มีการกล่าวหาว่าคนไทยผลักดันเรือของโรฮิงญาที่จะไปมาเลย์เข้ามาในเขตไทย

และนั่นคือจุดเริ่มต้นของการค้าแรงงานโรฮิงญาในประเทศ
ตามเอกสารเปิดของทางสหรัฐ เอกสารทางการชิ้นนี้ http://thai.bangkok.usembassy.gov/tipthaireport14-t.html

เอกสารการค้ามนุษย์ช่วงตอนหนึ่งของสหรัฐระบุว่า สรุปให้แบบย่อ ..
"เจ้าหน้าที่กองทัพเรือถูกกล่าวหาว่าผลักดันเรือโรฮิงญาที่จะไปมาเลย์ให้เข้ามาในเขตไทยเพพื่อส่งต่อให้ขบวนการค้ามนุษย์.."

เอกาสารชุดนี้ เป็นเอกสารตั้งแต่ปี 2557 ไม่ใช่เอกสารปีล่าสุด
บรรยายไว้ละเอียดมาก มีการพูดถึงความเกี่ยวข้องระหว่าการค้ามนุษย์กับเจ้าหน้าที่รัฐเป็นเอกสารเปิดเผยตั้งแต่ปี 2556

ในงานข่าวของทางสหรัฐให้ข้อสรุปว่า ผู้ที่จะลักลอบเข้าเมืองอินโดมาเลย์ ส่วนหนึ่งตกเป็นเหยื่อค้ามนุษย์ในประเทศไทย
เรื่องนี้โคตรจะสำคัญเลย เพราะถ้าแค่ลักลอบเข้าเมืองจะถือว่าผิดุกฏหมาย
แต่ถ้าเป็นเหยื่อค้ามนุษย์ประเทศไทยมีหน้าที่ต้องดูแลและให้พี่พักพิงดูแลด้านสุขภาพ และอาจต้องหางานให้ทำนอกที่พำนัก
หรือให้ที่พำนักอย่างถาวร เพราะ เหยื่อของการค้ามนุษย์ถือเป็นความรับผิดชอบของประเทศนั้นๆ
และการส่งกลับเป็นเทศถือเป็นทางเลือกท้ายเพราะอาจเกิดอันตรายกับเหยื่อได้

เมื่อมุมมองสหรัฐมองว่า โรฮิงญาในไทยเป็นเหยื่อค้ามนุษย์ของไทย ไทยย่อมต้องรับผิดชอบโดยปริยาย
แต่แน่อน ก็อย่างที่เห็นฝ่ายความมั่นคงยืนยันว่า เป็นการลักลอบเข้าเมืองไม่ใช่ค้ามนุษย์ ก็หน่วงกันอยู่อย่างนี้
ต้องไปวัดกันที่การคัดแยกเหยื่อ ซึ่งผลงานคัดแยกเหยื่อของไทยของเราสรุป โรฮิงญาเป็น ร้อย ขัดแยกว่าเป็นเหยื่อค้ามนษย์ได้คนเดียว!!

อย่างไรก็ดี สหรัฐก็ได้ระบุในเอกสารเกี่ยวกับประเด็นนี้ผมคัดมาให้อ่าน
"....อย่างไรก็ตาม กระบวนการคัดแยกเหยื่อของรัฐบาลไทยมีข้อบกพร่องร้ายแรง
.....เป็นไปได้ว่ามีเหยื่อการค้ามนุษย์ซึ่งไม่ได้รับการคัดแยกออกไปและรวมอยู่ในกลุ่มแรงงานต่างด้าว 190,144 ....
"


นั่นก็เป็นเรื่องการหน่วงของสหรัฐ กับหน่วยงานของไทย และเป็นเหตุให้ นักวิชการไทยออกมาตั้งป้อมเขียนิยายประโลมโลกโจมตีสหรัฐ
ล่าสุดเจอแม้แต่เอาเรื่องสุสานหิ่งห้อยอนิเมชั่นดราม่าของประเทศญี่ปุ่นมาโยง!!!!

อย่างไรก็ดีส่วนตัวผมให้น้ำหนักกับข้อมูลของทางสหรัฐนะครับ
ผมจะอธิบายอย่างนี้ว่า ถึงแม้การแยกว่าเป็นเหยื่อหรือลักลอบเข้าเมืองในปรเทศทางผ่านอย่างประเทศไทยจะทำได้ค่อนข้างยาก
แต่สิ่งที่สำคัญของการเหยื่อคือการกักขัง และ ข่มขู่ ซึ่งเราจะไม่พูดเรื่องการผลักดันเรือเข้ามาโดยเจ้าหน้าที่รัฐฉ้อฉลจริงหรือไม่
แต่เราจะไปดู องค์กระกอบที่ยืนยันว่ามีความเป็นไปได้ว่าโรฮิงญาเป็นเหยื่อค้ามนุษย์ทั้ลำเรือจริงคือ การกักกัน และการข่มขู่ ตลอดจนการฆาตกรรม

(1)มีค่ายการพบค่ายกักกัน และ หลุมศพโรฮิงญาจำนวนมากในพื้นที่ชายแดนไทย
(2)2การจับ และยึดทรัพย์กลุ่มแกงค์ค้ามนุษย์เมื่อต้นเดือน ที่ผ่านมา (http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx…)
(3)มีการจับเรียกค่าไถ่และฆาตกรรมโรฮิงญา(http://www.thairath.co.th/content/496753 )
และอื่นๆอีกเยอะที่ผมขี้เกียจไปรวบรวม
ทำให้เชื่อได้ว่า การอ้างอิงเรื่องการค้ามนุษย์ในเอกสารของสหรัฐในการค้าแรงงานประมงนั้น
มีความเป็นไปได้มากกว่าเป็นการลักลอบเข้าเมืองอย่างที่ฝ่ายความมั่นคงพยายมจะทำให้เป็น

คุณอาจจะคิดว่า การค้ามนุษย์โรฮิงญาเราไม่ได้เดือดร้อน
แต่นาทีนี้ผมกำลังดูสถิติการหายของเด็กในช่องทรูวิชั่นและงานของมูลนิธิกระจกเงา
ที่จริงวงการค้ามนุษยืน้นเชื่อมถึงกันหมด ค้าแรงงาน ค้าประเวณี เด็ก ขอทาน
ข้างศพของผุ้หญิงและผู้ชายโรฮิงญาที่ด่านนอก
อาจจะมีศพของคนไทยก็ได้ เป็นโอกาสดีที่เราจะได้รุ้จักประเทศไทยเราอีกมุมหนึ่ง
แต่ด้วยการเรียนรู้โศฏนากกรรมของอีกชนชาติหนึ่งในแ่ผนดินไทยแห่งนี้

ได้แต่หวังว่าการสรุปเรื่องนี้
จะเป็นประโยชน์ให้คนสักคน นะ แค่นั้นก็พอแล้ว
นี่น่าจะเป็นการสรุปครั้งสุดท้ายเกี่ยวกับโรฮิงญาของผมในปีนี้  ยังไงก็ฝากลองนำไปทบทวนดูนะครับ
ที่มาเอกสาร http://thai.bangkok.usembassy.gov/tipthaireport14-t.html
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่