วันนี้จะต้องถูกบันทึกเอาใว้ในประวัติศาสตร์ ชนชาติไทย ที่อดีตนายกที่คนไทยรักและชังทั้งสองคน ได้เป็นข่าวหน้าหนึ่ง ของหนังสือพิมพ์แทบทุกฉบับทั่วโลก และสองคนนั้นก็เป็นพี่น้องกันนามสกุลเดียวกัน และเป็นอดีตนายกที่มีคนรักและมีคนเกลียดชัง ด้วยกันทั้งคู่
เราลองมาวิเคราะห์ดูว่า ทำไมคนสองคนนั้น จึงต้องมามีชะตากรรมเช่นนี้ คนหนึ่งเคยสร้างคุณงามความดีเอาใว้ให้ชาติบ้านเมืองมากมาย เช่นเข้ามากู้วิกฤตที่ประเทศเป็นหนี้ กองทุนการเงินหระหว่างประเทศ IMF จนสามารถปลดหนี้ของประเทศได้ก่อนกำหนด นับว่าเก่งมากเรื่องนี้
โครงการ30บาทรักษาได้ทุกโรค นับเป็นโครงการที่คนทั้งโลกยอมรับและเอาเป็นต้นแบบ โครงการนี้นอกจากจะทำให้คนยากคนจนหรือใครๆ ก็มีโอกาสได้เข้าถึงการรักษาได้ แม้จะยากดีมีจน จนส่งผลให้ ลดอัตราการตายของประชากรลงได้อย่างชัดเจน
เอาเฉพาะสองอย่างนี้ ก็คงมากพอ เพราะเคยมีคนเอามาพูดจนนับไม่ถ้วน ในสิ่งที่อดีตนายกผู้นี้ทำใว้ให้คนไทย ไม่ว่าจะสนามบินสุวรรณภูมิ หรือโครงการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ หรือOTOP หรือหนึ่งตำบลหนึ่งล้าน หรือ หนึ่งตำบลหนึ่งทุน
ทีนี้มาดูสิ่งที่หลายคนคิดว่า นายกคนนี้ ทำในสิ่งไม่ดี และทำให้คนไทยเกลียดชังกันบ้าง ซุกหุ้น ทักษิณ ถูกกล่าวหาคดีซุกหุ้น คือก่อนที่เขาจะมารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี นั้นเขามีทรัพย์สมบัติเยอะมากถึงหกหมื่นล้าน ดังนั้นถ้ายังถือครองแล้วเข้ามารับตำแหน่ง มันจะทำให้ยุ่งยากมาก ในการยื่นบัญชีทรัพย์สิน วิธีปฎิบัติจึงต้องยอมสลัดออก ทีนี้ก็ต้องโอนให้ผู้อื่นเอาใว้ก่อน ก็โอนให้ลูกให้เมียหรือญาติพี่น้อง จะโอนให้ใครคนอื่นแปลกปลอม คงไม่ดี เขาจึงโอนให้ลูกเมีย แค่นั้นถูกกล่าวหา คดีซุกหุ้น แต่ในที่สุดก็รอดมาได้ เอาผิดเขาไม่ได้
และคดีที่มีปัญหาจนทุกวันนี้ และเป็นคดีที่ตอบสังคมทั้งโลกไม่ได้ว่า เอาผิดเขาได้อย่างไร เช่นคดีที่ดินรัชดา คดีนี้ ต้องให้คนทั้งโลกดูและช่วยกันวิเคราะห์ว่า คดีอย่างนี้ มันคือความถูกต้องหรือไม่อย่างไร สำหรับผู้กล่าวหา และผู้พิจารณา คดีที่ดินรัชดา ก็เนื่องด้วย หน่วยงานของรัฐ พยายามที่จะขายที่ดินแปลงนั้น จึงประกาศให้ใครที่ไหน หน้าไหนก็ได้เข้ามาซื้อ ด้วยวิธีประมูล ใครประมูลสูงสุดก็จะได้ที่ดินแปลงนั้นไป บังเอิญผุ้เข้าประมูลทั้งหมดนั้น ดันมีคุณหญิงพจมาน ภรรยา ของ ทักษิณ อยู่ด้วย และสามารถประมูลได้ ด้วยราคาที่สูงที่สุด ก็ได้มา ทีนี้ ปรากฎว่าคนประมูลมีคู่สมรส ที่ต้องรับรู้และรู้เห็นและยินยอม จะต้องเซ็นอนุญาต ดังนั้นทักษิณ จึงต้องเซ็นให้ ตามเหตุผลของความเป็น สามีภรรยา เท่านั้นแหละ คนที่จ้องหาทางเล่นงานทักษิณ หาช่องทางฟ้องร้อง ทักษิณ ทันที และในที่สุดคดีนี้ ก็สามารถเอาผิดทักษิณจนได้ คดีนี้ไม่มีผู้เสียหาย หน่วยงานรัฐ ที่มีหน้าที่ดูและทรัพย์สินที่ดินแปลงนี้ ก็ขายได้ด้วยราคาสูงสุด ซื้อก็ซื้อหรือประมูลอย่างโปร่งใส ที่สามีเซ็นให้ ก็เซ็นในฐานะสามี มิใช่ในฐานะ นายก ถ้าเซ็นในฐานะนายก จะเซ็นอนุมัตด้วยเรื่องอะไร หน้าที่อะไร มิทราบ ดังนั้นการเซ็นครั้งนั้น จึงเชื่อได้ว่า เซ็นในฐานะสามีเซ็นยินยอมรับรู้ รู้เห็นในฐานะสามีภรรยากัน และมีการตรวจสอบด้วยกฤษฎีกาตีความทางกฎหมายว่า เซ็นได้มั้ย ทำได้มั้ย มีการตรวจสอบมาแล้วด้วยนักกฎหมาย แต่ที่สุดเอาเขาผิดจนได้ ดูด้วยเจตนาแล้ว เขามิได้ทุจริตใดๆเลย ทำไปด้วยความบริสุทธิ์ใจ แท้ๆ ไม่ได้เอื้อประโยช์ใดใด รัฐมิได้เสียหายอะไร แล้วผิดได้ไง นี่คือสิ่งที่ต้องคิด ในที่สุดเขาถูกตัดสินจำคุกสองปี ไม่รอลงอาญา ดูซิโทษที่เขาได้ทำมันร้ายแรงมากใช่มั้ย ที่พยายามเรียกเขาว่า นักโทษชาย ที่จริงมีนายกคนอื่นสั่งปราบปรามประชาชน จนมีคนตายเป็นร้อย บาดเจ็บสองสามพันคน ยิงด้วยกระสุนจริง ปืนที่ร้ายแรง ซุ่มยิงประชาชน จากที่สูงด้วยปืนติดกล้องพิเศษ ประชาชน ถูกยิงสมองกระจาย หัวหลุดด้วยความอำมหิต อย่างนั้นกระบวนการยุติธรรม ยังปล่อยให้ลอยนวล และยังออกมาจีบปากจีบคอกล่าวหาผู้อื่นว่า เป็นต้นเหตุแห่งความขัดแย้ง นี่ซิน่าคิด!!
คดีขายหุ้น ให้เทมาเส็ก แล้วไม่เสียภาษี คดีนี้ยิ่งง่ายเข้าไปใหญ่ กฎหมายตลาดหลักทรัพย์ ใครขายก็ไม่เสียภาษี เพราะตลาดหลักทรัพย์ เขามีกฎกติกาว่า ใครขายก็ไม่ต้องเสียภาษี แต่ก็พยายามที่จะเอาผิดเขา ยึดทรัพย์เขา นี่มันอะไรกัน ไม่เข้าใจ คดีนี้พิลึกกึกกือมาก ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร ดังนั้นเหตุแห่งความผิดของทักษิณนั้น จึงดูไม่สมเหตุสมผลในสายตาคนทั้งโลก มันดูเหมือนเจตนากลั่นแกล้งกันทางการเมืองมากกว่า ในสายตาคนทั้งโลก โลกงุนงงสงสัย ที่เขาถุกกระทำเช่นนี้ โลกจึงไม่อาจนิ่งนอนใจ หรือคล้อยตาม ผู้ที่สมรู้ร่วมคิดที่เป็นฝ่ายทำลายทำร้ายเขา ทั่วโลกเห็นใจเขา และเชื่อใจเขา แต่ตรงกันข้าม ฝ่ายที่ทำร้ายเขา ทั่วโลกกับมองเหมือนเป็นพวกมหาโจร ที่ไม่มีใครอยากคบด้วย ถามว่า ทำไมผู้นำทั่วโลก รัฐบาลทั่วโลก จึงคิดเช่นนั้น เหตุเพราะสิ่งที่เขาเห็น สิ่งที่เขารับรู้ มันชัดแจ้งแดงแจ๋ ว่าเขาคืออดีตนายกที่ทำคุณประโยชน์ให้ประชาชนมากมาย แต่สุดท้ายกลับถูกกลุ่มคนกลั่นแกล้งทำลายเขาด้วยความอยุติธรรม ดังนั้นทั่วโลกจึงยอมให้ อธรรม ทำลาย ผู้บริสุทธิ์ลงไปอย่างนั้นไม่ได้ นี่คือเหตุผลที่ ทั่วโลกต่างยอมรับและต้อนรับ ทักษิณ ชินวัตร อย่างที่เราคนไทยเห็น แล้วทำไมกลุ่มคนที่หลงเชื่อในคำกล่าวหาใส่ร้ายนั้น จึงตั้งสติและคิดไม่ได้ ปล่อยให้กลุ่มคนเหล่านั้นคลอบงำและใช้เป็นเครื่องมือทำลายผู้บริสุทธิ์ อย่างไม่ลืมหูลืมตา ลองตั้งสติแล้วถามตัวเองซิท่านทั้งหลาย ว่าเขาทำอะไรให้ท่านเกลียดชังได้ขนาดนั้น ท่านคิดเป็นมีสมอง ลองคิดแต่ละเรื่อง ว่ามันใช่หรือไม่ใช่ ที่คนชั่วเหล่านั้น ยัดเยียดข้อกล่าวหาให้ ลองคิดง่ายๆ แค่คดีรัชดา มันขายชาติ ทำลายชาติ เป็นนักโทษชายมหาวายร้าย ขนาดนั้นเลยหรือ แล้วกลับกันคนที่กล่าวหาเขา ตัวมันเอง โกงตลาดหลักทรัพย์เป็นร้อยเป็นพันล้าน ศาลตัดสินจำคุกเกือบร้อยปี คนอย่างนั้นพวกท่านเชื่อ ยอมทำตามมันทุกอย่าง เอาสมองส่วนไหนคิด ??
และยิ่งถ้าจะพยายามยัดเยียดข้อหา ที่ว่าหมิ่นหรือคิดล้มสถาบันนั้น ยิ่งไม่จริงใหญ่ เพราะเขาได้พิสูจน์หลายครั้งหลายหน ว่าเขาเทิดทูนจงรักมากกว่าคนที่กล่าวหาเขาเป็นไหนๆ เหมือนนักกล่าวหา นักใส่ร้ายพยายามเอาคลิปถั่งเช่ามาใส่ร้ายเขา เพียงเพื่อจะทำลาย คนสองคนเรื่องคุยกันในเรื่องสุขภาพความเป็นชาย เรื่องกินยาโป๊ว ยาโด๊ป ซึ่งใครๆที่ไหนก็คุยกันอย่างนี้ทั้งนั้น พยายามเอาคลิปลับนั้นมาขึ้นหน้าเว็บไซต์ของตนเองเป้นเดือนๆ เพื่อให้คนเข้ามาเปิดเพื่อจะได้รู้ว่าชายแก่สองคน หน้าไม่อายคุยกันเรื่องถั่งเช่า โธ่เอ๋ยโง่เง่า อะไรขนาดนั้น เพราะในคลิป มีคำพูดที่ว่า เดี๋ยวนี้ เขาไม่เชื่อนักกล่าวหาอีกแล้ว เขาไม่ให้ให้เข้าอีกแล้ว ตัวเขาสองคน ปฎิญาณทุกเช้า นักกล่าวหาจะมาจงรัก เท่านักเรียนนายร้อยอย่างพวกเขาได้ไง นี่คือจุดตายจุดโง่ของนักกล่าวหา มาวันนี้ กล่าวหาใครไม่ได้ หันมางับเอาซีพี ไม่รู้ว่า ซีพีโยนอะไรเข้าปากถึงเงียบไปได้ นี่ไง นักกล่าวหา ที่มีสาวกทั่วประเทศ แล้วคนไทยที่เชื่อคนแบบนี้ ยังหลงว่าข้อมูลที่ตนมีที่ตนได้รับนั้นมันถูกต้องได้อย่างไร ผมไม่เข้าใจคนไทยเหล่านี้จริงๆว่าทำไมเชื่อคนเช่นนี้มาได้เป็นสิบปี มันเหมือนติดยาเสพติดมานาน จนเข้าเส้นเลือด เรื้อรัง มันถอนไม่ออก หรือมันจะติดไปจนตาย อยากเอาเลือดมาตรวจดูว่าทำไมมันโง่และเชื่องขนาดนี้
มาถึงคดีจำนำข้าว ที่จริงไม่ควรเรียกว่าจำนำ อย่างนี้น่าจะเรียกว่าขายฝากข้าวมากกว่า เพราะไม่มีใครมาไถ่ถอนแม้แต่รายเดียว เพราะได้ราคาดี เอาเรามาวิเคราะห์คดีนี้กัน ปปช ผู้กล่าวหา โดยเฉพาะ นายวิชา บอกยิ่งลักษณ์ ปล่อยปละละเลย จนเสียหาย เจ็ดแสนล้าน เสียหายเจ็ดแสนล้าน แต่ยังหาหลักฐานไม่ได้ ดูเขาพูด ไม่มีหลักฐาน แต่จะเอาผิดเขา ให้ได้ เรามาคิดง่ายๆ ว่า การรับจำนำข้าว มันต้องมีนโยบายวางแผนเอาใว้ว่า ข้าวมีทั้งประเทศเท่าไร แล้วจะใช้เงินเท่าไร สมมุติว่า ตั้งงบใว้เจ็ดแสนล้าน ในการซื้อ แล้วขาดทุนเจ็ดแสนล้าน แสดงว่า ต้องขายข้าวไม่ได้แม้แต่เม็ดเดียว แล้วข้าวอยู่ไหน มันเน่า หรือมันหายเท่านั้นเอง ถ้าเน่า คนที่เก็บรักษาต้องรับผิดชอบ ถ้าหายคนที่เก็บรักษา ต้องรับผิดชอบ แต่ถ้าขายได้แล้วขายได้เท่าไร เช่นซื้อมา15000 ขายได้9000 ขายทุน6000 มันก็ไม่มีทางเจ๊งกะบ้งทั้งหมด มีทางเดียวเท่านั้น ที่จะทำให้ขาดทุนแบบวินาศสันตะโรขนาดนั้นได้ ต้องหายกับเน่าสถานเดียว เพราะเท่ากับไม่ได้ขายเลย คิดง่ายๆ แค่นี้ มันก็รู้แล้วว่า ไม่มีทางที่จะขาดทุนขนาดนั้น เพราะยิ่งข้าวหาย ข้าวเน่า ยิ่งดี พวกโรงสีที่รับเก็บรักษาจะต้องรับผิดชอบ จริงมั้ย แล้วขาดทุนตรงไหน เงินชาวนาได้มั้ย ได้ไปแล้วทั่วประเทศ มีใครไม่ได้มั้ย ไม่มี เพราะถ้ามีต้องออกมาโวยวาย แสดงว่าเงินจำนวนหกเจ็ดแสนล้านถึงมือชาวนาแล้ว เรียบร้อยดี ดังนั้น ไม่ต้องไปคิดเรื่องชาวนาได้เงินหรือไม่ มาคิดอย่างเดียวว่า ขาดทุนตรงไหน ที่อ้างว่าเน่า ว่าหายนั้น ถามง่ายๆสั้นๆว่า ไปเสียเงินค่าฝากโกดังโรงสี แล้วพวกนี้มันไม่รับผิดชอบ อย่างนั้นเหรอ ตลกมั้ย งั้นดีนะ โรงสีแอบเอาไปขาย อ้างว่าหาย ไม่ต้องรับผิดชอบ โรงสีแอบเอาไปขายได้ทั้งค่าเช่า ได้ทั้งแอบเอาไปขาย ไม่ต้องรับผิดชอบ งั้นเหรอ ตลก

สิ้นดี ดังนั้น เรื่องข้าวเน่า ข้าวหาย อย่ามาแหล หลอกคนไทย กระบือเท่านั้นที่เชื่อ
ดังนั้น ถ้าข้าวเน่า ข้าวหาย ไม่ใช่ประเด็น ที่ทำให้โครงการนี้เสียหายถึงเจ็ดแสนล้าน เมื่อเช้าฟังนักข่าวสปริงนิวส์ บอกแปดแสนล้าน แหมมันแหล กันทั้งระบบ นักข่าวไร้คุณภาพ อาจารย์ วีระ ธีรภัทร ก็เคยด่ามาทีแล้ว ซื้อมาหกแสน มันจะขาดทุนเจ็ดแสนได้ไงวะ อ้า..บื้อ อิ ..บ้า เอ้ย ???
แล้วการรับจำนำนั้น มันไม่ได้จำนำกันพร้อมๆกัน โครมเดียวที่ไหน มันหมุนเวียน เดือนนี้จ่ายไปเท่านี้ เอาขายไปบ้าง เอาเงินส่วนที่ขายได้ มาจ่ายรายใหม่มันไม่มีทางที่จะขาดทุนมากมายขนาดนั้น แต่ถ้าคิดกันในระยะสองปีหรือสองสามรอบ ในฤดุกาล ก็อาจจะขาดทุน ไม่ได้เสียหาย หมายถึงรัฐขาดทุน ซื้อแพงมาขายถูก คือซื้อหมื่นห้า มาขายหมื่นเดียวหรือเก้าพัน ซึ่งรัฐบาลตั้งใจที่จะยอมขาดทุนเพื่อช่วยชาวนาอยู่แล้ว รัฐบาลไหนก็เคยทำแบบนี้ คือยอมขาดทุนเพื่อช่วยชาวนา ทุกรัฐบาล เหมือนรัฐบาลอภิสิทธิ์ ใช้เงินรัฐประกันราคาข้าว ซึ่งก็ขาดทุน เช่นกัน รัฐบาลปัจจุบัน เอาเงินรัฐไปแจกฟรีๆ ให้กับชาวนาชาวสวนยาง นั่นก็คือขาดทุนหรือเสียหายเช่นกัน ตลอดระยะเวลาที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ดำรงตำแหน่งทั้งสิ้น 2ปี9เดือน2วัน นั่นหมายถึง ฤดูการผลิตข้าวนั้น หลายรอบ หลายปี ถ้าขาดทุนปีละ สองแสนล้าน สามปีก็ขาดทุนหกแสนล้าน ซึ่งถือว่า เป็นเรื่องธรรมดา แต่คนที่กล่าวหา กลับหาช่องทางโจมตีกล่าวหาว่า ทุจริต เสียหายไปเจ็ดแปดแสนล้าน ถ้ารัฐบาลอยู่สักสิบปี มิขาดทุนไปสองล้านๆ งั้นเรอะ ???
คือสรุปว่า ทุกอย่างที่พยายามจะกระทำ กล่าวหา ทำลายด้วยการยัดเยียดความผิดนั้น ด้วยคำพูดตอกย้ำทุกวัน เสียหายเจ็ดแสนล้าน เสียหายแปดแสนล้าน อธิบายได้มั้ยว่าเสียหายอย่างไร อธิบายไม่ได้ ไม่เข้าใจ รู้แต่ว่า ส่อว่าจะทุจริต แค่คิดว่าส่อก็ผิดแล้ว พวกนักกฎหมายมันรู้เรื่องอะไรกับเรื่องเศรษฐกิจ คนพวกนี้ ไม่มีความรู้เรื่องเศรษฐศาสตร์ มันไม่รู้แม้กระทั่งคำว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจรากหญ้าด้วยการอัดเม็ดเงินลงไป เดี๋ยววงจรการเงินมันจะกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวมกลับมาเอง รู้หรือไม่ว่า เงินที่ยอมขาดทุนให้ชาวนานั้น เดี๋ยวจะกลับมา ด้วยวงจรของมันเอง เมื่อชาวนามีเงิน มีกำลังซื้อ สินค้าต่างๆจะขายได้ และภาษีจะกลับมาสู่รัฐ แค่นี้พวกมันก็ไม่เข้าใจแล้ว ไดโนเสาร์ มันรู้แต่เพียงว่า ถ้าขาดทุน ทำให้ชาติเสียหาย มันต้องเอาตัวมาลงโทษ เออ เอาเข้าไป พวกล้าหลัง มันคือสิ่งที่น่าผิดหวังเป็นอย่างยิ่ง ที่คนดีๆมีความสามารถ และตั้งใจทำประโยชน์ให้กับประชาชน จะมาถูกกลุ่มคนล้าหลังป่าเถื่อนพวกนี้ย่ำยีเอา ด้วยข้อกล่าวหาบ้าบอเลื่อนลอย และไร้เหตุผล ไร้ข้อมูล ไร้หลักฐาน ดังนายวิชาแถลงในสภาหน้าตาเฉยว่า ยังไม่มีหลักฐานการทุจริต ของยิ่งลักษณ์ แต่เชื่อว่า ส่อไปในทางทุจริต ดูมัน ดูมันทำ ได้ข่าวว่า จอน วิญญู รายการ เจาะข่าวตื้น เขาอยากได้ทะเบียนบ้านของนาย วิชา เพราะต้องการดูว่าพ่อชื่ออะไร ไม่รู้ว่า ได้หรือยัง จอน วิญญู มันคงสังสัย ว่าพ่อนาย วิชา ชื่ออะไร ?
ต่อ>
ธรณีนี่นี้..เป็นพยาน เราก็ศิษย์มีอาจารณ์หนึ่งบ้าง เราผิดท่านประหาร.เราชอบ เราบ่ผิดท่านมาล้าง ดาบนี้คืนสนอง !!!!
เราลองมาวิเคราะห์ดูว่า ทำไมคนสองคนนั้น จึงต้องมามีชะตากรรมเช่นนี้ คนหนึ่งเคยสร้างคุณงามความดีเอาใว้ให้ชาติบ้านเมืองมากมาย เช่นเข้ามากู้วิกฤตที่ประเทศเป็นหนี้ กองทุนการเงินหระหว่างประเทศ IMF จนสามารถปลดหนี้ของประเทศได้ก่อนกำหนด นับว่าเก่งมากเรื่องนี้
โครงการ30บาทรักษาได้ทุกโรค นับเป็นโครงการที่คนทั้งโลกยอมรับและเอาเป็นต้นแบบ โครงการนี้นอกจากจะทำให้คนยากคนจนหรือใครๆ ก็มีโอกาสได้เข้าถึงการรักษาได้ แม้จะยากดีมีจน จนส่งผลให้ ลดอัตราการตายของประชากรลงได้อย่างชัดเจน
เอาเฉพาะสองอย่างนี้ ก็คงมากพอ เพราะเคยมีคนเอามาพูดจนนับไม่ถ้วน ในสิ่งที่อดีตนายกผู้นี้ทำใว้ให้คนไทย ไม่ว่าจะสนามบินสุวรรณภูมิ หรือโครงการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ หรือOTOP หรือหนึ่งตำบลหนึ่งล้าน หรือ หนึ่งตำบลหนึ่งทุน
ทีนี้มาดูสิ่งที่หลายคนคิดว่า นายกคนนี้ ทำในสิ่งไม่ดี และทำให้คนไทยเกลียดชังกันบ้าง ซุกหุ้น ทักษิณ ถูกกล่าวหาคดีซุกหุ้น คือก่อนที่เขาจะมารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี นั้นเขามีทรัพย์สมบัติเยอะมากถึงหกหมื่นล้าน ดังนั้นถ้ายังถือครองแล้วเข้ามารับตำแหน่ง มันจะทำให้ยุ่งยากมาก ในการยื่นบัญชีทรัพย์สิน วิธีปฎิบัติจึงต้องยอมสลัดออก ทีนี้ก็ต้องโอนให้ผู้อื่นเอาใว้ก่อน ก็โอนให้ลูกให้เมียหรือญาติพี่น้อง จะโอนให้ใครคนอื่นแปลกปลอม คงไม่ดี เขาจึงโอนให้ลูกเมีย แค่นั้นถูกกล่าวหา คดีซุกหุ้น แต่ในที่สุดก็รอดมาได้ เอาผิดเขาไม่ได้
และคดีที่มีปัญหาจนทุกวันนี้ และเป็นคดีที่ตอบสังคมทั้งโลกไม่ได้ว่า เอาผิดเขาได้อย่างไร เช่นคดีที่ดินรัชดา คดีนี้ ต้องให้คนทั้งโลกดูและช่วยกันวิเคราะห์ว่า คดีอย่างนี้ มันคือความถูกต้องหรือไม่อย่างไร สำหรับผู้กล่าวหา และผู้พิจารณา คดีที่ดินรัชดา ก็เนื่องด้วย หน่วยงานของรัฐ พยายามที่จะขายที่ดินแปลงนั้น จึงประกาศให้ใครที่ไหน หน้าไหนก็ได้เข้ามาซื้อ ด้วยวิธีประมูล ใครประมูลสูงสุดก็จะได้ที่ดินแปลงนั้นไป บังเอิญผุ้เข้าประมูลทั้งหมดนั้น ดันมีคุณหญิงพจมาน ภรรยา ของ ทักษิณ อยู่ด้วย และสามารถประมูลได้ ด้วยราคาที่สูงที่สุด ก็ได้มา ทีนี้ ปรากฎว่าคนประมูลมีคู่สมรส ที่ต้องรับรู้และรู้เห็นและยินยอม จะต้องเซ็นอนุญาต ดังนั้นทักษิณ จึงต้องเซ็นให้ ตามเหตุผลของความเป็น สามีภรรยา เท่านั้นแหละ คนที่จ้องหาทางเล่นงานทักษิณ หาช่องทางฟ้องร้อง ทักษิณ ทันที และในที่สุดคดีนี้ ก็สามารถเอาผิดทักษิณจนได้ คดีนี้ไม่มีผู้เสียหาย หน่วยงานรัฐ ที่มีหน้าที่ดูและทรัพย์สินที่ดินแปลงนี้ ก็ขายได้ด้วยราคาสูงสุด ซื้อก็ซื้อหรือประมูลอย่างโปร่งใส ที่สามีเซ็นให้ ก็เซ็นในฐานะสามี มิใช่ในฐานะ นายก ถ้าเซ็นในฐานะนายก จะเซ็นอนุมัตด้วยเรื่องอะไร หน้าที่อะไร มิทราบ ดังนั้นการเซ็นครั้งนั้น จึงเชื่อได้ว่า เซ็นในฐานะสามีเซ็นยินยอมรับรู้ รู้เห็นในฐานะสามีภรรยากัน และมีการตรวจสอบด้วยกฤษฎีกาตีความทางกฎหมายว่า เซ็นได้มั้ย ทำได้มั้ย มีการตรวจสอบมาแล้วด้วยนักกฎหมาย แต่ที่สุดเอาเขาผิดจนได้ ดูด้วยเจตนาแล้ว เขามิได้ทุจริตใดๆเลย ทำไปด้วยความบริสุทธิ์ใจ แท้ๆ ไม่ได้เอื้อประโยช์ใดใด รัฐมิได้เสียหายอะไร แล้วผิดได้ไง นี่คือสิ่งที่ต้องคิด ในที่สุดเขาถูกตัดสินจำคุกสองปี ไม่รอลงอาญา ดูซิโทษที่เขาได้ทำมันร้ายแรงมากใช่มั้ย ที่พยายามเรียกเขาว่า นักโทษชาย ที่จริงมีนายกคนอื่นสั่งปราบปรามประชาชน จนมีคนตายเป็นร้อย บาดเจ็บสองสามพันคน ยิงด้วยกระสุนจริง ปืนที่ร้ายแรง ซุ่มยิงประชาชน จากที่สูงด้วยปืนติดกล้องพิเศษ ประชาชน ถูกยิงสมองกระจาย หัวหลุดด้วยความอำมหิต อย่างนั้นกระบวนการยุติธรรม ยังปล่อยให้ลอยนวล และยังออกมาจีบปากจีบคอกล่าวหาผู้อื่นว่า เป็นต้นเหตุแห่งความขัดแย้ง นี่ซิน่าคิด!!
คดีขายหุ้น ให้เทมาเส็ก แล้วไม่เสียภาษี คดีนี้ยิ่งง่ายเข้าไปใหญ่ กฎหมายตลาดหลักทรัพย์ ใครขายก็ไม่เสียภาษี เพราะตลาดหลักทรัพย์ เขามีกฎกติกาว่า ใครขายก็ไม่ต้องเสียภาษี แต่ก็พยายามที่จะเอาผิดเขา ยึดทรัพย์เขา นี่มันอะไรกัน ไม่เข้าใจ คดีนี้พิลึกกึกกือมาก ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร ดังนั้นเหตุแห่งความผิดของทักษิณนั้น จึงดูไม่สมเหตุสมผลในสายตาคนทั้งโลก มันดูเหมือนเจตนากลั่นแกล้งกันทางการเมืองมากกว่า ในสายตาคนทั้งโลก โลกงุนงงสงสัย ที่เขาถุกกระทำเช่นนี้ โลกจึงไม่อาจนิ่งนอนใจ หรือคล้อยตาม ผู้ที่สมรู้ร่วมคิดที่เป็นฝ่ายทำลายทำร้ายเขา ทั่วโลกเห็นใจเขา และเชื่อใจเขา แต่ตรงกันข้าม ฝ่ายที่ทำร้ายเขา ทั่วโลกกับมองเหมือนเป็นพวกมหาโจร ที่ไม่มีใครอยากคบด้วย ถามว่า ทำไมผู้นำทั่วโลก รัฐบาลทั่วโลก จึงคิดเช่นนั้น เหตุเพราะสิ่งที่เขาเห็น สิ่งที่เขารับรู้ มันชัดแจ้งแดงแจ๋ ว่าเขาคืออดีตนายกที่ทำคุณประโยชน์ให้ประชาชนมากมาย แต่สุดท้ายกลับถูกกลุ่มคนกลั่นแกล้งทำลายเขาด้วยความอยุติธรรม ดังนั้นทั่วโลกจึงยอมให้ อธรรม ทำลาย ผู้บริสุทธิ์ลงไปอย่างนั้นไม่ได้ นี่คือเหตุผลที่ ทั่วโลกต่างยอมรับและต้อนรับ ทักษิณ ชินวัตร อย่างที่เราคนไทยเห็น แล้วทำไมกลุ่มคนที่หลงเชื่อในคำกล่าวหาใส่ร้ายนั้น จึงตั้งสติและคิดไม่ได้ ปล่อยให้กลุ่มคนเหล่านั้นคลอบงำและใช้เป็นเครื่องมือทำลายผู้บริสุทธิ์ อย่างไม่ลืมหูลืมตา ลองตั้งสติแล้วถามตัวเองซิท่านทั้งหลาย ว่าเขาทำอะไรให้ท่านเกลียดชังได้ขนาดนั้น ท่านคิดเป็นมีสมอง ลองคิดแต่ละเรื่อง ว่ามันใช่หรือไม่ใช่ ที่คนชั่วเหล่านั้น ยัดเยียดข้อกล่าวหาให้ ลองคิดง่ายๆ แค่คดีรัชดา มันขายชาติ ทำลายชาติ เป็นนักโทษชายมหาวายร้าย ขนาดนั้นเลยหรือ แล้วกลับกันคนที่กล่าวหาเขา ตัวมันเอง โกงตลาดหลักทรัพย์เป็นร้อยเป็นพันล้าน ศาลตัดสินจำคุกเกือบร้อยปี คนอย่างนั้นพวกท่านเชื่อ ยอมทำตามมันทุกอย่าง เอาสมองส่วนไหนคิด ??
และยิ่งถ้าจะพยายามยัดเยียดข้อหา ที่ว่าหมิ่นหรือคิดล้มสถาบันนั้น ยิ่งไม่จริงใหญ่ เพราะเขาได้พิสูจน์หลายครั้งหลายหน ว่าเขาเทิดทูนจงรักมากกว่าคนที่กล่าวหาเขาเป็นไหนๆ เหมือนนักกล่าวหา นักใส่ร้ายพยายามเอาคลิปถั่งเช่ามาใส่ร้ายเขา เพียงเพื่อจะทำลาย คนสองคนเรื่องคุยกันในเรื่องสุขภาพความเป็นชาย เรื่องกินยาโป๊ว ยาโด๊ป ซึ่งใครๆที่ไหนก็คุยกันอย่างนี้ทั้งนั้น พยายามเอาคลิปลับนั้นมาขึ้นหน้าเว็บไซต์ของตนเองเป้นเดือนๆ เพื่อให้คนเข้ามาเปิดเพื่อจะได้รู้ว่าชายแก่สองคน หน้าไม่อายคุยกันเรื่องถั่งเช่า โธ่เอ๋ยโง่เง่า อะไรขนาดนั้น เพราะในคลิป มีคำพูดที่ว่า เดี๋ยวนี้ เขาไม่เชื่อนักกล่าวหาอีกแล้ว เขาไม่ให้ให้เข้าอีกแล้ว ตัวเขาสองคน ปฎิญาณทุกเช้า นักกล่าวหาจะมาจงรัก เท่านักเรียนนายร้อยอย่างพวกเขาได้ไง นี่คือจุดตายจุดโง่ของนักกล่าวหา มาวันนี้ กล่าวหาใครไม่ได้ หันมางับเอาซีพี ไม่รู้ว่า ซีพีโยนอะไรเข้าปากถึงเงียบไปได้ นี่ไง นักกล่าวหา ที่มีสาวกทั่วประเทศ แล้วคนไทยที่เชื่อคนแบบนี้ ยังหลงว่าข้อมูลที่ตนมีที่ตนได้รับนั้นมันถูกต้องได้อย่างไร ผมไม่เข้าใจคนไทยเหล่านี้จริงๆว่าทำไมเชื่อคนเช่นนี้มาได้เป็นสิบปี มันเหมือนติดยาเสพติดมานาน จนเข้าเส้นเลือด เรื้อรัง มันถอนไม่ออก หรือมันจะติดไปจนตาย อยากเอาเลือดมาตรวจดูว่าทำไมมันโง่และเชื่องขนาดนี้
มาถึงคดีจำนำข้าว ที่จริงไม่ควรเรียกว่าจำนำ อย่างนี้น่าจะเรียกว่าขายฝากข้าวมากกว่า เพราะไม่มีใครมาไถ่ถอนแม้แต่รายเดียว เพราะได้ราคาดี เอาเรามาวิเคราะห์คดีนี้กัน ปปช ผู้กล่าวหา โดยเฉพาะ นายวิชา บอกยิ่งลักษณ์ ปล่อยปละละเลย จนเสียหาย เจ็ดแสนล้าน เสียหายเจ็ดแสนล้าน แต่ยังหาหลักฐานไม่ได้ ดูเขาพูด ไม่มีหลักฐาน แต่จะเอาผิดเขา ให้ได้ เรามาคิดง่ายๆ ว่า การรับจำนำข้าว มันต้องมีนโยบายวางแผนเอาใว้ว่า ข้าวมีทั้งประเทศเท่าไร แล้วจะใช้เงินเท่าไร สมมุติว่า ตั้งงบใว้เจ็ดแสนล้าน ในการซื้อ แล้วขาดทุนเจ็ดแสนล้าน แสดงว่า ต้องขายข้าวไม่ได้แม้แต่เม็ดเดียว แล้วข้าวอยู่ไหน มันเน่า หรือมันหายเท่านั้นเอง ถ้าเน่า คนที่เก็บรักษาต้องรับผิดชอบ ถ้าหายคนที่เก็บรักษา ต้องรับผิดชอบ แต่ถ้าขายได้แล้วขายได้เท่าไร เช่นซื้อมา15000 ขายได้9000 ขายทุน6000 มันก็ไม่มีทางเจ๊งกะบ้งทั้งหมด มีทางเดียวเท่านั้น ที่จะทำให้ขาดทุนแบบวินาศสันตะโรขนาดนั้นได้ ต้องหายกับเน่าสถานเดียว เพราะเท่ากับไม่ได้ขายเลย คิดง่ายๆ แค่นี้ มันก็รู้แล้วว่า ไม่มีทางที่จะขาดทุนขนาดนั้น เพราะยิ่งข้าวหาย ข้าวเน่า ยิ่งดี พวกโรงสีที่รับเก็บรักษาจะต้องรับผิดชอบ จริงมั้ย แล้วขาดทุนตรงไหน เงินชาวนาได้มั้ย ได้ไปแล้วทั่วประเทศ มีใครไม่ได้มั้ย ไม่มี เพราะถ้ามีต้องออกมาโวยวาย แสดงว่าเงินจำนวนหกเจ็ดแสนล้านถึงมือชาวนาแล้ว เรียบร้อยดี ดังนั้น ไม่ต้องไปคิดเรื่องชาวนาได้เงินหรือไม่ มาคิดอย่างเดียวว่า ขาดทุนตรงไหน ที่อ้างว่าเน่า ว่าหายนั้น ถามง่ายๆสั้นๆว่า ไปเสียเงินค่าฝากโกดังโรงสี แล้วพวกนี้มันไม่รับผิดชอบ อย่างนั้นเหรอ ตลกมั้ย งั้นดีนะ โรงสีแอบเอาไปขาย อ้างว่าหาย ไม่ต้องรับผิดชอบ โรงสีแอบเอาไปขายได้ทั้งค่าเช่า ได้ทั้งแอบเอาไปขาย ไม่ต้องรับผิดชอบ งั้นเหรอ ตลก
ดังนั้น ถ้าข้าวเน่า ข้าวหาย ไม่ใช่ประเด็น ที่ทำให้โครงการนี้เสียหายถึงเจ็ดแสนล้าน เมื่อเช้าฟังนักข่าวสปริงนิวส์ บอกแปดแสนล้าน แหมมันแหล กันทั้งระบบ นักข่าวไร้คุณภาพ อาจารย์ วีระ ธีรภัทร ก็เคยด่ามาทีแล้ว ซื้อมาหกแสน มันจะขาดทุนเจ็ดแสนได้ไงวะ อ้า..บื้อ อิ ..บ้า เอ้ย ???
แล้วการรับจำนำนั้น มันไม่ได้จำนำกันพร้อมๆกัน โครมเดียวที่ไหน มันหมุนเวียน เดือนนี้จ่ายไปเท่านี้ เอาขายไปบ้าง เอาเงินส่วนที่ขายได้ มาจ่ายรายใหม่มันไม่มีทางที่จะขาดทุนมากมายขนาดนั้น แต่ถ้าคิดกันในระยะสองปีหรือสองสามรอบ ในฤดุกาล ก็อาจจะขาดทุน ไม่ได้เสียหาย หมายถึงรัฐขาดทุน ซื้อแพงมาขายถูก คือซื้อหมื่นห้า มาขายหมื่นเดียวหรือเก้าพัน ซึ่งรัฐบาลตั้งใจที่จะยอมขาดทุนเพื่อช่วยชาวนาอยู่แล้ว รัฐบาลไหนก็เคยทำแบบนี้ คือยอมขาดทุนเพื่อช่วยชาวนา ทุกรัฐบาล เหมือนรัฐบาลอภิสิทธิ์ ใช้เงินรัฐประกันราคาข้าว ซึ่งก็ขาดทุน เช่นกัน รัฐบาลปัจจุบัน เอาเงินรัฐไปแจกฟรีๆ ให้กับชาวนาชาวสวนยาง นั่นก็คือขาดทุนหรือเสียหายเช่นกัน ตลอดระยะเวลาที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ดำรงตำแหน่งทั้งสิ้น 2ปี9เดือน2วัน นั่นหมายถึง ฤดูการผลิตข้าวนั้น หลายรอบ หลายปี ถ้าขาดทุนปีละ สองแสนล้าน สามปีก็ขาดทุนหกแสนล้าน ซึ่งถือว่า เป็นเรื่องธรรมดา แต่คนที่กล่าวหา กลับหาช่องทางโจมตีกล่าวหาว่า ทุจริต เสียหายไปเจ็ดแปดแสนล้าน ถ้ารัฐบาลอยู่สักสิบปี มิขาดทุนไปสองล้านๆ งั้นเรอะ ???
คือสรุปว่า ทุกอย่างที่พยายามจะกระทำ กล่าวหา ทำลายด้วยการยัดเยียดความผิดนั้น ด้วยคำพูดตอกย้ำทุกวัน เสียหายเจ็ดแสนล้าน เสียหายแปดแสนล้าน อธิบายได้มั้ยว่าเสียหายอย่างไร อธิบายไม่ได้ ไม่เข้าใจ รู้แต่ว่า ส่อว่าจะทุจริต แค่คิดว่าส่อก็ผิดแล้ว พวกนักกฎหมายมันรู้เรื่องอะไรกับเรื่องเศรษฐกิจ คนพวกนี้ ไม่มีความรู้เรื่องเศรษฐศาสตร์ มันไม่รู้แม้กระทั่งคำว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจรากหญ้าด้วยการอัดเม็ดเงินลงไป เดี๋ยววงจรการเงินมันจะกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวมกลับมาเอง รู้หรือไม่ว่า เงินที่ยอมขาดทุนให้ชาวนานั้น เดี๋ยวจะกลับมา ด้วยวงจรของมันเอง เมื่อชาวนามีเงิน มีกำลังซื้อ สินค้าต่างๆจะขายได้ และภาษีจะกลับมาสู่รัฐ แค่นี้พวกมันก็ไม่เข้าใจแล้ว ไดโนเสาร์ มันรู้แต่เพียงว่า ถ้าขาดทุน ทำให้ชาติเสียหาย มันต้องเอาตัวมาลงโทษ เออ เอาเข้าไป พวกล้าหลัง มันคือสิ่งที่น่าผิดหวังเป็นอย่างยิ่ง ที่คนดีๆมีความสามารถ และตั้งใจทำประโยชน์ให้กับประชาชน จะมาถูกกลุ่มคนล้าหลังป่าเถื่อนพวกนี้ย่ำยีเอา ด้วยข้อกล่าวหาบ้าบอเลื่อนลอย และไร้เหตุผล ไร้ข้อมูล ไร้หลักฐาน ดังนายวิชาแถลงในสภาหน้าตาเฉยว่า ยังไม่มีหลักฐานการทุจริต ของยิ่งลักษณ์ แต่เชื่อว่า ส่อไปในทางทุจริต ดูมัน ดูมันทำ ได้ข่าวว่า จอน วิญญู รายการ เจาะข่าวตื้น เขาอยากได้ทะเบียนบ้านของนาย วิชา เพราะต้องการดูว่าพ่อชื่ออะไร ไม่รู้ว่า ได้หรือยัง จอน วิญญู มันคงสังสัย ว่าพ่อนาย วิชา ชื่ออะไร ?
ต่อ>