เสียใจสุดๆกับคำพูดของน้องเราว่า เพราะว่าเราใส่ซองช่วยเงินลูกสาวน้องแต่งงานแค่ 1000

แล้วแต่ฐานะ จขกท. ค่ะ ถ้า จขกท.รวยมาก เงินเดือนเยอะ 1000 บาท น้อยไป
แต่ถ้าคนธรรมดาหาเช้ากินค่ำ 1000 บาท นี่เยอะมาก

และถ้าเป็นเรา พี่สาวมาลงแรงช่วยงานแต่งลูกขนาดนี้ เราไม่คิดเรื่องซองแน่นอน
การรับไหว้หลานเท่าไร ไม่ควรเอามาพูดด้วยซ้ำ

บางความเห็นบอก ให้น้อยไป แล้วถ้า จขกท.มีทั้งตัวแค่นี้ คุณจะคิดว่าน้อยไปไหมคะ?

เป็นพี่ครับ ด่ามันไปดิ กุมาช่วยงานแล้ว นี้กุก็ไกล มาช่วยงายตั้งแต่งานยังไม่เริ่มจนงานจบ งานกุก็ไม่ได้ทำเสียเงินเสียทองนั่งรถมาอีก
ถ้ากุใส่ พันหนึ่งแล้วที่หลังมีงานไรก็ไม่ต้องบอกกุ ต่างคนต่างอยู่ จบน่ะ

อาจเพราะเราเป็นคนมองโลกในแง่ดี  

เรามองว่าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นก็ดีนะจะได้รู้จิตใจลึกๆของเขา ว่าเขาเป็นคนอย่างไร (มองคนที่เงิน เงินน้อยแมร่งmungกระจอก เงินเยอะนายแน่มาก ไม่ได้มองคนที่นิสัยหรือน้ำใจ สรุปมันคบกับเงินเราไม่ได้คบกับตัวเรา )

เราว่าเกิดเหตุการณ์เจ็บเล็กๆแบบนี้ก็ดี เป็นข้อคิดเป็นบทเรียนของเรา ในอนาคตภายภาคหน้าจะได้ระวังไม่เจ็บเยอะๆ  (เช่น เราดีกับมันสารพัด ช่วยเหลือ ส่งเสียย ขายบ้านขายรถ  ทุ่มสุดตัว สุดท้ายไม่มีเงินมันไม่นับญาติเราซะงั้น นั้นเจ็บนะ )

ถือซะว่าเป็นบทเรียนในชีวิตนะครับ

ทุกๆเหตุการณ์ไม่ว่าดี ร้าย ในชีวิตผมผมถือเป็นบทเรียนที่ทำให้เราฉลาดขึ้นเสมอครับ

เดี๋ยวนี้คนไทยส่วนใหญ่คงจะเริ่มสับสนระหว่าง "การ์ดเชิญงานแต่ง" กับ "ซองผ้าป่า " กันแล้วสินะ
                  การ์ดเชิญนะคร้าคุณณณณ จุดประสงค์หลักมันมีเอาไว้เชิญให้เค้ามาร่วมงาน  ไม่ใช่ซองผ้าป่านะคะ ที่ใครมีชื่อเป็นกรรมการก็ต้องใส่เยอะหน่อยงี้ ขนาดซองผ้าป่าเค้ายังให้ใส่ตามจิตศรัทธาเลย นี่แต่งงานทั้งทีกะจะระดมทุนไปสร้างโบสถ์สร้างวิหาร เอ้ย !! สร้างบ้านกันเลยหรอคะ
                 ไอ้การที่คุณเลือกจัดงานใหญ่เล็กแค่ไหน โต๊ะจีนราคาเท่าไหร่ โรงแรมหรูแค่ไหน นั้นมันความต้องการของคุณเองล้วนๆ ไม่ได้มีแขกคนไหนไปรีเควสว่าต้องจัดอลังการณ์นะ ต้องเลี้ยงโต๊ะจีนนะ ต้องจัดที่โรงแรมเท่านั้นนะ แขกเค้าไม่ได้เป็นคนกำหนดความเวอร์อลังและค่าใช้จ่ายของงานแต่งคุณซะหน่อย เพราะฉะนั้นคุณก้อไม่มีสิทธิ์ไปตัดสินว่าเค้าควรใส่ซองคุณเท่าไหร่ บางคนเค้ามีกำลังทรัพย์ไม่ถึงแต่เค้าอยากไปร่วมแสดงความยินดีกับคุณ บางคนเค้าอาจจะเหลือเงินติดตัวไม่เท่าไหร่แล้วแต่เค้าก้อยังอยากไปร่วมงานแต่งคุณ มันไม่ใช่ทุกคนหรอกนะที่อยากจะไปงานแต่งคุณจริงๆ บางทีเค้าต้องลางาน ต้องหาชุด ต้องเดินทางไกล ทำไมไม่มองตรงจุดนี้บ้างว่าแขกเค้าต้องลำบากแค่ไหนและเสียอะไรไปบ้างเพื่อมางานแต่งเรา ทำไมต้องใช้เงินในซองเป็นตัวนับว่าใครยินดีกับงานแต่งของเราแค่ไหน
...หลายความเห็นนี่มองถึงขนาดว่าควรใส่ตามราคาค่าหัวโต๊ะจีนเลย เอิ่ม !!! นี่คุณจะเชิญเค้ามาร่วมแสดงความยินดีหรือคุณเปิดร้านบุฟเฟ่ต์กันแน่คะ ถึงได้นับค่ากินเป็นรายหัวแบบนั้น ...แล้วแขกบางคนเค้าจะรู้มั้ยว่าค่าโต๊ะจีนคุณมันเท่าไหร่ คือบางทีหัวละ 500 แต่คุณภาพอาหารแย่กว่าหมูกะทะ 199 ก็มีนะคะ