เพราะปัญหาชาวโรฮิงยาเป็นปัญหาเกี่ยวเนื่องกับกลุ่มคนผู้ด้อยโอกาสที่เป็นภาระของสังคมมาแต่ไหนแต่ไร
แต่มันดังขึ้นมามากจะถือว่า มันเป็นเพราะ นักข่าว คนหนึ่งใช่ไหม นักข่าวที่ถูกมองว่ามีความเห็นใจชาวโรฮิงยา แสดงว่าไม่รักประเทศเพราะจะสนับสนุนให้รัฐบาลช่วยเหลือ ทำให้เป็นภาระประเทศไทย ฯลฯ
หรือที่มีคนคัดค้าน(ที่เชื่อว่ามากมาย)นั่น รัฐบาลไม่ได้ฟังเสียงคัดค้านที่ว่ามากเลย
หรือเพรา่ะการเสนอข่าวของนักข่าวสาวคนนั้นมันหนักแน่นพอรัฐบาลจะรับฟัง และเลือกปฏิบัติตามแนวคิดนั้น
และถ้าถือว่าเสียงคัดค้านไม่ให้ช่วยชาวโรฮิงยามีมากมายจริงๆ แสดงว่ารัฐบาลนี้ไม่ได้ฟังเสียงส่วนใหญ่
และการมุ่งกล่าวโจมตีนักข่าวเพียงคนเดียวนั้นก็ไม่มีใครเชื่อว่าจะสามารถไปพลิกนโยบายของรัฐบาลได้ แต่ทำไมถึงดุเดือดรุนแรงขนาดนั้น เป็นไปได้ใช่ไหม เพราะผู้แสดงออกเป็นคนมีเลือดรักชาติอย่างเข้มข้น รักผลประโยชน์ของชาติ หรือจริงๆไม่ได้รับรุ้เลยว่าปัญหาชาวโรฮิงยาอพยพที่เกี่ยวกับไทยโดนประจานทั่วโลกอยุ่แล้วเป็นปีๆ
มันน่าคิดไหม
ทีนี้กลับมาดูเหตุการภายในบ้านเมืองของเราครับ
ในคนกลุ่มต่างๆมีการได้เปรียบเสียเปรียบทั้งโดยสภาพธรรมชาติและการไม่เหลียวแลแก้ไขของรัฐบาล
จนล่าสุด นายสนธิลิ้มได้ออกมาแฉว่า ประเทศเรามีกลุ่มทุนผูกขาด และผูกขาดเกกือบทุกอย่าง
มีกลุ่มทุนผูกขาดทีทำให้คนในชาติไม่มีอาชีพ เช่นพวกร้านโชวห่วยที่เคยทำมาหากินได้ ก็หมดทางหากิน พวกเลี้ยวเป้ดเลี้ยงไก่ก้กลายเป็นลูกหนีกลุ่มทุนไม่รุ้จบเพราะต้องอาศัยอาหารสัตว์ และถูกกำหนดราคารับซื้อสัตว์ไม่เป็นธรรม ฯลฯ
มีกลุ่มทุนผูกขาดที่ทำให้คนยากคนจนคนเกษตรกรต้องตกเป็นเบี้ยล่าง ฯลฯ ฯลฯ
แล้วเราจะเชื่อไหม
ถ้าไม่เชื่อ ทำไมตอนที่นายสนธิลิ้มโจมตีทักษิณถึงเชื่อเป็นวรรคเป็นเวรล่ะ
ถ้าเชื่อ ทำไมไม่ช่วยหันมาโจมตีกลุ่มทุนเหล่านี้ที่สนธิลิ้มเรียกว่าทุนสามาลย์ล่ะ
หรือเพราะเกรงกลัวอฺทธิพล หรือเพราะไม่รู้จริง ๆ หรือเพราะเป็นคนเชื้อชาติเดียวกัน หรือเพราะเป็นปัญหาเล็กๆน้อยๆ
ครับ อยากจะรุ้ และอยากจะแลกเปลี่ยนความคิดเห็น แทนที่จะคิดอยู่คนเดียวไมได้ดูโลกกว้างเลยว่า เขาคิดเห็นอย่างไร
กรณ๊ชาวโรฮิงยา มันสะท้อนให้เห็นอะไรบ้าง ?
แต่มันดังขึ้นมามากจะถือว่า มันเป็นเพราะ นักข่าว คนหนึ่งใช่ไหม นักข่าวที่ถูกมองว่ามีความเห็นใจชาวโรฮิงยา แสดงว่าไม่รักประเทศเพราะจะสนับสนุนให้รัฐบาลช่วยเหลือ ทำให้เป็นภาระประเทศไทย ฯลฯ
หรือที่มีคนคัดค้าน(ที่เชื่อว่ามากมาย)นั่น รัฐบาลไม่ได้ฟังเสียงคัดค้านที่ว่ามากเลย
หรือเพรา่ะการเสนอข่าวของนักข่าวสาวคนนั้นมันหนักแน่นพอรัฐบาลจะรับฟัง และเลือกปฏิบัติตามแนวคิดนั้น
และถ้าถือว่าเสียงคัดค้านไม่ให้ช่วยชาวโรฮิงยามีมากมายจริงๆ แสดงว่ารัฐบาลนี้ไม่ได้ฟังเสียงส่วนใหญ่
และการมุ่งกล่าวโจมตีนักข่าวเพียงคนเดียวนั้นก็ไม่มีใครเชื่อว่าจะสามารถไปพลิกนโยบายของรัฐบาลได้ แต่ทำไมถึงดุเดือดรุนแรงขนาดนั้น เป็นไปได้ใช่ไหม เพราะผู้แสดงออกเป็นคนมีเลือดรักชาติอย่างเข้มข้น รักผลประโยชน์ของชาติ หรือจริงๆไม่ได้รับรุ้เลยว่าปัญหาชาวโรฮิงยาอพยพที่เกี่ยวกับไทยโดนประจานทั่วโลกอยุ่แล้วเป็นปีๆ
มันน่าคิดไหม
ทีนี้กลับมาดูเหตุการภายในบ้านเมืองของเราครับ
ในคนกลุ่มต่างๆมีการได้เปรียบเสียเปรียบทั้งโดยสภาพธรรมชาติและการไม่เหลียวแลแก้ไขของรัฐบาล
จนล่าสุด นายสนธิลิ้มได้ออกมาแฉว่า ประเทศเรามีกลุ่มทุนผูกขาด และผูกขาดเกกือบทุกอย่าง
มีกลุ่มทุนผูกขาดทีทำให้คนในชาติไม่มีอาชีพ เช่นพวกร้านโชวห่วยที่เคยทำมาหากินได้ ก็หมดทางหากิน พวกเลี้ยวเป้ดเลี้ยงไก่ก้กลายเป็นลูกหนีกลุ่มทุนไม่รุ้จบเพราะต้องอาศัยอาหารสัตว์ และถูกกำหนดราคารับซื้อสัตว์ไม่เป็นธรรม ฯลฯ
มีกลุ่มทุนผูกขาดที่ทำให้คนยากคนจนคนเกษตรกรต้องตกเป็นเบี้ยล่าง ฯลฯ ฯลฯ
แล้วเราจะเชื่อไหม
ถ้าไม่เชื่อ ทำไมตอนที่นายสนธิลิ้มโจมตีทักษิณถึงเชื่อเป็นวรรคเป็นเวรล่ะ
ถ้าเชื่อ ทำไมไม่ช่วยหันมาโจมตีกลุ่มทุนเหล่านี้ที่สนธิลิ้มเรียกว่าทุนสามาลย์ล่ะ
หรือเพราะเกรงกลัวอฺทธิพล หรือเพราะไม่รู้จริง ๆ หรือเพราะเป็นคนเชื้อชาติเดียวกัน หรือเพราะเป็นปัญหาเล็กๆน้อยๆ
ครับ อยากจะรุ้ และอยากจะแลกเปลี่ยนความคิดเห็น แทนที่จะคิดอยู่คนเดียวไมได้ดูโลกกว้างเลยว่า เขาคิดเห็นอย่างไร