สวัสดีค่ะ. นานๆ ทีจะตั้งกระทู้สักที. เพื่อเป็นความรู้ทั่วไปสำหรับคนที่จะมาเรียนต่างประเทศ. หรือว่ามาเรียนอยู่แล้วนะคะ
เริ่มแรกขอแนะนำตัวเองก่อน. เริ่มแรกเรามาเรียนภาษาที่ประเทศนิวซีแลนด์. จากนั้นก็หลงรักประเทศนี้. เรียนต่อในระดับ Diploma , degree and so on
ในระหว่างที่เรียนนั้น. ชีวิตก็ผกผันจากคุณหนูเป็นอีแจ๋ว. เมื่อคลื่นซูนามิพัดธุรกิจครอบครัวสลายไป. พอชีวิตตกอับในต่างแดน. เราก็ได้ประสบการณ์ชีวิตอีกมากโข
เข้าเรื่องดีกว่า. กระทู้นี้อยากจะให้ความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการมาอยู่ต่างประเทศ
โฮมสเตย์. เริ่มจากการมาอยู่กับครอบครัวโฮมสเตย์. ซึ่งเป็นทางเลือกที่น่าจะดีที่สุดสำหรับคนที่จะเริ่มมาใช้ชีวิตต่างประเทศ. คุณจะได้เรียนรู้สารพัดว่าคนที่ประเทศนั้นๆ. เค้าอยู่กันยังไง. ก่อนอื่นก็เตรียมตัวเตรียมใจไว้ว่าคุณจะมาอยู่บ้านคนอื่น. ครอบครัวอื่น. มันก็ต้องมีอะไรที่เราไม่รู้. แต่ก็ไม่ใช่จะกังวลจนเกินเหตุ. เพราะคุณกำลังจะเรียนรู้มารยาท. และข้อปฎิบัติพื้นฐานจากกระทู้นี้
เปิดใจให้กว้าง. ก่อนอื่นขอให้คิดวนแง่บวกว่าครอบครัวที่เค้าเปิดรับคุณ. อย่างน้อยที่สุด. เค้าก็ยอมเสียสละความเป็นส่วนตัวในครอบครัวเค้า. และยอมรับคนต่างชาติ ต่างภาษา. มาอยู่ร่วมชายคาเดียวกัน. แม้ว่าคุณจะจ่ายเงินค่าบ้าน และค่าอาหาร. ถ้าคุณมาคำนวนราคาอาหาร และค่าห้องเช่าปกติทั่วไปตามเมืองที่คุณอยู่. คุณจะรู้ว่าราคาโฮมสเตย์นั้นถูกที่สุดแล้ว. รวมสารพัดสิ่งน้ำ ไฟ อินเทอร์เนท. แม้ไม่รวมอาหาร. ก็โคตรคุ้ม. ไม่เชื่อก็ลองคำนวนดูเอง
และด้วยสาเหตุนี้. คุณก็ควรจะปฎิบัติตามที่เจ้าบ้านเค้าขอ ส่วนมากก็ขอให้ช่วยประหยัดน้ำ. ประหยัดไฟฟ้า. และตรวจสอบเรื่องปิดบ้านล็อคบ้านก่อนออกไปข้างนอก. อ่านดูคุณก็คงจะคิด. แหม. .. ก็เป็นเรื่องปกติ. ใครๆ ก็ทำกัน. จากประสบการณ์การเป็นที่ปรึกษาเด็กต่างชาติมาหลายปี. สิ่งเล็กๆ น้อยๆ อย่างนี้หล่ะค่ะ. ที่ก่อปัญหากวนใจ. พาลไปหาว่าโฮสต์เรื่องมาก. กฎโน่น กฎนี้. แค่คุณนักเรียนเล่นเปิดฮีทเตอร์แรงสูงมันทั้งวันทั้นคืน. บ้านเค้าจะไหม้เอา.
เรื่องอาบน้ำ. อันนี้ตอนเรามาอยู่แรกๆ อ่านกฎโฮสต์ที่บ้านว่ากรุณาอย่าอาบน้ำนานเกิน 7 นาที. แหม... เคืองค่ะ. อะไรวะ. ให้ใช้ห้องน้ำแค่นี้. แต่พอมารู้เหตุผล. มันก็เข้าใจอ้ะ. บ้านที่นิวซีแลนด์บางบ้านเค้ามีถังน้ำร้อนเล็กใหญ่ไม่เท่ากัน. ถ้าคุณอยู่บ้านที่มีสมาชิกเยอะหน่อย. มารยาทในการใช้ห้องน้ำ และน้ำร้อน ก็จะเป็นสิ่งที่ต้อง ให้ความสำคัญมากๆ เวลาที่เค้าบอกว่าพยายามอาบน้ำประมาณ 5 นาที. ก็พยายามปรับตัว. ซึ่งจะบอกว่าจริงๆ เวลาหน้าหนาว. แทบจะเดินผ่านเอาเลย. ง่ายมาก. ตอนอยู่เมืองไทย. อากาศมันไม่หนาวจัด. ทเราพิรี้พิๆรคร่ำครวญในห้องน้ำได้. มาอยู่นี่. ด้วยความที่มันหนาว. ก็รีบๆ อาบ. รีบๆ ใส่เสื้อผ้าจะได้อุ่น.
ถ้าคุณอาบน้ำนานจนน้ำร้อนเค้าหมดบ้าน. อันนี้ก็ลองนึกภาพว่าไปไหนๆ มาเหนื่อยๆ กลับมาอยากอาบน้ำนอน. แล้วทำไม่ได้เอาดู. ว่าคนอื่นเค้าจะ pissed off ขนาดไหน. ความสัมพันธ์ที่ดีๆ จะสั่นคลอนเอาง่ายๆ เพราะกว่าน้ำจะร้อนพอจะอาบน้ำได้อีก. จะใช้เวลาประมาณ 2-3 ชม.
การใช้ห้องน้ำ. บ้านฝรั่งส่วนมากห้องน้ำเค้าจะพื้นแห้ง. นั่นหมายความว่าเวลาคุณอาบน้ำเสร็จ. คุณเช็ดตัวในส่วนอาบน้ำ. แล้วเดินออกมาตอนตัวแห้ง. ถ้าเดินเตาะแตะออกมาทำพื้นเปียก ก็เช็ดตามตัวคุณออกมาด้วย.
อย่าเก็บเสื้อผ้าเปียกๆ หรือตากผ้าในห้อง. อันนี้เป็นกฎทั่วไปที่คนเมืองหนาวเค้าไม่ทำกัน. เพราะมันจะทำให้ห้องและบ้านชื้น. พอบ้านชื้น. ก็จะเป็นที่สะสมของเชื้อรา. และเชื้อโรคสารพัด. อันนี้มีเรื่องขำๆ จะประสบการณ์ของเพื่อนคนจีน. ที่เค้าไปเช่าห้องอยู่. แล้วตัวเธอติดนิสัยตากผ้าในห้อง. อยู่ไปหกเดือน. เธอไม่สบายบ่อยมาก. เป็นหวัดมันทั้งปี. หกเดือนผ่านไป. ประตูห้องปิดไม่ได้. หน้าต่างเปิด ปิดลำบาก. เธอก็บ่นไปทางเจ้าของบ้าน. ทางเจ้าของบ้านส่งช่างมาดู. ช่างมองดูกำแพง. และพื้นห้อง. บอกว่าห้องนี้ชื้นมาก. แต่ยังไงจะลองเปลี่ยนไม้ตรงประตูให้. พอช่างแกะไม้ออกมา. เจอสารพัดราขึ้นเต็ม. ช่างก็สงสัยเลยแกะกำแพงดู. ราหลังกำแพงอีก. สรุปคุณเพื่อนคนจีนคนนี้ต้องเสียเงินค่าซ่อมห้องอีก $9,000 เพราะเค้าต้องเปลี่ยนกำแพงใหม่หมด. มันไม่ใช่ความผิดเจ้าของบ้าน. ถ้าคุณมีนิสัยสกปรกชอบตากผ้าในห้อง. คุณไม่รับผิดชอบและไม่ดูแลรักษาที่เยู่อาศัยก็มีผลกระทบแบบนี้
ใช้ห้องส้วม
เวลาคุณทำกลิ่นเหม็นในห้องน้ำ. ก็เปิดหน้าต่างหน่อย. เปิดพัดลม. ก่อนออกจากห้องน้ำก็ตรวจดูว่ากดชักโครกดีหรือยัง. เด็กหนุ่มๆ ก็เอาที่นั่งขึ้นก่อนจะฉี่. แล้วก็ฉี่ให้ตรงโถ ไม่กระเด็นกระดอน. จะดีมาก. อ่านดูเหมือน common sense อีก. อยากจะบอกว่า. เราเคยต้องสอนนักเรียนชายไทย. อายุ 16 ปี. เรื่องการใช้โถส้วม และการฉี่. เพราะน้องคนนี้ย้ายบ้าน 4 บ้านในเวลา สามเดือน. เวลาเจอเคสประมาณนี้. จุดสนใจจะอยู่ที่ตัวนักเรียน. สาเหตุเพราะคุณน้องชอบฉี่แบบปล่อยปละละเลย. กระจัดกระจายไปทั่ว หลังจากเสร็จธุระก็ไม่เช็ดทำความสะอาด. จนโฮสต์บัานสุดท้ายส่งรูปมาให้โรงเรียนดูว่าแย่ขนาดไหน. โรงเรียนส่งรูปต่อมาใหัเราดู. บอก ให้ช่วยพูดหน่อย. เราแทบจะอาเจียรออกมาเลยค่ะตอนเปิดอีเมล์. แล้วก็ทำให้นึกไปถึงพ่อแม่ผู้ปกครองของเด็ก. เค้าไม่อบรมสั่งสอนลูกหลานกันหรืออย่างไร. ของแบบนี้มันเป็นสุขอนามัยเบื้องต้นที่ทุกคนต้องรู้. พอเรามาสอนเด็ก. เค้าก็ไม่พอใจ. โอเค. คุณน้อง. พี่ถามหน่อยเวลาน้องไปใช้ส้วมที่ไหน. น้องจะใช้ไหม. ส้วมที่น้องเห็นในรูป (อีเมล์จากโฮสต์). คุณน้องสั่นหน้า. เราเลยบอกว่ารูปนี้ดูไม่คุ้นหรอกเหรอคะ. โฮสต์นัองส่งมาให้ทาง รร. ถึงได้ยอมรับ. เราเลยต้องมาสอนวิธีการฉี่แบบแมนๆ ให้คุณน้องนามสกุลดัง. ถ้าไม่อยากจับของสำคัญตัวเอง. คุณน้องก็ใชัทิชชู่นะคะ. แล้วก็พยายามยิง ให้ตรงโถ
ห้องนอน.
อย่างที่บอกไว้ก่อนหน้านี้. อย่าเอาผ้าเปียกเก็บไว้ในห้องนอน. ตื่นนอนมาก็เก็บที่นอนหน่อย. ส่วนมากคนนิวซีแลนด์จะไม่ค่อยปิดประตูห้องกัน. นอกเสียจากตอนนอน เพราะฉะนั้นคุณก็ควรจะหมั่นดูแลห้องนอน ให้มันดูสะอาดเรียบร้อย. ไม่ถึงขนาด perfect แค่ไม่รกรุงรังก็พอ
ทานข้าว
ก็เหมือนมารยาทไทย. เค้าไม่ทานเสียงดัง. ถ้าเราอยากใช้ช้อนทานข้าวก็ถามเค้า. เพราะฝรั่งส่วนมากชินกับการทานข้าวด้วยส้อม
ล้างจาน. เมื่อทานข้าวเสร็จก็ช่วยเอาจานไปเก็บล้าง. อย่านั่งเป็นคุณนาย. มีน้ำใจกับคนที่เค้าทำกับข้าวให้กิน. บางบ้านเค้าล้างจานแบบใช้เครื่อง. คุณก็ช่วยเค้าล้างน้ำก่อน. แล้วก็เอาจานใส่เครื่อง. ไม่แน่ใจก็ถามเค้าว่าเค้าทำยังไงกัน. บางบ้านเค้าก็ให้นักเรียนล้างจานตัวเอง. ถ้าจะคิดไปมันก็ fair อ้ะนะคะ. เค้าทำกับข้าว. คุณก็ช่วยงานบ้านเล็กๆ น้อยๆ. อย่ามาคิดว่าคุณจ่ายเงินเค้าแล้วคุณเป็นลูกค้า. นั่งให้เค้าเสิร์พ. เพราะอย่างที่บอกไว้ข้างต้น ถ้าคุณเช่าห้องอยู่เอง. ค่าใช้จ่ายนั้นมากกว่าอยู่กับโฮมสเตย์หลายเท่า
บางครอบครัวที่มีลูก. เค้าก็จะแจกจ่ายหน้าที่งานบ้าน ให้ลูกเค้าทำ. คนนึงจะดโต๊ะ. คนนึงเอวจานไปเก็บ. หรือไม่ก็งานบ้านอื่นๆ. เช่นตากผ้า เก็บผ้า. กวาดบ้าน. มีน้องคนมาบ่นกับทาง รร. ว่าโฮสต์ใช้เค้าลัางจาน. แต่ลูกๆ โฮตส์ไม่ทำอะไรเลย (อันนี้ไม่เกี่ยวกับกระทู้ในหัองไกลบ้านเร็วๆนี้นะคะ). สืบไปสืบมา ก็ได้ความว่าโฮสต์เค้าให้นัองล้างจานน้ำเปล่าแล้วเอาจานเข้าเครื่องล้าง. ส่วนลูกๆ เค้านั้นมีหน้าที่อื่น. และได้ทำงานของพวกเค้าเรียบร้อยแล้ว. การที่ล้างจานแล้วเอาใส่เครื่องล้างนี่มันก็ๆม่ได้หนักหนาสาหัสนะคะ. โฮสต์เค้าก็ไม่ได้ขออะไรมากมาย. แต่ด้วยความที่คุณน้องคนนี้เกิดมาแบบไม่ะคยต้องทำอะไรเลย. งานนี้เลยหนักมากในความเห็นของเธอ
เวลากลับบ้าน. บางบ้านเค้าจะมีเวลาเคอร์ฟิว. (Curfew) โดยเฉพาะนักเรียนอายุต่ำกว่า 18 ปี. และโดยเฉพาะนักเรียนหญิง. มันก็เป็นธรรมดาอีกนะคะ. ถ้าคุณต้องรับผิบชอบเด็กนักเรียนอีกคน. มันก็ปลอดภัยกว่าถ้าได้เห็นว่านักเรียนกลับบ้านก่อนเวลามืดค่ำ.
ส่วนนักเรียนที่แก่กว่า 18 คุณก็ต้แงรักษามารยาทนี้. ไม่ใช่ไปผับไปเที่ยวกลับมาดึกดื่น. บ้านที่นี่ มันเงียบมาก. ใครเปิดปิดประตู. เดินเข้าเดินออกก็ได้ยินกันหมด. ถ้านานๆทีคุณจะกลับดึกก็บอกกล่าวทางครอบครัวไว้. เค้าจะได้เตรียมตัวถูก
วันนี้พอแค่นี้ก่อน. เดี๋ยวม าเขียนเพิ่มเติม. เพราะเราไม่มีคอมฯที่พิมพ์ภาษาไทยได้. ต้องพิมพ์จากมือถือ. อีเมล์ตัวเอง. และตัดแปะเพื่อโพสต์. (ตั้งใจมาก)
ถ้าใครรู้วิธี่การโพสต์และตอบข้อความในพันทิพย์จากมือถือบอกเราดัวยนะคะ
Timtam_Yummy
Living in New Zealand (or oversea)
เริ่มแรกขอแนะนำตัวเองก่อน. เริ่มแรกเรามาเรียนภาษาที่ประเทศนิวซีแลนด์. จากนั้นก็หลงรักประเทศนี้. เรียนต่อในระดับ Diploma , degree and so on
ในระหว่างที่เรียนนั้น. ชีวิตก็ผกผันจากคุณหนูเป็นอีแจ๋ว. เมื่อคลื่นซูนามิพัดธุรกิจครอบครัวสลายไป. พอชีวิตตกอับในต่างแดน. เราก็ได้ประสบการณ์ชีวิตอีกมากโข
เข้าเรื่องดีกว่า. กระทู้นี้อยากจะให้ความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการมาอยู่ต่างประเทศ
โฮมสเตย์. เริ่มจากการมาอยู่กับครอบครัวโฮมสเตย์. ซึ่งเป็นทางเลือกที่น่าจะดีที่สุดสำหรับคนที่จะเริ่มมาใช้ชีวิตต่างประเทศ. คุณจะได้เรียนรู้สารพัดว่าคนที่ประเทศนั้นๆ. เค้าอยู่กันยังไง. ก่อนอื่นก็เตรียมตัวเตรียมใจไว้ว่าคุณจะมาอยู่บ้านคนอื่น. ครอบครัวอื่น. มันก็ต้องมีอะไรที่เราไม่รู้. แต่ก็ไม่ใช่จะกังวลจนเกินเหตุ. เพราะคุณกำลังจะเรียนรู้มารยาท. และข้อปฎิบัติพื้นฐานจากกระทู้นี้
เปิดใจให้กว้าง. ก่อนอื่นขอให้คิดวนแง่บวกว่าครอบครัวที่เค้าเปิดรับคุณ. อย่างน้อยที่สุด. เค้าก็ยอมเสียสละความเป็นส่วนตัวในครอบครัวเค้า. และยอมรับคนต่างชาติ ต่างภาษา. มาอยู่ร่วมชายคาเดียวกัน. แม้ว่าคุณจะจ่ายเงินค่าบ้าน และค่าอาหาร. ถ้าคุณมาคำนวนราคาอาหาร และค่าห้องเช่าปกติทั่วไปตามเมืองที่คุณอยู่. คุณจะรู้ว่าราคาโฮมสเตย์นั้นถูกที่สุดแล้ว. รวมสารพัดสิ่งน้ำ ไฟ อินเทอร์เนท. แม้ไม่รวมอาหาร. ก็โคตรคุ้ม. ไม่เชื่อก็ลองคำนวนดูเอง
และด้วยสาเหตุนี้. คุณก็ควรจะปฎิบัติตามที่เจ้าบ้านเค้าขอ ส่วนมากก็ขอให้ช่วยประหยัดน้ำ. ประหยัดไฟฟ้า. และตรวจสอบเรื่องปิดบ้านล็อคบ้านก่อนออกไปข้างนอก. อ่านดูคุณก็คงจะคิด. แหม. .. ก็เป็นเรื่องปกติ. ใครๆ ก็ทำกัน. จากประสบการณ์การเป็นที่ปรึกษาเด็กต่างชาติมาหลายปี. สิ่งเล็กๆ น้อยๆ อย่างนี้หล่ะค่ะ. ที่ก่อปัญหากวนใจ. พาลไปหาว่าโฮสต์เรื่องมาก. กฎโน่น กฎนี้. แค่คุณนักเรียนเล่นเปิดฮีทเตอร์แรงสูงมันทั้งวันทั้นคืน. บ้านเค้าจะไหม้เอา.
เรื่องอาบน้ำ. อันนี้ตอนเรามาอยู่แรกๆ อ่านกฎโฮสต์ที่บ้านว่ากรุณาอย่าอาบน้ำนานเกิน 7 นาที. แหม... เคืองค่ะ. อะไรวะ. ให้ใช้ห้องน้ำแค่นี้. แต่พอมารู้เหตุผล. มันก็เข้าใจอ้ะ. บ้านที่นิวซีแลนด์บางบ้านเค้ามีถังน้ำร้อนเล็กใหญ่ไม่เท่ากัน. ถ้าคุณอยู่บ้านที่มีสมาชิกเยอะหน่อย. มารยาทในการใช้ห้องน้ำ และน้ำร้อน ก็จะเป็นสิ่งที่ต้อง ให้ความสำคัญมากๆ เวลาที่เค้าบอกว่าพยายามอาบน้ำประมาณ 5 นาที. ก็พยายามปรับตัว. ซึ่งจะบอกว่าจริงๆ เวลาหน้าหนาว. แทบจะเดินผ่านเอาเลย. ง่ายมาก. ตอนอยู่เมืองไทย. อากาศมันไม่หนาวจัด. ทเราพิรี้พิๆรคร่ำครวญในห้องน้ำได้. มาอยู่นี่. ด้วยความที่มันหนาว. ก็รีบๆ อาบ. รีบๆ ใส่เสื้อผ้าจะได้อุ่น.
ถ้าคุณอาบน้ำนานจนน้ำร้อนเค้าหมดบ้าน. อันนี้ก็ลองนึกภาพว่าไปไหนๆ มาเหนื่อยๆ กลับมาอยากอาบน้ำนอน. แล้วทำไม่ได้เอาดู. ว่าคนอื่นเค้าจะ pissed off ขนาดไหน. ความสัมพันธ์ที่ดีๆ จะสั่นคลอนเอาง่ายๆ เพราะกว่าน้ำจะร้อนพอจะอาบน้ำได้อีก. จะใช้เวลาประมาณ 2-3 ชม.
การใช้ห้องน้ำ. บ้านฝรั่งส่วนมากห้องน้ำเค้าจะพื้นแห้ง. นั่นหมายความว่าเวลาคุณอาบน้ำเสร็จ. คุณเช็ดตัวในส่วนอาบน้ำ. แล้วเดินออกมาตอนตัวแห้ง. ถ้าเดินเตาะแตะออกมาทำพื้นเปียก ก็เช็ดตามตัวคุณออกมาด้วย.
อย่าเก็บเสื้อผ้าเปียกๆ หรือตากผ้าในห้อง. อันนี้เป็นกฎทั่วไปที่คนเมืองหนาวเค้าไม่ทำกัน. เพราะมันจะทำให้ห้องและบ้านชื้น. พอบ้านชื้น. ก็จะเป็นที่สะสมของเชื้อรา. และเชื้อโรคสารพัด. อันนี้มีเรื่องขำๆ จะประสบการณ์ของเพื่อนคนจีน. ที่เค้าไปเช่าห้องอยู่. แล้วตัวเธอติดนิสัยตากผ้าในห้อง. อยู่ไปหกเดือน. เธอไม่สบายบ่อยมาก. เป็นหวัดมันทั้งปี. หกเดือนผ่านไป. ประตูห้องปิดไม่ได้. หน้าต่างเปิด ปิดลำบาก. เธอก็บ่นไปทางเจ้าของบ้าน. ทางเจ้าของบ้านส่งช่างมาดู. ช่างมองดูกำแพง. และพื้นห้อง. บอกว่าห้องนี้ชื้นมาก. แต่ยังไงจะลองเปลี่ยนไม้ตรงประตูให้. พอช่างแกะไม้ออกมา. เจอสารพัดราขึ้นเต็ม. ช่างก็สงสัยเลยแกะกำแพงดู. ราหลังกำแพงอีก. สรุปคุณเพื่อนคนจีนคนนี้ต้องเสียเงินค่าซ่อมห้องอีก $9,000 เพราะเค้าต้องเปลี่ยนกำแพงใหม่หมด. มันไม่ใช่ความผิดเจ้าของบ้าน. ถ้าคุณมีนิสัยสกปรกชอบตากผ้าในห้อง. คุณไม่รับผิดชอบและไม่ดูแลรักษาที่เยู่อาศัยก็มีผลกระทบแบบนี้
ใช้ห้องส้วม
เวลาคุณทำกลิ่นเหม็นในห้องน้ำ. ก็เปิดหน้าต่างหน่อย. เปิดพัดลม. ก่อนออกจากห้องน้ำก็ตรวจดูว่ากดชักโครกดีหรือยัง. เด็กหนุ่มๆ ก็เอาที่นั่งขึ้นก่อนจะฉี่. แล้วก็ฉี่ให้ตรงโถ ไม่กระเด็นกระดอน. จะดีมาก. อ่านดูเหมือน common sense อีก. อยากจะบอกว่า. เราเคยต้องสอนนักเรียนชายไทย. อายุ 16 ปี. เรื่องการใช้โถส้วม และการฉี่. เพราะน้องคนนี้ย้ายบ้าน 4 บ้านในเวลา สามเดือน. เวลาเจอเคสประมาณนี้. จุดสนใจจะอยู่ที่ตัวนักเรียน. สาเหตุเพราะคุณน้องชอบฉี่แบบปล่อยปละละเลย. กระจัดกระจายไปทั่ว หลังจากเสร็จธุระก็ไม่เช็ดทำความสะอาด. จนโฮสต์บัานสุดท้ายส่งรูปมาให้โรงเรียนดูว่าแย่ขนาดไหน. โรงเรียนส่งรูปต่อมาใหัเราดู. บอก ให้ช่วยพูดหน่อย. เราแทบจะอาเจียรออกมาเลยค่ะตอนเปิดอีเมล์. แล้วก็ทำให้นึกไปถึงพ่อแม่ผู้ปกครองของเด็ก. เค้าไม่อบรมสั่งสอนลูกหลานกันหรืออย่างไร. ของแบบนี้มันเป็นสุขอนามัยเบื้องต้นที่ทุกคนต้องรู้. พอเรามาสอนเด็ก. เค้าก็ไม่พอใจ. โอเค. คุณน้อง. พี่ถามหน่อยเวลาน้องไปใช้ส้วมที่ไหน. น้องจะใช้ไหม. ส้วมที่น้องเห็นในรูป (อีเมล์จากโฮสต์). คุณน้องสั่นหน้า. เราเลยบอกว่ารูปนี้ดูไม่คุ้นหรอกเหรอคะ. โฮสต์นัองส่งมาให้ทาง รร. ถึงได้ยอมรับ. เราเลยต้องมาสอนวิธีการฉี่แบบแมนๆ ให้คุณน้องนามสกุลดัง. ถ้าไม่อยากจับของสำคัญตัวเอง. คุณน้องก็ใชัทิชชู่นะคะ. แล้วก็พยายามยิง ให้ตรงโถ
ห้องนอน.
อย่างที่บอกไว้ก่อนหน้านี้. อย่าเอาผ้าเปียกเก็บไว้ในห้องนอน. ตื่นนอนมาก็เก็บที่นอนหน่อย. ส่วนมากคนนิวซีแลนด์จะไม่ค่อยปิดประตูห้องกัน. นอกเสียจากตอนนอน เพราะฉะนั้นคุณก็ควรจะหมั่นดูแลห้องนอน ให้มันดูสะอาดเรียบร้อย. ไม่ถึงขนาด perfect แค่ไม่รกรุงรังก็พอ
ทานข้าว
ก็เหมือนมารยาทไทย. เค้าไม่ทานเสียงดัง. ถ้าเราอยากใช้ช้อนทานข้าวก็ถามเค้า. เพราะฝรั่งส่วนมากชินกับการทานข้าวด้วยส้อม
ล้างจาน. เมื่อทานข้าวเสร็จก็ช่วยเอาจานไปเก็บล้าง. อย่านั่งเป็นคุณนาย. มีน้ำใจกับคนที่เค้าทำกับข้าวให้กิน. บางบ้านเค้าล้างจานแบบใช้เครื่อง. คุณก็ช่วยเค้าล้างน้ำก่อน. แล้วก็เอาจานใส่เครื่อง. ไม่แน่ใจก็ถามเค้าว่าเค้าทำยังไงกัน. บางบ้านเค้าก็ให้นักเรียนล้างจานตัวเอง. ถ้าจะคิดไปมันก็ fair อ้ะนะคะ. เค้าทำกับข้าว. คุณก็ช่วยงานบ้านเล็กๆ น้อยๆ. อย่ามาคิดว่าคุณจ่ายเงินเค้าแล้วคุณเป็นลูกค้า. นั่งให้เค้าเสิร์พ. เพราะอย่างที่บอกไว้ข้างต้น ถ้าคุณเช่าห้องอยู่เอง. ค่าใช้จ่ายนั้นมากกว่าอยู่กับโฮมสเตย์หลายเท่า
บางครอบครัวที่มีลูก. เค้าก็จะแจกจ่ายหน้าที่งานบ้าน ให้ลูกเค้าทำ. คนนึงจะดโต๊ะ. คนนึงเอวจานไปเก็บ. หรือไม่ก็งานบ้านอื่นๆ. เช่นตากผ้า เก็บผ้า. กวาดบ้าน. มีน้องคนมาบ่นกับทาง รร. ว่าโฮสต์ใช้เค้าลัางจาน. แต่ลูกๆ โฮตส์ไม่ทำอะไรเลย (อันนี้ไม่เกี่ยวกับกระทู้ในหัองไกลบ้านเร็วๆนี้นะคะ). สืบไปสืบมา ก็ได้ความว่าโฮสต์เค้าให้นัองล้างจานน้ำเปล่าแล้วเอาจานเข้าเครื่องล้าง. ส่วนลูกๆ เค้านั้นมีหน้าที่อื่น. และได้ทำงานของพวกเค้าเรียบร้อยแล้ว. การที่ล้างจานแล้วเอาใส่เครื่องล้างนี่มันก็ๆม่ได้หนักหนาสาหัสนะคะ. โฮสต์เค้าก็ไม่ได้ขออะไรมากมาย. แต่ด้วยความที่คุณน้องคนนี้เกิดมาแบบไม่ะคยต้องทำอะไรเลย. งานนี้เลยหนักมากในความเห็นของเธอ
เวลากลับบ้าน. บางบ้านเค้าจะมีเวลาเคอร์ฟิว. (Curfew) โดยเฉพาะนักเรียนอายุต่ำกว่า 18 ปี. และโดยเฉพาะนักเรียนหญิง. มันก็เป็นธรรมดาอีกนะคะ. ถ้าคุณต้องรับผิบชอบเด็กนักเรียนอีกคน. มันก็ปลอดภัยกว่าถ้าได้เห็นว่านักเรียนกลับบ้านก่อนเวลามืดค่ำ.
ส่วนนักเรียนที่แก่กว่า 18 คุณก็ต้แงรักษามารยาทนี้. ไม่ใช่ไปผับไปเที่ยวกลับมาดึกดื่น. บ้านที่นี่ มันเงียบมาก. ใครเปิดปิดประตู. เดินเข้าเดินออกก็ได้ยินกันหมด. ถ้านานๆทีคุณจะกลับดึกก็บอกกล่าวทางครอบครัวไว้. เค้าจะได้เตรียมตัวถูก
วันนี้พอแค่นี้ก่อน. เดี๋ยวม าเขียนเพิ่มเติม. เพราะเราไม่มีคอมฯที่พิมพ์ภาษาไทยได้. ต้องพิมพ์จากมือถือ. อีเมล์ตัวเอง. และตัดแปะเพื่อโพสต์. (ตั้งใจมาก)
ถ้าใครรู้วิธี่การโพสต์และตอบข้อความในพันทิพย์จากมือถือบอกเราดัวยนะคะ
Timtam_Yummy