10
ฉันนอนอย่างกระสับกระส่าย พลิกตัวไปมากับพื้นกระเบื้องเย็นเฉียบ คืนนี้ฉันลงทุนขนหมอน หมอนข้าง ผ้าห่มลงมาหมด เพราะถ้าขืนนอนบนเตียง...มีหวังได้ไปตื่นที่ห้องนั้นอีกแน่ๆ ไม่เอาอ่ะ ช่วงนี้ยังไม่อยากเจอหน้าใครบางคน -///-
แต่นอนเท่าไหร่ก็ไม่หลับซะทีแฮะ!
ฉันถอนใจอย่างรำคาญ เอื้อมมือหยิบหูฟังบนหัวเตียงมาเสียบกับโทรศัพท์มือถือของตัวเอง แล้วเปิดเพลงฟังเพลินๆ ฟังเรื่อยๆ ...ก็เริ่มง่วงงงงง
ปรือ *o*
หลับ? =o=
หลับ? -o-
หลับ _ _ คร่อกกก ZzZ
(อีกฟากหนึ่งของบ้าน)***
“เออพ่อ บอกลูกรึยังว่าพรุ่งนี้เราจะไปเที่ยวตลาดน้ำกันน่ะ?” อริษาโพล่งขึ้นอย่างคนเพิ่งนึกขึ้นได้
“ยังเลย!” นุกูลตอบแบบเพิ่งนึกขึ้นได้เหมือนกัน อริษาขมวดคิ้วหงุดหงิด
“แล้วจะมามัวยืนมองหน้าแม่ทำไมล่ะ ก็รีบไปบอกลูกซะสิ ป่านนี้ลูกมันไม่นอนแล้วเรอะ ไปซี่” หล่อนตวาดลั่น นั่นจึงทำให้สามีรีบวิ่งขึ้นบันไดไปอย่างรวดเร็วเพราะกลัวเมียจับใจ =o=lll
ก๊อกๆ
“พ่อเข้าไปนะลูก?”
เงียบ...
แอ๊ดดดด~ กริบ
ผู้เป็นพ่อปิดประตูอย่างเบามือที่สุด มองไปทั่วห้องท่ามกลางความมืด และก็ต้องอุทานเมื่อเห็นลูกสาวตัวเองลงมานอนม้วนอยู่กับผ้าห่มข้างล่าง เขาส่ายหน้าช้าๆ แล้วเดินเข้าไปอุ้มลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนขึ้นเตียงนอนโดยที่ไม่รู้สาเหตุว่าทำไมเธอถึงต้องหนีลงมานอนข้างล่าง
ตุ้บ!
ร่างของนิกิมหล่นตุ้บลงบนเตียงเบาๆ เธอครางออกมาอย่างรำคาญที่มีคนมารบกวนตอนหลับ
“ทำไมมาหลับข้างล่างนี่ล่ะลูก อ่ะ...นอนหลับสบายๆ ซะที ^^” ผู้เป็นพ่อจัดท่านอนให้ลูกเสร็จสรรพ นิกิมหน้าเบ้ ควานหาอะไรสักอย่างกับอากาศ เธอยกมือขึ้นเหมือนจะคว้าสิ่งนั้นแล้วก็ตกลงแหมะกับเตียง
“อือ~”
นุกูลกระตุกคิ้วเพิ่งนึกขึ้นได้ เขารีบก้มลงหยิบหมอนข้างขึ้นมาให้ลูกทันที พอมือควานหาเจ้าสิ่งนั้นได้ เธอก็คว้ามันมากอดแนบแน่นแทบจะฝังตัวไปกับมัน นุกูลส่ายหน้ายิ้มๆ เขาลองแกล้งถามลูกตอนหลับเรื่องจะไปเที่ยวพรุ่งนี้
“นิกิม พรุ่งนี้ไปเที่ยวตลาดน้ำกันมั้ยลูก?”
“ฮื่อ!” เธอสบถออกมาแล้วพลิกตัวหันหลังหนี นุกูลแกล้งอีก
“ไม่ไปเหรอ? มีของกินเต็มเลยนา”
“อือ~ ไปกันสองคนเถอะ ขี้เกียจ จะนอน” นิกิมตอบเสียงงัวเงียๆ ฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง นุกูลยิ้มกระหยิ่มในใจ >_< เพราะนานๆ ทีจะได้ไปเที่ยวกับภรรยาสองคน ทีนี้ล่ะ...เขาจะได้ไม่เป็นหมาหัวเน่าในสายตาภรรยาอีก (พ่อขี้อิจฉา? - -*)
“งั้นพ่อกับแม่ไปกันสองคนนะ ลูกอยู่เฝ้าบ้านนะ ^^”
เงียบ...
“อิอิ ราตรีสวัสดิ์จ้าลูก ^3^” เขาพูดเอง นึกเองเสร็จสรรพ ก้มลงจุ๊บหน้าผากลูกอย่างรักใคร่และขอบคุณที่สุด แล้วรีบเดินออกไปจากห้องด้วยสีหน้าชื่นบาน
กริ๊บ
โดยไม่ลืมปิดประตูอย่างเบามือที่สุดด้วย >_< อู๊ยยย กลัวลูกตื่น งิงิ
(end : พ่อสุดประเสริฐ)
หนาว...ทำไมคืนนี้มันหนาวจังนะ
ฉันพลิกตัวไปมาอยู่หลายรอบ ดึงผ้าห่มอุ่นๆ ขึ้นมาปิดถึงคอ ต่อมาก็เริ่มคลุมโปงเพราะมันหนาวจริงๆ ความเงียบและความเหน็บหนาวทำให้ฉันไม่อยากลืมตาตื่นขึ้นมาเลยสักนิด อยากจะหลับยาวววว~ ไปจนถึงเช้า
ฉันซุกหน้ากับผ้าห่มยับยู่ยี่ที่ดึงแล้วดึงอีกมาห่มให้มิด แล้วหลับต่อ
เสียงหายใจของตัวเองดังอยู่ภายใต้ผ้าห่ม ยิ่งหายใจมากอากาศภายในนั้นก็ยิ่งหมดเร็วจนรู้สึกอึดอัด ฉันก็เลยโผล่หน้าขึ้นมาเพียงนิดเดียวเพื่อที่จะได้หายใจสะดวกขึ้น
“ซื้ดดด -.,-” โอย น้ำมูกไหล จะเป็นหวัดแน่เลยเรา ซื้ดดด -,,-
วู่ววววววว~
วิ่วววว~
“อือ~ ^.,^” ฉันยิ้มพอใจที่รู้สึกว่ากระไอเย็นมันจะเบาบางลงบ้างแล้ว เสียงการทำงานของมันก็เบาตามลงไปด้วย นั่นแหละๆ กำลังดี
ฉันพลิกตัว นอนตะแคงไปอีกข้าง ควานหาหมอนข้างทั้งที่ยังหลับตาอยู่ อยู่ไหนอีกเนี่ยยยย??? อ๊ะ เจอแล้ว
ฉันขยับตัวเข้าไปใกล้ๆ มันแล้วพาดขาก่ายเต็มที่ โอบกอดหมอนข้างแข็งๆ อย่างแนบชิดชนิดที่ว่าอากาศไม่สามารถผ่านได้
อือ~ สงสัยหมอนข้างมันใหม่น่ะ นุ่นมันเลยยัดแน่นจนแข็งปึ้กขนาดนี้ ฉันไม่สนว่าหมอนข้างมันจะแข็งรึนิ่ม เพียงแค่มีมันให้กอดให้ก่ายฉันก็หลับได้สบายแล้ว ว่าแต่ทำไมคืนนี้หมอนมันอุ่นจังนะ ฟุดฟิดๆ -..- กลิ่นก็แปลกๆ ด้วยนี่นา กลิ่นมันหอมเหมือน...
ฉันลืมตาขึ้นท่ามกลางความมืดสนิทของห้อง หมอนข้างที่ฉันกอดก่ายเต็มเหนี่ยวเริ่มสั่นน้อยๆ ฉันขมวดคิ้วพยายามลืมตาขึ้นให้ได้แล้วแหงนหน้าขึ้นมองใครบางคนที่ฉันกะไว้แล้วตั้งแต่ได้กลิ่น!
เฮือก! O_O
ฉันทะลึ่งตัวลุกขึ้นนั่ง เบิกตามองพี่บริงค์จริงๆ ที่นั่งกัดแขนตัวเองแถมทั้งตัวก็ยังสั่นระริกอีก พอฉันลุกนั่นแหละ เขาถึงได้ปล่อยแขนตามไปด้วย และสีหน้าแปลกๆ เมื่อกี้ก็ดูโล่งอกมากขึ้นเยอะ ว่าแต่...ฉันจำได้นะว่าฉันนอนพื้น? แล้ว...แล้วฉันมาโผล่ที่นี่ได้ยังไงเนี่ย?!
นับตั้งแต่วันที่ฉันรักเธอ [ตอนที่ 10]
ฉันนอนอย่างกระสับกระส่าย พลิกตัวไปมากับพื้นกระเบื้องเย็นเฉียบ คืนนี้ฉันลงทุนขนหมอน หมอนข้าง ผ้าห่มลงมาหมด เพราะถ้าขืนนอนบนเตียง...มีหวังได้ไปตื่นที่ห้องนั้นอีกแน่ๆ ไม่เอาอ่ะ ช่วงนี้ยังไม่อยากเจอหน้าใครบางคน -///-
แต่นอนเท่าไหร่ก็ไม่หลับซะทีแฮะ!
ฉันถอนใจอย่างรำคาญ เอื้อมมือหยิบหูฟังบนหัวเตียงมาเสียบกับโทรศัพท์มือถือของตัวเอง แล้วเปิดเพลงฟังเพลินๆ ฟังเรื่อยๆ ...ก็เริ่มง่วงงงงง
ปรือ *o*
หลับ? =o=
หลับ? -o-
หลับ _ _ คร่อกกก ZzZ
(อีกฟากหนึ่งของบ้าน)***
“เออพ่อ บอกลูกรึยังว่าพรุ่งนี้เราจะไปเที่ยวตลาดน้ำกันน่ะ?” อริษาโพล่งขึ้นอย่างคนเพิ่งนึกขึ้นได้
“ยังเลย!” นุกูลตอบแบบเพิ่งนึกขึ้นได้เหมือนกัน อริษาขมวดคิ้วหงุดหงิด
“แล้วจะมามัวยืนมองหน้าแม่ทำไมล่ะ ก็รีบไปบอกลูกซะสิ ป่านนี้ลูกมันไม่นอนแล้วเรอะ ไปซี่” หล่อนตวาดลั่น นั่นจึงทำให้สามีรีบวิ่งขึ้นบันไดไปอย่างรวดเร็วเพราะกลัวเมียจับใจ =o=lll
ก๊อกๆ
“พ่อเข้าไปนะลูก?”
เงียบ...
แอ๊ดดดด~ กริบ
ผู้เป็นพ่อปิดประตูอย่างเบามือที่สุด มองไปทั่วห้องท่ามกลางความมืด และก็ต้องอุทานเมื่อเห็นลูกสาวตัวเองลงมานอนม้วนอยู่กับผ้าห่มข้างล่าง เขาส่ายหน้าช้าๆ แล้วเดินเข้าไปอุ้มลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนขึ้นเตียงนอนโดยที่ไม่รู้สาเหตุว่าทำไมเธอถึงต้องหนีลงมานอนข้างล่าง
ตุ้บ!
ร่างของนิกิมหล่นตุ้บลงบนเตียงเบาๆ เธอครางออกมาอย่างรำคาญที่มีคนมารบกวนตอนหลับ
“ทำไมมาหลับข้างล่างนี่ล่ะลูก อ่ะ...นอนหลับสบายๆ ซะที ^^” ผู้เป็นพ่อจัดท่านอนให้ลูกเสร็จสรรพ นิกิมหน้าเบ้ ควานหาอะไรสักอย่างกับอากาศ เธอยกมือขึ้นเหมือนจะคว้าสิ่งนั้นแล้วก็ตกลงแหมะกับเตียง
“อือ~”
นุกูลกระตุกคิ้วเพิ่งนึกขึ้นได้ เขารีบก้มลงหยิบหมอนข้างขึ้นมาให้ลูกทันที พอมือควานหาเจ้าสิ่งนั้นได้ เธอก็คว้ามันมากอดแนบแน่นแทบจะฝังตัวไปกับมัน นุกูลส่ายหน้ายิ้มๆ เขาลองแกล้งถามลูกตอนหลับเรื่องจะไปเที่ยวพรุ่งนี้
“นิกิม พรุ่งนี้ไปเที่ยวตลาดน้ำกันมั้ยลูก?”
“ฮื่อ!” เธอสบถออกมาแล้วพลิกตัวหันหลังหนี นุกูลแกล้งอีก
“ไม่ไปเหรอ? มีของกินเต็มเลยนา”
“อือ~ ไปกันสองคนเถอะ ขี้เกียจ จะนอน” นิกิมตอบเสียงงัวเงียๆ ฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง นุกูลยิ้มกระหยิ่มในใจ >_< เพราะนานๆ ทีจะได้ไปเที่ยวกับภรรยาสองคน ทีนี้ล่ะ...เขาจะได้ไม่เป็นหมาหัวเน่าในสายตาภรรยาอีก (พ่อขี้อิจฉา? - -*)
“งั้นพ่อกับแม่ไปกันสองคนนะ ลูกอยู่เฝ้าบ้านนะ ^^”
เงียบ...
“อิอิ ราตรีสวัสดิ์จ้าลูก ^3^” เขาพูดเอง นึกเองเสร็จสรรพ ก้มลงจุ๊บหน้าผากลูกอย่างรักใคร่และขอบคุณที่สุด แล้วรีบเดินออกไปจากห้องด้วยสีหน้าชื่นบาน
กริ๊บ
โดยไม่ลืมปิดประตูอย่างเบามือที่สุดด้วย >_< อู๊ยยย กลัวลูกตื่น งิงิ
(end : พ่อสุดประเสริฐ)
หนาว...ทำไมคืนนี้มันหนาวจังนะ
ฉันพลิกตัวไปมาอยู่หลายรอบ ดึงผ้าห่มอุ่นๆ ขึ้นมาปิดถึงคอ ต่อมาก็เริ่มคลุมโปงเพราะมันหนาวจริงๆ ความเงียบและความเหน็บหนาวทำให้ฉันไม่อยากลืมตาตื่นขึ้นมาเลยสักนิด อยากจะหลับยาวววว~ ไปจนถึงเช้า
ฉันซุกหน้ากับผ้าห่มยับยู่ยี่ที่ดึงแล้วดึงอีกมาห่มให้มิด แล้วหลับต่อ
เสียงหายใจของตัวเองดังอยู่ภายใต้ผ้าห่ม ยิ่งหายใจมากอากาศภายในนั้นก็ยิ่งหมดเร็วจนรู้สึกอึดอัด ฉันก็เลยโผล่หน้าขึ้นมาเพียงนิดเดียวเพื่อที่จะได้หายใจสะดวกขึ้น
“ซื้ดดด -.,-” โอย น้ำมูกไหล จะเป็นหวัดแน่เลยเรา ซื้ดดด -,,-
วู่ววววววว~
วิ่วววว~
“อือ~ ^.,^” ฉันยิ้มพอใจที่รู้สึกว่ากระไอเย็นมันจะเบาบางลงบ้างแล้ว เสียงการทำงานของมันก็เบาตามลงไปด้วย นั่นแหละๆ กำลังดี
ฉันพลิกตัว นอนตะแคงไปอีกข้าง ควานหาหมอนข้างทั้งที่ยังหลับตาอยู่ อยู่ไหนอีกเนี่ยยยย??? อ๊ะ เจอแล้ว
ฉันขยับตัวเข้าไปใกล้ๆ มันแล้วพาดขาก่ายเต็มที่ โอบกอดหมอนข้างแข็งๆ อย่างแนบชิดชนิดที่ว่าอากาศไม่สามารถผ่านได้
อือ~ สงสัยหมอนข้างมันใหม่น่ะ นุ่นมันเลยยัดแน่นจนแข็งปึ้กขนาดนี้ ฉันไม่สนว่าหมอนข้างมันจะแข็งรึนิ่ม เพียงแค่มีมันให้กอดให้ก่ายฉันก็หลับได้สบายแล้ว ว่าแต่ทำไมคืนนี้หมอนมันอุ่นจังนะ ฟุดฟิดๆ -..- กลิ่นก็แปลกๆ ด้วยนี่นา กลิ่นมันหอมเหมือน...
ฉันลืมตาขึ้นท่ามกลางความมืดสนิทของห้อง หมอนข้างที่ฉันกอดก่ายเต็มเหนี่ยวเริ่มสั่นน้อยๆ ฉันขมวดคิ้วพยายามลืมตาขึ้นให้ได้แล้วแหงนหน้าขึ้นมองใครบางคนที่ฉันกะไว้แล้วตั้งแต่ได้กลิ่น!
เฮือก! O_O
ฉันทะลึ่งตัวลุกขึ้นนั่ง เบิกตามองพี่บริงค์จริงๆ ที่นั่งกัดแขนตัวเองแถมทั้งตัวก็ยังสั่นระริกอีก พอฉันลุกนั่นแหละ เขาถึงได้ปล่อยแขนตามไปด้วย และสีหน้าแปลกๆ เมื่อกี้ก็ดูโล่งอกมากขึ้นเยอะ ว่าแต่...ฉันจำได้นะว่าฉันนอนพื้น? แล้ว...แล้วฉันมาโผล่ที่นี่ได้ยังไงเนี่ย?!