังไง เค้าบอกว่า ไม่เอาอะไรแล้ว ขี้เกียจคิด
จขกท.ก็ยังซ้ำเติมต่อว่า จะเลิกกันจริงๆใช่มั๊ย เค้าบอกมาโดยที่เค้าหลับตาลงที่เตียงแล้วว่า "อืม"  
แล้วจขกท.ก็ตัดสินใจเก็บเสื้อผ้า เก็บสิ่งของทุกอย่าง เตรียมกลับบ้าน โดยที่หมาเห่าเสียงดังมาก แต่อดีตแฟน จขกท.ก็ได้หลับอบ่างสบายใจ


      "ต่อจากนี้จะเป็นปัญหาหลังจากการบอกเลิกพร้อมกับรูปภาพประกอบค่ะ"

ปล. จขกท.ไม่แน่ใจต้องแท๊กห้องไหนบ้าง วานผู้รู้ช่วยแท๊กห้องที่จะเป็นประโยชน์ให้กับจขกท.ด้วยค่ะ


จขกท.แนบรูปภาพไม่ได้เลยค่ะ ต้องทำยังไงดีค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่