ก่อนอื่น...ขออนุญาตโฆษณาและชักชวนไปอ่านกระทู้ที่แน่นไปด้วยเนื้อสาระของคุณพระรองกระทู้นี้
http://pantip.com/topic/33662965
วันนี้คุณพระรองมีใจตรงกันกับผมโดยบังเอิญ เพราะผมตั้งใจตั้งแต่เมื่อวานว่าจะเล่าเกร็ดประวัติของพระนาง
มหาเทวีจิระประภาเจ้า ในขณะที่ยังเขียนเหตุการณ์วนๆ เวียนๆ อยู่ในภาคเหนืออยู่ ผมกับคุณพระรองคล้ายกันอยู่อย่างคือเขียนสั้นๆ ไม่ค่อยจะเป็น พยายามจะตัด บั่น ทอน บางส่วนออกไป สุดท้ายลงเอยที่ยาวเยียด....เหมียนเดิม
ราชวงศ์เม็งรายมีพญาเม็งรายเป็นปฐมกษัตริย์ พระองค์ทรงพาไพร่ฟ้าประชาชนเสาะแสวงหาทำเลเพื่อ "สร้างบ้านแปงเมือง" ตั้งแต่เชียงราย เมืองฝาง
เวียงกุมกาม ลำพูน สุดท้ายพระองค์ก็ทรงได้ที่ราบลุ่มแม่น้ำปิงตอนบนเป็นจุดศูนย์กลางแล้วแผ่อาณาจักรไปอย่างกว้างขวางดั่งสมญานามชื่อแคว้น "ล้านนา" มีการสืบราชวงศ์มาอย่างยาวนานหลายพระองค์ บางรัชสมัยบ้านเมืองก็ออกศึกสงคราม บางรัชสมัยก็สงบรื่นรมย์จึงมาถึงยุคของพระเมืองเกษเกล้าที่มีพระนางมหาเทวีจิระประภาเป็นมเหสี เหตุการณ์บ้านเมืองในเชียงใหม่ตอนนั้นปั่นป่วน ด้วยว่าเหล่ามุขมนตรีมหาอำมาตย์แตกแยกมีใจฝักใฝ่แคว้นอื่นๆ อยู่ เพราะเชียงใหม่ขนาบด้วยแคว้นเชียงแสน ด้านตะวันออก ด้านเหนือก็แสนหวี ไปจนถึงตองอู ใต้ลงมาแคว้นอยุธยา สุดท้ายพระเมืองเกษเกล้าก็ถูกลอบปลงพระชนม์(ความจริงพระองค์ทรงขึ้นครองราชย์เป็นครั้งที่สอง) การสรรหาผู้สืบสันตติวงศ์ก็เป็นไปอยางปั่นป่วน อำมาตย์ฝ่ายนั้นก็จะเอาพระองค์นั้นมาสืบราชฯ ฝ่ายหนึ่งก็จะเอาอีกพระองค์ฯ ก็ตกลงพร้อมใจกันเห็นว่าพระนางมหาเทวีจิระประภาเจ้าควรเสด็จขึ้นครองราชย์ ตรงนี้ก็น่าชื่นชมนะครับ แม้จะขัดแย้งกันจะเป็นจะตาย สุดท้ายก็โหวตกันว่าจะเอาใคร เมื่อเสียง "ส่วนใหญ่" ว่าจะเอาพระนางจิระประภา ก็ยอมตามกันโดยไม่เกี่ยงว่าเป็นผู้หญิง
ตรงนี้ใครที่เคยเหยียดหยามคนอื่นว่าไม่รู้จักประชาธิปไตย ว่าเสียงโหวตไม่มีค่าเท่าคนกรุงก็คิดเสียใหม่นะครับ อย่าลืมว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นมาแล้วหลายร้อยปีแล้ว (ว่าไปทำไมมี อย่าว่าแต่โหวตเลือกผู้นำเลยครับ โหวตขับไล่ผู้นำก็เคยมีมาแล้วในสมัยนั้น แต่ผมไม่กล้านำมาเล่า กัวววว อมยิ้มปลิว)
พระนางจิระประภาเจ้าทรงเป็น "กษัตรีย์" พระองค์แรกในราชวงศ์เม็งราย (ไม่เกี่ยวกับพระนางจามเทวีที่เล่าเมื่อวานนะครับอย่าสับสน) ช่วงที่ครองราชสมบัติก็มีเหตุการณ์วุ่นวายให้ต้องแก้ไขไม่ว่างเว้น "ศึกใน" ก็คือเหล่ามหาอำมาตย์มุขมนตรีก็ยังฮึมๆ ใส่กันอยู่ "ศึกนอก" ยิ่งหนักกว่าเมื่อกองทัพของพระไชยราชาธิราชจากอยุธยายกทัพหลวงหมายจะเข้าตีเชียงใหม่ ในภาวะคับขันเช่นนี้...พระนางจะพึ่งใครก็คงพึ่งได้ยากและมีแนวโน้มว่าคงจะพ่ายกองทัพอยุธยาเป็นแน่ บาทหลวงชาวฮอลันดา(ปินโต)บันทึกเอาไว้ว่า กองทัพอยุธยาที่ยกมาล้อมเชียงใหม่ครานี้มีทหารรับจ้างชาวโปรตุเกสหนึ่งกองร้อยพร้อมปืนไฟ สุดท้าย...พระนางตัดสินใจแต่งพานพุ่มออกมาแสดงความสวามิภักดิ์ต่อพระไชยราชาธิราชและเปิดประตูเมืองให้ทัพอยุธยาเข้า ด้วยเหตุว่าไม่มีวิธีอื่นใดในการที่จะรักษาเมืองไว้มากกไปกว่าวิธีนี้ หากใครได้เคยดูหนังเรื่อง "สุริโยทัย" คงเห็นฉากที่คุณเพ็ญพักตร์ แต่งชุดเจ้านางของเชียงใหม่ออกมาต้อนรับพระไชยราชาธิราช(แสดงโดยคุณพงพัฒน์)นั่นแหละครับพระนางมหาเทวีจิระประภา ในเรื่องอาจจะไม่เด่น เพราะเป็นหนังที่สร้างเพื่อเชิดชูอยุธยาโดยเฉพาะ
เมืองเชียงใหม่จึงรอดพ้นจากกองทัพอยุธยา ซึ่งต่อมาพระนางจิระประภาก็ติดต่อกับทางล้านช้างหลวงพระบาง ซึ่งมีพระเจ้าโพธิสาราชอันเป็นพระลูกเขยของพระนางจิระประภาเองให้มาช่วยเสริมกำลัง เผื่อว่าอยุธยาจะย้อนทัพกลับมาอีก จริงดั่งคาด....อยุธยาย้อนกลับมาอีกครา คราวนี้สู้รบกันอย่างแข็งขัน สมเด็จพระไชยราชาธิราชได้รับบาดเจ็บ จึงยกทัพกลับอยุธยา...ซึ่งต่อมาพระองค์ก็เสด็จสวรรค์คต นัยว่าโดนลอบวางยาพิษจากแม่หยัวเมืองศรีสุดาจันทร์(ตามหนังเรื่องสุริโยทัย)
หลังจากเสร็จศึกกับอยุธยาแล้ว พระนางจิระประภาก็สละราชย์โดยทรงโปรดให้พระเจ้าหลานเธอคือ "พระไชยเชษฐาธิราช" จากหลวงพระบางมาสืบราชย์ต่อจากพระนาง พระนางครองราชย์ได้เพียงปีกว่า ส่วนพระไชยเชษฐาธิราชก็ครองราชย์ได้ไม่นานคือปีกว่าๆ เช่นกันก็ต้องเสด็จกลับหลวงพระบางด้วยว่าพระราชบิดาเสด็จสวรรคตอย่างกระทันหัน(ตำราฝั่งลาวบอกว่าช้างล้มทับพระองค์) ช่วงที่เสด็จกลับนี้พระองค์ก็ได้อัญเชิญพระแก้วมรกตไปด้วย ส่วนพระนางจิระประภาก็เสด็จตามด้วย แล้วพระนางก็สิ้นพระชนม์ที่เมืองหลวงพระบางนั่นเอง
.... ยิ่งลักษณ์ไม่ใช่ "นารีขี่ม้าขาว" คนแรก จากเมืองเชียงใหม่....
วันนี้คุณพระรองมีใจตรงกันกับผมโดยบังเอิญ เพราะผมตั้งใจตั้งแต่เมื่อวานว่าจะเล่าเกร็ดประวัติของพระนางมหาเทวีจิระประภาเจ้า ในขณะที่ยังเขียนเหตุการณ์วนๆ เวียนๆ อยู่ในภาคเหนืออยู่ ผมกับคุณพระรองคล้ายกันอยู่อย่างคือเขียนสั้นๆ ไม่ค่อยจะเป็น พยายามจะตัด บั่น ทอน บางส่วนออกไป สุดท้ายลงเอยที่ยาวเยียด....เหมียนเดิม
ราชวงศ์เม็งรายมีพญาเม็งรายเป็นปฐมกษัตริย์ พระองค์ทรงพาไพร่ฟ้าประชาชนเสาะแสวงหาทำเลเพื่อ "สร้างบ้านแปงเมือง" ตั้งแต่เชียงราย เมืองฝาง
เวียงกุมกาม ลำพูน สุดท้ายพระองค์ก็ทรงได้ที่ราบลุ่มแม่น้ำปิงตอนบนเป็นจุดศูนย์กลางแล้วแผ่อาณาจักรไปอย่างกว้างขวางดั่งสมญานามชื่อแคว้น "ล้านนา" มีการสืบราชวงศ์มาอย่างยาวนานหลายพระองค์ บางรัชสมัยบ้านเมืองก็ออกศึกสงคราม บางรัชสมัยก็สงบรื่นรมย์จึงมาถึงยุคของพระเมืองเกษเกล้าที่มีพระนางมหาเทวีจิระประภาเป็นมเหสี เหตุการณ์บ้านเมืองในเชียงใหม่ตอนนั้นปั่นป่วน ด้วยว่าเหล่ามุขมนตรีมหาอำมาตย์แตกแยกมีใจฝักใฝ่แคว้นอื่นๆ อยู่ เพราะเชียงใหม่ขนาบด้วยแคว้นเชียงแสน ด้านตะวันออก ด้านเหนือก็แสนหวี ไปจนถึงตองอู ใต้ลงมาแคว้นอยุธยา สุดท้ายพระเมืองเกษเกล้าก็ถูกลอบปลงพระชนม์(ความจริงพระองค์ทรงขึ้นครองราชย์เป็นครั้งที่สอง) การสรรหาผู้สืบสันตติวงศ์ก็เป็นไปอยางปั่นป่วน อำมาตย์ฝ่ายนั้นก็จะเอาพระองค์นั้นมาสืบราชฯ ฝ่ายหนึ่งก็จะเอาอีกพระองค์ฯ ก็ตกลงพร้อมใจกันเห็นว่าพระนางมหาเทวีจิระประภาเจ้าควรเสด็จขึ้นครองราชย์ ตรงนี้ก็น่าชื่นชมนะครับ แม้จะขัดแย้งกันจะเป็นจะตาย สุดท้ายก็โหวตกันว่าจะเอาใคร เมื่อเสียง "ส่วนใหญ่" ว่าจะเอาพระนางจิระประภา ก็ยอมตามกันโดยไม่เกี่ยงว่าเป็นผู้หญิง ตรงนี้ใครที่เคยเหยียดหยามคนอื่นว่าไม่รู้จักประชาธิปไตย ว่าเสียงโหวตไม่มีค่าเท่าคนกรุงก็คิดเสียใหม่นะครับ อย่าลืมว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นมาแล้วหลายร้อยปีแล้ว (ว่าไปทำไมมี อย่าว่าแต่โหวตเลือกผู้นำเลยครับ โหวตขับไล่ผู้นำก็เคยมีมาแล้วในสมัยนั้น แต่ผมไม่กล้านำมาเล่า กัวววว อมยิ้มปลิว)
พระนางจิระประภาเจ้าทรงเป็น "กษัตรีย์" พระองค์แรกในราชวงศ์เม็งราย (ไม่เกี่ยวกับพระนางจามเทวีที่เล่าเมื่อวานนะครับอย่าสับสน) ช่วงที่ครองราชสมบัติก็มีเหตุการณ์วุ่นวายให้ต้องแก้ไขไม่ว่างเว้น "ศึกใน" ก็คือเหล่ามหาอำมาตย์มุขมนตรีก็ยังฮึมๆ ใส่กันอยู่ "ศึกนอก" ยิ่งหนักกว่าเมื่อกองทัพของพระไชยราชาธิราชจากอยุธยายกทัพหลวงหมายจะเข้าตีเชียงใหม่ ในภาวะคับขันเช่นนี้...พระนางจะพึ่งใครก็คงพึ่งได้ยากและมีแนวโน้มว่าคงจะพ่ายกองทัพอยุธยาเป็นแน่ บาทหลวงชาวฮอลันดา(ปินโต)บันทึกเอาไว้ว่า กองทัพอยุธยาที่ยกมาล้อมเชียงใหม่ครานี้มีทหารรับจ้างชาวโปรตุเกสหนึ่งกองร้อยพร้อมปืนไฟ สุดท้าย...พระนางตัดสินใจแต่งพานพุ่มออกมาแสดงความสวามิภักดิ์ต่อพระไชยราชาธิราชและเปิดประตูเมืองให้ทัพอยุธยาเข้า ด้วยเหตุว่าไม่มีวิธีอื่นใดในการที่จะรักษาเมืองไว้มากกไปกว่าวิธีนี้ หากใครได้เคยดูหนังเรื่อง "สุริโยทัย" คงเห็นฉากที่คุณเพ็ญพักตร์ แต่งชุดเจ้านางของเชียงใหม่ออกมาต้อนรับพระไชยราชาธิราช(แสดงโดยคุณพงพัฒน์)นั่นแหละครับพระนางมหาเทวีจิระประภา ในเรื่องอาจจะไม่เด่น เพราะเป็นหนังที่สร้างเพื่อเชิดชูอยุธยาโดยเฉพาะ
เมืองเชียงใหม่จึงรอดพ้นจากกองทัพอยุธยา ซึ่งต่อมาพระนางจิระประภาก็ติดต่อกับทางล้านช้างหลวงพระบาง ซึ่งมีพระเจ้าโพธิสาราชอันเป็นพระลูกเขยของพระนางจิระประภาเองให้มาช่วยเสริมกำลัง เผื่อว่าอยุธยาจะย้อนทัพกลับมาอีก จริงดั่งคาด....อยุธยาย้อนกลับมาอีกครา คราวนี้สู้รบกันอย่างแข็งขัน สมเด็จพระไชยราชาธิราชได้รับบาดเจ็บ จึงยกทัพกลับอยุธยา...ซึ่งต่อมาพระองค์ก็เสด็จสวรรค์คต นัยว่าโดนลอบวางยาพิษจากแม่หยัวเมืองศรีสุดาจันทร์(ตามหนังเรื่องสุริโยทัย)
หลังจากเสร็จศึกกับอยุธยาแล้ว พระนางจิระประภาก็สละราชย์โดยทรงโปรดให้พระเจ้าหลานเธอคือ "พระไชยเชษฐาธิราช" จากหลวงพระบางมาสืบราชย์ต่อจากพระนาง พระนางครองราชย์ได้เพียงปีกว่า ส่วนพระไชยเชษฐาธิราชก็ครองราชย์ได้ไม่นานคือปีกว่าๆ เช่นกันก็ต้องเสด็จกลับหลวงพระบางด้วยว่าพระราชบิดาเสด็จสวรรคตอย่างกระทันหัน(ตำราฝั่งลาวบอกว่าช้างล้มทับพระองค์) ช่วงที่เสด็จกลับนี้พระองค์ก็ได้อัญเชิญพระแก้วมรกตไปด้วย ส่วนพระนางจิระประภาก็เสด็จตามด้วย แล้วพระนางก็สิ้นพระชนม์ที่เมืองหลวงพระบางนั่นเอง