คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 7
โมทนาสาธุด้วยนะครับ
แล้วถ้ามีคนที่เรา (จำเป็น) ต้องคบค้าด้วย แต่โดยนิสัยเดิมเค้าเป็นคนขี้โมโห อีโก้จัด หลงตัวเอง พูดจาหยาบคาย ไม่ฟังเหตุผล ใช้แต่อารมณ์ ชอบพูดจาถากถาง เยาะเย้ย เห็นเป็นเรื่องสนุก ลบหลู่พระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ แต่หลงงมงายกับพวกเจ้าพ่อเจ้าแม่ ผู้ทรงอิทธิฤทธิ์ทั้งหลาย ใครห้ามใครปรามโดนด่าสวนหาว่าลบหลู่ เรื่องใดที่ไม่ดีใครทักท้วง ก็โดนหาว่าสอด ทำไม่ได้อย่างเค้าหาว่าเราอิจฉา
บุคคลอย่างนี้ ถ้าเราไม่โกรธเค้า (เพราะเคยมีปากมีเสียงกันมาหลายต่อหลายครั้ง) แต่เราเฉยๆ ต่อเค้า ประหนึ่งประมาณว่า ไม่อยากคบ แต่ในเมื่อเลี่ยงไม่ได้ ก็เฉยไปเสียดีกว่า เพราะถ้าจะบอกว่าหายโกรธ หายเกลียด กลับมาดีกัน แต่ไม่นานก็ต้องมีเรื่องขัดใจกัน เพราะเหตุต่างๆ ดังกล่าวอีก คือไม่โกรธกันแล้วนะ แต่เราไม่ยุ่งเกี่ยวกับเธออีก อย่างนี้ ถือว่าให้อภัยเค้าแล้วหรือยังครับ?
แล้วถ้ามีคนที่เรา (จำเป็น) ต้องคบค้าด้วย แต่โดยนิสัยเดิมเค้าเป็นคนขี้โมโห อีโก้จัด หลงตัวเอง พูดจาหยาบคาย ไม่ฟังเหตุผล ใช้แต่อารมณ์ ชอบพูดจาถากถาง เยาะเย้ย เห็นเป็นเรื่องสนุก ลบหลู่พระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ แต่หลงงมงายกับพวกเจ้าพ่อเจ้าแม่ ผู้ทรงอิทธิฤทธิ์ทั้งหลาย ใครห้ามใครปรามโดนด่าสวนหาว่าลบหลู่ เรื่องใดที่ไม่ดีใครทักท้วง ก็โดนหาว่าสอด ทำไม่ได้อย่างเค้าหาว่าเราอิจฉา
บุคคลอย่างนี้ ถ้าเราไม่โกรธเค้า (เพราะเคยมีปากมีเสียงกันมาหลายต่อหลายครั้ง) แต่เราเฉยๆ ต่อเค้า ประหนึ่งประมาณว่า ไม่อยากคบ แต่ในเมื่อเลี่ยงไม่ได้ ก็เฉยไปเสียดีกว่า เพราะถ้าจะบอกว่าหายโกรธ หายเกลียด กลับมาดีกัน แต่ไม่นานก็ต้องมีเรื่องขัดใจกัน เพราะเหตุต่างๆ ดังกล่าวอีก คือไม่โกรธกันแล้วนะ แต่เราไม่ยุ่งเกี่ยวกับเธออีก อย่างนี้ ถือว่าให้อภัยเค้าแล้วหรือยังครับ?
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
ศาสนาพุทธ
ความมหัศจรรย์ของการให้อภัย