สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 8
ชอบประโยคนี้จัง
......มิชิโอะ คาคุนักฟิสิกส์ชื่อดังยังกล่าวต่อไป การเล่นหุ้นเป็นการ แบ่งปันความร่ำรวย หรือ distribution of wealth เฉยๆ
เหมือนมีพายอยู่ก้อนหนึ่ง คนที่เล่นหุ้นเก่งที่สุดก็จะได้พายชิ้นใหญ่กว่าคนอื่น
แต่นักวิทยาศาสตร์คือคนที่ทำพาย พายจะใหญ่หรือเล็กขึ้นอยู่กับนักวิทยาศาสตร์ ถ้าไม่มีนักวิทยาศาสตร์ ไม่มีคนประดิษฐ์หลอดไฟ ไม่มีเทคโนโลยีการขุดเจาะน้ำมัน ไม่มีเซมิคอนดัคเตอร์ ไม่มีอินเตอเนต และก็ไม่มีพายให้แบ่งกัน......
แต่รู้ไม๊ ประเทศไทย เป็นประเทศที่ ไม่มีใครให้ราคาของนักวิทยาศาสตร์
ยิ่งนักเทคนิค หรือ วิจัยเทคโนโลยี.............ไม่มีใครจ้างแพงๆ เพื่อให้ผลิตผลงานออกมาแบบ อเมริกา
เล่าให้ฟังว่า เมื่อ 30ปีที่แล้ว เราพัฒนาระบบเครื่องกล อัตโนมัติ เพื่อทำการย้อมสีเชื้อแบคทีเรียในสไลด์แบบ ปริมาณมาก
เพื่อ ให้สามารถ คัดแยกเชื่อในตัวอย่างที่ได้จากผู้ป่วย ได้รวดเร็วกว่าคนทำ ทีละ 10-20 สไลด์
ผลคือ เมื่อสอบวิทยานิพนธ์จบแล้ว โครงการก็โยนลงถังขยะ ทันที แล้วแจกเกรด A ให้เรา ไปเสียพ้นๆๆ
เพราะเป็นโครงการที่ทำให้ผู้บริหารสถาบัน เสี่ยงต่อความเสียหาย เนื่องจากเป็นโครการที่ใช้เทคโนโลยีสูงเกินหลักสูตรการเรียนปริญญาตรี
ฮ่าฮ่าฮ่า.......... โครงการนี้ ใช้เทคโนโลยี 3อย่าง 3ภาควิชา
...ย้อมสีแบคทีเรีย....ใช้เทคโนโลยีจุลชีวะวิทยา
...เครื่องกล ขับเคลื่อน กล่องตะแกรงใส่สไลด์ ใช้เทคนิค CloseLoop DC servo motor
...การควบคุมระบบมอเตอร์ ......ใช้แผงวงจรเครื่องคอม Apple-II ซีพียู 6502 ติดตั้ง ROM ที่เขียนโปรแกรมด้วยภาษาแอสแซมบลี้ของ 6502 CPU
แน่นอน ว่า การตรวจและสอบ เพื่อตอบรับ โครงการนี้ ย่อมสร้างความลำบาก สาหัสยิ่งแก่ คณะบดีทั้งแก๊ง
เนื่องจาก ไม่มีภาควิชาคอมพิวเตอร์ ในยุคสมัยนั้น และเครื่องคอมที่เร็วที่สุดในโลกนี้ ตอนนั้นคือ 80286 CPU !!!
....และแน่นอน ยุคนั้น ผมเป็นนักเรียนที่หาเงินได้จากผลงานของ สตีฟ จ๊อป คือเครื่อง แอ๊ปเปิ้ลทู นั่นเอง
....แต่ยุคนี้ หุ้น......เป็นสิ่งที่ทำเงินได้ง่าย...ไว...และ ..มากที่สุดแล้ว......ตัวอย่าง เพิ่มทุน POLAR ไง
คิดดูนะ หาเงิน 3พันล้านไปซื้อที่ได้ไง ในเวลา 6เดือน.....เหอๆๆ เม่าเท่านั้น ที่จ่าย
......มิชิโอะ คาคุนักฟิสิกส์ชื่อดังยังกล่าวต่อไป การเล่นหุ้นเป็นการ แบ่งปันความร่ำรวย หรือ distribution of wealth เฉยๆ
เหมือนมีพายอยู่ก้อนหนึ่ง คนที่เล่นหุ้นเก่งที่สุดก็จะได้พายชิ้นใหญ่กว่าคนอื่น
แต่นักวิทยาศาสตร์คือคนที่ทำพาย พายจะใหญ่หรือเล็กขึ้นอยู่กับนักวิทยาศาสตร์ ถ้าไม่มีนักวิทยาศาสตร์ ไม่มีคนประดิษฐ์หลอดไฟ ไม่มีเทคโนโลยีการขุดเจาะน้ำมัน ไม่มีเซมิคอนดัคเตอร์ ไม่มีอินเตอเนต และก็ไม่มีพายให้แบ่งกัน......
แต่รู้ไม๊ ประเทศไทย เป็นประเทศที่ ไม่มีใครให้ราคาของนักวิทยาศาสตร์
ยิ่งนักเทคนิค หรือ วิจัยเทคโนโลยี.............ไม่มีใครจ้างแพงๆ เพื่อให้ผลิตผลงานออกมาแบบ อเมริกา
เล่าให้ฟังว่า เมื่อ 30ปีที่แล้ว เราพัฒนาระบบเครื่องกล อัตโนมัติ เพื่อทำการย้อมสีเชื้อแบคทีเรียในสไลด์แบบ ปริมาณมาก
เพื่อ ให้สามารถ คัดแยกเชื่อในตัวอย่างที่ได้จากผู้ป่วย ได้รวดเร็วกว่าคนทำ ทีละ 10-20 สไลด์
ผลคือ เมื่อสอบวิทยานิพนธ์จบแล้ว โครงการก็โยนลงถังขยะ ทันที แล้วแจกเกรด A ให้เรา ไปเสียพ้นๆๆ
เพราะเป็นโครงการที่ทำให้ผู้บริหารสถาบัน เสี่ยงต่อความเสียหาย เนื่องจากเป็นโครการที่ใช้เทคโนโลยีสูงเกินหลักสูตรการเรียนปริญญาตรี
ฮ่าฮ่าฮ่า.......... โครงการนี้ ใช้เทคโนโลยี 3อย่าง 3ภาควิชา
...ย้อมสีแบคทีเรีย....ใช้เทคโนโลยีจุลชีวะวิทยา
...เครื่องกล ขับเคลื่อน กล่องตะแกรงใส่สไลด์ ใช้เทคนิค CloseLoop DC servo motor
...การควบคุมระบบมอเตอร์ ......ใช้แผงวงจรเครื่องคอม Apple-II ซีพียู 6502 ติดตั้ง ROM ที่เขียนโปรแกรมด้วยภาษาแอสแซมบลี้ของ 6502 CPU
แน่นอน ว่า การตรวจและสอบ เพื่อตอบรับ โครงการนี้ ย่อมสร้างความลำบาก สาหัสยิ่งแก่ คณะบดีทั้งแก๊ง
เนื่องจาก ไม่มีภาควิชาคอมพิวเตอร์ ในยุคสมัยนั้น และเครื่องคอมที่เร็วที่สุดในโลกนี้ ตอนนั้นคือ 80286 CPU !!!
....และแน่นอน ยุคนั้น ผมเป็นนักเรียนที่หาเงินได้จากผลงานของ สตีฟ จ๊อป คือเครื่อง แอ๊ปเปิ้ลทู นั่นเอง
....แต่ยุคนี้ หุ้น......เป็นสิ่งที่ทำเงินได้ง่าย...ไว...และ ..มากที่สุดแล้ว......ตัวอย่าง เพิ่มทุน POLAR ไง
คิดดูนะ หาเงิน 3พันล้านไปซื้อที่ได้ไง ในเวลา 6เดือน.....เหอๆๆ เม่าเท่านั้น ที่จ่าย
ความคิดเห็นที่ 5
ด้ายทองคำ เล่นหุ้น แต่ก็ยังทำธุรกิจอื่นๆ ไปด้วยได้นะครับ
แถมยังเป็น Webmaster ให้กับเว็บไซต์ ได้ด้วย รับพัฒนาเว็บไซต์ด้วย
ด้ายทองคำ ว่า แนวคิดนี้อาจจะ Stereotype ไปหน่อยน่ะครับ
บางคนเล่นหุ้น ลงทุนหุ้น ทำอย่างอื่น เป็นหมอ เป็นวิศวะ เป็นมืออาชีพอื่นๆ ก็ยังมีอีกมาก
มองมุมบวก ถ้าพวกเขายิ่งมั่งคั่งจากตลาดหุ้น อาจจะทำสิ่งที่เป็นมืออาชีพได้ดียิ่งขึ้นด้วย เพราะไม่ต้องมีภาระทางการเงิน ที่ทำให้เดินตามทางที่ถนัดไม่ได้
อย่าลืมนะขอรับ บางสาขาอาชีพ บาง Experts มีความรู้ มีความชำนาญ แต่ชีวิตการเงินไปไม่รอด มีมากมายนะครับ
แถมยังเป็น Webmaster ให้กับเว็บไซต์ ได้ด้วย รับพัฒนาเว็บไซต์ด้วย
ด้ายทองคำ ว่า แนวคิดนี้อาจจะ Stereotype ไปหน่อยน่ะครับ
บางคนเล่นหุ้น ลงทุนหุ้น ทำอย่างอื่น เป็นหมอ เป็นวิศวะ เป็นมืออาชีพอื่นๆ ก็ยังมีอีกมาก
มองมุมบวก ถ้าพวกเขายิ่งมั่งคั่งจากตลาดหุ้น อาจจะทำสิ่งที่เป็นมืออาชีพได้ดียิ่งขึ้นด้วย เพราะไม่ต้องมีภาระทางการเงิน ที่ทำให้เดินตามทางที่ถนัดไม่ได้
อย่าลืมนะขอรับ บางสาขาอาชีพ บาง Experts มีความรู้ มีความชำนาญ แต่ชีวิตการเงินไปไม่รอด มีมากมายนะครับ
ความคิดเห็นที่ 7
ก็ทำงานให้เขา ถูกกดขี่ กดเงินเดือน สวัสดิการ สารพัด
น่าจะมองกลับด้านว่า บริษัท เอาเปรียบพนักงานหรือเปล่า เอาทั้งเวลา มันสมอง กำลังกาย ไปแล้ว จ่ายเขาดีจนเขาไม่อยากทำธุรกิจของตนเองไม๊
บริษัทกำไรเป็นพันล้าน หมื่นล้าน ผู้บริหาร กรรมการ ผู้มีอภิสิทธิ์ ได้ค่าเหนือยเป็นอัตราเท่าไหร่ ของคนระดับล่างๆ อย่าบอกนะ ไอคิว ประสบการณ์คนเราต่างกันระดับสิบเท่า ร้อยเท่า หลายร้อยเท่า ?
น่าจะมองกลับด้านว่า บริษัท เอาเปรียบพนักงานหรือเปล่า เอาทั้งเวลา มันสมอง กำลังกาย ไปแล้ว จ่ายเขาดีจนเขาไม่อยากทำธุรกิจของตนเองไม๊
บริษัทกำไรเป็นพันล้าน หมื่นล้าน ผู้บริหาร กรรมการ ผู้มีอภิสิทธิ์ ได้ค่าเหนือยเป็นอัตราเท่าไหร่ ของคนระดับล่างๆ อย่าบอกนะ ไอคิว ประสบการณ์คนเราต่างกันระดับสิบเท่า ร้อยเท่า หลายร้อยเท่า ?
แสดงความคิดเห็น
เพราะคนจำนวนมากเดี๋ยวนี้อยากจะรวย สบาย มีอิสระ เวลา จะไปเล่นหุ้นกันหมด ประเทศไทยจึงสูญเสียศักยภาพในการแข่งขัน?
ประเทศอังกฤษสูญเสียตำแหน่งประเทศมหาอำนาจให้กับประเทศน้องใหม่อย่างอเมริกา
เพราะคนเก่งๆที่เมื่อก่อนเลือกเรียนวิทยาศาสตร์ หัวกระทิของประเทศมาเป็นนักคิด นักวิทยาศาสตร์กันเยอะ
พอมาปี 1930 กว่าเทรนเริ่มเปลี่ยน หัวกระทิของประเทศหันมาเรียน เศรฐศาสตร์ มาเป็นโบรกกเกอร์ นายหน้าค้าหุ้นกันมากขึ้น
อังกฤษจึงสูญเสียความสามารถทางการแข่งขันไป
ตอนนี้ มิชิโอะ คาคุนักฟิสิกส์ชื่อดังกล่าวในรายการกล่าว
ปัจจุบัน เรากำลังเห็นสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นในอเมริกา คนเก่งๆ หัวกระทิของประเทศไม่เรียนวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมอีกแล้ว
กลับไปเป็นหันมาเรียน เศรฐศาสตร์ มาเป็นโบรกกเกอร์ นายหน้าค้าหุ้นกันมากขึ้น
เรากำลังเห็นสิ่งที่อังกฤษเคยเป็นมาก่อนแล้วกำลังเกิดขึ้นกับอเมริกา
มิชิโอะ คาคุนักฟิสิกส์ชื่อดังยังกล่าวต่อไป นักศึกษาปริญญาเอกของผมตอนนี้ส่วนใหญ่เป็นคนจากประเทศจีน และอินเดีย
ประเทศเหล่านี้เห็นความสำคัญของวิทยาศาสตร์มากกว่า
มิชิโอะ คาคุนักฟิสิกส์ชื่อดังยังกล่าวต่อไป การเล่นหุ้นเป็นการ แบ่งปันความร่ำรวย หรือ distribution of wealth เฉยๆ
เหมือนมีพายอยู่ก้อนหนึ่ง คนที่เล่นหุ้นเก่งที่สุดก็จะได้พายชิ้นใหญ่กว่าคนอื่น
แต่นักวิทยาศาสตร์คือคนที่ทำพาย พายจะใหญ่หรือเล็กขึ้นอยู่กับนักวิทยาศาสตร์ ถ้าไม่มีนักวิทยาศาสตร์ ไม่มีคนประดิษฐ์หลอดไฟ ไม่มีเทคโนโลยีการขุดเจาะน้ำมัน ไม่มีเซมิคอนดัคเตอร์ ไม่มีอินเตอเนต และก็ไม่มีพายให้แบ่งกัน
มิชิโอะ คาคุนักฟิสิกส์ชื่อดัง เสริมอีกว่า นั้นถ้าประเทศไทยยังมีค่านิยมอยากจะรวย สบาย มีอิสระ เวลา จะไปเล่นหุ้นกันหมด ประเทศไทยจึงสูญเสียศักยภาพในการแข่งขันแน่นอน แม้แต่ประเทศกำลังพัฒนาด้วยกันก็อาจจะแพ้เขาได้ ถ้าคนไทยยังไม่สนใจให้ความสำคัญกับวิทยาศาสตร์
มิชิโอะ คาคุนักฟิสิกส์ชื่อดัง กล่าวปิดท้าย หลังจากที่ผมอ่านกระทู้พันทิปบ่นว่าทำไมคนส่วนใหญ่มองว่าการเล่นหุ้นเป็นอาชีพที่ไม่มั่นคง แล้ว ผมยังคิดว่าเป็นอาชีพนี้ทำประโยชน์ให้แก่สังคมน้อย และยังสร้างค่านิยมผิดๆ หวังให้คนสนใจแต่การแบ่งพายให้ตัวเองได้มากที่สุดโดยไม่สนใจการสร้างพายให้ใหญ่ขึ้น ไม่สนใจสังคมโดยรวม ทำให้คนอยากจะรวย สบาย มีอิสระ เราคนไทยควรให้ความสำคัญกับวิทยาศาสตร์อย่างจริงจัง ถ้าไม่อยากเป็นประเทศที่โดนกับดับรายได้ปานกลาง middle income trap หรือเป็นประเทศกำลังพัฒนาอย่างนี้ ต่อไปเป็นเวลาอีกยาวนาน ลิมิตลู่เข้าสู่อินฟินิตี้
ปล. มิชิโอะ คาคุ คือนามสมมติของ จขกท