ผู้ค้ำประกันรถยนต์ มีผลกับการเข้าทำงานรึไหม

มีเรื่องสอบถามเกี่ยวกับเราผู้ค้ำประกันรถยนต์
    ตอนนี้เรื่องจบที่ผู้เช่าซื้อขึ้นศาล คดีสิ้นสุดตกลงประนอมหนี้ เมื่อประมาณปี56
    ปัญหามันเกิดขึ้นตรงนี้คือ เรากำลังจะเข้าทำงานกับบริษัทกลุ่มธนาคาร
และเป็นบริษัทไฟแนนท์ที่เคยทำเรื่องตอนซื้อรถ ฝ่าย HR โทรมาถามเราว่า
พี่เคยมีเรื่องเกี่ยวกับคดีความมาก่อนไหม. เราก็นึกขึ้นได้ ใช่มีเรื่องที่เราเคย
ค้ำประกันรถ และผู้เช่าซื้อก็เอารถไปจำนำกับที่ไหนไม่รู้ไม่ยอมเอามาคืน.
แต่ไปตกลงขอประนอมหนี้ที่ศาลว่าจะจ่ายกันเท่าไหร่. กี่งวด. งวดละกี่บาท.
เราก็บอก HR ตามที่เรารู้เท่านี้
แต่เมื่อเราติดต่อไปที่จนท.ฝ่ายกฎหมายของไฟแนนท์ว่าตอนนี้เรื่องถึงไหน
จนท.บอกว่าผู้เช่าซื้อได้ผ่อนจ่ายเงินมารวมยอด 60000 บาท (ยอดเงินน่าจะ
สองแสนกว่าบาท) และจ่ายครั้งสุดท้ายคือ มิ.ย ปีที่แล้ว เราก็ตกใจอ้าวนึกว่า
เรื่องจบไปแล้วเพราะเห็นเงียบไป จนท. บอกว่าตอนนี้อยู่ขั้นตอนติดตามยึดทรัพย์
เราเลยถามว่าจะมีผลถึงเราที่กำลังจะเข้าทำงานไหม จนท.ก็พูดว่าอาจจะมีโดยการ
อาจจะหักเงินเดือนเราก็ได้ถ้าผู้เช่าไม่ติดต่อชำระเงิน
    เราติดต่อไปที่ผู้เช่าซื้อถามว่าตอนนี้เรื่องถึงไหนแล้ว (เรากับเขาไม่ได้คุยกันมา
เป็นปีๆ ถ้าไม่มีเรื่องนี้แดงขึ้นมา) เขาก็บอกว่าผ่อนเดือนละเท่านี้ บางทีก็สองเดือน
จ่ายที (เราจับโกหกได้ละ เพราะเราเช็คกับ จนท.มาก่อน) เขารีบบอกเลยว่าเดี๋ยว
พรุ่งนี้จะไปจ่ายเพื่อให้มียอดเคลื่อนไหว. เราเลยจบท้ายด้วยว่าถ้าจะจ่ายรึทำอะไร
โทรไปบอก จนท.ด้วยเผื่อยอดเงินไม่เข้า

เรื่องที่จะสอบถามมีดังนี้
1.การที่เราจะได้เข้าทำงานรึไม่ได้. HR เขาใช้เรื่องนี้เป็นเรื่องตัดสินใจด้วยหรือ
2.เราไปเช็คบูโรแล้ว.ไม่มีติดอะไรเลย HRน่าจะใช้ตัวนี้พิจารณามากกว่าเรื่องคดีไหม
3.ถ้าเราได้เข้าไปทำงานในบริษัทนี้ บริษัทสามารถตัดเงินเดือนเราได้หรือเปล่า
   กรณีที่ผู้เช่าซื้อขาดการส่งเงิน

เราอาจจะเรียกภาษากฎหมายไม่ถูก เรื่องอาจจะยาวจนไม่น่าอ่าน แต่รบกวนผู้รู้กฏหมาย
ผู้ทำงานฝ่ายบุคคล ผู้มีประสบการณ์ ช่วยให้คำแนะนำเราที เราเครียดมากเลยตอนนี้
ไม่รู้จะทำยังไง จนกว่า HR จะโทรมาแจ้งเรื่องว่าเราจะได้ทำงานที่นี้ไหม

ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่าน. และให้คำแนะนำนะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่