ทริปนี้เกิดจากหัวใจต้องการทะเล

และ

อาหารทะเล

และ

ผลไม้ตามฤดูกาล ทุเรียน มังคุด เงาะะะะะ [ ซึ่งยังไม่ออกตอนนั้น T___T ]

และ ฯลฯ ฯลฯ ฯลฯ ฯลฯ ฯลฯ ฯลฯ ฯลฯ

เอาเถอะค่ะ เมื่อ want อะไรมากมายขนาดนี้เราเริ่มออกเดินทางกันที่สนามบินเชียงใหม่ แต่เช้าตรู่ด้วยหางแดงสัญชาติอินโดฯ
ที่มาจอดรอเราอยู่ล้าววว

ไฟล์ทออกจาก CNX 06.50 ถึง DMK 7.50 พอดีเด๊ะ รอรับกระเป๋าอีกนิดหน่อย







เมื่อถึงกรุงเทพฯ แก๊งชะนีขอเช่ารถขับเองต่อไปถึงจันทบุรีนะคะ เราได้ Toyota Altis รุ่นไม่ใช่รุ่นล่าสุดของคุณพี่ Sixt ที่ดอนเมืองค่ะ ในสนนราคา สองวันประมาณ 1500 บาท [วันละ 699 + ภาษี]

ไหนสภาพรถ คือไม่ได้ถ่ายมาค่ะ .... แหะ แต่รถสะอาด น้อง ๆ ที่ Sixt ก็ชี้จุดขีดข่วนให้ว่ามีตรงนี้ ๆ ๆ ๆ รอบคันมีนิดหน่อยค่ะ ว่าแล้วเซ็นต์รับรถ ก็ไปกันได้เลย




โฮมสเตย์บ้านท่าขาหย่าง อ.ขลุง จ.จันทบุรี อยู่ห่างจากตัวเมืองจันฯ มาประมาณ 1 ชั่วโมงกว่า ๆ แต่ ความโชคร้ายของเราคือ ไปช่วงที่ฝนตก รถติด และคนมากมายมหาศาล รับหยุดยาววันแรงงานค่ะ กว่าจะถึงจันทบุรี ก็บ่ายแก่ๆ  

สภาพถนนทางเข้าที่เป็นที่โจทย์จันกันถึงความ "หลุม" ตอนนี้ไม่หลุมแล้วนะคะ กำลังปรับถนนอยู่ หินกรวดดีดโปกป้ากตลอดทาง

ขับมาเรื่อย ๆ เลี้ยวเข้ามาทางวัดเทพขาหย่างจะเจอถนนคอนกรีต




หมดช่วงคอนกรีต ก็แปลว่าใกล้ถึงขาหย่างแล้ว

รถเก๋งก็ค่อย ๆ หยอดกันไปค่ะ ระวังหินกระเด็น





ถึงแม้จะถึงบ่ายแก่ๆ แล้ว ป้าอ่อนเจ้าของโฮมสเตย์ก็ยังเก็บกับข้าวไว้ให้นะ







อันนี้ก็บางส่วนค่ะ ทานรองท้องรอมื้อเย็น


ทานเสร็จ ก็ออกมาชมวิวนิดหน่อย ช่วงนั้นฝนจะตกค่ะ อากาศค่อนข้างอบอ้าว






ระหว่างทางแวะซื้อทุเรียนมาเบา ๆ หมอนทองโล 60 บาท แล้วไม่มีปัญญาแกะเอง ได้ลูกมือในครัวป้าอ่อนช่วยแกะค่า







จัดการทุเรียนเสร็จแล้ว ไปลงเรือดูทะเลแหวกกันค่ะ



เนื่องจากเราไปถึงรอบบ่ายแก่ คนที่มาถึงก่อน เค้าก็เตรียมลงเรือกันแล้ว

ป้าอ่อนเลยจัดให้เรารอบพิเศษ ตอนเย็นค่ะ








ถึงแล้ว หนะ หนะ ไหน ทะเลแหวกกก ไหนนนน

คือ ไปถึงเย็น น้ำมึนขึ้นแล้วไง มันท่วมเนินดินไปแล้ว แต่พอลงเรือ ก็เจอพื้นทรายเลย ลงไปเดินเล่นสบาย








ขากลับ คุณลุงคนขับเรือ พาวนเวียนไปแถวหมู่บ้านไร้แผ่นเดิน

และพบกับแสงสุดท้ายของวัน














ขึ้นจากเรือมาถึงป้าอ่อนให้ลูกน้องจัดเตรียมโต๊ะทานข้าวไว้ให้เราแล้วค่ะ

อาหารไม่พอขอเติมได้ แต่จะมีหรือเปล่า นั่นอีกเรื่องนะคะ เราก็ขอปูเพิ่ม ปูสดมากค่ะ อยากได้น้ำพริกไข่ปูจากเมื่อกลางวันอีกซักหน่อย แต่ไม่มีแล้วค่ะ

ส่วนเครื่องดื่มมีน้ำเปล่ากับน้ำแข็งไว้ให้บริการ น้ำอัดลมอยากทานก็ฝากลูกน้องป้าอ่อนไปซื้อได้ค่ะ








ช่วงที่ไป ปูกะกุ้งตัวไม่ใหญ่ค่ะ ถ้าอยากทานตัวใหญ่ ๆ ให้มาเดือน พฤศจิกายน

อ้าว หนูไม่รู้ >___<"






ทานเสร็จ รีบเข้าห้องค่ะ อากาศร้อนอบอ้าวมาก เหงื่อท่วมสรรพร่าง ขอไปตากแอร์ก่อน

ที่ขาหย่างมีทั้งห้องแอร์และพัดลมนะคะ แต่ห้องแอร์ต้องมา 5-6 คน ค่ะ เราไปกัน 5 คน ขอห้องแอร์ตั้งแต่โทรไปจองเลยค่ะ

ปล. ไม่ได้ถ่ายสภาพห้องมา แหะ แหะ

ปล. กิจกรรมตอนกลางคืนที่โฮมสเตย์ ถ้าอยากร้องเพลงก็มีตู้คาราโอเกะค่ะ แต่สภาพอากาศมันไม่เอื้อจริง ๆ มันร้อนเกินกว่าจะทำไรได้ นอนคุยกันซักพัก ก็รีบหลับ ๆ กันไปค่ะ

และ ปล. รู้งี้เอาไพ่มาตั้งวงหากินกับเพื่อนก็จะดีเนาะ



ตัดมาตอนเช้าเลยนะคะ แหะ ขอเชิญพบกับ


1. น้องปลาตีน

ทะเลาะกัน



เกี้ยวพาราศี



ตกลงกันได้ก็ว่ายน้ำไปด้วยกัน



2. พี่นก





3. พี่กั้ง





ออกจากห้องไปก็โดนเรียกทานอาหารเช้าค่ะ ที่นี่จัด เส้นจันผัดปู ข้าวต้มปลากระพง ข้าวผัดทะเล และของหวานไว้ให้ค่ะ

ปล. ไม่ได้ถ่ายไว้


และลูกน้องป้าอ่อน ที่ได้ตระเวนถามแต่ละห้องแล้วว่า จะใส่บาตรมั้ย ชุดละร้อย เราก็ศรัทธาไป 2 ชุด ค่ะ

พระมาแล้ว ให้ใส่และรับพรพร้อมกัน

ในความคิดของเรา ชุดใส่บาตรเค้าแพงไปหน่อยค่ะ แต่ก็พยายามไม่คิดไรมาก ทำบุญค่ะ





บอกลาวิวขาหย่าง ด้วยนากุ้งค่ะ แล้วจะมาแก้ตัวอีกนะ ตอนที่ไปนี่ยังอึน ๆ นิด ๆ




ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาชมค่าาาาา