ผิวสีดำ มีปัญหากับการทำงานมากไหมค่ะ (ร้านกาแฟชื่อดัง) ยาวนิดนึง

สวัสดีทุกท่าน ค่ะ
กระทู้ นี้ จะมาบอกเล่าถึงประสบการณ์ ที่ได้ไปทำงานในช่วงเวลาเพียงสั้นๆที่ร้านกาแฟชื่อดังแห่งหนึ่ง
เริ่มจากตัวดิฉันเอง ค่ะอยากทำงานที่ ร้านนี้มานานมากแล้ว ตั้งแต่ตอนทำงานที่เดิม ที่ทำงานเดิมก็เป็นร้าน เบเกอรี่ ชื่อดังเหมือนกันค่ะ
แต่ลาออกด้วยเหตุผล วันหยุด หยุดไม่ตรงกับ วันที่ไปเรียน
จากนั้นก็ได้มาทำงานที่ร้านแฟรน์ไชน์ แถวๆบ้านค่ะ จนเรียนจบ
อยู่ที่ร้านแฟรน์ไชน์ได้ ปีกว่าๆ  ก็ลาออกไปช่วยแม่ค้าขาย เพราะช่วงนั้นท่านลำบาก จึงไปช่วยขายข้าวแกงในโรงงาน
เอาเงินที่ เก็บตอนทำงาน ออกทุนให้ ขายได้ประมาณแปดเดือน น้าสาวก็มาช่วยแทน ด้วยตอนนั้นเรียนจบพอดี ก็เลยจะหางานทำค่ะ
ตอนแรกก็จะกลับไปสมัคร ที่ทำงานเดิม แต่ก็นึกไปถึง ร้านกาแฟดังร้านนี้ เพราะเรียนจบตรงกับวุฒิที่เค้ารับแล้ว วุฒิของดิฉันสามารสมัครเป็นพนักงานรายชั่วโมงได้
และคิดว่า ถ้าได้ทำงานร้านนี้ก็จะเรียน ปวสต่อค่ะ เลยศึกษาข้อมูลดูค่ะ
ร้านกาแฟร้านดัง นี้ มีคนพูดถึงเรื่องการเอาใจใส่พนักงานมาเป็น อันดับหนึ่ง ทั้งสวัสดิการและการเรียนรู้ค่ะ
มีการส่งเรียนภาษา ด้วย ดิฉันสนใจมากๆ ด้วยความที่เคยอยากทำงานที่นี่มานาน แต่สาขาแถวบ้านไม่มี
เลยลอง เปิด เพจของร้านกาแฟดัง ที่เขา จะบอกรายละเอียด การสมัครงาน และสาขาใกล้บ้านเรา
ก็เจอ เลยโทรไปถามว่าเต็มหรือยัง เจ้าหน้าที่บอกเต็มแล้วค่ะ แต่มีอีกสาขานึง ไกลกว่านิดหน่อย แต่ถ้าทำงานไปก็มีโอกาศย้ายได้
เราเลยถามว่า เราจะส่ง ประวัติเราได้ไหม เค้าบอกว่า ไปสมัครที่ร้าน ดีกว่า เพราะคนสมัครเยอะ ต้องเลือกคนที่ดีที่สุดค่ะ
จากนั้นก็ได้ไปสมัครที่สาขานั้น สาขานั้นอยู่แถวๆคลองทวี ค่ะ นั่งรถประมาณ 40 นาที
พอถึงร้านก็ยื่นเอกสาร ค่ะ วันนั้นได้เจอ ผจก. พอดี เขาเลยบอกให้เรามาทดลองงานในวันถัดไป
อีกวันเรามาทดลองงาน ประมาณ 4ชั่วโมง ค่ะ ก็เก็บกวาด ล้างแก้ว คุยกับลูกค้า  พอเสร็จเขาก็ให้เรารับเงิน 150 บาทเป็นค่าเดินทางค่ะ
แล้วบอกว่ารอผลอีก 2วัน ตอนนั้นก็คิดน่ะค่ะ ว่าคงไม่ผ่าน เพราะก่อนออกจากร้านมา ผจก.พูดว่า แต่งหน้าไม่ค่อยสวย เราก็ยิ้มให้เธอเชิงอายๆค่ะ
ไม่ได้คิดอะไรมาก คิดว่าถ้าได้งานแล้ว จะปรับปรุง
และก็ได้รับการ ติดต่อกลับค่ะ แต่ต้องไปตรวจร่างกาย เซ็นสัญญาก่อน เราก็ไปตามที่เค้าบอกค่ะ และได้รับ คู่มือการเรียนรู้ประสบการณ์
เอากลับมานั่งอ่าน แล้วชอบมากๆค่ะ เพราะโดยทั่วไป องค์กรอื่นๆไม่ได้มีอะไรให้แบบนี้ เท่าไหร่
-ทำงานวันแรก ค่ะ ก็ได้หน้าที่ดูแลความสะอาด และบริการช่วยเหลือลูกค้าทั่วๆไป และก็ได้รู้จัก บาริสต้าที่จะคอยเทรนเราค่ะ
ก็โอเคดีค่ะ ก็ทำงานไปประมาณ สี่ชั่วโมงกว่า ผจก.ก็เข้ากะมา มองเรา แล้วพูดประมาณว่า หน้าไม่สวยเลย ทำไมดำจัง
เราก็ยิ้ม อายๆ ดูเหมือนเค้าพูดเล่นไป แต่ก็คิดว่า พรุ่งนี้จะปรับใหม่
-วันทีสองค่ะ เธอก็พูดเรื่องเดิม แต่มีเพิ่มมาคือเรื่องกางเกง ค่ะ เธอบอกว่าเราใส่ผิด ระเบียบ เย็นวันนั้นเลยไปซื้อใหม่ค่ะ
-วันที่สามค่ะ มีพี่คนนึงในร้านบอกว่า ร้านที่ใกล้บ้านดิฉันขาดคนแล้ว เราจึงไปลองปรึกษา ผจก.การเธอดู เธอบอกว่า ย้ายได้แต่ต้องอยู่ช่วยเธอก่อน
และวันนั้น เธอก็พูดถึงเรื่อง สีผิวเราอีกครั้งต่อหน้าพนักงาน คนอื่นๆ เราอายมากค่ะ และเย็นวันนั้นก่อนเลิกงาน นั่งตักบ่อดักอยู่ ก็เห็นพนักงานคนนึงชี้มาที่กางเกงเรา
และทำหน้าแบบ แบะๆ แล้วพูดแบบไม่มีเสียง ใส่ไปที่ ผจก ว่า "อะไรอ่ะ " ผจก. บอกว่าเราคืออีกสีของร้าน เป็นสีใหม่ ตอนนั้น พนักงานคนนั้นกับ ผจก.ไม่เห็นว่าเรามองเค้าอยู่
ที่เค้าชี้มาที่กางเกงเราเพราะ กางกางเรามีมันเป็นขาม้าค่ะ สีดำ แบบตามระเบียบของร้าน ค่ะ ไม่ได้ผิดอะไร แต่ใส่แล้วคงไม่สวย
-วันที่สี่ ก็มาทำงานตามปกติ ค่ะ แต่ ไปเจอพนักงานอีกคนหนึ่ง ใส่กางเกงแบบที่เรา เคยใส่มาผิดระเบียบก็เลยลองถามดูว่า ผจก.ว่าไรไหม ใส่แบบนี้ พนักงานตอบว่า ไม่ว่าน่ะ เพราะใส่สีดำถูกแล้ว
และวันนั้นเธอก็ มาบอกเราอีกครั้งเรื่องย้ายสาขา ว่า รอให้สาขานั้นเปิดสักเดือน ค่อยย้ายน่ะ เราก็ดีใจค่ะ เพราะมันใกล้บ้าน และจริงๆตอนนั้น ไม่ค่อยอยากอยู่กับเธอแล้ว

เธอไม่เคยสอนงาน ดิฉันค่ะ ไม่เคยมองเรื่องการทำงาน เจอกันก็จะพูดแต่เรื่องหน้า สีผิว  
ส่วนเรื่องการทำงาน บาริสต้าของฉัน บอกกับฉันว่า ฉันเรียนรู้งานเร็ว มีความเข้าใจง่าย และขยันดี แต่ติดตรงที่ดิฉันไม่ยอมอยู่เลยเวลางาน เพราะหลังเลิกงานเค้าอยากจะสอนอีก
ดิฉันอยู่เลยทุกวันค่ะ แต่ทำแต่งานที่ตัวเองได้รับมอบหมายแล้วยังไม่เสร็จ เช่น ตักบ่อดัก ทิ้งขยะ ล้างจาน
-วันที่ห้าค่ะ ก็ไปทำงานตามปกติค่ะ ประมาณช่วงเวลาบ่ายสามโมง ของวันนั้น พี่บาริสต้ากำลังสอนงานดิฉันอยู่ ผจก.เธอเรียกดิฉันเข้าไปคุย
พร้อมกับพี่ที่สอนงาน
เธอบอกเราว่า จะเอายังไง ถ้าอยากทำงาน ก็อยุ่สาขานี้ แต่ถ้าอยากย้ายไป ก็ไม่ต้องมาทำงานแล้ว มันเสียเวลาคนอื่น
ดิฉันเลย ถามว่า ย้ายไม่ได้แล้วหรอค่ะ เธอก็บอกว่า ทำแบบนั้นมันเสียเวลา พี่เค้าที่ต้องมาสอนเรา
บอกให้เรา ตอบกับเธอตรงนั้นในเวลานั้น เราก็ไม่รู้จะทำยังไง  เพราะในใจมันอยากย้ายไปแล้ว ทั้งๆที่ไม่รู้ว่า ที่นั่นจะเป็นยังไง
เลยบอกเธอไปว่า ขอเวลาไปคิด แล้วจะมาบอกเธอ อีกวัน
จากนั้นเธอก็ ให้พี่บาริสต้า หยุดสอนงานเรา อีก4ชั่วโมง ก็จะเลิกงาน เราได้แต่ยืนไปมา เพราะไม่รู้เลยว่าต้องทำไรต่อ เก็บโต๊ะ กวาดร้าน ล้างแก้ว
วันนั้นก็กลับบ้านไปคิด เลยส่งอีเมล์ไปถามที่สำนักงาน ใหญ่ค่ะ
ลืมบอกค่ะ ดิฉันให้พี่สาวที่เป็นช่างเสริมสวยทำผม แต่งหน้าให้ทุกวันเลยค่ะ พยายามปรับปรุง เหมือนกัน
และที่ตั้งกระทู้ขึ้นมา เราไม่ได้หวังหา พวก น่ะค่ะ แต่อยากเล่าประสบการณ์นี้ให้ฟังค่ะ
จขกท .อาจจะดูไม่อดทนกับ งานน่ะค่ะ
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่าน่ะค่ะ จะมาต่อให้ฟัง
ขอบคุณจริงๆค่ะ
ขออภัย ที่สะกดผิดหรือตกหล่นน่ะค่ะ



คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
จากที่อ่านเรื่องราว รู้สึกเห็นใจเจ้าของกระทู้นะคะ แต่อยากให้อดทนนิดนึงค่ะ  สังคมการทำงานมีนินทา อิจฉากันทุกที่แหละค่ะ ^^
เราผิวเข้ม หน้าไม่สวย แล้วไงเหรอ ความสามารถความพยายามก็มีนิ่ แต่งหน้าทำผมไปทำงานทุกวัน...เอาวะ มันก็ไม่ได้แย่จนหางานทำไม่ได้หรอกน่ะ
อาจจะเป็นทรรศนะคติแย่ๆ ของผจก. และเพื่อนร่วมงานก็ได้ มองโลกให้ง่ายเข้าไว้นะคะ...// เป็นกำลังใจให้ค่ะ
แล้วทางสำนักงานใหญ่ตอบเมล์กลับมาไหมคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่