*แก้ไขคำพูดใหม่สุภาพขึ้น+อธิบายใหม่นะครับ (พอดีมีเวลาพิมพ์แล้ว)
เกริ่นก่อนเลย จขกท.เนี่ยเป็นคนตจว. และเป็นนักศึกษาที่จบวิศวะมาจากกทม.ได้หลายปีแล้ว อายุพอสมควรแล้วครับทำงานอยู่องค์กรใหญ่องค์กรหนึ่ง ไม่ใช่ประเด็น แต่ประเทศไทยเนี่ย พ่อ แม่(ไม่ใช่ทุกครอบครัวครับ)สอนลูก ปลูกฝังเรื่องการศึกษาได้ห่วยแตก มากๆ
ลูกฉันต้องเรียนได้เกรด ดีๆ ลูกฉันต้องเข้ามหาลัยดีๆ ดังๆ คณะ ดีๆ บลาๆ แต่เชื่อไหมไม่เคยสอนลูกเรื่องชีวิตหลังเรียนจบเลย ว่าทำงานมันจะเป็นยังไง ชีวิตหลังจากนี้มันจะพบเจออะไรบ้าง ตั้งหน้าตั้งตาเรียนลูกเดียว (ย้ำว่าไม่ใช่ทุกครอบครัวนะครับ)
เข้าเลยละกันก็คือเวลานั้น ย้อนไป11ปี จขกท.พึ่งเรียนจบมาใหม่ๆ เลย เพื่อนบางคนก็ทำงานทำการเลย บางคนเรียนต่อ บลาๆ แต่ผมเนี่ยจะไปเที่ยวก่อน ขึ้นเหนือล่องใต้ กับเพื่อนๆไปเลยอยู่หลายเดือนเลย แต่เชื่อไหมเวลาเรากลับบ้านนะไปเจอญาติไม่ว่าจะเป็นญาติตัวเอง เพื่อนเอย น้องเอย บลาๆ ส่วนใหญ่ เขารู้ว่าเราจบ ทุกคนก็จะถามคำถามstandard มากๆคือจบยัง ทำงานที่ไหน $^@@&*%( เราก็บอกอ่อ จบแล้วครับ แต่ยังไม่ได้ทำงาน จากสีหน้ายิ้มแย้มนะหุบยิ้มทันทีเลยจ้า ดั่งปานแมลงวันบินเข้าปาก อารมณ์ดูถูกเหยียดหยามมาก ไม่ทำงาน เกาะพ่อแม่กิน ซึ่งผมว่าทุกประเทศ ทุกที่มันเป็นก็คล้ายๆกัน ลูกเรียนจบมา ทำงานดูแลพ่อ แม่ ซึ่งเป็นความคิดที่ดีครับ ไม่ใช่ไม่ดี (หลายคนคงเจอคำถามนี้ จนรีบตั้งหน้าตั้งตาหางานอย่างเร่งด่วน)
แต่ผมถามหน่อยครับ ใครเป็นคนบัญญัติ “ว่าเรียนจบต้องทำงานเลย” จบมาทำงานเลยไม่ผิดครับ(ยกเว้นบางคนฐานะไม่เอื้ออำนวย หรือมีภาระหน้าที่ความจำเป็น) ซึ่งก่อนที่ผมจะจบผมบอกแม่ว่า “ขอเวลาเที่ยวสักครึ่งปีนะ แล้วจะทำงานเลี้ยงแม่เอง” เที่ยวในที่นี้ไม่ใช่เวลากิน เหล้า เมายา เที่ยวผู้หญิงครับ แต่เที่ยวในที่นี้คือ เปิดโลก หามุมมองของตัวเอง(ก็มีกินดื่มบ้างธรรมดา) โดยใช้ตังเก็บที่เก็บมาตอนเรียน(เงินที่จากตอนเรียนก็มีการเก็บสะสมทุกเดือนครับ)+ทำงาน+กับขอทางบ้านด้วย หลายคนถามว่า...ทำงานอะไร ก็ช่วยงานอาจารย์นี่แหละครับ ในสายวิศวะมีงานเยอะแยะครับ สุดท้ายผมก็ทำงานที่ตัวเองคิดว่ามีความสุขกับมันครับแล้วงานจะออกมาดี เงินดีตามมาเอง
ทีนี้ถามว่า ใครเป็นคนบัญญัติ “ว่าเรียนจบต้องทำงานเลย” คำถามนี้ผมจั่วหัวกระทู้ขึ้นมาเพื่อไม่ได้ต้องการคำตอบครับ แต่ต้องการบอกน้องๆหลายๆคนที่กำลังศึกษา หรือว่าจบการศึกษาแล้วก็ตาม แทนที่เราจะวิ่งไปจุดหมายอย่างใจจดใจจ่อแบบไม่มองอะไรเลยไม่ว่าก่อนหรือหลังเรียนจบ(แต่ส่วนใหญ่จะก่อนจะจบหรือจบแล้วทั้งนั้นถึงจะมองเป้าหมายชีวิตของตัวเอง) ย้ำว่าไม่ใช่ทุกคนแต่ ส่วนใหญ่เด็กทุกวันนี้เป็นแบบนี้จริงๆครับ ลองครับลอง ลองเดินช้าๆ แล้วหันมองทิวทัศน์รอบข้างบ้างชีวิตนี้มีอะไรอีกเยอะแยะ จบมาก็ใช่ว่า จะต้องทำงานที่เรียนมาครับไม่มีใครเขียนกฏไว้ ถ้าชอบก็ทำ ไม่ชอบก็ลองมองอย่างอื่น อาจจะมีสิ่งที่ชอบกว่า แล้วงานจะออกมาดี ชีวิตมีความสุขกับการทำงาน
เพราะองค์กรที่ผมทำงานประสบปัญหา กับการรับพนักงานจบใหม่มากๆ:") บุคลลากรที่จบใหม่แล้วเข้ามาทำงานคิดจะมาฝึกงานหาประสบการณ์ไม่ผิดครับ ย้ำนะไม่ผิด เพราะผมก็เป็นจบใหม่ๆ:") แต่บุคลากรที่จะเข้ามานั้นส่วนใหญ่(ไม่ใช่ทุกคนนะครับ) ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองจะต้องมาทำอะไร บุคลากรเข้ามาทำงานเพื่อคาดหวังExpใหม่+เงิน องค์กรที่รับเข้ามาก็คาดหวังกับบุคลากรนั้นเหมือนกันโดยการดูจากProfile เมื่อถึงจุดๆนึงที่บุคลากรนั้นไม่พอใจกับการทำงานก็ลาออก แถมบางครั้ง เรามอบหมายงานนั้นให้บุคลากรท่านนั้นทำงาน แต่เนื่องจากทำงานมาสักพัก โดยที่ตัวเองไม่รู้เลยว่าไม่ชอบก็ลาออกไปซะงั้นๆ แล้วงานที่ค้างอยุ่ละครับ มันทำให้เสียงานเสียเวลาทั้ง2ฝ่าย
ปล.ส่วนหัวข้อกระทู้ ผมตั้งใจจั่วไว้ คำว่าใครบัญญัติ ผมไม่ได้ต้องการคำตอบครับ แค่สื่ออารมณ์ประมาณว่า
เห้ยน้องจบมายังไม่ต้องทำงานก่อนก็ได้นะ ลองค้นหา ถามตัวเองดูก่อน เพื่อที่วันข้างหน้าจะได้ทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพและมีความสุข:")
ในส่วนที่กล่าวมาข้างบน วิธีในการหามุมมองของผมเองก็คือการออกเดินทาง(หรือที่ผมพิมพ์ไปก่อนหน้านี้ว่า เที่ยว) ผมไม่ได้เที่ยวเล่นครับ แต่เป็นการเที่ยวเพื่อการลงทุน เที่ยวเพื่อExpใหม่ๆ ของผมนั้นใช้เวลาครึ่งปี
เป็นประวัติและวิธีการของผมเอง ซึ่งไม่ได้บอกว่าต้องทำแบบผม:") หรือใครทำแบบผมก้ไม่ได้บอกว่าจะต้องไปครึ่งปีนี่ครับ ทุกคนต่างมีวิธีการของตัวเอง แต่ใจความสำคัญก็คือ
"หาตัวเองให้เจอครับเพื่อที่วันข้างหน้าเมื่อเราวิ่งไปจุดหมาย เราจะได้รู้ว่าเราไม่ได้ไปผิดทาง"
เพราะฉะนั้น ขอเถอะ ครับ จบมาต้องทำงาน ใครบัญญัติ ลองถามใจกลับไปมองลูกดูครับ สอนลูกเรื่องชีวิตหลังเรียนจบบ้างครับ
สุดท้ายผมไม่ได้มีเจตนาจะว่าร้ายคนที่จบมาแล้วทำงานครับ ผมย้ำเสมอว่า จบมาทำงานเลยเป็นเรื่งที่ดี แต่....ลองอ่านกระทู้นิดนึงนะครับ
และขอบคุณทุกความคิดเห็นครับ
Edit.เพิ่มเติม
1.ทำไมหลายความเห็นไปโฟกัส เรื่องที่ผมไปเที่ยวจังเลยครับ ผมเน้นตรงที่ขีดเส้นใต้ให้นะ
ผมยกตัวอย่างวิธีการ ของเพื่อนผมสักเคสนะ
ไอเอก(นามสมมุติ)มันเรียนวิศวะ หลังเรียนจบรอสัมภาษณ์งาน1อาทิตย์ ใน1อาทิตย์มันไปงานบวชเพื่อนมา และถ่ายภาพงานให้เพื่อนด้วย(ตอนเรียนมันก็มีฝีมือในการถ่ายภาพ) งานจบก็กลับบ้าน หลังจากนั้นพอถึงวันสัมภาษณ์มันไม่ไป เพราะดันมาคิดได้ว่า ตัวเองชอบถ่ายภาพ สุดท้ายตอนนี้ชีวิตก็ทำงานเกี่ยวกับช่างภาพครับ ไม่เห็นมันจะต้องทำแบบผมเลย????? ที่ผมจะสื่อก็คือ เออหาตัวเองได้เร็วก็ดีนะ ได้ไม่ต้องไปเสียเวลา
สุดท้าย หลายท่านถามว่า มันต้องคิดตั้งแต่ตอนเรียนแล้วรึป่าวว้าาา ใช่ครับที่บอกมาก็ถูก แต่คนเราไม่เหมือนกัน ผมย้ำไว้ข้างบนเสมอว่า ไม่ใช่ทุกครอบครัว ไม่ใช่ทุกคน บางท่านในทีนี้เก่งอยู่แล้ว แต่เด็กเดี๋ยวนี้เป็นแบบนี้ครับ 10คนมีสัก6คน
เข้าใจคำว่าไม่ใช่ทุกคนนะครับ
:")
"จงอย่าทำความฝันให้เป็นความจริง เพราะสุดท้ายก็ยังได้แค่ฝัน แต่จงทำความจริงให้เหมือนกับที่ฝัน"
ขอจบการตอบกระทู้แต่เพียงเท่านี้ และขอบคุณครับ
ใครเป็นคนบัญญัติหรอ........ว่าเรียนจบก็ต้องหางานทำสิ……..!
เกริ่นก่อนเลย จขกท.เนี่ยเป็นคนตจว. และเป็นนักศึกษาที่จบวิศวะมาจากกทม.ได้หลายปีแล้ว อายุพอสมควรแล้วครับทำงานอยู่องค์กรใหญ่องค์กรหนึ่ง ไม่ใช่ประเด็น แต่ประเทศไทยเนี่ย พ่อ แม่(ไม่ใช่ทุกครอบครัวครับ)สอนลูก ปลูกฝังเรื่องการศึกษาได้ห่วยแตก มากๆ
ลูกฉันต้องเรียนได้เกรด ดีๆ ลูกฉันต้องเข้ามหาลัยดีๆ ดังๆ คณะ ดีๆ บลาๆ แต่เชื่อไหมไม่เคยสอนลูกเรื่องชีวิตหลังเรียนจบเลย ว่าทำงานมันจะเป็นยังไง ชีวิตหลังจากนี้มันจะพบเจออะไรบ้าง ตั้งหน้าตั้งตาเรียนลูกเดียว (ย้ำว่าไม่ใช่ทุกครอบครัวนะครับ)
เข้าเลยละกันก็คือเวลานั้น ย้อนไป11ปี จขกท.พึ่งเรียนจบมาใหม่ๆ เลย เพื่อนบางคนก็ทำงานทำการเลย บางคนเรียนต่อ บลาๆ แต่ผมเนี่ยจะไปเที่ยวก่อน ขึ้นเหนือล่องใต้ กับเพื่อนๆไปเลยอยู่หลายเดือนเลย แต่เชื่อไหมเวลาเรากลับบ้านนะไปเจอญาติไม่ว่าจะเป็นญาติตัวเอง เพื่อนเอย น้องเอย บลาๆ ส่วนใหญ่ เขารู้ว่าเราจบ ทุกคนก็จะถามคำถามstandard มากๆคือจบยัง ทำงานที่ไหน $^@@&*%( เราก็บอกอ่อ จบแล้วครับ แต่ยังไม่ได้ทำงาน จากสีหน้ายิ้มแย้มนะหุบยิ้มทันทีเลยจ้า ดั่งปานแมลงวันบินเข้าปาก อารมณ์ดูถูกเหยียดหยามมาก ไม่ทำงาน เกาะพ่อแม่กิน ซึ่งผมว่าทุกประเทศ ทุกที่มันเป็นก็คล้ายๆกัน ลูกเรียนจบมา ทำงานดูแลพ่อ แม่ ซึ่งเป็นความคิดที่ดีครับ ไม่ใช่ไม่ดี (หลายคนคงเจอคำถามนี้ จนรีบตั้งหน้าตั้งตาหางานอย่างเร่งด่วน)
แต่ผมถามหน่อยครับ ใครเป็นคนบัญญัติ “ว่าเรียนจบต้องทำงานเลย” จบมาทำงานเลยไม่ผิดครับ(ยกเว้นบางคนฐานะไม่เอื้ออำนวย หรือมีภาระหน้าที่ความจำเป็น) ซึ่งก่อนที่ผมจะจบผมบอกแม่ว่า “ขอเวลาเที่ยวสักครึ่งปีนะ แล้วจะทำงานเลี้ยงแม่เอง” เที่ยวในที่นี้ไม่ใช่เวลากิน เหล้า เมายา เที่ยวผู้หญิงครับ แต่เที่ยวในที่นี้คือ เปิดโลก หามุมมองของตัวเอง(ก็มีกินดื่มบ้างธรรมดา) โดยใช้ตังเก็บที่เก็บมาตอนเรียน(เงินที่จากตอนเรียนก็มีการเก็บสะสมทุกเดือนครับ)+ทำงาน+กับขอทางบ้านด้วย หลายคนถามว่า...ทำงานอะไร ก็ช่วยงานอาจารย์นี่แหละครับ ในสายวิศวะมีงานเยอะแยะครับ สุดท้ายผมก็ทำงานที่ตัวเองคิดว่ามีความสุขกับมันครับแล้วงานจะออกมาดี เงินดีตามมาเอง
ทีนี้ถามว่า ใครเป็นคนบัญญัติ “ว่าเรียนจบต้องทำงานเลย” คำถามนี้ผมจั่วหัวกระทู้ขึ้นมาเพื่อไม่ได้ต้องการคำตอบครับ แต่ต้องการบอกน้องๆหลายๆคนที่กำลังศึกษา หรือว่าจบการศึกษาแล้วก็ตาม แทนที่เราจะวิ่งไปจุดหมายอย่างใจจดใจจ่อแบบไม่มองอะไรเลยไม่ว่าก่อนหรือหลังเรียนจบ(แต่ส่วนใหญ่จะก่อนจะจบหรือจบแล้วทั้งนั้นถึงจะมองเป้าหมายชีวิตของตัวเอง) ย้ำว่าไม่ใช่ทุกคนแต่ ส่วนใหญ่เด็กทุกวันนี้เป็นแบบนี้จริงๆครับ ลองครับลอง ลองเดินช้าๆ แล้วหันมองทิวทัศน์รอบข้างบ้างชีวิตนี้มีอะไรอีกเยอะแยะ จบมาก็ใช่ว่า จะต้องทำงานที่เรียนมาครับไม่มีใครเขียนกฏไว้ ถ้าชอบก็ทำ ไม่ชอบก็ลองมองอย่างอื่น อาจจะมีสิ่งที่ชอบกว่า แล้วงานจะออกมาดี ชีวิตมีความสุขกับการทำงาน
เพราะองค์กรที่ผมทำงานประสบปัญหา กับการรับพนักงานจบใหม่มากๆ:") บุคลลากรที่จบใหม่แล้วเข้ามาทำงานคิดจะมาฝึกงานหาประสบการณ์ไม่ผิดครับ ย้ำนะไม่ผิด เพราะผมก็เป็นจบใหม่ๆ:") แต่บุคลากรที่จะเข้ามานั้นส่วนใหญ่(ไม่ใช่ทุกคนนะครับ) ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองจะต้องมาทำอะไร บุคลากรเข้ามาทำงานเพื่อคาดหวังExpใหม่+เงิน องค์กรที่รับเข้ามาก็คาดหวังกับบุคลากรนั้นเหมือนกันโดยการดูจากProfile เมื่อถึงจุดๆนึงที่บุคลากรนั้นไม่พอใจกับการทำงานก็ลาออก แถมบางครั้ง เรามอบหมายงานนั้นให้บุคลากรท่านนั้นทำงาน แต่เนื่องจากทำงานมาสักพัก โดยที่ตัวเองไม่รู้เลยว่าไม่ชอบก็ลาออกไปซะงั้นๆ แล้วงานที่ค้างอยุ่ละครับ มันทำให้เสียงานเสียเวลาทั้ง2ฝ่าย
ปล.ส่วนหัวข้อกระทู้ ผมตั้งใจจั่วไว้ คำว่าใครบัญญัติ ผมไม่ได้ต้องการคำตอบครับ แค่สื่ออารมณ์ประมาณว่า
เห้ยน้องจบมายังไม่ต้องทำงานก่อนก็ได้นะ ลองค้นหา ถามตัวเองดูก่อน เพื่อที่วันข้างหน้าจะได้ทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพและมีความสุข:")
ในส่วนที่กล่าวมาข้างบน วิธีในการหามุมมองของผมเองก็คือการออกเดินทาง(หรือที่ผมพิมพ์ไปก่อนหน้านี้ว่า เที่ยว) ผมไม่ได้เที่ยวเล่นครับ แต่เป็นการเที่ยวเพื่อการลงทุน เที่ยวเพื่อExpใหม่ๆ ของผมนั้นใช้เวลาครึ่งปี เป็นประวัติและวิธีการของผมเอง ซึ่งไม่ได้บอกว่าต้องทำแบบผม:") หรือใครทำแบบผมก้ไม่ได้บอกว่าจะต้องไปครึ่งปีนี่ครับ ทุกคนต่างมีวิธีการของตัวเอง แต่ใจความสำคัญก็คือ
"หาตัวเองให้เจอครับเพื่อที่วันข้างหน้าเมื่อเราวิ่งไปจุดหมาย เราจะได้รู้ว่าเราไม่ได้ไปผิดทาง"
เพราะฉะนั้น ขอเถอะ ครับ จบมาต้องทำงาน ใครบัญญัติ ลองถามใจกลับไปมองลูกดูครับ สอนลูกเรื่องชีวิตหลังเรียนจบบ้างครับ
สุดท้ายผมไม่ได้มีเจตนาจะว่าร้ายคนที่จบมาแล้วทำงานครับ ผมย้ำเสมอว่า จบมาทำงานเลยเป็นเรื่งที่ดี แต่....ลองอ่านกระทู้นิดนึงนะครับ
และขอบคุณทุกความคิดเห็นครับ
Edit.เพิ่มเติม
1.ทำไมหลายความเห็นไปโฟกัส เรื่องที่ผมไปเที่ยวจังเลยครับ ผมเน้นตรงที่ขีดเส้นใต้ให้นะ
ผมยกตัวอย่างวิธีการ ของเพื่อนผมสักเคสนะ
ไอเอก(นามสมมุติ)มันเรียนวิศวะ หลังเรียนจบรอสัมภาษณ์งาน1อาทิตย์ ใน1อาทิตย์มันไปงานบวชเพื่อนมา และถ่ายภาพงานให้เพื่อนด้วย(ตอนเรียนมันก็มีฝีมือในการถ่ายภาพ) งานจบก็กลับบ้าน หลังจากนั้นพอถึงวันสัมภาษณ์มันไม่ไป เพราะดันมาคิดได้ว่า ตัวเองชอบถ่ายภาพ สุดท้ายตอนนี้ชีวิตก็ทำงานเกี่ยวกับช่างภาพครับ ไม่เห็นมันจะต้องทำแบบผมเลย????? ที่ผมจะสื่อก็คือ เออหาตัวเองได้เร็วก็ดีนะ ได้ไม่ต้องไปเสียเวลา
สุดท้าย หลายท่านถามว่า มันต้องคิดตั้งแต่ตอนเรียนแล้วรึป่าวว้าาา ใช่ครับที่บอกมาก็ถูก แต่คนเราไม่เหมือนกัน ผมย้ำไว้ข้างบนเสมอว่า ไม่ใช่ทุกครอบครัว ไม่ใช่ทุกคน บางท่านในทีนี้เก่งอยู่แล้ว แต่เด็กเดี๋ยวนี้เป็นแบบนี้ครับ 10คนมีสัก6คน เข้าใจคำว่าไม่ใช่ทุกคนนะครับ
:")
"จงอย่าทำความฝันให้เป็นความจริง เพราะสุดท้ายก็ยังได้แค่ฝัน แต่จงทำความจริงให้เหมือนกับที่ฝัน"
ขอจบการตอบกระทู้แต่เพียงเท่านี้ และขอบคุณครับ