เมื่อรักของฉันพังตอนกำลังจะแต่งงาน !

สวัสดีเพื่อนพันทิปค่ะ กระทู้นี่เพื่ออยากระบาย อยากแชร์เรื่องราว ความรักที่เกิดขึ้นของเราค่ะ
เรื่องเกิดขึ้นผ่านมาได้ก็น่าจะเกือบ 4 เดือนได้แล้วค่ะ

ตอนนี้เรา 25 เบญจเพศพอดิบพอดี   ...
ย้อนไปเมื่อ 3 ปีที่แล้ว เรายังเป็นนักศึกษาอยู่ค่ะ เรียนม.เอกชน เราเป็นคนติดเพื่อน ชอบเที่ยว  ไปไหนไปกันไม่เมาไม่กลับ
และตอนนั้นยังโสดสนิทจริงๆ ชีวิตคือการเที่ยวค่ะ ร้านไหน ตรอกไหน มุมไหนเราไปหมด ต้องบอกก่อนว่าบ้านเราค่อนข้างพอมีพอกินค่ะ เป็นลูกคนเดียว
พ่อแม่ตามใจตลอด และค่อนข้างปล่อย เราไม่ใช่คนเรียนดีอะไร อยู่กึ่งๆ กลางๆ และไม่ใช่คนสวยอะไร   ตอนนั้นยังอยู่ปี 3 เป็นช่วงเปิดเทอมใหม่พอดี เรากับเพื่อนก็ไปฉลองวันเกิด เกิดอยากจะกินนี่แหละค่ะ ที่ที่เราไปบ่อยๆ ส่วนใหญ่ก็เป็นผับ  แต่ครั้งนี้ไปแถวๆรอบนอก เป็นร้านอาหารนั่งชิวๆ บรรยากาศดี ดนตรีสด ก็กินกันไปจนถึง 4 ทุ่มครึ่ง จำได้ว่าพ่อโทรตาม เราก็เดินไปคุยข้างนอก ไปยืนพิงรถคันนึง คุยได้ซักพักก็วางสาย ปรากฎว่ามีคนเปิดประตูคันที่เรายืนพิงออกมา เป็นผู้ชาย รูปร่างหน้าตาดีมากค่ะ ใส่เสื้อสีดำ กางเกงยีนส์  ไอ้เราก็ตกใจ แบบ อ่าวววว ก็ขอโทษเค้า บอกว่าไม่นึกว่าจะมีคนอยู่ เค้าก็หัวเราะๆ แล้วถาม" คุยกับพ่อหรอคับ" เราก็อ่อ ใช่ค่ะ แล้วก็ยิ้มให้ ประมาณว่าขอตัวค่ะ ละเค้าก็พูดขึ้นว่า " ผมมาร้องเพลงที่นี่ครับ ชื่อ น. แล้วชื่ออะไรหรอ มากับเพื่อนหรอครับ" เราก็อ่อ ค่ะ ใช่ๆ แล้วก็บอกชื่อไป จากนั้นก็คุยกันต่อนิดหน่อยเราก็ขอตัวไปหาเพื่อน

แล้วพอเรามานั่งซักพักเค้าก็ขึ้นร้องเพลง จะบอกว่า เสียง หน้าตา ท่าทาง ดูเท่ห์มากค่ะ ภายนอกจัดว่าตรงสเปคได้เลย ร้องไปจนถึงเที่ยงคืน เค้าก็ลงมานั่งโต๊ะข้างล่าง ระหว่างนั้นเราก็แอบมองเค้านะ ก็เหมือนเค้าจะมองมาทางเรา จนเรากำลังจะกลับ น. ก็เดินเข้ามาทักว่าจะกลับละหรอ ขอเบอร์ได้มั้ย ดูท่าจะเมาแล้วด้วยค่ะ เราก็เมาแต่ก็พอรู้อะไรบ้าง แต่ก็ให้ไปค่ะ เพื่อนๆก็เชียร์กันใหญ่

หลังจากนั้น หลายวันได้จนเราลืมไปเลยว่าเคยให้เบอร์ ก็มีเบอร์แปลกโทรมา เราก็คุยกัน คุยกันได้อาทิตย์นึงก็พอรู้อะไรเกี่ยวกับ น. มากขึ้น น.เป็นเด็กโคราช อายุเท่าเรา ปีเดียวกัน แต่คนละมหาลัย ทำงานพาททามหลายที่ น.บอกว่าฐานะทางบ้านไม่ค่อยมีเท่าไหร่ จากการที่ได้คุยกันมาเราก็รู้สึกว่า น. ดูเป็นคนดีค่ะ อันนี้คิดเอาเองล้วนๆ จากคำพูดเค้า ... นิสัยคือเป็นแบบที่เราชอบเลย ไม่เรื่องมาก ง่ายๆ ไม่จู้จี้จุกจิก เอาใจใส่ และ น. ก็เป็นแบบนี้เรื่อยๆมา จนเรารู้สึกว่า คงใช่ แล้วล่ะ ...

เราคบกันหลังจากคุยกันมาได้ 2 เดือนกว่าๆ จะบอกว่า น. ดูแลเอาใจใส่เราดีมากกกกกกก เค้าไม่มีเงิน เราก็โอเค ไม่ได้ซื่อของขวัญหรืออะไรแพงๆให้เรา เราไม่ซีเรียส แต่คือเค้าชอบทำของแฮนเมค หรือของแบบ ต้นไม้เล็กๆ เขียนการ์ด แบบทำเองอ่ะค่ะ สมุดรูป หรือที่เป็นปูนปาสเตอร์เพ้นท์สีอ่ะค่ะ ไม่รู้เรียกอะไร เรานี่แบบปลื้มมากกกก ส่วนเราไม่ชอบทำอะไรแบบนั้นเลยยยยค่ะ ใช้เงินเป็นใหญ่ จริงๆมันไม่ดีเลยนะ เศร้า เราซื้อของให้น. เยอะมากกกก เอาจริงๆคือแอบสงสารที่เห็นเค้าเหนื่อย ไม่เคยใส่แบรนด์ ไม่เคยมีของแพงๆ เราให้แล้วเรามีความสุขค่ะ เค้าก็พอใจ แต่เค้าไม่เคยขออะไรจากเราเลยนะ นอกจากถ้าช่วงไหนเค้าไม่สะดวกจริงๆ เค้าก็จะบอกว่าช่วงนี้ไปหาไม่ได้ เงินไม่ค่อยพอไรงี้

จนกระทั่งวันนึงเพื่อนเราค่ะ โทรมาบอกว่าเจอน. กับผู้หญิงคนนึง หน้าตาน่ารักมากกกกกกกกก+++ เพื่อนพูดโอเว่อร์มาก จนเราคิดในใจว่ามันอะโม้แน่นอน บอกว่าเห็นไปเดินตลาดนัดแห่งนึง กระหนุงกระหนิงเชียว ใจตอนนั้นคือยังคิดติดตลกอยู่ค่ะ แต่ก็โทรหาน. น.ก็บอกว่าตอนนี้เดินเที่ยวอยู่ที่... เราก็ถามไปกับใคร เค้าบอกเราว่าน้องสาวเค้าเอง ลูกพี่ลูกน้อง เป็นญาติกัน สนิทกันมากๆ น้องพึ่งย้ายมาเรียนที่กรุงเทพ
หลังจากนั้นอีกประมาณอาทิตย์นึงได้ เราก็ได้เจอกับน้องของน. อยากบอกว่า หน้าตาสวย 100% ค่ะ หน้าตามาทางเดียวกับ น. เลยล่ะ ชื่อขึ้นต้นด้วย น. เหมือนกันอีก ขอเรียกตามชื่อแบบย่อๆว่า น้องนม.ละกันค่ะ

น้องนม.เด็กกว่าเราปีเดียว จริงๆคือต้องเรียนมหาลัยแล้ว แต่จบม.6 ช้าค่ะ เพราะเกเร ตอนนี้มาเรียนปี1 มอเดียวกับ น. น้องนม.จะดูแรงๆ ร้ายๆค่ะ ไม่ค่อยเรียบร้อย คิดว่าสูบบุหรี่ด้วยเพราะตอนนั้นได้กลิ่นจากตัว และตอนหลังก็รู้ว่าสูบจริงๆ น.บอกว่าที่บ้านน้อง นม.ไม่มีเงินค่ะ ก็เลยให้นม. มาพักหอเดียวกับ น.คนละห้อง (เค้าบอกแบบนี้) เพราะหอที่น.อยู่ถูกมากกๆๆๆ เราก็คุยกับน้องนม.เรื่อยเปื่อยค่ะ พอเดานิสัยก็พอรู้ว่าแรงใช่ย่อย แต่น้องนม.ก็พูดดีกับเรานะ แล้วก็แลกเบอร์แลกเฟสกันไปตามระเบียบ

หลังจากที่น้องนม.ย้ายมากรุงเทพ เรากับน. ก็เจอกันน้อยลงค่ะ เพราะน.ต้องดูแลน้องนม. และพอว่าง เราก็ดันไม่ว่างอีก เวลาไม่ตรงกัน แต่เราไม่รู้สึกว่าการไม่ได้เจอจะทำให้เราห่างกันนะ เพราะน. โทรหาเราตลอด และเอาใจใส่เราดีตลอดมา คบกันได้ประมาณปีกว่าๆ เกือบสองปีได้ เราก็ประสบอุบัติเหตุ ตอนนั้นไปเที่ยวชลกับเพื่อน 3 -4 คน เพื่อนเป็นคนขับ ชนกับรถยนต์นี่แหละค่ะ ยับเยิน  เราหัวแตก แขนหัก และต้องนอนโรงพยาบาลดูอาการและตรวจอื่นๆอีก พ่อกับแม่เป็นห่วงมากเลยบังคับให้อยู่โรงบาลจนกว่าเราจะดีขึ้น ตอนอยู่โรงพยาบาล น. ไม่มาหาเราเลยค่ะ อยากบอกว่าเสียใจ น้อยใจมากกกกก คืออะไรทั้งที่เราเจ็บมากขนาดนี้ มีแต่โทรหาแล้วบอกว่ายุ่งๆๆๆๆ ไม่ว่างเลย น้องนม.ก็มีปัญหากับที่บ้าน คือบลาๆๆ จนเราโอเค ไม่มาไม่เป็นไร อย่าหายไปก็พอ  หลังจากที่เราออกโรงพยาบาล พ่อก็ซื้อรถคันใหม่ให้รับขวัญ น.ก็มาหาเรา เค้าก็ชวนเราไปเที่ยวต่างจังหวัด บอกว่าไปลองรถใหม่ ใจเรายังสั่นๆกับตอนที่รถชน เราเลยปฏิเสธว่ายังไม่อยากขับตอนนี้ น.ก็อาสาบอกว่าจะขับให้ ไปโคราชกัน ไปบ้านเค้า

เราก็เป็นปลื้มค่ะ ว่าคงได้เจอพ่อแม่เค้า รู้สึกรักน. ขึ้นมาอีกหลายเท่าเลย ตลอดทางที่เราเดินทางไปโคราช เค้าพูดกับเราตลอด ว่าพอเรียนจบเค้าจะหางานทำ จะขอเราแต่งงาน จะทำนู้นนี่นั่น ไปที่นั่นกันไปที่นี่กัน วางแผนกันไว้เป็นฉากๆ จนกระทั่งถึงที่บ้าน น. พ่อแม่น.ใจดีมากค่ะ ดุแลเราอย่างดี เราก็เขินๆทำตัวไ่ม่ถูก บ้านน.ไม่ใช่คนรวยอะไร ดูพ่อแม่เค้ากินอยู่แบบพอเพียงค่ะ และคิดว่าชีวิตคงดีมีความสุขในแบบของเค้า แม่น.บอกว่าน.ไม่เคยพาใครมาหาเลย เค้าดีใจที่เราเป็นแฟนลูกชายเค้า เพราะเราดูเป็นคนนิสัยดี ไม่หยิ่ง ตอนแรกนึงว่าจะหยิ่ง เห็นน.เล่าว่า เราเป็นลูกคนรวย พ่อแม่มีเงิน ไม่คิดว่าจะไม่ถือแบบนี้ เราก็หืมมมม นี่แสดงว่าน.ก็เล่าเรื่องเราให้แม่เค้าฟัง เราก็ปลื้มปริ่มมมมค่ะ

หลังจากนั้นไม่นาน น.ก็โทรหาเราบอกว่าน้องเอารถไปชน (คิดในใจว่า คงน้องนม.)  ไม่มีเงินค่าซ่อมรถ จำเป็นต้องใช้ด่วน สรุปค่าซ่อมรถ 3 หมื่น เราก็กังวลค่ะว่าน.จะไม่ได้ไปทำงานนาน ขาดรายได้ ไรงี้อีก ก็ให้ยืมไปทั้งหมด 3หมื่น 5 พันบาท โดยที่เป้นเงินเก็บจากที่พ่อแม่เราให้มานั่นแหละ ตอนนั้นความรักบังตา และความรู้สึกอยู่เหนือเหตุผลจริงๆค่ะ ก็ให้ไป

เราคบกันมาแบบแฮปปี้ชีวิตดีมาตลอด จนเรียนจบทำงาน เราทำงานในบริษัทของเพื่อนพี่ค่ะ ได้ตำแหน่งงานที่ดี เงินเดือนโอเค มีกินมีเก็บมีเที่ยวเตร่ได้สบายพอตัว ส่วนน.ยังไม่ได้ที่เป็นหลักแหล่ง เค้าบอกว่ายังชอบงานร้องเพลงอยู่ เราก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะขอแค่เค้าดูแแลตัวเองได้ก็พอแล้ว จนกระทั่งวันนั้นน.ไม่โ?รหาเรา เราโทรหาก็ไม่ติด หายไปประมาณ 4 วันได้ค่ะ เค้าก็เอาเบอร์เพื่อนโทรมาบอกว่าโทรศัพท์เค้าเสีย ทำตกตอนไปร้องเพลง คงไม่ได้โทรหาอีกหลายวัน เงินก็ไม่มี ส่งให้ทางบ้านหมด
ด้วยความที่โง่อีกแล้วค่ะ ใจอ่อน อยากคุย ก็เลยไปซื้อมาให้ค่ะ รุ่นล่าสุด ณ ตอนนั้น
พักหลังๆ หลังจากที่เรียนจบมา ทำงานเราก็ค่อนข้างเครียดค่ะ ไม่ค่อยเที่ยวกลางคืนเท่าไหร่ ยุ่งกับงาน เป็นกังวลกับงานมากกว่า และก็ต้องปรับตัวค่ะ คนไม่เคยทำงานมันก็อึดอัดอยู่มาก

เรากับน.ก็ห่างๆกัน คือไม่ค่อยได้เจอ แต่โทรหากันทุกวัน ส่งไลน์ส่งข้อความหากันตลอดค่ะ
จนเมื่อปีที่ผ่านมา ทุกอย่างสำหรับเราเริ่มลงตัว ส่วน น. ยังร้องเพลงเหมือนเดิม เราก็เริ่มพูดเปรยๆไปว่าอยากแต่งงานเนอะไรงี้
ด้วยความที่เพื่อนเราแต่งกันไป 2 คนแล้วค่ะ น.ก็บอกว่างั้นแต่งดิ เราก็คุยกันว่าจะแต่งกันปีหน้า ก็คือปีนี้
น.บอกว่า ย้ายมาอยู่ด้วยกันเถอะ ไหนๆก็เรียนจบทำงานแล้ว ใช้ชีวิตด้วยกันดีกว่า เราก็เลยไปขอพ่อว่า อยากอยู่คอนโด
ลืมเล่าไปว่า เราพาน. มาเจอพ่อแม่เราบ่อยๆค่ะ คือแทบจะทุกครั้งที่เจอกัน น.ก็มารับมาส่งเราที่บ้าน เจอพ่อแม่เราตลอด
พอ่แม่เราก็เห็นดีว่าน.นิสัยดี ไม่เคยมีเรื่องเสียหาย แล้วพ่อแม่เราก็ไม่ค่อยคิดมากกับเรื่องพวกนี้ด้วยค่ะ จะคบใครก็แล้วแต่เราเลย

พ่อแม่เราก็ตกลง เพราะเห็นว่าใกล้ที่ทำงานเราด้วย ก็เลยซื้อให้ ย้ายมาอยู่ด้วยกันแล้วชีวิตดีขึ้นเยอะค่ะ ไม่ต้องคอยโทรหากันมากมายให้วุ่นวาย
กลับมาถึงตอนเย็นก็ได้เจอกกัน น.ไปร้องเพลงกลับมาก็ได้เจอกัน จนปลายปีค่ะ เรากับน.ก็ไปดูฤกษ์แต่งงาน น.ดูกระตือรือร้นดีค่ะ เราก็รู้สึกดี
รู้สึกว่าเราสามารถฝากชีวิตไว้กับคนๆนี้ได้จริงๆ เรื่องนี้เรายังไม่ได้บอกพ่อแม่ทั้งสองฝ่ายนะคะ อันนี้คิดกันเองเฉยๆ แล้วก็ที่ดูฤกษ์นี่ก็ดูแค่วันเวลาที่เหมาะสมว่า ช่วงไหนๆ ประมาณนี้เท่านั้นค่ะ
จนเมื่อต้นปีค่ะ วันปีใหม่ น.บอกว่าไปหาเพื่อนแถวบางนา เพื่อนมาจากต่างจังหวัดเป็นเพื่อนสนิท ขอไปเจอหน่อย ตอนนั้นพึ่งจะ 3 ทุ่ม เราก็โอเคๆ มาให้ทันก่อนเที่ยงคืนแล้วกัน

เรากับน. จะไปเค้าดาวกันที่ร้านอาหารเพื่อนเราค่ะ จน5 ทุ่มเราโทรหาน. แต่โทรไม่ติด เราก็เลยส่งไลน์ทักไปว่า จะไปรอที่ร้านก่อนนะ รีบๆตามมา
เช็คดูตอน 5 กว่าๆ ยังไม่มีการอ่านใดใดค่ะ ในใจก็คิดว่า คงยุ่งอยู่กับเพื่อน นานๆเค้าจะได้เจอเพื่อนเก่า เราก็ไม่ได้คิดกังวลอะไร
สุดท้ายคืนนั้น น.ก็ไม่มีการอ่านไลน์และไม่ได้ไปที่ร้าน ไม่ได้เค้าดาวกับเรา ถามว่าเสียใจ นอยด์มั้ย แน่นอนค่ะ รู้สึกแย่ ที่หายไปไหนไม่บอกเรา
เราค่อนข้างใจกว้างนะคะ ถ้ามีเหตุผลที่ดีเราก็พร้อมเข้าใจเสมอ แต่นี่คือหาย แทนที่จะโทรบอกหน่อยก็ยังดี
วันนั้นเรากลับมาถึงคอนโดตอนเกือบจะเช้าได้ จะเรียกว่าเช้าเลยก็ได้ค่ะ สิ่งที่เห็นคือ ห้องเงียบ ไม่มีน. ไม่มีร่องรอยว่าได้กลับมา
เราก็โทรหา ไม่ติดค่ะ ไลน์ไม่อ่าน และไม่มีการติดต่อกลับมาใดใดทั้งสิน

เราก็เริ่มกระวนกระวาย ตอนนั้นไม่รู้คิดยังไงนะ เปิดเฟส พิมพ์หาชื่อเพื่อนของน. เพื่อนสนิทผช ที่เรียนที่เดียวกัน พี่ที่ทำงานด้วยกัน ก็ไม่มีร่องรอยว่าไปไหนหรือพูดถึงน.เลย ก็เลยพิมพ์ชื่อน้องนม.ค่ะ ที่เราเคยบอกว่า เคยแลกเฟสกัน ตอนนั้นคือกดรับเป็นเพื่อนกันเรียบร้อยแล้วนะคะ แต่ตอนนี้คือ ไม่ได้เป็นเพื่อนกัน เราก็คิดว่าน้องลบเราออกจากเฟรนหรือ น้องทำเฟสใหม่ หรือเด้งหลุดเอง แต่ก็ปล่อยผ่านไปก่อนค่ะ ลองเลื่อนๆดู กะว่าจะลองส่งข้อความอินบ็อกหา แต่พอเลื่อนลงมาเรื่อยๆ มาเจอรูปๆนึงเป็นรูปที่  น้องนม. เซลฟี่อยู่บนเตียง แล้วคือมีคนนอนอยู่ข้างหลัง เป็นผู้ชาย แน่นอนว่าแฟนใครใครก็จำได้ค่ะ เพราะนั่นแฟนเรา

มันคงไม่ช็อคไปมากกว่านี้ค่ะ ถ้าเห็นแค่รูปอาจจะมโนเข้าข้างตัวเองว่าพี่น้องกัน แต่มีแคปชั่นเขียนว่า ' ดูดิ๊ คนข้างหลังจัดหนักจนหลับสนิท ' ตอนนั้นน้ำตาไหลแล้วค่ะ คิดอะไรไม่ออกรู้แต่ว่าเจ็บปวดมากๆ ก็ยังคงดูต่อไป สิ่งที่เห็นคือ รูปทุกรูป แทบทุกรูปเลยคือต้องมีน.โผล่มา คอมเม้นที่คนไปเม้นคือ น่าอิจฉา . เบื่อพวกอินเลิฟ . อิจจจจจอะแกร . ว๊ายๆพี่น.ของน้องนม. อะไรประมาณนี้ตลอดๆเลย
ตอนนั้นเราอยากเขวี้ยงโทรศัพท์ทิ้งมากค่ะ แต่ก็กดโทรหาน. จำไม่ได้ว่ากี่สายแต่เยอะมากๆๆๆ ตอนนั้นแบบทำตัวไม่ถูก ไม่รู้จะทำยังไง เราก็ส่งข้อความไปหาน้องนม.ค่ะ
ว่าคืออะไร ช่วยอธิบายให้ฟังที น.อยู่กับเธอใช่มั้ย เรียกมาคุย บลาๆๆๆๆๆ
หลังจากนั้นไม่มีการติดต่อกลับจากทั้งคู่ ไม่มีสเตตัสใดๆให้อัพเดต เรากดเค้าไปดูเฟสน้องนม.เป็นร้อยๆรอบ เราเลยโทรหาแม่น. ตอนนั้นคือเราอยากถามใครก็ได้ที่สามารถให้คำตอบเราได้ว่ามันคืออะไร

เดี๋ยวต่อค่ะมันตัด
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่