ทำไมคนส่วนใหญ่ถึงคิดว่า " กล้อง "ต้องเซ็นเซอร์ใหญ่ถึงดีที่สุด

กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของผม

ผมอยากสอบถามน้าๆที่เล่นกล้อง
ว่าจำเป็นมากไหมที่การที่มีกล้องต้องเป็น
Full Frame ถึงดีที่สุด ต้องเป็นกล้องเซ็นเซอร์ใหญ่
ถึงจะดี ถ้าเป็น APS-C หรือ M4/3 ไม่ดีหรอ
มันต่างกันขนาดนั้นเลยหรอ แล้วAPS-C
มันต่างจาก M4/3 มากเลยหรอ เห็นเอามา
เปรียบเทียบกันแบบเชิงโจมตี อยากขอความเห็น
คนที่ใช้หลายๆ  System มาอธิบายเหตุผล
ของแต่ละแบบให้หน่อย เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน
ความคิดเห็น เพื่อคนที่เลือกซื้อกล้องจะได้รู้สึก
ไม่เสียใจเมื่อซื้อมาแล้ว เพื่อเห็นข้อดีของแต่ละ
System เพื่อเป็นแนวทางในการซื้อกล้องของ
แต่ละบุคคลด้วยครับ...

ปล.อยากเห็นกล้องทุกระบบใช้ร่วมกันและ
ไม่โจมตีใส่กันครับ...

ขอบคุณครับ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 18
จริงครับ ถ้าบนเทคโนโลยีเดียวกัน เอามาทำ Full Frame กับเอามาทำ APS-C หรือเล็กว่า ถ้า Sensor มีความละเอียดเท่าๆกันจำนวน Pixels เท่าๆกันหรือใกล้เคียงกัน ยังงัย FF ก็ต้องดีกว่า แต่ในความเป็นจริง มันไม่จริงเสมอไปครับ ทำไม???

เพราะไม่เคยมีช่วงไหนเลยที่ Sensor บน Full Frame จะใช้เทคโนโลยีเดียวกันกับบน Sensor เล็ก จะล้าหลังอยู่เสมอ บริษัทที่ทำ Sensor ก็คนละบริษัทกัน ถึงแม้ Sony เอง ที่เป็นมือปืนจ้างทำ Sensor ให้ค่ายอื่น ทำทั้ง Full Frame ทั้ง APS-C แถมตอนนี้ยังมาทำ m43 อีก เทคโนโลยีที่ใช้ทำ Sensor ทั้งหมดยังไม่เหมือนกันเลย ตัวที่ล้าหลังที่สุดคือ Full frame ทำไม ก็ยอดขาย Full frame มันน้อยกว่าชาวบ้าน ความคุ้มทุนเลยช้ากว่า เค้าก็ต้องผลิตให้คุ้มทุนก่อนถึงจะเปลี่ยนรุ่น เปลี่ยนเทคโนโลยีได้ เค้าเป็นบริษัทนะครับ ไม่ใช่องค์กรพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการกุศล ปัจจัยความคุ้มทุนเลยต้องมาก่อน แต่ที่ตอนนี้ Full frame ยังคุณภาพดีกว่า APS-C และ m43 มันไม่ได้อยู่ที่ปัจจัยเรื่อง Sensor อย่างเดียวครับ มันมีเรื่องเลนส์ด้วย Sensor Full frame แบกน้ำหนัก APS-C กับ m43 อยู่ด้วย แต่ถ้ายังมีการเจริญเติบโตช้าอยู่อย่างนี้ ในอนาคตไม่แน่ เพราะ Sensor ไม่เหมือนฟิล์ม คิดจะขยายเท่าไหร่ก็ได้ ง่ายๆ แต่พอเป็น Sensor จะเปลี่ยนอะไรที ต้องออกแบบกล้องใหม่ทั้งหมด

กล้อง Full frame ก็มีปัญหาของมัน ก็เหมือน Medium format หน่ะแหล่ะครับ ถ้าทุกคนต้องการแสวงหาแต่คุณภาพที่ดีที่สุด กล้องอื่นคงตายหมด กล้องที่ขายได้ดีก็ควรจะเป็น Medium format แต่ความจริงตรงข้ามเลย ปัญหาอย่างแรกเลยคือขอบภาพมืดกับเลนส์ที่มันไม่รู้จัก โดยเฉพาะเลนส์มุมกว้าง เพราะเรื่องแสงตกไม่ตรงระนาบ Sensor นี่แหล่ะ ปัจจุบันเค้าแก้โดยใช้ Software ในกล้องเอา ซึ่งจำเป็นต้องรู้ว่า เลนส์ที่ใช้เป็นเลนส์อะไร มีปัญหาตรงไหน ต้องไปแก้กลับยังงัย แต่ถ้าไม่รู้จัก อันนี้มึนตึบ จะเห็นเลยครับว่า ขอบภาพจะห่วยลงทันที แต่ปัญหาเหล่านี้จะไม่เกิดกับ APS-C และ m43 เพราะส่วนที่เกิด โดนตัดทิ้งไปแล้ว

เรื่องปัญหา DOF กับการถ่ายภาพ เป็นเรื่องของความคุ้นเคย จริงอยู่ ยิ่ง Sensor เล็ก DOF ก็จะสูง แต่เรื่องพวกนี้แก้ได้ด้วยทางยาวโฟกัสและระยะห่างที่เหมาะสม แน่นอน Perspective เปลี่ยน แต่ไม่มีใครบอกได้ว่า แล้ว Perspective ขนาดไหนถึงจะเหมาะ ขึ้นอยู่กับภาพ คนที่ไม่รู้มักจะบอกว่า ถ้าอยากได้ภาพเหมือนใช้เลนส์นี้ บนกล้องนี้ ก็เอาค่านี้คูณทางยาวโฟกัสเลนส์ไปสิ คนพวกนี้อ่านแต่ในตำราครับ ถ้าลองมาจับจริงจะรู้ว่า มันต้องปรับเปลี่ยนอะไรอีกหลายๆอย่าง ต้องใช้จนชินจะเข้าใจ เรื่องนี้ผมว่า แล้วแต่ชอบแต่ถนัดครับ

เรื่อง Noise กับ DR ก็ตามที่ผมบอกไปตอนต้น มันจะเหนือกว่าตอนออก Sensor ใหม่เท่านั้น เพราะเทคโนโลยีของ Full frame sensor จะล้าหลัง APS-C กับ m43 เสมอ โดยเฉพาะ m43 ที่มีผู้ผลิต Sensor ถึง 3 ราย และอาจจะ 4 ถ้า Kodak กลับมาเล่นด้วย(แอบฝันอยู่ลึกๆ) ตอนออกมาใหม่ๆก็จะดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด แล้วช่องว่างก็จะลดลงเรื่อยๆ พอใกล้จะทัน Full frame ก็ต้องหนีที เป็นอย่างนี้เรื่อยๆ แน่นอน ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง Full frame ต้องดีกว่า APS-C กับ m43 แน่ๆ แต่ความต่างจะไม่คงที่ มันจะลดลงเรื่อยๆ จนกว่า Full frame จะเปลี่ยนเทคโนโลยีที ถึงจะขึ้นมาใหม่ เป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆครับ

ปัญหาอีกข้อของระบบ Full frame คือระบบที่ใหญ่ ตัวนี้แหล่ะครับที่เป็นปัญหาหลักของมันเมื่อเทียบกับ Sensor เล็ก อย่าดูถูกเรื่องนี้นะครับ เพราะเรื่องนี้แหล่ะที่ทำให้ Medium format โดน 35mm เขี่ยตกแชมป์ในอดีต ต้องกลายเป็นกล้อง Pro only ไป เหตุการณ์แบบนี้กำลังจะเกิดกับ Full frame DSLR ซ้ำรอยเดิมในประวัติศาสตร์เลยครับ ระบบใหญ่ ความคล่องตัวต่ำ โอกาสได้ภาพก็น้อยลง ถ้าระบบเล็ก แล้วคุณภาพไม่หนีกันเท่าไหร่ อย่างเจอระบบแขว่งไข่บนขาตั้งกล้องของ e-m5 markII เข้าไป ถ้าเค้าทำได้โดยไม่ต้องใช้ขาตั้ง อันนี้แหล่ะ มีหนาวแน่ แล้ว Full frame ทำตามก็ไม่ง่าย เพราะ Sensor ใหญ่เกินไป ควบคุมยากกว่าเยอะ ถ้าทำได้ IS เทพ คงลงไปสถิตบน A7 นานแล้วแหล่ะครับ

ทุกระบบมีข้อดีข้อเสียหมด ถ้าใน Studio หรือกองงานมืออาชีพที่ขนาดของระบบไม่เป็นปัญหา Full frame ก็จะยังหมาะสมอยู่ (เหมือนที่ Medium format เคยยึดครองตลาดนี้สมัยกล้องฟิล์ม) แต่ถ้าความคล่องตัวเป็นโจทย์หลัก อันนี้ก็ไม่แน่ โลกมันเปลี่ยนเร็ว สิ่งที่ผมเขียนนี่ อาจจะไม่เป็นจริงในปีหน้าแล้วก็ได้ ใครจะรู้
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
ถ้าพูดถึงผลลัพท์ที่ได้... แน่นอนครับว่า Sensor ใหญ่ๆยังไงก็ได้ภาพดีกว่า

แต่ในความเป็นจริง... มันอยู่ที่ความพอใจว่าเราต้องการดีแค่ไหนครับ

นอกจากนี้ การเลือกซื้อกล้องสมัยนี้.. หรืออย่างน้อยๆก็ของผมคนหนึ่ง ไม่ได้ดูแค่ภาพที่ได้แต่ดูอย่างอื่นอีกหลายอย่างครับ

ผมเลือก M4/3
# ผมพอใจในคุณภาพแล้ว
# ผมพึงพอใจในความสามารถละลายหลัง เพราะมันเป็นสาเหตุต้นๆที่คนเลือกไปเซนเซอร์ใหญ่ๆ ผมไม่ต้องการละลายหลังมาก จริงอยู่ว่ามันสามารถเพิ่ม F ได้ แต่ก็ทำให้เสียแสงไป แต่ M4/3 นั้น ผมสามารถเปิด F1.4 1.2 0.95 ถ่ายได้ตลอด โดยเฉพาะตอนกลางคืนที่แสงน้อยๆ โดยที่ไม่ต้องกลัวหลุด DOF
# เลนส์ อันนี้สำคัญมากครับ ด้วยความที่ Sensor เล็ก เลนส์ย่อมขนาดเล็กและเบากว่า และสามารถออกแบบให้ความคมชัดยันขอบครอบคลุม Sensor ได้ง่ายกว่า ถ้าเลนส์ Top ก็คงคมไม่แพ้กัน (แต่ผมคงไม่เอื้มไปเลนส์ระดับนั้น) แต่สำหรับเลนส์ถูกๆระดับ Entry ความคมก็เกินราคา ใช้งานได้จริงครับ ต่างจากบางค่ายที่เลนส์ดีๆไปกองอยู่ราคาแพงๆทั้งนั้น เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำไม M4/3 ถึงขึ้นชื่อเรื่องความคม ที่คมกว่า APSC หลายตัว หรือบางทีก็อาจไปเทียบ FF บ้าง
# โฟกัสไว อาจไม่เกี่ยวกับความเป็น M4/3 แต่ผมซื้อกล้องเพราะอยากได้รูป ถ้าเก็บรูปไม่ทัน มันก็ไม่ตอบโจทย์เรา
# ขนาดและน้ำหนัก อย่างที่บอกว่ามันผมซื้อกล้องเพราะอยากได้รูป แต่ถ้าเราไม่มีความสุขกับการหยิบมันไปถ่ายรูป.. ก็คงไม่มีประโยชน์

สรุปก็คือ..
กล้อง Sensor ใหญ่ เป็น กล้องที่ให้ภาพดีที่สุด แต่ไม่ใช่ กล้องที่ดีที่สุด

สำหรับผม.. คนที่คิดว่า กล้องที่ให้ภาพดีที่สุดคือกล้องที่ดีที่สุด ก็ไม่ต่างอะไรกับคนที่คิดว่า รถที่เร็วที่สุดคือรถที่ดีที่สุด
ความคิดเห็นที่ 21
ดี  สำหรับแต่ละคนมันไม่เหมือนกันครับ  

เล็กดี  เบาดี  ใช้ง่ายดี  ปุ่มเยอะดี  เร็วดี  ไฟล์ดี  ถูกดี  


เซ็นเซอร์ใหญ่ๆ มันได้เปรียบชัดๆตรง คุณภาพไฟล์ดี  เท่านั้นหละครับ  


ส่วนหัวข้ออื่นๆ   ก็เอาไปชั่งน้ำหนักตามความต้องการ ของตนเองเลย  
ว่าให้ความสำคัญกับหัวข้อไหนมากกว่า เพราะความต้องการของคนเรา แต่ละคน   ไม่เหมือนกัน
ความคิดเห็นที่ 20
ผมว่า จขกท. ไม่ต้องไปสนใจกลุ่มอื่นมากหรอกครับ
กลุ่มไหนที่คนในกลุ่มรู้ประสา เค้าก็ไปเที่ยวด้วยกัน ถ่ายภาพด้วยกันได้หมดนั่นแหละ ผมไปเที่ยวกับเพื่อน คนไม่จริงจังก็ใช้สมาร์ทโฟนถ่าย เน้นสะดวกก็คอมแพ็ค จริงจังแต่อยากพกเบาๆก็ MRL จริงจังมาก บ้าพลังก็แบก DSLR จะขนาดเซ็นเซอร์เล็กเท่าจิ๋มมด หรือใหญ่เท่าฝาบ้าน เค้าก็ไปเที่ยวกันได้ครับ ไม่ต้องไปเดือดร้อนแทนเค้าหรอก
     เท่าที่เห็นกลุ่มที่มีปัญหาคือ มันมีพวกที่ รวย ซื้ออุปกรณ์แพงๆมาใช้ แล้วชอบคุยทับถมคนอื่น กับพวกที่ อุปกรณ์มีข้อจำกัดกว่า (ขนาดเซ็นเซอร์หรืออะไรก็ตาม) แล้วพยายามจะอวดว่าของที่ฉันมี ดีเท่าพวกแก หรือมีหลายจุดที่ดีกว่า(บางคนรู้ข้อด้อย แต่หลับหูหลับตาอวยของในมือตัวเอง เช่นพวกบ้ายี่ห้อ ไม่รับรู้ความจริงอะไรหรอก กรูใช้อะไรกรูก็อวยว่าของกรูดีที่สุดในกลุ่ม จะบาง เบา กันน้ำ กันสั่น อะไรก็ตามแต่) มันเริ่มการทะเลาะเพราะไอ้คนแบบนี้ล่ะ พอเค้าเอาความจริงมาพูดก็ไม่ฟัง ดันทุรังจะเอาชนะให้ได้ มันเลยเถียงกันไม่จบ
    คนแบบที่ว่าผมเคยออกทริปด้วย ปัจจุบันก็ไปตามทางของเค้าแล้ว ในกลุ่มผมที่เหลือก็คือคนที่ไม่อวด ใครพอใจอะไรก็ใช้ไป รู้ข้อดีข้อเสียกันอยู่แล้ว คนเล่นกล้องเหมือนกัน
   สรุปว่า

เซ็นเซอร์ใหญ่ ให้คุณภาพที่ดีกว่าเซ็นเซอร์เล็กแน่นอน
DSLR กับ MRL ให้คุณภาพไฟล์ที่ดีเท่ากัน เพราะมันแค่ไม่มีกระจกสะท้อนภาพ

จะซื้อกล้องต้องมองทั้งระบบ ว่าเราอยากได้ข้อดีอะไรจากมัน เช่น ความถึก ทน ระบบที่มีของให้ใช้หลากหลาย ความเร็วในการโฟกัส หรือความละเอียดที่ดีแต่ไม่เน้นความเร็ว พกสะดวกหรือใหญ่ เต็มไม้เต็มมือ เลือกที่เราชอบครับ ทุกยี่ห้อทุกระบบมีข้อดีข้อเสียทั้งนั้น

ส่วนใครที่มีคนในกลุ่่มขี้อวด ชอบคุยทับถมเรื่องอุปกรณ์ ขนาดว่าฉันใช้กล้องเทพ ราคาแพง เซ็นเซอร์เล็กอย่ามาออกทริปด้วย ถ้าขนาดนั้นก็ปล่อยไปเหอะครับ ปัญญาอ่อนแล้วล่ะนั่น
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  กล้อง Olympus กล้อง Mirrorless กล้อง Fuji กล้อง Sony ช่างภาพ
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่