Nothing lasts forever หนึ่งในเพลงที่ถูกเปิดขึ้นที่สนามแอนฟิลด์เมื่อวานนี้ ก่อนที่เกมสุดท้ายในบ้านของฤดูกาลจะเริ่มขึ้น...
ทว่าเกมส์ในวันนี้ออกจะแปลกไปสักหน่อย เพราะผลแพ้ชนะอาจจะไม่ได้สำคัญอะไรมาก เท่ากับการได้กล่าวอำลาอย่างสมเกียรติแก่
สตีเว่น เจอร์ราร์ด



29 พฤศจิกายน 1998 เจอร์ราร์ดได้ลงไปสัมผัสบรรยากาศการเป็นนักเตะทีมชุดใหญ่ครั้งแรกในนาทีที่ 89 ของเกมส์พรีเมียร์ลีกกับแบล็คเบิร์นโรเวอรส์
ใครจะคิดว่าอีกสิบเจ็ดปีถัดมา เด็กหนุ่มตัวสำรองที่ไม่มีใครรู้จักในวันนั้น จะกลายมาเป็นอีกหนึ่งนักเตะในตำนานของหงส์แดงในวันนี้



สำหรับใครหลายๆคนคงจะมีความทรงจำเกี่ยวกับเจอร์ราร์ดแตกต่างกันไป แต่สำหรับเรา เราเริ่มต้นการดูพรีเมียร์ลีกในฤดูกาลแรกในทีมชุดใหญ่ของเขาเช่นกัน การที่เส้นทางชีวิตเราเติบโตมาจนถึงวันนี้ และการที่เจอร์ราร์ดกำลังจะลาจากทีมอันเป็นที่รักไป เหมือนชีวิตได้เดินทางมาถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ
ที่แม้ในบางครั้งเราไม่อยากให้เกิดขึ้น แต่ก็มิอาจต้านทานไว้ได้



เส้นทางชีวิตในฐานะนักเตะลิเวอร์พูลของเจอร์ราร์ด ไม่ว่าใครจะมองยัง แต่เขาก็รู้สึกภาคภูมิใจในทุกๆนาทีที่ได้ลงเตะเพื่อทีมอันเป็นที่รัก
เจอร์ราร์ดกล่าวอย่างทีเล่นทีจริงว่า เค้าคงไม่สามารถจะให้คะแนนอาชีพนักเตะของเขาทั้งสิบเจ็ดปีได้ แต่เขาขอเลือกให้คะแนนสองนัด
แห่งความทรงจำ คือ 9 สำหรับนัดชิงชนะเลิศ UCL ที่ Istanbul และ 0 สำหรับนัดแดงเดือดในแอนฟิลด์ที่เพิ่งผ่านไป



ในยุคที่ฟุตบอลสโมสรอังกฤษกลายเป็นธุรกิจ และของเล่นของมหาเศรษฐีจากทั่วโลก โอกาสที่เราจะเห็น Local boy
ที่เติบโตมาเป็นนักเตะหัวใจหลักและภักดีต่อทีมอย่างที่เจอร์ราร์ดเป็นคงจะน้อยลงเต็มที
และนี่ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งนอกเหนือจากความสามารถของเจอร์ราร์ดเอง
ที่ทำให้เขาได้รับความนับถือและคำแซ่ซ้องจากผู้คนทั่วทั้งแวดวงฟุตบอล

As Beckham simply put it ... "Loyalty"


นัดสุดท้ายในแอนฟิลด์ของเจอร์ราร์ดจะต้องมาเจอคู่ปรับเก่าที่สร้างความทรงจำอันโหดร้ายจากฤดูกาลที่แล้ว แม้การพลาดถ้วยพรีเมียร์ลีกจะเป็นความผิดหวังที่ยิ่งใหญ่ทีสุดในชีวิตค้าแข้งของเจอร์ราร์ด แต่เขาก็ไม่เคยนึกเสียใจที่เลือกยืนเคียงข้างลิเวอร์พูลตลอดมา และแม้ในวันนี้ที่เจอร์ราร์ดในวัย 34 จะไม่สามารถช่วยให้ทีมพลิกเกมส์กลับมาได้ อย่างที่เขาเคยทำได้อย่างน่าอัศจรรย์ในหลายๆครั้งที่ผ่านมาก็ตาม แต่เชื่อว่าแฟนบอลลิเวอร์พูลทุกคน
จะจดจำเขา ในฐานะนักเตะผู้ทรงคุณค่า และชื่อของเขา "สตีเว่น เจอร์ราร์ด" จะถูกจารึกไว้ในตำนานของทีมหงส์แดงตลอดไป ...

"The best there is, the best there was and the best there ever will be"


คำกล่าวอำลาสุดท้ายของเจอร์ราร์ดต่อแฟนบอลเดอะค็อป ...
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้"It felt very strange [stepping out at Anfield for the last time]. I've been dreading this moment. I'm going to miss it so much. I've loved every minute of it and I'm absolutely devastated I'm not going to play in front of these supporters again.

"It's very difficult to pick one. The very first time I ran out, thanks to this man here [Gerard Houllier] is a moment I'll never forget. The first time you play for Liverpool is a dream come true. Everything else after that was a bonus for me. The very first time to play for Liverpool was an absolute dream.

"The club's in good hands. We've got fantastic owners. We've got Ian [Ayre, chief executive] underneath that and a fantastic manager in Brendan [Rodgers]. As you can see there's unbelievable potential in the squad. I'm sure that there's going to be some new signings in the coming weeks but I look at the players in front of me who I've shared a dressing room with for many years, I absolutely love them to death and I wish them every success in the future.

"First and foremost I want to thank everyone at the club whose helped me over the last 17 years. From top to bottom there's too many people to name. I'd like to thank all my team-mates today, and the squad, even the players that didn't get on. All the ex-players that I've played with over the years, they've made me the player I am today. But I have to save my last thank you to the most important people at any football club but these supporters stand out more than anything I've experienced.



"Just before I go, before the tears come... I've played in front of most supporters around the world but let me tell you,
you are the best. Thank you very much, all the best."



#YNWA