ประสบการณ์หลอนๆ ของคนจิตแข็ง

สวัสดีค่ะ ช่วงนี้เห็นกระทู้ผีกำลังฟีเวอร์มากๆ เลยอยากจะมาแบ่งปันประสบการณ์หลอนๆ ให้ทุกคนได้อ่านกันค่ะ
ก่อนจะเข้าสู่เดอะช็อคอย่างเต็มรูปแบบ เราขอแนะนำตัวเองก่อนนิดนึงก่อนนะคะ
เราอายุ 24 ปีค่ะ เป็นลูกสาวคนโต และมีน้องสาวอีกสองคน เกิดห่างกันคนละ 3 ปี
เราไม่ใช่คนขวัญอ่อนค่ะ ค่อนข้างจิตแข็ง แต่มีใจเอนเอียงในเรื่องลี้ลับหรือศาสตร์ที่มองไม่เห็น
ตั้งแต่เกิดเลยนะคะ เราไม่เคยเจอในสิ่งที่ทุกคนเรียกว่าผีเลยค่ะ จนกระทั่งเราย้ายไปอยู่บ้านใหม่...
( เราจะขอเล่าแบบเป็นตอนๆ นะคะ จะได้ไม่สับสน )

ตอนที่ 1 บ้านใหม่

ตอนนั้นเราอายุได้ประมาณ 5 ขวบค่ะ ย้ายจากประชานิเวศน์มาอยู่ที่ปทุมธานี คลอง 12
เป็นหมู่บ้านจัดสรร บ้านที่แม่เราซื้ออยู่เกือบๆ ท้ายซอยเลยค่ะ ใกล้กับทุ่งนา ด้านข้างของหมู่บ้านจะเป็นป่าสน
เรามาอยู่แรกๆ ไม่มีอะไรหรอก ไม่เคยเจออะไรด้วยซ้ำ แต่เสียดายอยู่อย่างที่เป็นหมู่บ้านล้มละลาย
แต่ว่าพี่ชายและพี่สาวที่เป็นเพื่อนบ้านใกล้ๆ กัน มาเล่าเรื่องผีในหมู่บ้านให้ฟังค่ะ
เริ่มจากพี่ชายก่อน ครอบครัวเขาเป็นคนจีน มาซื้อบ้านในหมู่บ้านนี้เป็นหลังแรก
พี่เขาเล่าว่ามาอยู่วันแรกก็เจอดีเลยค่ะ ตามสเต็ปการเจอผีเลยคือ ได้ยินเสียงคนเคาะประตู หมาหอน
แต่คนในครอบครัวพี่เขาไม่มีใครออกมาดูนะคะ เพราะรู้อยู่แล้วว่าเขาลืมทำบางสิ่งบางอย่าง
เขาเล่าว่าเขาลืมวางอาหารเซ่นเจ้าที่เจ้าทางค่ะ เหมือนทางบ้านนี้เขามีเซ้นด้วยมั้งคะ ก็เลยไม่ค่อยกลัวอะไร
หลังจากคืนนั้นผ่านไปเขาก็ตั้งฮวงจุ้ย และก็ทำการไหว้เจ้าที่เจ้าทางซะ หลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นค่ะ
แล้วพี่เขายังเล่าให้ฟังอีกนะคะว่า ที่ดินที่สร้างหมู่บ้านจัดสรร แต่ก่อนเคยเป็นสุสานฝังศพมาก่อน
เพราะหมู่บ้านที่เราอยู่คนอิสลามเยอะมากเลยค่ะ ทุ่งนาที่อยู่ท้ายซอยก็เป็นของพวกเขา
ซึ่งอ่านมาถึงตรงนี้หลายคนอาจจะบอกว่า ไม่เห็นน่ากลัวตรงไหนเลย ผีเผอก็ไม่เห็นจะออกมา
บอกตรงๆ เลยว่าเราไม่เคยเจอผีที่บ้านหลังนี้เลยค่ะ แต่ว่าหมู่บ้านนี้กลับมีบางอย่างที่ดูหลอนมากๆ
อย่างวันพระนะคะ เราจะได้ยินเสียงเหมือนพระสวดอะไรสักอย่างแถวทุ่งนา
จากบ้านเราจะสามารถมองเห็นได้เลยค่ะว่าเขาทำอะไรกันได้บ้าง ซึ่งเราเห็นเป็นแสงลูกไฟดวงเล็กๆ หลายลูกมาก น่าจะเป็นคบเพลิง
เหมือนเขากำลังทำพิธีไล่อะไรกันสักอย่าง สวดอยู่นานมากค่ะ ทั้งหลอนทั้งวังเวง
ได้ยินเขาเล่ากันว่าคนอิสลามแถวนั้นไล่ผีดำผีแดง (ตามความเชื่อของเขา) กันค่ะ เราก็ไม่รู้หรอกว่าเป็นยังไง
แต่เราได้ยินบ่อยมาก หลังๆ กลายเป็นความเคยชินเลยค่ะ นึกซะว่าเขาละหมาดตอนกลางคืนให้ฟังก่อนนอนอะไรทำนองนี้
นอกจากฟังเสียงสวดชวนหลอนแล้วนะคะ บ้านตรงข้ามเราค่ะ เขาชอบปลูกดอกพุด ดอกมะลิ
ตอนกลางคืนบ้านเราชอบเปิดหน้าต่างนอนรับลมค่ะ รู้สึกว่าดอกไม้หอมมาก กลิ่นนี่หอมเย็นๆ จรุงใจเลยค่ะ
ซึ่งเราจะบอกไว้ก่อนเลยค่ะว่าบ้านตรงข้ามเราเขามาจากทางแถบใกล้ๆ กับเขมร มีวิชามีของขลังอยู่พอสมควร
แต่เราไม่เคยเข้าไปนะคะ เพราะไม่กล้า ดูน่ากลัวเกินค่ะ เราอยู่ที่นั่นประมาณ 7 ปีก็ย้ายมาอยู่กรุงเทพค่ะ
หลังจากนี้จะเป็นเรื่องที่น้องสาวคนกลางของเราประสบพบเจอนะคะ



ตอนที่ 2 ห้องใหม่ในเมืองกรุง

เราย้ายออกมาจากบ้านหลังเก่า คราวนี้เรามาอยู่ห้องเช่าในกรุงเทพแถวประเวศค่ะ มาอยู่กับพ่อแม่
เป็นห้องเล็กๆ ไม่ใหญ่มาก นอนอัดกัน 5 คน อาคารที่เราอยู่จะมี 3 ชั้นค่ะ มีดาดฟ้าเปิดไว้สำหรับตากเสื้อผ้า
บอกก่อนนะคะว่าเราเป็นคนจิตแข็งมาก ไม่มีเซ้นอะไรเลย จึงไม่เคยเห็นสิ่งลี้ลับพวกนี้สักครั้ง
แต่กับแม่และน้องสาวคนกลางค่ะ สองคนนี้ค่อนข้างจะมีเซ้นลางสังหรณ์หรือฝันที่แม่นมาก
น้องเคยเล่าให้เราฟังนะคะว่าเคยฝัน ฝันเห็นผู้หญิงใส่ชุดสไบมาชวนน้องเราไปเล่นบนดาดฟ้าค่ะ ฝันบ่อยมาก
บางครั้งนะคะ ตอนกลางคืนน้องชอบลุกมาเข้าห้องน้ำ มักได้ยินเสียงเหมือนคนกวาดพื้นเลยค่ะ
เสียงแบบใช้ไม้กวาดทางมะพร้าว เป็นแบบนี้ประจำจนนางเลิกกลัวไปเลย  
แต่เรากลับรู้สึกว่าอาคารนี้น่าอยู่มากนะคะ ร่มรื่น สงบ แล้วแม่เราก็ถูกหวยบ่อยมากด้วย
แม่บอกว่าเขาชอบฝันเห็นคนเฒ่าคนแก่ในอาคารนี้แหละค่ะ อาจจะเป็นเจ้าที่มั้งคะ เพราะแม่เราชอบทำบุญใส่บาตร
เราก็อยู่ที่ห้องนี้ได้สามปีก็ย้ายมาอยู่ห้องชุดที่แม่ซื้อใหม่ค่ะ อยู่แถวลาดกระบัง
และแถวนี้เป็นที่ที่เราเจอเรื่องลี้ลับเข้าจนได้ แล้วเจอกับตัวเองเลยค่ะ



ตอนที่ 3 ห้องใหม่อีกครั้ง

คราวนี้เราย้ายมาอยู่ที่ลาดกระบังกันค่ะ อยู่ไปแรกๆ ก็ไม่มีอะไรค่ะ จนกระทั่งวันหนึ่งห้องตรงข้ามมีคนย้ายเข้ามาอยู่
ห้องตรงข้ามเราจะแปลกอย่างนึงนะคะ นับตั้งแต่ที่เรามาอยู่จนกระทั่งถึงทุกวันนี้ ห้องนั้นเป็นคนอยู่ไม่ต่ำกว่า 3 ครั้งแล้ว
ไม่รู้เพราะสาเหตุอะไรนะคะ เราไม่เคยได้ยินเสียงทะเลาะกัน หรือว่าดูน่ากลัวตรงไหน ( เพราะห้องก็เหมือนๆ กันหมด )
เราลืมบอกไปค่ะ ห้องใหม่ที่ครอบครัวเราย้ายมาอยู่ เป็นห้องที่แปลกมากสำหรับเรา
คือประตูททางเข้าบ้านกับประตูหลังบ้านจะตรงกัน แถมประตูห้องนอนก็อยู่ระหว่างกึ่งกลาง พูดง่ายๆ เหมือนทางสามแพร่งเลยค่ะ
ซึ่งเราเคยได้ยินมาว่าห้องหรือบ้านลักษณะแบบนี้ไม่ดี ไม่ถูกหลักฮวงจุ้ย ประมาณว่าเก็บเงินไม่ค่อยอยู่ พัดเข้ามาแล้วก็พัดออกไป
แต่กับคนพุทธอย่างเรามีความเชื่ออีกอย่างก็คือว่าเป็นทางผีผ่านค่ะ และผ่านไปยังห้องตรงข้ามได้เลยเพราะประตูตรงกัน
หลังจากนั้นมา เรามักจะได้ยินอะไรแปลกๆ เสมอ ตามสเต็ปหนังผีไทยเลยค่ะ ทั้งเสียงน้ำไหล เสียงเคาะกระจกบานเกล็ด
วันดีคืนดีเรานอนๆ อยู่ เหมือนคนครึ่งหลับครึ่งตื่นค่ะ เรานึกว่าเช้าแล้ว เราก็บอกน้องที่นอนอยู่ข้างๆ เราว่าให้บอกใครก็ได้ให้ปิดฝักบัวห้องน้ำที
คือเราได้ยินจริงๆ นะคะ แล้วเสียงน้ำไหลไม่หยุดด้วย เรารำคาญมากไม่มีใครไปปิดสักทีก็เลยลืมตาขึ้น
ปรากฏว่าห้องยังมืดตึ๊ดตื๋ออยู่เลยค่ะ แถมยังอยู่ราวๆ เที่ยงคืนด้วยซ้ำ เราก็งงสิว่าใครมันไปอาบน้ำตอนเวลานี้
เราเลยปลุกน้องข้างๆ ค่ะ นางยังไม่หลับนะคะแต่นางไม่ยอมพูดอะไรเลย เราบอกว่าได้ยินอะไรมั้ย นางก็ไม่ตอบ
เราบอกว่าเราได้ยินเสียงคนเปิดฝักบัว ใครเข้าไปอาบน้ำหรือเปล่า นางก็เงียบอีกตามเคย
คราวนี้เราเลยบอกว่าจะลุกขึ้นไปดู เพราะเสียงมันไม่เงียบสักที คราวนี้นางรีบห้ามเราเลยค่ะ บอกว่าอย่าทักและก็ห้ามไป
คือนางค่อนข้างเป็นคนขวัญอ่อนและก็ขี้กลัวเรื่องแบบนี้น่ะค่ะ เราก็เลยบอกว่าไปดูด้วยกัน (ในใจก็กลัวนิดๆ)
นางส่ายหัวไม่ยอมเลยค่ะ เราเลยบอกว่าตั้งใจฟังนะ เนี่ย...เราก็บอกว่าได้ยินมั้ย พี่ยังได้ยินอยู่เลย
คราวนี้นางคลุมโปงหนีเราเลยค่ะ เราเลยจับลากนางไปดูด้วยกัน ปรากฏว่าไม่มีอะไรทั้งนั้น แล้วเสียงที่เราได้ยินล่ะมาจากไหน?
ซึ่งเราได้ยินเสียงน้ำไหลประมาณ 3 วันค่ะ แล้วก็ค่อยๆ เงียบหายไป
หลังจากนั้นมากลายเป็นได้ยินอะไรอย่างอื่นค่ะ คราวนี้มาเป็นเสียงเคาะบานเกล็ด เคาะเป็นจังหวะห่างๆ กันนะคะ
ส่วนใหญ่เราจะไม่ค่อยนอนกลางคืนเพราะต้องทำงาน ช่วงนี้เป็นเวลาที่สงบมาก สมองจะไหลลื่นเป็นพิเศษ
ครั้งแรกที่ได้ยินเสียงเคาะบานเกล็ด เรานึกก่อนเลยค่ะว่าต้องเป็นคนจากห้องใดห้องนึงที่เข้าห้องไม่ได้แน่ๆ เลยเคาะเรียกคนที่อยู่ข้างใน
แต่กลายเป็นว่าทำไมเสียงมันดังใกล้จังเลยหว่า ดังเหมือนอยู่หน้าห้องตัวเองซะงั้น แต่เราไม่ได้ไปเปิดผ้าม่านดูนะคะ
เราปลุกน้องสาวคนกลางค่ะ นางนอนอยู่ใกล้ๆ โต๊ะคอม เราบอกว่าได้ยินเสียงคนมาเคาะบานเกล็ด
เวลาเราได้ยินอะไรแปลกๆ สิ่งหนึ่งที่นางจะบอกเราตลอดคือห้ามทักเด็ดขาด เราก็ไม่เคยทักนะคะ แต่มักชอบรำพึงรำพันกับตัวเอง
นางบอกว่าอย่าไปสนใจเดี๋ยวเสียงมันก็หายไปเอง ซึ่งเราจะได้ยินเสียงตอนประมาณเที่ยงคืนตลอดเลยค่ะ ประมาณสักสิบนาทีก็หายไปค่ะ
แล้วเสียงเนี่ยมาประมาณสามวันอีกแล้ว แล้วก็เงียบหายไปเลยค่ะ ไม่ได้ยินอีกเลย
แต่หลังจากนั้นมาคราวนี้ไม่ได้มาเป็นเสียง แต่มาเป็นกลิ่นค่ะ กลิ่นเหม็นมากกกกกกกก
กลิ่นเหมือนอะไรมาตายแถวๆ ห้องเราเลยค่ะ ตอนได้กลิ่นครั้งแรก ปากเรามันพูดออกไปเองเลยค่ะว่ากลิ่นเห้อะไรวะ
น้องคนกลางเรารีบตบปากเราเลยค่ะ บอกว่าพูดออกมาทำไม ได้ยินหรือได้กลิ่นอะไรพูดในใจไม่เป็นเหรอ!
เราก็แบบงงๆ เลยค่ะ อยู่ๆ ก็โดนตบปาก แต่ไม่เถียงนางนะคะ เพราะหน้านางเครียดมาก
แต่ก็แอบถามเบาๆ นะคะว่าได้กลิ่นอะไรมั้ย นางก็ไม่ตอบเราอีก เราก็ได้กลิ่นอยู่สามคืน
เหตุการณ์ที่เราเจอเราไม่ได้เล่าให้ใครฟังนะคะ นอกจากน้องที่นอนด้วยกัน
แล้วหลังจากเหตุการณ์ทั้งสามได้ผ่านพ้นไป เราก็ไม่ได้ยินหรือได้กลิ่นอะไรอีกเลย
จนกระทั่งผ่านไปสักระยะหนึ่ง…


กำลังพิมพ์ใส่เวิร์ดอยู่ค่ะ เดี๋ยวเอามาลงต่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่