เป้าหมายของการตั้งกระทู้นี้คือ ต้องการระบายค่ะ และอยากฟังความคิดเห็นเผื่อมีแนวทางแก้ปัญหา แต่ก็คงจะลำบากอยู่ล่ะค่ะ
เราอึดอัดและปวดหัวใจมากซึ่งปัญหานี้เราเก็บคนเดีนวมาตลอดเรื่องมันเริ่มต้นมานานแล้วค่ะ และยาวมาจนถึงทุกวันนี้ เหตุที่ทำให้เราต้องมาโพสเพราะรู้สึกอึดอัดมากรับไม่ไหวแล้ว อยากหาที่ระบายสักทีนึงอยากมีคนแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เรื่องปัญหาครอบครัวเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน จะพูดกีบคนอื่นก็กลัวว่าเค้าจะมองแม่ไม่ดี
เราเองอายุเพิ่งจะ 22 ค่ะ มีน้องชายหนึ่งคนอายุห่างกันสามปี พ่อทำงานหาเงินเลี้ยงครอบครัวคนเดียว ส่วนแม่เป็นแม่บ้านไม่ได้ประกอบอาชีพอะไร พ่อประกอบอาชีพที่ต้องออกนอกบ้านไปนานๆ กลับบ้านเดือนละครั้งสองครั้งหรือบางทีก็นานสองสามเดือนกว่าจะกลับ กลับมาครั้งนึงอยู่บ้าน 3 - 4 วัน(โดยเฉลี่ย) บางโอกาสพ่อก็กลับบ้านมาได้เป็นสัปดาห์ แล้วแต่ฤดูกาลค่ะ
ส่วนแม่ก็เคยทำงานนะคะสมัยเมื่อก่อนตอนที่ยังลำบาก จำไม่ค่อยได้แล้วค่ะเพราะตอนนั้นยังเด็กมาก มีที่จำได้ก็เคยช่วยแม่ขายน้ำแข็งใสขูด ขายเสื้อผ้าค่ะขายไม่ดีก็เลิกขายไป พอมีน้องแม่ก็ไม่ได้ทำงานอะไรแล้วค่ะ
ขอเริ่มเข้าเรื่องตรงนี้นะคะ
ตอนที่เริ่มสังเกตุเห็นว่าแม่เริ่มเปลี่ยนไป ตอนนั้นเราเองประมาณ ม.4 - ม.5 ค่ะ ที่บ้านเริ่มมีเงินใช้สบายแม่เริ่มมีมือถือที่ทันสมัยมากขึ้น ตอนนั้นฮิตๆก็มือถือฝาพับ ย้ายออกจากบ้านเช่ามาซื้อบ้านเป็นของตัวเอง เริ่มมีรถยนต์ขับพอย้ายบ้านแม่ก็เริ่มมีสังคมปกติอยู่บ้านปลูกต้นไม้ดอกไม้เมื่อก่อนแม่ชอบมากๆ พอแม่มีสังคมมากขึ้นต้นไม้ก็เริ่มตายลงไปบ้างลูกๆก็ผลัดกันรดน้ำต้นไม้นะคะ แต่ไม่ได้ดูแลดีเท่าแม่ ไปๆมาๆต้นไม้แทบไม่เหลือ จากแม่บ้านทำกับข้าวให้ลูกกินทุกวันไปจ่ายตลาดกับแม่บ่อยๆ กลายเป็นกินข้าวแกงใส่ถุงมาตั้งไว้ หากินกับน้องสองคนนะลูก แม่ไปข้างนอก แม่เริ่มดื่ม เริ่มเที่ยว และกลับบ้านดึก ดึกชนิดที่ว่า ตี2 ตี3 ยังไม่ถึงบ้าน ก็เคยโทรถามนะคะว่าอยู่ไหน ทำไมกลับดึก แม่ก็จะบอกว่าอยุ่กับเพื่อนคนนี้ๆ กินกับเพื่อนอยู่เดี่ยวกลับ บางวันกลับอีกทีเช้าของอีกวันกว่าจะกลับบ้าน เราชอบนอนข้างล่างหน้าทีวีค่ะ สะดุ้งตื่นทุกครั้งที่แม่เปิดประตูเข้าบ้าน แม่ก็จะย่องเข้าบ้านเงียบๆไม่ให้ลูกรู้ บางครั้งเราก็แกล้งหลับต่อทำเป็นเฉยๆเงียบๆ บางครั้งก็ตื่นมาพูดกับแม่ว่สทำไมเพิ่งกลับ กลับเช้าจัง กลิ่นเหล้านี้หึ่งเลยค่ะเป็นแบบนี้เสมอ บ่อยครั้งมากที่พ่อโทรมาถาม มาคุยตามประสาพ่อลูกว่าทำอะไรอยู่กินอะไรหรือยัง น้องทำอะไร วันนี้กินอะไร แล้วก็ถามถึงแม่ค่ะว่าแม่อยู่ไหน อึดอัดมากๆค่ะเพราะเป็นคนไม่ชอบการโกหก ตัวเราเองไม่ชอบการถูกโกหกเลยไม่อยากโกหกใคร แม่ก็จะพูดขัดไว้เสมอว่าถ้าพ่อโทรมาอย่าบอกพ่อนะว่าแม่ไปดื่ม กลับดึก ให้บอกว่าแม่นอนอยู่บนห้อง อึดอัดมากๆ แต่ก็มีบอกบ้างว่าแม่ไปข้างนอกอยู่บ้านเพื่อนนะ แต่เหมือนพ่อจะรู้ค่ะว่าแม่ไปดื่มกลับบ้านดึก พ่อบอกว่าพ่อมีสายนะมีคนเห็นแล้วเอามาบอกพ่อ บางทีก็ไปไม่ถูกเลยค่ะอึดอัดมาก และคิดว่าสิ่งนี้แหล่ะค่ะที่เป็นเหมือนใบเบิกทางใหแม่เดินไปไกลมากขึ้น
นานๆเข้าแม่เริ่มติดมือถือค่ะ(ยังเป็นฝาพับอยู่) คุยโทรศัพท์นานๆ มือถือติดตัวตลอด ลูกแตะไม่ได้ แตะทีนึงมาเป็นชุด (ปกติเวลาแม่โมโหมักขึ้นเสียงดังมากๆ และพูดยาวมาก เราก็เด็กดื้อค่ะชอบเถียง บางครั้งก็ไม่เถียงค่ะเงียบๆแต่ทำหน้สบูดบึ้ง 555 ) ด้วยความที่สงสัยจากเมื่อก่อนยังเล่นได้อยู่เลยทำไมเดี่ยวนี้ถึงเล่นไม่ได้ ก็ชอบแอบหาจังหวะแม่เผลอดูมือถือแต่ก็ไม่มีอะไรผิดปกติ เคยแอบคิดค่ะว่าแม่มีกิ๊กหรือเปล่าแต่ก็ยังไม่อยากกล่าวหาแม่ค่ะ แม่คงไม่ทำแม่ยังมีเรากับน้องแถมมีพ่ออยู่ถึงแม้แม่จะชอบบ่นพ่อ ไม่ชอบให้พ่อนอนด้วยก็ตาม เวลาพ่อกลับบ้านก็จะมานอนกับเราสามคนพ่อลูกค่ะแม่นอนในห้องบนบ้านคนเดียว มีนานนนนนน๊านที ที่พ่อจะนอนบนบ้าน เวลาพ่อกลับบ้านแม่ก็จะไม่เที่ยว ไม่ดื่มนะคะ ทำกับข้าว ซื้อข้าวแกงมากินบ้าง
แล้ววันนึงตอนแม่อาบน้ำ เป็นปกติค่ะของลูกขี้สงสัยก็เปิดดูมือถือแม่เลยก็เจอแจ๊คพ็อตค่ะ ไปเจอรูปอวัยวะเพศชายลักษณะเหมือนมีมือผู้หญิงจับอยู่ ตอนนี้พ่อนอนดูทีวีอยู่ น้องเล่นคอมอยู่เรารีบปิดมือถือเก็บไว้เหมือนเดิมข่มอารมณ์เดินมาหน้าบ้านมานั่งร้องไห้กับสุนัขที่เลี้ยงไว้พยายามร้องให้เงียบที่สุดไม่มีเสียง พูดกับมันเบาๆว่าทำไมแม่ต้องทำแบบนี้ สงสารพ่อจับใจเลยค่ะ แอบชะเง้อหน้าไปมองพ่อที่ดูทีวีอยู่อย่างสบายใจแล้วยิ่งร้องไห้หนักเอามือปิดปากไว้พยายามข่มอารมณ์สงบสติ เปิดก๊อกหน้าบ้านล้างหน้าพยายามไม่คิดอะไร รอให้จมูกหายแดงเดี่ยวมีคนสงสัย ตอนนั้นในสมองไม่ได้คิดหรอกว่าของพ่อหรือเปล่าแต่ด้วยพฤติกรรมก่อนหน้านี้ของแม่มันทำให้เราปักใจเชื่อว่าไม่ใช่ของพ่อแน่ๆ เก็บเรื่องนี้ไว้คนเดียวมาตลอดค่ะ ยอมรับว่สตอนนั้นยังเด็กและหัวอ่อนมากกับเรื่องแบบนี้ เรารับไม่ได้ค่ะ มีบางครั้งที่แม่ไปเที่ยวกลับมา พูดนิดๆหน่อยว่าไปเที่ยวก็มีโมโหร้ายใส่บ้าง พูดจาใจร้ายมากถึงขั้น
mom : "

เป็นลูก เป็นลูกก็ตั้งใจฟังพ่อแม่อย่างเดียว ไม่ต้องมาสั่งสอน" "

ไม่ต้องมาสั่งสอนแม่ นิสัยเหมือนพ่อ

เลย

ไม่ใช่ลูกกรู"
น้อยใจมากไม่รู้จะพูดยังไงน้ำตาตกใน เราบอกแม่ว่า
me : "แม่อย่าพูด

กรูกับลูกนะ หนูไม่ชอบหยาบๆแบบนี้ ถ้าหนูเอามาพูดบ้างจะว่ายังไง ถ้าหนูพดหนูก็ติดมาจากแม่แหล่ะ"
หลังเมาตื่นเช้ามาจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าพูดกับลูกว่าอะไร แม่ก็ยังเที่ยวดึก ดื่มกับเพื่อนแทบทุกวัน แอบคิดว่าเพราะเพื่อนที่แม่คบแน่ๆพาแม่เราดื่มและเป็นแบบนี้ แต่เรื่องนี้จะโทษฝ่ายเดียวคงไม่ได้ บ่อยมากที่เจอสภาพแม่เมาเดินโซเซเข้าบ้าน บางคืนเพื่อนของแม่หามแม่เข้ามาในบ้านเพราะแม่เมาจนขับรถไม่ไหว
น้องมักจะนอนเร็วและหลับลึกก็จะมีเราค่ะที่เห็นอะไรแบบนี้บ่อยๆพ่อก็ยังโทรมาถามเสมอ มาวันหนึ่งจำได้แม่นว่าวันนั้นสอบปลายภาค แม่ชาร์ตแบตทิ้งไว้แล้วอาบน้ำ มีสายเข้า ตอนแรกไม่สนใจ จนสายตัดไป แล้วเบอร์เดิมก็โทรมาอีก เราก็เลยไปรับสายแทนคิดว่าคงมีธุระอะไรด่วนหรือเปล่า แต่ก็ดันเจอเรื่องเซอร์ไพร์สแทน ปลายสายเป็นเสียงผู้หญิงน้ำเสียงโมโห พูดว่า
Her: "

เลิกยุ่งกับผัวชาวบ้านได้แล้ว เค้ามีเจ้าของแล้ว"
มือนี่สั่นไปหมดเลยค่ะพยายามข่มใจไว้ พูดกับเค้าดีๆ
Me: คุณคงเข้าใจผิดแล้วค่ะ แม่ไม่ทำหรอกค่ะ มีลูกแล้วนะคะ
Her: งั้นก็ฝากบอกแม่

ด้วยเลิกยุงกับผัวชาวบ้าน
แล้วเค้าก็ตัดสายทิ่งไป เราพยายามโทรกลับไปเพื่อคุยอยากถามว่าอะไรยังไงกัน แต่เค้าก็ไม่รับสายค่ะตัดสายทิ้ง
แผลในใจของลูกคนหนึ่ง ที่รู้มาตลอดว่าแม่มีกิ๊ก
เราอึดอัดและปวดหัวใจมากซึ่งปัญหานี้เราเก็บคนเดีนวมาตลอดเรื่องมันเริ่มต้นมานานแล้วค่ะ และยาวมาจนถึงทุกวันนี้ เหตุที่ทำให้เราต้องมาโพสเพราะรู้สึกอึดอัดมากรับไม่ไหวแล้ว อยากหาที่ระบายสักทีนึงอยากมีคนแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เรื่องปัญหาครอบครัวเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน จะพูดกีบคนอื่นก็กลัวว่าเค้าจะมองแม่ไม่ดี
เราเองอายุเพิ่งจะ 22 ค่ะ มีน้องชายหนึ่งคนอายุห่างกันสามปี พ่อทำงานหาเงินเลี้ยงครอบครัวคนเดียว ส่วนแม่เป็นแม่บ้านไม่ได้ประกอบอาชีพอะไร พ่อประกอบอาชีพที่ต้องออกนอกบ้านไปนานๆ กลับบ้านเดือนละครั้งสองครั้งหรือบางทีก็นานสองสามเดือนกว่าจะกลับ กลับมาครั้งนึงอยู่บ้าน 3 - 4 วัน(โดยเฉลี่ย) บางโอกาสพ่อก็กลับบ้านมาได้เป็นสัปดาห์ แล้วแต่ฤดูกาลค่ะ
ส่วนแม่ก็เคยทำงานนะคะสมัยเมื่อก่อนตอนที่ยังลำบาก จำไม่ค่อยได้แล้วค่ะเพราะตอนนั้นยังเด็กมาก มีที่จำได้ก็เคยช่วยแม่ขายน้ำแข็งใสขูด ขายเสื้อผ้าค่ะขายไม่ดีก็เลิกขายไป พอมีน้องแม่ก็ไม่ได้ทำงานอะไรแล้วค่ะ
ขอเริ่มเข้าเรื่องตรงนี้นะคะ
ตอนที่เริ่มสังเกตุเห็นว่าแม่เริ่มเปลี่ยนไป ตอนนั้นเราเองประมาณ ม.4 - ม.5 ค่ะ ที่บ้านเริ่มมีเงินใช้สบายแม่เริ่มมีมือถือที่ทันสมัยมากขึ้น ตอนนั้นฮิตๆก็มือถือฝาพับ ย้ายออกจากบ้านเช่ามาซื้อบ้านเป็นของตัวเอง เริ่มมีรถยนต์ขับพอย้ายบ้านแม่ก็เริ่มมีสังคมปกติอยู่บ้านปลูกต้นไม้ดอกไม้เมื่อก่อนแม่ชอบมากๆ พอแม่มีสังคมมากขึ้นต้นไม้ก็เริ่มตายลงไปบ้างลูกๆก็ผลัดกันรดน้ำต้นไม้นะคะ แต่ไม่ได้ดูแลดีเท่าแม่ ไปๆมาๆต้นไม้แทบไม่เหลือ จากแม่บ้านทำกับข้าวให้ลูกกินทุกวันไปจ่ายตลาดกับแม่บ่อยๆ กลายเป็นกินข้าวแกงใส่ถุงมาตั้งไว้ หากินกับน้องสองคนนะลูก แม่ไปข้างนอก แม่เริ่มดื่ม เริ่มเที่ยว และกลับบ้านดึก ดึกชนิดที่ว่า ตี2 ตี3 ยังไม่ถึงบ้าน ก็เคยโทรถามนะคะว่าอยู่ไหน ทำไมกลับดึก แม่ก็จะบอกว่าอยุ่กับเพื่อนคนนี้ๆ กินกับเพื่อนอยู่เดี่ยวกลับ บางวันกลับอีกทีเช้าของอีกวันกว่าจะกลับบ้าน เราชอบนอนข้างล่างหน้าทีวีค่ะ สะดุ้งตื่นทุกครั้งที่แม่เปิดประตูเข้าบ้าน แม่ก็จะย่องเข้าบ้านเงียบๆไม่ให้ลูกรู้ บางครั้งเราก็แกล้งหลับต่อทำเป็นเฉยๆเงียบๆ บางครั้งก็ตื่นมาพูดกับแม่ว่สทำไมเพิ่งกลับ กลับเช้าจัง กลิ่นเหล้านี้หึ่งเลยค่ะเป็นแบบนี้เสมอ บ่อยครั้งมากที่พ่อโทรมาถาม มาคุยตามประสาพ่อลูกว่าทำอะไรอยู่กินอะไรหรือยัง น้องทำอะไร วันนี้กินอะไร แล้วก็ถามถึงแม่ค่ะว่าแม่อยู่ไหน อึดอัดมากๆค่ะเพราะเป็นคนไม่ชอบการโกหก ตัวเราเองไม่ชอบการถูกโกหกเลยไม่อยากโกหกใคร แม่ก็จะพูดขัดไว้เสมอว่าถ้าพ่อโทรมาอย่าบอกพ่อนะว่าแม่ไปดื่ม กลับดึก ให้บอกว่าแม่นอนอยู่บนห้อง อึดอัดมากๆ แต่ก็มีบอกบ้างว่าแม่ไปข้างนอกอยู่บ้านเพื่อนนะ แต่เหมือนพ่อจะรู้ค่ะว่าแม่ไปดื่มกลับบ้านดึก พ่อบอกว่าพ่อมีสายนะมีคนเห็นแล้วเอามาบอกพ่อ บางทีก็ไปไม่ถูกเลยค่ะอึดอัดมาก และคิดว่าสิ่งนี้แหล่ะค่ะที่เป็นเหมือนใบเบิกทางใหแม่เดินไปไกลมากขึ้น
นานๆเข้าแม่เริ่มติดมือถือค่ะ(ยังเป็นฝาพับอยู่) คุยโทรศัพท์นานๆ มือถือติดตัวตลอด ลูกแตะไม่ได้ แตะทีนึงมาเป็นชุด (ปกติเวลาแม่โมโหมักขึ้นเสียงดังมากๆ และพูดยาวมาก เราก็เด็กดื้อค่ะชอบเถียง บางครั้งก็ไม่เถียงค่ะเงียบๆแต่ทำหน้สบูดบึ้ง 555 ) ด้วยความที่สงสัยจากเมื่อก่อนยังเล่นได้อยู่เลยทำไมเดี่ยวนี้ถึงเล่นไม่ได้ ก็ชอบแอบหาจังหวะแม่เผลอดูมือถือแต่ก็ไม่มีอะไรผิดปกติ เคยแอบคิดค่ะว่าแม่มีกิ๊กหรือเปล่าแต่ก็ยังไม่อยากกล่าวหาแม่ค่ะ แม่คงไม่ทำแม่ยังมีเรากับน้องแถมมีพ่ออยู่ถึงแม้แม่จะชอบบ่นพ่อ ไม่ชอบให้พ่อนอนด้วยก็ตาม เวลาพ่อกลับบ้านก็จะมานอนกับเราสามคนพ่อลูกค่ะแม่นอนในห้องบนบ้านคนเดียว มีนานนนนนน๊านที ที่พ่อจะนอนบนบ้าน เวลาพ่อกลับบ้านแม่ก็จะไม่เที่ยว ไม่ดื่มนะคะ ทำกับข้าว ซื้อข้าวแกงมากินบ้าง
แล้ววันนึงตอนแม่อาบน้ำ เป็นปกติค่ะของลูกขี้สงสัยก็เปิดดูมือถือแม่เลยก็เจอแจ๊คพ็อตค่ะ ไปเจอรูปอวัยวะเพศชายลักษณะเหมือนมีมือผู้หญิงจับอยู่ ตอนนี้พ่อนอนดูทีวีอยู่ น้องเล่นคอมอยู่เรารีบปิดมือถือเก็บไว้เหมือนเดิมข่มอารมณ์เดินมาหน้าบ้านมานั่งร้องไห้กับสุนัขที่เลี้ยงไว้พยายามร้องให้เงียบที่สุดไม่มีเสียง พูดกับมันเบาๆว่าทำไมแม่ต้องทำแบบนี้ สงสารพ่อจับใจเลยค่ะ แอบชะเง้อหน้าไปมองพ่อที่ดูทีวีอยู่อย่างสบายใจแล้วยิ่งร้องไห้หนักเอามือปิดปากไว้พยายามข่มอารมณ์สงบสติ เปิดก๊อกหน้าบ้านล้างหน้าพยายามไม่คิดอะไร รอให้จมูกหายแดงเดี่ยวมีคนสงสัย ตอนนั้นในสมองไม่ได้คิดหรอกว่าของพ่อหรือเปล่าแต่ด้วยพฤติกรรมก่อนหน้านี้ของแม่มันทำให้เราปักใจเชื่อว่าไม่ใช่ของพ่อแน่ๆ เก็บเรื่องนี้ไว้คนเดียวมาตลอดค่ะ ยอมรับว่สตอนนั้นยังเด็กและหัวอ่อนมากกับเรื่องแบบนี้ เรารับไม่ได้ค่ะ มีบางครั้งที่แม่ไปเที่ยวกลับมา พูดนิดๆหน่อยว่าไปเที่ยวก็มีโมโหร้ายใส่บ้าง พูดจาใจร้ายมากถึงขั้น
mom : "
น้อยใจมากไม่รู้จะพูดยังไงน้ำตาตกใน เราบอกแม่ว่า
me : "แม่อย่าพูด
หลังเมาตื่นเช้ามาจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าพูดกับลูกว่าอะไร แม่ก็ยังเที่ยวดึก ดื่มกับเพื่อนแทบทุกวัน แอบคิดว่าเพราะเพื่อนที่แม่คบแน่ๆพาแม่เราดื่มและเป็นแบบนี้ แต่เรื่องนี้จะโทษฝ่ายเดียวคงไม่ได้ บ่อยมากที่เจอสภาพแม่เมาเดินโซเซเข้าบ้าน บางคืนเพื่อนของแม่หามแม่เข้ามาในบ้านเพราะแม่เมาจนขับรถไม่ไหว
น้องมักจะนอนเร็วและหลับลึกก็จะมีเราค่ะที่เห็นอะไรแบบนี้บ่อยๆพ่อก็ยังโทรมาถามเสมอ มาวันหนึ่งจำได้แม่นว่าวันนั้นสอบปลายภาค แม่ชาร์ตแบตทิ้งไว้แล้วอาบน้ำ มีสายเข้า ตอนแรกไม่สนใจ จนสายตัดไป แล้วเบอร์เดิมก็โทรมาอีก เราก็เลยไปรับสายแทนคิดว่าคงมีธุระอะไรด่วนหรือเปล่า แต่ก็ดันเจอเรื่องเซอร์ไพร์สแทน ปลายสายเป็นเสียงผู้หญิงน้ำเสียงโมโห พูดว่า
Her: "
มือนี่สั่นไปหมดเลยค่ะพยายามข่มใจไว้ พูดกับเค้าดีๆ
Me: คุณคงเข้าใจผิดแล้วค่ะ แม่ไม่ทำหรอกค่ะ มีลูกแล้วนะคะ
Her: งั้นก็ฝากบอกแม่
แล้วเค้าก็ตัดสายทิ่งไป เราพยายามโทรกลับไปเพื่อคุยอยากถามว่าอะไรยังไงกัน แต่เค้าก็ไม่รับสายค่ะตัดสายทิ้ง