เมื่อปีที่แล้วดิฉันได้เปลี่ยนงานใหม่เนื่องจากพ่อดิฉันได้ป่วยเป็นมะเร็งหมอบอกว่าจะอยู่ได้ไม่เกินสองปี ดิฉันเลยได้งานที่องค์กรแห่งหนึ่ง และได้ส่งดิฉันมาประจำที่ต่างจังหวัดคือบ้านเกิดของดิฉัน โดยมีสัญญาญปีต่อปี ก่อนเริ่มงานวันแรกได้มีโทรศัพท์เข้ามาหาดิฉันพร้อมกับบอกว่าไม่ต้องมานะเราได้คนของเราแล้ว. ดิฉันได้ทางกทมให้ทราบทางกทมก็บอกไปว่าไปทำงานเถอะ พอเริ่มงานวันแรกก็โดนผู้จัดการพูดว่ามาทำไมเราได้คนของเราแล้ว ดิฉันแจ้งว่าทาง กทม ส่งให้มาเลยมาตามคำสั่งนายค่ะ วันต่อมาประธานและเรขาได้เรียกดิฉันเข้าพบพร้อมบอกดิฉันว่าเราไม่ได้ต้องการคุณเราต้องการวิศวกรที่เป็นชายแล้วก็มีคนของเรา. ดิฉันเลยแจ้งนายของดิฉัน เจ้านายเลยบอกว่าไม่ต้องไปสนใจผมเป็นคนให้เงินเดือนคุณ. ตั้งแต่วันแรกจนวันนี้ดิฉันถูกกดดันทางคำพูดไม่ว่าจะเป็นการพูดเสียดสี ประชดประชันจากผู้จัดการที่นั่นเป็นประจำ ดูถูกสถาบันการศึกษาของฉันบ้าง บางครั้งแกล้งดิฉันเรื่องงานบ้างเช่นเวลามีเอกสารมาเกี่ยวกับงานที่ดิฉันรับผิดชอบเขาก็ไม่แจ้งดิฉันทำให้ดิฉันโดนด่าแบบไม่รู้เรื่อง ดิฉันเลยพยายามทำงานให้ไม่เคยมีพลาดเลย เป็นอยู่แบบนี้มาปีกว่าๆจนเมื่อวันที่ 28 พค58 ที่ผ่านมาดิฉันถูกเรขาเรียกเข้าไปพบทันทีที่ดิฉันนั่งเก้าอี้ลงก็ด่าๆแบบไม่ได้อ้าปากพูดเลย เค้าบอกว่าจะฟ้องดิฉันข้อหาใส่ร้ายเจ้าหน้าที่และหมิ่นประมาทองค์กรเค้า ขณะที่ดิฉันมาอยู่ได้1ปี เจ้าหน้าที่บัญชีและเจ้าหน้าที่อื่นโดนบีบให้ออกไปแล้ว12คน ทุกคนเตือนดิฉันเรื่องความไม่โปร่งใสของผู้จัดการ ทุกคนที่รู้ถึงความลับผู้จัดการโดนจะโดนกล่าวหาทุจริตหมดแล้วก็ยอมลาออกกัน ดิฉันเลยไปปรึกษารองประธานเล่าให้ฟังหมดว่าเจอะไรบ้าง เลยทำให้เรียกไปสอบสวนค่ะ แต่เหมือนเรียกๆไปด่าไงไม่รู้  เรขาเลยบอกว่าพวกเราไม่ให้คุณมาอยู่ที่นี่อีกออกไปเลยนะ ถ้ายังอยู่เราจะฟ้องคุณดิฉันเลยถามว่าฟ้องอะไรทำไรผิด  ก็คุณทุจริต  ดิฉันเลยบอกว่าตั้งแต่อยู่มา1ปีดิฉันรู้เห็นหมดว่าใครไม่โปร่งใสแต่ดิฉันไม่เคยยุ่งเกี่ยวแต่ทำไมใจร้ายและทำลายดิฉันได้ขนาดนี้งานที่ทำก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับองค์กรคุณแค่มาเช่าออฟฟิศทำงาน และดิฉันหมดสัญญาจ้างสิ้นเดือน มิ.ย.นี้ค่ะ ทางครอบครัวดิฉันเครียดมากเลยค่ะ

รบกวนผู้รู้กฏหมายด้วยนะคะ