ขออนุญาติก็อปข้อความมาจากเฟสพี่เค้านะค่ะ
อีฟไม่รู้นะจะโพสไปทำไมพวกนั้นก็คงไม่สะดุ้ง เมื่อก่อนก็คิดว่าเออเวรกรรมคงตามทันหรือไม่ก็เค้าคงสำนึกกันได้บ้าง
แต่พอยิ่งนานวันอีฟเริ่มรู้สึกว่าชีวิตอีฟไม่ได้รับความยุติธรรม อีฟพิการทำอะไรเองไม่ได้แม่ก็ต้องมาดูแลอีฟตลอดเวลา
จะเอาช่วงเวลาไหนไปทำมาหา กินทุกวันนี้ได้แค่เงินเดือนผู้พิการเดือนละ 800 บาทที่พึ่งเพิ่มขึ้นเมื่อเดือนมกราคมปีนี้
บ้านอาศัยเค้าอยู่ก็ต้องเสียค่าน้ำค่าไฟ ก็ได้เงินจากน้าซึ้งก็ทำงานได้เงินเดือนไม่มากต้องส่งตั้ง 2 ทาง
ทั้งตาทั้งให้อีฟกับแม่ ช่วงนี้ตาก็ล้มป่วยเป็นต่อมลูกหมากโตรักษามาหลายปีมาก จนตอนนี้อาการกำเริบไม่ไหวต้องแอดมิดที่โรงพยาบาล
ชีวิตช่วงนี้อีฟเครียดมาก ที่อีฟต้องมานอนพิการอยู่แบบนี้
***เหตุเกิดจากอีฟได้รับสายโทรศัพท์จากบุคคลที่อีฟรู้จักและนับถือ ว่าไปรายการโทรทัศน์รายการหนึ่ง(อีฟขอไม่พูดชื่อ)ชนะแล้วใช่ไหม
อีฟก็บอกว่าใช่เค้าก็บอกให้ไปร้องเพลงในงานน้องเค้าหน่อยได้ไหม เป็นงานที่ฉลองน้องเค้าได้รับพระราชทานกระบี่
อีฟไม่อยากไปคะพูดตรงๆอีฟเพิ่งตื่น เพราะกว่าจะเดินทางกลับจากอัดรายการในกรุงเทพกว่าจะมาถึงอุทัยก็ดึกอีฟเพลียด้วย
เป็นการชนะที่อีฟต้องมานั่งร้องไห้เกือบตลอดทางที่เดินทางกลับ เพราะอีฟไปเจอความไม่ยุติธรรมจากคนที่พาอีฟไปแข่งขัน
พูดง่ายๆขัดกันเรื่องเงิน !!!
มาเข้าเรื่องคนที่ชวนอีฟไปงานเค้าต่อ อีฟได้บอกไปเชิงปฏิเสธอ้อมๆไปว่าอีฟเพิ่งตื่นน้ำยังไม่ได้อาบเลย
เค้าก็บอกว่าไม่เป็นไรเค้ากับครอบครัวเพิ่งเดินทางกลับจากทะเล ตอนนี้ถึงสิงห์บุรีกว่าจะถึงอุทัยอีฟคงเตรียมตัวทัน
อีฟก็ยังอ่ำๆอึ่งๆ เค้าก็พูดว่าเค้าจะพาอีฟและเพื่อนที่จะไปอัดรายการรอบหน้า ไปเข้าหานายกเทศบาลเพื่อขอสปอนเซอร์ให้ในการแข่งขันครั้งต่อไป
อีฟก็เริ่มโอนเอียงตาม เพราะอีฟอยากให้ทีมไปแข่งแบบสบายๆไม่ต้องมามีปัญหาเรื่องเงิน อีฟเลยตัดสินใจยอมไปกับเค้าเพียงเพื่อหวังให้ทีมสบาย
เค้าก็มาถึงบ้านอีฟมาครบทั้งครอบครัวข้าม ช๊อตมาถึงงานเลี้ยงเลยนะคะลูกเค้าไม่ได้ไปมีแค่ อีฟ,ผู้หญิงที่โทรหาอีฟ,และสามีเค้า ไปงานกัน3คน
ขึ้นชื่อว่างานเลี้ยงย่อมมีสุราของมึนเมาเป็นธรรมดา อีฟไม่แตะเลยถึงจะโดนขยั้นขยอให้กินอย่างไรก็ตาม
ที่บ้านก็โทรมาหาเป็นระยะด้วยความเป็นห่วงพร้อมเตือนเหมือนจะรู้เหตุกราณ์ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น เค้าเตือนว่าอย่าให้ผู้ชายมาส่งนะ
คืออีฟกับเค้าคิดคล้ายกันว่ากลัวเรื่องไม่ดีไม่ร้ายแบบผู้หญิงผู้ชาย ไม่ได้คิดไปถึงเรื่องอุบัติเหตุเลย
เกือบจะเที่ยงคืนอีฟก็อยากกลับเค้าบอกว่าจะให้ลูกน้องเค้า (ผู้ชาย)ไปส่งนะ อีฟก็ทำหน้าไม่ดี เค้าบอกไว้ใจได้
อีฟก็ลังเล ดึกแล้วแบตก็จะหมดประกอบกับกลัวที่บ้านจะด่าและเป็นห่วง เลยตัดสินใจกลับก็กลับว่ะ
ออกจากงานมาไม่มีบทสนทนาอะไรเลยนอกจากถามว่าบ้านอยู่ตรงไหนแค่นั้น
ก็ไม่พูดอะไรกันอีกเลยอีฟเกร็งมากพูดเลยก็คนไม่เคยรู้จักกันเลย
*** พอไกล้ถึงที่เกิดเหตุ
เค้าก็รับโทรศัพท์คุยพักนึง ช่วงวางโทรศัพท์นั่นแหละเค้าก็ร้องเฮ้ย!!!
อีฟไม่รู้มันเกิดอะไรทางก็มืดฝนก็ตกหลังจากเสียงเค้ารถก็พลิกคว่ำชนเสาไฟจนข้างหน้ายับ
อีฟรู้ตัวตลอดแต่ขยับตัวไม่ได้เลยจากที่นั่งอยู่เบาะหน้าข้างคนขับก็กระเด็นมานั่งเบาะหลัง แบบใครเห็นก็คิดว่านั่งเบาะหลังมา
พอกู้ภัยมาช่วยก็ข้ามช๊อตมาถึงโรงพยาบาลประเมินทุกอย่างสรุปคร่าวอาจ ***เป็นอัมพาต***
แต่คนขับอยู่เตียงข้างๆในห้องฉุกเฉินร้องครวญครางนึกว่าเป็นมาก แค่ใส่เฝือกอ่อนที่หลัง
ส่วนอีฟกระดูกคอข้อที่5แตกหักทับเส้นประสาทไขสันหลัง หัวแตก คางแตก ไหปลาร้าข้างซ้ายหักร้าว
นับว่าทรมารมากแต่ไม่ร้องเลยมันเจ็บจนไม่มีแรงจะร้องไห้เลย อีฟต้องนอนถ่วงน้ำหนักที่หัวขยับตัวไม่ได้จนผ่าตัด
ก็ต้องไปผ่าที่โรงพยาบาลเลิดสิน เพราะถ้ารอผ่าตัดที่โรงพยาบาลบ้านเกิดตัวเองนานมากกว่าทำการผ่าตัด
อีฟต้องเป็นแผลกดทับทั้งตัวแน่ เพราะแค่ 7 วันก็มีแผลกดทับที่ก้นกบแล้วคะ
มาพูดถึงความรับผิดชอบเค้าให้แค่เงิน พรบ.รถยนต์ เป็นเงินแสนกว่าบาทพร้อมเอกสารยินยอมประมาณว่าเราจะไม่ได้ไปเรียกร้องอะไรเค้าได้อีก
ทางอีฟต้องจำยอมเพราะไม่มีเงินสำรองในการใช้จ่ายรักษาตัวเลย อีฟอยู่กับปู่,ย่า คะ
ดิ้นรนหาอาชีพเสริมด้วยตัวเองมาเกือบตลอด แต่พอมาเป็นแบบนี้แม่ก็ต้องมาดูแลเพราะปู่,ย่า คงดูแลไม่ไหวท่านแก่แล้ว
พอกลับมารักษาตัวที่โรงพยาบาลอุทัยธานีตลอดเกือบ 7 เดือนต้องนอนรักษาตัวที่ห้องพิเศษ เพราะรับเชื้อง่ายมากนิดหน่อยก็ป่วย
ทุกวันคือความทรมาร และประเด็นคือไม่มีตำรวจมาสอบปากคำ !!! จนมีลูกพี่ลูกน้องฝั่งแม่เป็นตำรวจอยู่พื้นที่ที่เกิดเหตุ
คือเค้าก็เพิ่งรู้ว่าหลานตัวเองเกิดอุบัติเหตุในพื้นที่ตัวเอง เพราะเราไม่ได้สนิทกันคะ เค้าเลยไปถามร้อยเวรที่รับเรื่องวันนั้น
เค้าเลยกลัวความผิดมั้งคะเลยมาสอบปากคำในเดือนที่ 7 แล้วคะ
เค้าพูดว่าเห็นว่ายังป่วย เลยยังไม่มาสอบปากคำสัก พักหลุดมาว่าผมก็น้ำท่วมปากผู้ใหญ่เค้าสั่งมา
*** อีฟนี่แบบอยากถามว่าความยุติธรรมละคะ หนูต้องมาพิการ เดินไม่ได้ คำขอโทษจากคนขับไม่มี มาเยี่ยมไม่เคย
ยังจะมีคำนินทาเสียๆหายๆว่าเป็นกิ๊กกัน ทั้งๆที่หนูไม่เคยรู้จักเค้าเลย
หนูได้แต่นอนร้องไห้ตำรวจมาพูดว่าคุณน้ำท่วมปาก!!!
เงินแสนกับชีวิตอนาคตต้องดับวูบ ขอเค้าเดือนละ 1500 ค่ารถน้อง ค่ากินของน้องเวลาไปเรียน
ต้องโทรทวงแล้วทวงอีกกว่าจะได้เค้าให้เงินเดือนละ 1500 แค่ช่วงเวลาปีเดียวเค้าก็เลิกให้แล้ว
เค้าไม่เคยดูแลอีกเลย ปล่อยทิ้งไม่มีโทรมาถาม เค้าคงกลัวพวกเราขอเงินจริงๆ เค้าต้องรับผิดชอบอีฟไปตลอดชีวิตจนกว่าอีฟจะตาย
อย่างน้อยก็ต้องให้เงินเป็นรายเดือน แต่นี่คือทิ้งเลยเค้าพูดว่าเค้าก็เสียรถ เราก็เสียคน คือเอารถที่ไม่มีแม้แต่ พรบ.ใช้เส้นเดินเรื่องเนี่ยนะ
มาเทียบกับอนาคตของเด็กคนนึงที่ยังไปได้อีกไกล ถ้าอีฟไม่เป็นอะไรจากวันนั้นจนวันนี้นี้ 3 ปี
อีฟว่าอีฟมีปัญญาออกรถราคาแพงกว่ารถเค้าอีกมั้งคะ
อีฟมาโพสเพื่อให้ทุกคนกระจ่าง คนสงสัยเยอะอีฟทำไมเป็นแบบนี้
จะตอบทุกคนก็ไม่ไหว เอาพร้อมๆกันทีเดียว ทุกวันนี้คือร่างกายช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เลย
มือกำแบไม่ได้ ลุกนั่งเองไม่ได้ ขยับได้แค่แขนนิดหน่อย กับหน้าที่หันซ้ายขวาก้มเงยได้
ส่วนที่อื่นคือนิ่งสนิทไร้ความรู้สึก มีแต่อาการเหมือนไฟฟ้าสถิตตลอดเวลา ไม่รู้ร้อนรู้หนาว ไม่เจ็บไม่ปวด
แต่พอหน้าหนาวก็จะหนาวมากสุดๆ พอหน้าร้อนก็ร้อนเหมือนโดนไฟเผา
ฟังแล้วดูเว่อร์แแต่มันคือความจริงคะ ความยุติธรรมอยู่ที่ไหน?
สิ่งที่หนูควรได้รับคือแบบนี้หรอ? หนูผิดอะไรทำไมไม่ดูแลรับผิดชอบชีวิตที่เหลือของหนู?
รู้ไหมทุกวันนี้การเป็นอยู่ของหนูลำบากแค่ไหน?
อย่าคิดว่าหนูลั้นลามีความสุขดี หนูแค่ไม่อยากให้ชีวิตแย่ไปกว่านี้
เลยทำตัวร่าเริงออกไปไหนมาไหนบ้าง
เพราะรถก็รถฟรีเป็นบริการของรถผู้พิการของทาง กทม.
อย่าตัดสินว่าหนูสุขสบายแค่ภาพภายนอก มาดูหนูทุกวินาทีสิคะจะรู้ว่าหนูเป็นไง
หนูอยากให้พวกคุณมาเห็นโพสนี้เหลือเกิน เงินที่คุณให้หนูเป็นค่าเทอมจนลูกคุณจบปริญญายังไม่ได้เลยมั้งคะ!
อยากได้ความยุติธรรมจริงๆ คะ
เมื่อฉันต้อง พิการ ( เดินไม่ได้ ) จากความประมาทของคนบางคน และไม่ได้รับความช่วยเหลืออย่างเป็นธรรม
เป็นเรื่องราวของพี่คนนึงที่ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์
อีฟไม่รู้นะจะโพสไปทำไมพวกนั้นก็คงไม่สะดุ้ง เมื่อก่อนก็คิดว่าเออเวรกรรมคงตามทันหรือไม่ก็เค้าคงสำนึกกันได้บ้าง
แต่พอยิ่งนานวันอีฟเริ่มรู้สึกว่าชีวิตอีฟไม่ได้รับความยุติธรรม อีฟพิการทำอะไรเองไม่ได้แม่ก็ต้องมาดูแลอีฟตลอดเวลา
จะเอาช่วงเวลาไหนไปทำมาหา กินทุกวันนี้ได้แค่เงินเดือนผู้พิการเดือนละ 800 บาทที่พึ่งเพิ่มขึ้นเมื่อเดือนมกราคมปีนี้
บ้านอาศัยเค้าอยู่ก็ต้องเสียค่าน้ำค่าไฟ ก็ได้เงินจากน้าซึ้งก็ทำงานได้เงินเดือนไม่มากต้องส่งตั้ง 2 ทาง
ทั้งตาทั้งให้อีฟกับแม่ ช่วงนี้ตาก็ล้มป่วยเป็นต่อมลูกหมากโตรักษามาหลายปีมาก จนตอนนี้อาการกำเริบไม่ไหวต้องแอดมิดที่โรงพยาบาล
ชีวิตช่วงนี้อีฟเครียดมาก ที่อีฟต้องมานอนพิการอยู่แบบนี้
***เหตุเกิดจากอีฟได้รับสายโทรศัพท์จากบุคคลที่อีฟรู้จักและนับถือ ว่าไปรายการโทรทัศน์รายการหนึ่ง(อีฟขอไม่พูดชื่อ)ชนะแล้วใช่ไหม
อีฟก็บอกว่าใช่เค้าก็บอกให้ไปร้องเพลงในงานน้องเค้าหน่อยได้ไหม เป็นงานที่ฉลองน้องเค้าได้รับพระราชทานกระบี่
อีฟไม่อยากไปคะพูดตรงๆอีฟเพิ่งตื่น เพราะกว่าจะเดินทางกลับจากอัดรายการในกรุงเทพกว่าจะมาถึงอุทัยก็ดึกอีฟเพลียด้วย
เป็นการชนะที่อีฟต้องมานั่งร้องไห้เกือบตลอดทางที่เดินทางกลับ เพราะอีฟไปเจอความไม่ยุติธรรมจากคนที่พาอีฟไปแข่งขัน
พูดง่ายๆขัดกันเรื่องเงิน !!!
มาเข้าเรื่องคนที่ชวนอีฟไปงานเค้าต่อ อีฟได้บอกไปเชิงปฏิเสธอ้อมๆไปว่าอีฟเพิ่งตื่นน้ำยังไม่ได้อาบเลย
เค้าก็บอกว่าไม่เป็นไรเค้ากับครอบครัวเพิ่งเดินทางกลับจากทะเล ตอนนี้ถึงสิงห์บุรีกว่าจะถึงอุทัยอีฟคงเตรียมตัวทัน
อีฟก็ยังอ่ำๆอึ่งๆ เค้าก็พูดว่าเค้าจะพาอีฟและเพื่อนที่จะไปอัดรายการรอบหน้า ไปเข้าหานายกเทศบาลเพื่อขอสปอนเซอร์ให้ในการแข่งขันครั้งต่อไป
อีฟก็เริ่มโอนเอียงตาม เพราะอีฟอยากให้ทีมไปแข่งแบบสบายๆไม่ต้องมามีปัญหาเรื่องเงิน อีฟเลยตัดสินใจยอมไปกับเค้าเพียงเพื่อหวังให้ทีมสบาย
เค้าก็มาถึงบ้านอีฟมาครบทั้งครอบครัวข้าม ช๊อตมาถึงงานเลี้ยงเลยนะคะลูกเค้าไม่ได้ไปมีแค่ อีฟ,ผู้หญิงที่โทรหาอีฟ,และสามีเค้า ไปงานกัน3คน
ขึ้นชื่อว่างานเลี้ยงย่อมมีสุราของมึนเมาเป็นธรรมดา อีฟไม่แตะเลยถึงจะโดนขยั้นขยอให้กินอย่างไรก็ตาม
ที่บ้านก็โทรมาหาเป็นระยะด้วยความเป็นห่วงพร้อมเตือนเหมือนจะรู้เหตุกราณ์ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น เค้าเตือนว่าอย่าให้ผู้ชายมาส่งนะ
คืออีฟกับเค้าคิดคล้ายกันว่ากลัวเรื่องไม่ดีไม่ร้ายแบบผู้หญิงผู้ชาย ไม่ได้คิดไปถึงเรื่องอุบัติเหตุเลย
เกือบจะเที่ยงคืนอีฟก็อยากกลับเค้าบอกว่าจะให้ลูกน้องเค้า (ผู้ชาย)ไปส่งนะ อีฟก็ทำหน้าไม่ดี เค้าบอกไว้ใจได้
อีฟก็ลังเล ดึกแล้วแบตก็จะหมดประกอบกับกลัวที่บ้านจะด่าและเป็นห่วง เลยตัดสินใจกลับก็กลับว่ะ
ออกจากงานมาไม่มีบทสนทนาอะไรเลยนอกจากถามว่าบ้านอยู่ตรงไหนแค่นั้น
ก็ไม่พูดอะไรกันอีกเลยอีฟเกร็งมากพูดเลยก็คนไม่เคยรู้จักกันเลย
*** พอไกล้ถึงที่เกิดเหตุ
เค้าก็รับโทรศัพท์คุยพักนึง ช่วงวางโทรศัพท์นั่นแหละเค้าก็ร้องเฮ้ย!!!
อีฟไม่รู้มันเกิดอะไรทางก็มืดฝนก็ตกหลังจากเสียงเค้ารถก็พลิกคว่ำชนเสาไฟจนข้างหน้ายับ
อีฟรู้ตัวตลอดแต่ขยับตัวไม่ได้เลยจากที่นั่งอยู่เบาะหน้าข้างคนขับก็กระเด็นมานั่งเบาะหลัง แบบใครเห็นก็คิดว่านั่งเบาะหลังมา
พอกู้ภัยมาช่วยก็ข้ามช๊อตมาถึงโรงพยาบาลประเมินทุกอย่างสรุปคร่าวอาจ ***เป็นอัมพาต***
แต่คนขับอยู่เตียงข้างๆในห้องฉุกเฉินร้องครวญครางนึกว่าเป็นมาก แค่ใส่เฝือกอ่อนที่หลัง
ส่วนอีฟกระดูกคอข้อที่5แตกหักทับเส้นประสาทไขสันหลัง หัวแตก คางแตก ไหปลาร้าข้างซ้ายหักร้าว
นับว่าทรมารมากแต่ไม่ร้องเลยมันเจ็บจนไม่มีแรงจะร้องไห้เลย อีฟต้องนอนถ่วงน้ำหนักที่หัวขยับตัวไม่ได้จนผ่าตัด
ก็ต้องไปผ่าที่โรงพยาบาลเลิดสิน เพราะถ้ารอผ่าตัดที่โรงพยาบาลบ้านเกิดตัวเองนานมากกว่าทำการผ่าตัด
อีฟต้องเป็นแผลกดทับทั้งตัวแน่ เพราะแค่ 7 วันก็มีแผลกดทับที่ก้นกบแล้วคะ
มาพูดถึงความรับผิดชอบเค้าให้แค่เงิน พรบ.รถยนต์ เป็นเงินแสนกว่าบาทพร้อมเอกสารยินยอมประมาณว่าเราจะไม่ได้ไปเรียกร้องอะไรเค้าได้อีก
ทางอีฟต้องจำยอมเพราะไม่มีเงินสำรองในการใช้จ่ายรักษาตัวเลย อีฟอยู่กับปู่,ย่า คะ
ดิ้นรนหาอาชีพเสริมด้วยตัวเองมาเกือบตลอด แต่พอมาเป็นแบบนี้แม่ก็ต้องมาดูแลเพราะปู่,ย่า คงดูแลไม่ไหวท่านแก่แล้ว
พอกลับมารักษาตัวที่โรงพยาบาลอุทัยธานีตลอดเกือบ 7 เดือนต้องนอนรักษาตัวที่ห้องพิเศษ เพราะรับเชื้อง่ายมากนิดหน่อยก็ป่วย
ทุกวันคือความทรมาร และประเด็นคือไม่มีตำรวจมาสอบปากคำ !!! จนมีลูกพี่ลูกน้องฝั่งแม่เป็นตำรวจอยู่พื้นที่ที่เกิดเหตุ
คือเค้าก็เพิ่งรู้ว่าหลานตัวเองเกิดอุบัติเหตุในพื้นที่ตัวเอง เพราะเราไม่ได้สนิทกันคะ เค้าเลยไปถามร้อยเวรที่รับเรื่องวันนั้น
เค้าเลยกลัวความผิดมั้งคะเลยมาสอบปากคำในเดือนที่ 7 แล้วคะ
เค้าพูดว่าเห็นว่ายังป่วย เลยยังไม่มาสอบปากคำสัก พักหลุดมาว่าผมก็น้ำท่วมปากผู้ใหญ่เค้าสั่งมา
*** อีฟนี่แบบอยากถามว่าความยุติธรรมละคะ หนูต้องมาพิการ เดินไม่ได้ คำขอโทษจากคนขับไม่มี มาเยี่ยมไม่เคย
ยังจะมีคำนินทาเสียๆหายๆว่าเป็นกิ๊กกัน ทั้งๆที่หนูไม่เคยรู้จักเค้าเลย
หนูได้แต่นอนร้องไห้ตำรวจมาพูดว่าคุณน้ำท่วมปาก!!!
เงินแสนกับชีวิตอนาคตต้องดับวูบ ขอเค้าเดือนละ 1500 ค่ารถน้อง ค่ากินของน้องเวลาไปเรียน
ต้องโทรทวงแล้วทวงอีกกว่าจะได้เค้าให้เงินเดือนละ 1500 แค่ช่วงเวลาปีเดียวเค้าก็เลิกให้แล้ว
เค้าไม่เคยดูแลอีกเลย ปล่อยทิ้งไม่มีโทรมาถาม เค้าคงกลัวพวกเราขอเงินจริงๆ เค้าต้องรับผิดชอบอีฟไปตลอดชีวิตจนกว่าอีฟจะตาย
อย่างน้อยก็ต้องให้เงินเป็นรายเดือน แต่นี่คือทิ้งเลยเค้าพูดว่าเค้าก็เสียรถ เราก็เสียคน คือเอารถที่ไม่มีแม้แต่ พรบ.ใช้เส้นเดินเรื่องเนี่ยนะ
มาเทียบกับอนาคตของเด็กคนนึงที่ยังไปได้อีกไกล ถ้าอีฟไม่เป็นอะไรจากวันนั้นจนวันนี้นี้ 3 ปี
อีฟว่าอีฟมีปัญญาออกรถราคาแพงกว่ารถเค้าอีกมั้งคะ
อีฟมาโพสเพื่อให้ทุกคนกระจ่าง คนสงสัยเยอะอีฟทำไมเป็นแบบนี้
จะตอบทุกคนก็ไม่ไหว เอาพร้อมๆกันทีเดียว ทุกวันนี้คือร่างกายช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เลย
มือกำแบไม่ได้ ลุกนั่งเองไม่ได้ ขยับได้แค่แขนนิดหน่อย กับหน้าที่หันซ้ายขวาก้มเงยได้
ส่วนที่อื่นคือนิ่งสนิทไร้ความรู้สึก มีแต่อาการเหมือนไฟฟ้าสถิตตลอดเวลา ไม่รู้ร้อนรู้หนาว ไม่เจ็บไม่ปวด
แต่พอหน้าหนาวก็จะหนาวมากสุดๆ พอหน้าร้อนก็ร้อนเหมือนโดนไฟเผา
ฟังแล้วดูเว่อร์แแต่มันคือความจริงคะ ความยุติธรรมอยู่ที่ไหน?
สิ่งที่หนูควรได้รับคือแบบนี้หรอ? หนูผิดอะไรทำไมไม่ดูแลรับผิดชอบชีวิตที่เหลือของหนู?
รู้ไหมทุกวันนี้การเป็นอยู่ของหนูลำบากแค่ไหน?
อย่าคิดว่าหนูลั้นลามีความสุขดี หนูแค่ไม่อยากให้ชีวิตแย่ไปกว่านี้
เลยทำตัวร่าเริงออกไปไหนมาไหนบ้าง
เพราะรถก็รถฟรีเป็นบริการของรถผู้พิการของทาง กทม.
อย่าตัดสินว่าหนูสุขสบายแค่ภาพภายนอก มาดูหนูทุกวินาทีสิคะจะรู้ว่าหนูเป็นไง
หนูอยากให้พวกคุณมาเห็นโพสนี้เหลือเกิน เงินที่คุณให้หนูเป็นค่าเทอมจนลูกคุณจบปริญญายังไม่ได้เลยมั้งคะ!
อยากได้ความยุติธรรมจริงๆ คะ
ปล. รูปและข้อความนี้ได้รับอนุญาติจากเจ้าของเรื่องแล้วคะ
เป็นการตั้งกระทู้แบบนี้ครั้งแรก ผิดพลาดยังไง ต้องขอโทษด้วยนะค่ะ