สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 28
Santana
นี่แหละครับ...."สามช่าลาติน" ของแท้..!!!
ซันทาน่ามีงานดีๆมากมาย
ในยุคบุปผาชนไม่มีใครไม่รู้จัก แบล็ค แมจิค วูแม่น
หรือแม้แต่งานบรรเลงกีต้าร์ที่งดงามอย่าง แซมบ้า ปาร์ตี้ ทุกวันนี้ยังคงขลังเสมอ

ในยุคหลังๆน้าแกก็ยังไม่หมดไฟ
เพลงฮิตอย่าง Oye Como Va นั้น
ช่างเป็นเพลงเต้นรำที่สนุกสนานซะจริงๆ
ซันทาน่าเป็นตำนานของ "ลาติน ร็อค" เลยก็ว่าได้ครัฟฟฟ
อยู่ยั้งยืนยงคงกระพันมาตั้งแต่ยุค 70
จนป่านนี้ พศ.อะไรแล้ว ...ลองคิดดูเอาเองเถอะขอรับ...

ไม่ว่าจะฟีเจอริงกับใคร
ทุกคนที่มาร้องให้น้าแก
จะต้องปรับตัวให้เข้ากับโทนดนตรีของน้าไปโดยปริยาย
เสียงกีต้าร์ของซันทาน่า
เป็น "ลายเซ็นต์" ที่ทุกคนจำได้ครับ
เรียกว่าได้ยินสำเนียงแบบนี้ที่ไหนก็ตาม
ก็จะสามารถบอกได้เลยว่า "นี่คือซันทาน่าสไตล์"
ในเมืองไทยมีคนที่เล่นได้ใกล้เคียงซันทาน่าที่สุด
ก็คือ "คุณอำนาจ ศรีมา" อดีตมือกีต้าร์ของ "รอยัล สไปร้ท" ขอรับ
และพี่อำนาจก็ใช้กิ๊บสัน เลส พอล แบบที่ซันทาน่าใช้ในยุคแรกๆอีกต่างหาก
แม้ว่าตอนหลังๆซันทาน่าจะเปลี่ยนมาใช้ "พอล รี๊ด สมิทธ์"
ที่ตัวเองเป็น แบรนด์ แอมบาสซาเดอร์ ให้เขาอยู่ก็ตามเถอะ
แต่ผู้คนจะจดจำซันทาน่าในภาพของ กีต้าร์กิ๊บสัน เลส พอล ครับ
จ่าเจอพี่อำนาจครั้งสุดท้ายนานมาแล้วในงานศพแม่แกนั่นแหละ
พี่อำนาจยังคงรักและหลงไหลสำเนียงกีต้าร์แบบซันทาน่าไม่เสื่อมคลาย
แต่หากเป็นในแบบของวงดนตรีแล้ว
จ่ามองว่า "คาราบาว" คือวงที่ได้รับอิทธิพลจากซันทาน่าสูงมาก
เพราะพวกเขาทำเพลงแบบสามช่าจังหวะ โจ๊ะ โจ๊ะ
ที่มันช่างชวนให้นึกถึงซันทาน่าดีจริงๆเลย...พับผ่าเถอะ...
จ่าได้ดูโชว์ของซันทาน่าครั้งสุดท้าย
ที่เขามาเล่นที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานีนี่แหละครับ
จ่าว่า "พลัง" ของน้าแกลดลงไปเยอะ...ก็แหมมม..น้าแกปัจฉิมวัยซะขนาดนี้
แต่มีอยู่ช่วงหนึ่งของโชว์
ที่จ่าประทับใจมาจนทุกวันนี้
ก้คือตอนที่ดนตรีบรรเลงไปเรื่อยๆสบายๆ
และน้าซันทาน่าออกมายืนอ่านบทกวี
เพื่อเรียกหาสันติภาพและความรักครับ
เป็นช่วงที่จ่าชอบที่สุดในโชว์คืนนั้นเลย
ฟัง Samba pa ti กันดีกว่าครัฟฟฟฟ
น้าแกแสดงสดเมื่อปี 2011 นี้เองที่มอนโทรวครัฟฟฟ

จ่าพิเชษฐ์
นี่แหละครับ...."สามช่าลาติน" ของแท้..!!!
ซันทาน่ามีงานดีๆมากมาย
ในยุคบุปผาชนไม่มีใครไม่รู้จัก แบล็ค แมจิค วูแม่น
หรือแม้แต่งานบรรเลงกีต้าร์ที่งดงามอย่าง แซมบ้า ปาร์ตี้ ทุกวันนี้ยังคงขลังเสมอ

ในยุคหลังๆน้าแกก็ยังไม่หมดไฟ
เพลงฮิตอย่าง Oye Como Va นั้น
ช่างเป็นเพลงเต้นรำที่สนุกสนานซะจริงๆ
ซันทาน่าเป็นตำนานของ "ลาติน ร็อค" เลยก็ว่าได้ครัฟฟฟ
อยู่ยั้งยืนยงคงกระพันมาตั้งแต่ยุค 70
จนป่านนี้ พศ.อะไรแล้ว ...ลองคิดดูเอาเองเถอะขอรับ...

ไม่ว่าจะฟีเจอริงกับใคร
ทุกคนที่มาร้องให้น้าแก
จะต้องปรับตัวให้เข้ากับโทนดนตรีของน้าไปโดยปริยาย
เสียงกีต้าร์ของซันทาน่า
เป็น "ลายเซ็นต์" ที่ทุกคนจำได้ครับ
เรียกว่าได้ยินสำเนียงแบบนี้ที่ไหนก็ตาม
ก็จะสามารถบอกได้เลยว่า "นี่คือซันทาน่าสไตล์"
ในเมืองไทยมีคนที่เล่นได้ใกล้เคียงซันทาน่าที่สุด
ก็คือ "คุณอำนาจ ศรีมา" อดีตมือกีต้าร์ของ "รอยัล สไปร้ท" ขอรับ
และพี่อำนาจก็ใช้กิ๊บสัน เลส พอล แบบที่ซันทาน่าใช้ในยุคแรกๆอีกต่างหาก
แม้ว่าตอนหลังๆซันทาน่าจะเปลี่ยนมาใช้ "พอล รี๊ด สมิทธ์"
ที่ตัวเองเป็น แบรนด์ แอมบาสซาเดอร์ ให้เขาอยู่ก็ตามเถอะ
แต่ผู้คนจะจดจำซันทาน่าในภาพของ กีต้าร์กิ๊บสัน เลส พอล ครับ
จ่าเจอพี่อำนาจครั้งสุดท้ายนานมาแล้วในงานศพแม่แกนั่นแหละ
พี่อำนาจยังคงรักและหลงไหลสำเนียงกีต้าร์แบบซันทาน่าไม่เสื่อมคลาย
แต่หากเป็นในแบบของวงดนตรีแล้ว
จ่ามองว่า "คาราบาว" คือวงที่ได้รับอิทธิพลจากซันทาน่าสูงมาก
เพราะพวกเขาทำเพลงแบบสามช่าจังหวะ โจ๊ะ โจ๊ะ
ที่มันช่างชวนให้นึกถึงซันทาน่าดีจริงๆเลย...พับผ่าเถอะ...
จ่าได้ดูโชว์ของซันทาน่าครั้งสุดท้าย
ที่เขามาเล่นที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานีนี่แหละครับ
จ่าว่า "พลัง" ของน้าแกลดลงไปเยอะ...ก็แหมมม..น้าแกปัจฉิมวัยซะขนาดนี้
แต่มีอยู่ช่วงหนึ่งของโชว์
ที่จ่าประทับใจมาจนทุกวันนี้
ก้คือตอนที่ดนตรีบรรเลงไปเรื่อยๆสบายๆ
และน้าซันทาน่าออกมายืนอ่านบทกวี
เพื่อเรียกหาสันติภาพและความรักครับ
เป็นช่วงที่จ่าชอบที่สุดในโชว์คืนนั้นเลย
ฟัง Samba pa ti กันดีกว่าครัฟฟฟฟ
น้าแกแสดงสดเมื่อปี 2011 นี้เองที่มอนโทรวครัฟฟฟ

จ่าพิเชษฐ์
แสดงความคิดเห็น
ห้องเพลง**คนรากหญ้า** พักยกการเมือง มุมเสียงเพลง มุมนี้ไม่มีสี ไม่มีกลุ่ม............มีแต่เสียง 13/5/2015
***สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ห้องราชดำเนินทุกคน***
กระทู้นี้ เป็นมุมพักผ่อน มุมนี้ไม่มีสี ไม่มีกลุ่ม.........แต่มีเสียง...................
หายหน้าไปนิดนึงเพราะติดงานค่ะ วันนี้พอมีเวลาแว้บๆ มา คิดถึงเพื่อนๆ ทุกคนเลย และขอบคุณทุกกำลังใจและความเป็นห่วงด้วยค่ะ
เห็นศิษย์พี่แซวว่า "ศิษย์น้องมีงานเข้าตลอดเลยนะ อิอิ ไม่เหมือนศิษย์พี่ ไม่มีงาน" เลยอยากบอกศิษย์พี่ว่าไม่ต้องกังวลไป
วันนี้ศิษย์น้องมีของดีมาฝากทุกๆ คนเลยค่ะ นั่นคือ มาเนะกิ เนะโกะ (Maneki Neko) หรือ แมวกวัก นั่นเอง
แมวกวักคือรูปปั้นแมวตามความเชื่อของชาวญี่ปุ่นว่าจะนำโชคลาภเงินทองมาให้เจ้าของ ดึงดูดลูกค้าเข้าร้านเหมือนนางกวักของไทย
จะมีลักษณะที่คล้ายคลึงกับแมวพันธุ์พื้นเมืองของญี่ปุ่นชนิดหนึ่งที่ไม่มีหางที่เรียกว่า Japanese Bobtail
ชาวญี่ปุ่นเชื่อว่าแมวเป็นสัตว์นำโชค และมีตำนานหนึ่งของแมวกวักว่ามีหญิงชราเลี้ยงแมวอยู่ตัวหนึ่งและรักมาก แต่เพราะจนมาก
เลยต้องนำไปปล่อย แล้วนอนร้องไห้ทั้งคืน จนฝันว่าแมวมาบอกให้ใช้ดินเหนียวปั้นแมวแล้วจะโชคดี พอตื่นมาทำตามนั้น
ก็มีคนมาขอซื้อตุ๊กตาแมวนั้น เลยปั้นอีกหลายตัว ทีนี้ขายดีเงินทองไหลมาเทมาก็เลยนำแมวสุดที่รักกลับมาเลี้ยงได้อีกครั้ง
แมวกวักมีการยกแขนหลายแบบ มีเครื่องประดับหลากหลาย และสีต่างๆ โดยมีความหมายที่เป็นมงคลต่างๆ กันไปแล้วแต่ใครจะชอบ
หรือต้องการแบบไหน ใครได้ไปญี่ปุ่นใครก็ลองแวะไปที่ วัดเซ็นโซจิ ย่านอาซากุสะ แล้วเลือกตัวที่ถูกใจกลับมาได้เลย
เพราะเค้าว่าย่านนั้นขึ้นชื่อเรื่องเจ้ารูปปั้นแมวกวัก มาเนกิ เนโกะ ที่สุด
นู๋เป็นแมวกวักค่ะ เรียกแขกเก่งมากๆ รับนู๋ไว้สักตัวไหมคะ รับรองงานอิเวนต์เข้าทุกวัน
................................................................................
จากตำนาน เราว่าเพราะหญิงชรามีความรักให้แมว ความใจดีมีเมตตาผลักดันให้เธอได้พบช่องทางการทำมาหากินจนมีเงินทองขึ้นมา
ดังนั้นที่สำคัญสุดที่ทำให้คนมีฐานะดีน่าจะจิตใจที่ดีและความขยันหมั่นเพียร ไม่ละทิ้งโอกาสนี่แหละ
ฟังเพลงและชมน้องเหมียวน่ารักๆ กันค่ะ
ด้วยรักและปลาทู