สอบถามการปฏิบัติครับ

สวัสดีครับ
ผมเป็นสมาชิกใหม่ ปรกติจะเข้ามาบ้านนี้จาก Google
ตอนนี้มีความสงสัยและคาใจมากๆ
จึงเข้ามาสมัครและเพื่อสอบถามท่านผู้เจริญแล้ว เกี่ยวกับเรื่องที่เจอมาครับ
(ยาวและหลายคำถามหน่อยนะครับ)

1. ผมเคยได้ยินมาตั้งแต่เด็กๆ ว่า ภาวนาว่า พุทธโธ เข้าพุทธ ออกโธ และพ่อเคยบอกว่า
ถ้าเจอหรือเห็นอะไรไม่ให้พากษ์ไม่ให้สงสัยให้ดูเฉยๆ ผมก็ทำบ้างไม่ทำบ้างตามประสาเด็กๆ
จนตอนนั้น สมเด็จย่าทรงสวรรค์คต ผมเรียนอยู่ชั้น ป.4 คุณครูท่านนึงบอกว่าให้นั่งสมาธิให้ท่านก่อนเรียนสักครู่
ผมก็ ภาวนา เข้าพุทธ ออกโธ ไป แพ๊บเดียว

ไปเห็นภาพเป็นพื้นสีฟ้าอ่อนๆ และมีเส้นประสีเหลืองวิ่งวนเป็นกลมๆ ผมก็สงสัยว่าอะไร (ด้วยความเป็นเด็ก)
สักครู่เดียวเส้นประสีเหลืองวิ่งเปลี่ยนกลายเป็นเหมือนวิ่งรอบพระพุทธรูป (คือเส้นประวิ่งวนเป็นรูปพระพุทธรูป)
ก็สงสัยแล้วผมก็นึกได้ว่าดูเฉยๆ ได้ครู่เดียว เพื่อน เขย่าเรียก และตะโกนเรียกทั้งห้อง
จากนั้นที่จำได้ก็รู้สึก ว่างๆ เบาๆ นิ่งๆ และเหมือนหูดับเป็นพักๆ ไปจับที่ว่างๆ
ได้แต่สุขแบบเบาๆ และคิดว่าที่เห็นคืออะไร แต่จำไม่ได้ว่ามันอยู่นานแค่ไหน
แต่หลังจากนั้นก็ทำบ้าง แต่น้อยมากถึงมากคือแทบจะไม่ได้ทำเลยดีกว่า คือ ทำเป็นพักๆ เวลารู้ลมเข้าออกแต่ก็ไม่เจออะไร

แล้วมันคืออาการของอะไรครับ?



2. หลังจากนั้นเวลาผ่านไปตอน ม.2
ผมยิ่งโตยิ่งเกเรครับ จำได้ว่าตอนนั้น ไปไหนและทำอะไรมาสักอย่างแล้วโดนพ่อด่า
ตอนนั้นดันมีเพลงนึงของพี่ป้าง นครินทร์ กิ่งศักดิ์ "เพลงนับหนึ่งถึงสิบ"
โดยร้องว่าแค่นับในใจ ไล่ไปจาก 1-10 แบบเบาๆ จนเก้าแบบ กูไม่ไหวแล้วแล้วดนตรีจะกระชากอารมณ์ชวนโดด
(น่าจะเคยมีคนฟัง คนไม่เคยอย่าไปฟังนะครับ ^^" แหะๆ)
ผมก็นับในใจเลยทันใดนั้น พอนับแค่เก้าเหมือนเพลง

"ผมก็เหมือนหายไปเลย (ยืนอยู่นะครับ) มันดับไปเลย แว๊บนึง"
แล้วมันก็สุขมากๆ แบบยิ้มมาเอง พ่อด่าก็ไม่ได้ยิน ยิ้มแป้นแล้วมันก็เดินขึ้นห้องไปอาบน้ำเฉยเลย
แต่ก็ตามเดิม คือ เฮ้ย มันเกิดอะไรขึ้น แต่ก็ยังยิ้มยังสุขมากมายมหาศาล

แล้วมันคืออาการของอะไรครับ?

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

หลังจากนั้นก็เหมือนเดิม ทำบ้างไม่ทำบ้าง
เริ่มมั่วบ้าง เจอหนังสือสวดมนต์สอน พุทธโธ บ้าง นะโมพุทธายะ บ้าง ไปเจอสัมมาอะระหัง บ้าง
ก็ทำไปเรื่อย ทำบ้างไม่ทำบ้าง แต่ใจชอบพุทธโธที่สุด

จนหลังจากจบปวช. เรียนมหาวิทยาลัยปี่ที่ 1 เริ่มเลวและตกต่ำเต็มที่ คือชั่วและเละเทะมากๆ (ไม่ขอเล่านะครับ)
จนมาปี3 นึกขึ้นได้เองว่า เห้ยได้ยินตอนเด็กๆ บ่อยๆ แม่ชอบพูดว่าหนังสือจี้กงเที่ยวเมืองนรก ตั้งแต่ผมอยู่อนุบาล
จึงได้ไปไถ่ถามแม่และเอามาอ่าน จากนั้นผมก็เริ่มมีหิริโอตัปปะมากขึ้น (คือผมโชคดีอย่างนึงคือที่บ้านและญาติๆ ชอบทำบุญมากๆ)

และก็ยาวต่อมาหลายปีหลังจากนั้นก็เหมือนเดิม ทำบ้างไม่ทำบ้าง
ก็เลวบ้างดีบ้างแต่ก็เลวไม่ทำเมื่อก่อนเพราะเริ่มโตขึ้น

สุดท้ายจะบวชให้พ่อแม่เพราะตั้งใจตั้งแต่เรียนจบแต่ไม่ได้บวชเพราะทำงานตั้งแต่เรียนใกล้จบ
แต่ก่อนบวชนั้นผมก็เล่นคอมไปเรื่อยๆ ก่อนบวชไม่กี่วัน

ก็ไปเจอกับเพ่งกสิณ

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

3. เพ่งกสิณ
  3.1  เพ่งกสิณสี ทำอยู่หลายสี แต่มักทำสีเหลืองหรือแดง
เคยทำจนขยายหรือหด หรือจนหลับตาก็ชัดนานอยู่ แต่ไม่ถึงนาทีก็ต้องลืมตาดูใหม่
มันคืออะไรครับ?

  3.2 กสิณไฟ แต่ไม่ได้จุดไฟเพ่งเองดูในคอมเอา
จากนั้นเหมือนมันวูบเข้าไปทางหน้าผากตัวเอง แล้วเหมือนมันเข้ารูเข้าถ้าำแบบเล็กๆ เหมือนในหนังแบบไวมากๆ
ไปที่มืดๆ เหมือนถ้ำ ผมก็มองไปเจอเหมือนเสืออยู่บนโขดหินบนหิน แต่มองไม่ชัดมันมัวๆ
พอเพ่งสักพักชัดขึ้นเป็น ฤาษีห่มผ้าลายเสือ ผมถึงกับตกใจและออกมาจากตรงนั้น ลืมตามาพร้อมกลัวสักพักและกลายเป็นสงสัย
มันคืออะไรครับ?



4. หลังจากนั้นก็มาถือศีล 8 อยู่วัดก่อนบวช จนได้บวชพระ
เจ้าอาวาสก็มีนิมนต์พระอาจารย์จากอีกวัด (ท่านนิมนต์มาทุกปีเพราะจัดบวชหมู่ทุกปีไม่แน่ใจว่าทำมากี่ปีแล้ว)
ได้มาสอน เดินจงกลม สมถะวิปัสสนา อยู่ทั้งหมด 7 วัน (เริ่มมีอาจารย์แล้ว)
โดยกรรมหนดรู้เท่าทันสภาวะปัจจุบัน เช่น พองหนอ ยุบหนอ เห็นหนอ ได้ยินหนอ สุขหนอ และอื่นๆ
แรกๆ ทำก็เผลอพุทธโธ ก็ลองเปลี่ยนใหม่
หลังจากนั้นผมก็ทำตลอดตอนที่บวชเพราะตั้งใจมากๆ เพราะไม่ได้มีโอกาสบ่อยๆ และกลัวบาปด้วย ฯ
พอว่างผมจะรีบทำคือ

ทำวัตรเช้า บิณฑบาต สวดมนต์ในกุฏิ ฉันท์เช้า นั่งต่อ บางทีก็หลับต่อจากนั่งสักครู่ (นั่งแล้วจึงนอนหลับนะครับ)
ฉันท์เพล นั่งต่อ หลับต่อบ้าง บางที ก็กวาดวัด ทำถนนนอกวัดตรงด้านข้างและหน้าวัดและหลายจุด(กำลังพัฒนาเพิ่ม)
ทำวัตรเย็น นั่งคุยกับรูปอื่นบ้าง สวดมนต์ในกุฏิ และก็นอนทำจนหลับไปเลย

และวันนั้นจำไม่ได้งานอะไรหลวงพี่ที่วัดไปวัดพระแก้วผมก็ขอตามไปด้วย
จึงได้ไปอ่านพระไตรปิฏกหน้าโบสถ์ภาษบาลี แรกๆ ก็มัวๆ ไม่ได้ก็เงียบหลังๆ เนียน สวดได้เฉยเลย
แล้วหลังจากนั้นก็ไปธุดงค์ที่พุทธมณฑลสายสี่ที่ถวายในหลวง หลังจากนั้นกลับมาผมก็ฉันท์เช้าอย่างเดียวเฉยเลย
แต่ตอนบวชได้ทำหลายอย่างและเต็มที่เลย โชคดีจริงๆ

และมีอาการที่ผมไม่แน่ใจและตอบตัวเองไม่ได้คือ (บางอย่างตอนนี้ทราบว่าคืออะไรบางอย่างไม่ทราบ)
  4.1 นั่งไปแล้วมันสงบจนไม่อยากลืมตา มันสุขก็รู้ว่าสุขมันก็เฉย ออกมาจากกุฏิ เวลาคุยกับใครก็ชอบหลับตาคุย
จนทุกวันนี้บางทีก็เป็นบ้าง (แต่ปรกติฟุ้งกระจาย) แต่ไม่นานก็ปรกติเหมือนเดิม

  4.2 หลังเพลพระรูปอื่นๆ ชอบมาชวนคุยมาเคาะเรียกจึงทำไม่นานกลับมาทำอีกทีบางทีก็ฟุ้งหรือง่วง
มีวันนึงจึงบอกตัวเองว่าวันนี้จะไม่เปิดประตู เคาะไงก็ไม่เปิด ตกใจปีนหน้าต่างมาดึงก็ไม่ขยับ
พอนั่งไปสักพัก มาดึงแขนตรงข้อพับแรงมาก จึงเผลอลืมตาดูแต่ก็สู้ไม่ไหว (เขาคงรู้ว่าโทสะแรง)
แต่ก่อนหน้านี้ไม่กี่วันเหมือนคล้ายๆ ผีอำ คือ มาเหยีบ มาบีบคอ แต่ผมมีสตินะ เลยแผ่เมตตา
แล้วเขาบอกว่าให้อิมินา (นั่งยองๆ หันหลังให้ตัวผอมๆ ดำๆ ใส่สบงกับอักษะ) ผมก็นึกได้อ่อบทนี้คงถึงมากกว่า
แต่ผมมีต่อรอง บอกผมบวชใหม่เปิดหนังสือดูไดเไหม เขาบอกได้ พอสวดแป๊บเดียว เงยหน้ามาเขาหาย
แล้วผมก็ลืมตา หลังจากนั้นไปถามเจ้าอาวาสบอกไม่มีอะไร
ผมยืนเสียงแข็งว่ามี มันต้องมีสิ สองทีแล้ว(อยากรู้เพราะมาดึงแขน) สุดท้ายบอก เคยมีเณรตาย
ออกมาจากคุกมาบวชแต่ช้ำในตายน่าจะเพราะก่อนออกมาจากคุก แต่บอกอยู่คนละกุฏิกัน
คือผมมโนและบังเอิญไปเองใช่ไหม

  4.3 ตอนไปธุดงนั่งฟังพระเทศน์นาน (ตอนกลางคืน) โดยมีเทียนให้ตุด ผมก็เพ่งไฟเล่นๆ
พอหลับตาก็เห็นดวงกลมๆ อารมณ์เหมือนอยู่กลางหน้าผาก พอไปเพ่งมันลอยขึ้ยพอปล่อยมันกลับมา
แล้วนึกขึ้นได้ก็กำหลดเห็นหนอให้มันหาย

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
หลังจากสึกมาก็มีไปหาพระอาจารย์บ้าง
แต่เคยถามท่านแล้วเรื่องต่างๆที่เจอ (เยอะกว่านี้) ท่านตอบแค่ว่ากำหนดตามไป

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

สึกมาก็กิเลสเยอะ ทำบ้างไม่ทำบ้าง ตอนสึกเสร็จก่อนขึ้นไปทำความสะอาดกุฏิก็มีร่างทรงทักบอก เขารอเพียบเลย ^^"
ผมจึงมีความสงสัยว่าเราเจออะไร จึงไปเจอ พระอาจารย์ท่านนึงสอน พองยุบเหมือนกัน ก็ตามดูคลิปและฟังและทำต่อ
(แต่ท่านมรณะไปนานแล้วครับ)

หลังจากนั้นมาประมาณปลานเดือนเมษที่ผ่านมาเจอพี่นักดนตรีท่านนึงโพสต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ เลยฟังและลองทำตาม
เลยรู้ว่าผมติดเพ่ง และต้นเดือนผมได้ไปฟังท่านเทศน์และโชคดีได้ส่งการบ้านแต่ไม่กล้าถามเยอะ เกรงใจคนอื่น
ตอนท่านเทศน์ก็เตือนผมทีนึงว่าเกร็งไป ผมรู้เองได้เลยว่าท่านเตื่อนเราเพราะเพ่งไป พอเรารู้ตัวท่านก็มองคนอื่นต่อ
หลังๆ มานี้ ลืมตาแต่ก็มีวิปัสสนูตัวโคลงบ่อยและถี่
เลยทำให้ผมรู้ว่าวัน นึง เผลอ ฟุ้ง โมโห และอื่นๆ บ่อย มากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

*สงสัยอีกอย่างคือ*
ผมไม่ได้เล่ายาวแบบนี้ให้ท่านฟัง เล่าแต่ว่าพองยุบแล้วมารู้แบบท่าน จนไปเจอการเกิดดับของนามชัดมากแบบขาดทันที
ตอนเมื่อก่อนคิดว่าใช่คือกำหนดตามมันไม่กี่ครั้งมันหาย แต่นี่
"ความโกรธหายตอนลืมตาและเดินอยู่ด้วย"

แล้วแบบนี้ที่ผ่านมาผมเจออะไรมาบ้างและ ผมควรจะภาวนาอย่างหรือเอาอะไรมาใช้บ้าง
เพราะตอนเจอ อจารย์พองยุบในคอมท่านบอกอย่าไปศึกษาเยอะเดี๋ยวจะฟุ้งผมเลยไม่กล้า
และกลัวไปติดสมถะและหรืออื่นๆ คือกลัวจะไปติด
พอมาเจอหลวงพ่อปราโมทย์ก็ทำตามท่านสอน แต่สงสัยว่าสิ่งที่ผ่านมาว่ามันเอามาช่วยอะไรได้ไหม

ขอบคุณท่านผู้เจริญทุกท่านที่มาตอบมากๆ ครับ
ครั้งแรกก็ยาวเลยเก็บมานาน

พิมพ์ตั้งแต่ตีหนึ่งเผลอแป๊บเดียวตีสาทมสิบเก้า ไปหาลูกค้าเช้าด้วยเดี๋ยวกลับมาจะรีบอ่านรีบตอบ ขอบคุณครับ

สุดท้ายนี้ ถ้าผิดหรือล่วงเกินต่อครูบาอาจารย์หรือผู้ใด
ขออโหสิกรรมและยกโทษให้ผมด้วยนะครับ
อนุโมทนากับทุกท่านด้วยครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่