เมื่อเช้าไปส่งลูกที่โรงเรียน เจอเรื่องแย่ ๆ หัวข้อเดียวกัน แต่ 2 แบบ เลย
เรื่องแรกเลย คือสามีเราเอารถไปจดที่จอดตามปกติ พอจอดเสร็จ ก็มีแม่เด็กมาจอดขวางไว้
ทางเราก็ไม่ได้ว่าอะไร พอสามีเราลงรถมา ก็เลยบอกไปนิดนึงว่า “ใส่เกียร์ว่างด้วยนะครับ”
แล้วคุณแม่ท่านนั้นก็ตอบมาทันทีด้วยคำตอบชวนอึ้งว่า “อ๋อ รถคันนี้ใส่เกียร์ว่างไม่ได้ค่ะ”
เอ๋อรับประทานสิคะ มีด้วยเหรอ ใส่ไม่ได้ เราเลยบอกไปว่า “ใส่ได้นะคะ ที่บ้านก็มีรถยี่ห้อนี้ก็ใส่ได้นะ”
คุณแม่ตอบมาทันทีด้วยความมั่นใจอีกทีว่า “เบนซ์เหมือนกันแต่คนละรุ่นมั้งคะ คันนี้รุ่นใหม่ ใส่ไม่ได้ค่ะ”
(รถเค้าป้ายแดงค่ะ) แล้วย้ำความมั่นใจของเค้าเข้าไปอีก ด้วยประโยคที่ว่า
“จริง ๆ ก็อยากซื้อรุ่นที่ใส่เกียร์ว่างได้นะคะ แต่บังเอิญว่าชอบรุ่นนี้มากกว่า ฮิฮิ” .....แล้วก็เดินจากไป
สามีเราก็เลยตะโกนไล่หลังไปว่า “งั้นช่วยรีบ ๆ นะครับ เพราะเดี๋ยวต้องไปทำงาน”
จากนั้นเราก็ไปส่งลูกเข้าแถว พอกลับมา คุณแม่รถเบนซ์ไปแล้ว แต่มีรถโตโยต้า วีออส สีขาว มาจอดแทนที่
และ.... ไม่ใส่เกียร์ว่างเหมือนกันเลย (กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด)
เราเลยไปตามพี่ รปภ. ให้ไปหาผู้ปกครอง รออยู่ประมาณเกือบครึ่งชั่งโมง พี่ยามก็วิ่งมาบอกว่าเจอแล้ว กำลังเดินมาครับ
อย่า....อย่าคิดว่า she จะเร่งร้อน รีบเดินมานะคะ ในขณะที่พี่ยามรีบวิ่งนำหน้าให้ she มาเอารถออกไป แต่เธอคนนั้นกลับ
ค่อย ๆ เดินโทรศัพท์ พร้อมกับหัวเราะไปเรื่อย ๆ ชมนกชมไม้ ไปเรื่อย จนวางโทรศัพท์ นึกว่าเค้าจะรีบวิ่งมา เปล่าเลย
เธอก็บรรจงกดโทรศัพท์ไปเรื่อย ๆ จนเราทนไม่ไหว ตะโกนออกไปว่า
“ช่วยรีบหน่อยนะคะ แล้วคราวหน้าจอดรถขวางใส่เกียร์ว่างด้วย”
ไม่มีปฏิกิริยาตอบรับอะไรกลับมา She ก็ยังเดินนวยนาดเหมือนเดิม จนเราโมโหอะ เลยพูดไปอีกว่า
“ถ้าคนรีบจะไปโรงพยาบาล คงตายอยู่ตรงนี้เลยนะคะ”
แล้ว she ก็ตอบรับกลับมาจนได้ว่า “ค่ะ!!! ค่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา”
คือน้ำเสียงแบบ กระแทกมาก มากจนเราต้องรู้สึกผิดอะ ที่ไปเร่งเค้า
แล้วที่สำคัญ พอ she สตาร์ทรถได้ แทนที่จะขับออกไปเลย she ขับมาเทียบตรงประตูเรา แล้วเบรก
จากนั้นก็หันเหวียงสายตาจิกเรา แบบจ้องเลยนะ พักนึง แล้วค่อยขับพรืดดดดดดดดดดด ออกไป
ทิ้งให้เรางงว่า นี่ gu ผิดเหรอเนี่ย????
ใส่เกียร์ว่างไม่ได้ ใส่ไม่เป็น หรือ ไม่ใส่ใจ
เรื่องแรกเลย คือสามีเราเอารถไปจดที่จอดตามปกติ พอจอดเสร็จ ก็มีแม่เด็กมาจอดขวางไว้
ทางเราก็ไม่ได้ว่าอะไร พอสามีเราลงรถมา ก็เลยบอกไปนิดนึงว่า “ใส่เกียร์ว่างด้วยนะครับ”
แล้วคุณแม่ท่านนั้นก็ตอบมาทันทีด้วยคำตอบชวนอึ้งว่า “อ๋อ รถคันนี้ใส่เกียร์ว่างไม่ได้ค่ะ”
เอ๋อรับประทานสิคะ มีด้วยเหรอ ใส่ไม่ได้ เราเลยบอกไปว่า “ใส่ได้นะคะ ที่บ้านก็มีรถยี่ห้อนี้ก็ใส่ได้นะ”
คุณแม่ตอบมาทันทีด้วยความมั่นใจอีกทีว่า “เบนซ์เหมือนกันแต่คนละรุ่นมั้งคะ คันนี้รุ่นใหม่ ใส่ไม่ได้ค่ะ”
(รถเค้าป้ายแดงค่ะ) แล้วย้ำความมั่นใจของเค้าเข้าไปอีก ด้วยประโยคที่ว่า
“จริง ๆ ก็อยากซื้อรุ่นที่ใส่เกียร์ว่างได้นะคะ แต่บังเอิญว่าชอบรุ่นนี้มากกว่า ฮิฮิ” .....แล้วก็เดินจากไป
สามีเราก็เลยตะโกนไล่หลังไปว่า “งั้นช่วยรีบ ๆ นะครับ เพราะเดี๋ยวต้องไปทำงาน”
จากนั้นเราก็ไปส่งลูกเข้าแถว พอกลับมา คุณแม่รถเบนซ์ไปแล้ว แต่มีรถโตโยต้า วีออส สีขาว มาจอดแทนที่
และ.... ไม่ใส่เกียร์ว่างเหมือนกันเลย (กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด)
เราเลยไปตามพี่ รปภ. ให้ไปหาผู้ปกครอง รออยู่ประมาณเกือบครึ่งชั่งโมง พี่ยามก็วิ่งมาบอกว่าเจอแล้ว กำลังเดินมาครับ
อย่า....อย่าคิดว่า she จะเร่งร้อน รีบเดินมานะคะ ในขณะที่พี่ยามรีบวิ่งนำหน้าให้ she มาเอารถออกไป แต่เธอคนนั้นกลับ
ค่อย ๆ เดินโทรศัพท์ พร้อมกับหัวเราะไปเรื่อย ๆ ชมนกชมไม้ ไปเรื่อย จนวางโทรศัพท์ นึกว่าเค้าจะรีบวิ่งมา เปล่าเลย
เธอก็บรรจงกดโทรศัพท์ไปเรื่อย ๆ จนเราทนไม่ไหว ตะโกนออกไปว่า
“ช่วยรีบหน่อยนะคะ แล้วคราวหน้าจอดรถขวางใส่เกียร์ว่างด้วย”
ไม่มีปฏิกิริยาตอบรับอะไรกลับมา She ก็ยังเดินนวยนาดเหมือนเดิม จนเราโมโหอะ เลยพูดไปอีกว่า
“ถ้าคนรีบจะไปโรงพยาบาล คงตายอยู่ตรงนี้เลยนะคะ”
แล้ว she ก็ตอบรับกลับมาจนได้ว่า “ค่ะ!!! ค่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา”
คือน้ำเสียงแบบ กระแทกมาก มากจนเราต้องรู้สึกผิดอะ ที่ไปเร่งเค้า
แล้วที่สำคัญ พอ she สตาร์ทรถได้ แทนที่จะขับออกไปเลย she ขับมาเทียบตรงประตูเรา แล้วเบรก
จากนั้นก็หันเหวียงสายตาจิกเรา แบบจ้องเลยนะ พักนึง แล้วค่อยขับพรืดดดดดดดดดดด ออกไป
ทิ้งให้เรางงว่า นี่ gu ผิดเหรอเนี่ย????