สวัสดีค่ะทุกท่าน กระทู้นี้เกิดขึ้นจาก จขกท. มีโอกาสไปเที่ยวน่านถึง 2 ครั้งในเดือนเดียว คือเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาค่ะ
ครั้งแรกไปกับแก๊งค์เพื่อนวัยรุ่นไปงาน Nan Arts Festival จะเที่ยวแบบฮิปสเตอร์ชิวๆ ส่วนครั้งที่ 2 ไปทริปเที่ยวโฮมเตย์กับกรมการท่องเที่ยว ทั้ง 2 ทริปมีจุดร่วมคือการไป “วัด” ค่ะ (ฮา) ถามคนน่านว่าน่านมีอะไรให้เที่ยวบ้าง คนน่านก็ตอบว่า “วัด” ครั้นจะให้เรารีวิวเที่ยววัดก็คงจะเฝือเชย หาข้อมูลละเอียดในกูเกิ้ลได้เยอะแยะ กระทู้นี้จึงเป็นลูกผสมระหว่าง 2 ทริป คัดเฉพาะที่เด็ดนอกเหนือจากวัด ที่เราเห็นว่าน่าสนใจ ถ้าพร้อมแล้วก็เริ่มกันเลยค่ะ
เริ่มจากไปนอกเมืองกันก่อน เราไปพักที่โฮมสเตย์บ้านหาดผาขนค่ะ เป็นหมู่บ้านติดริมน้ำน่าน ห่างจากตัวเมือง 10 กว่ากิโลเมตร เปิดเป็นโฮมสเตย์มาหลายปีแล้วแต่สงบเงียบและยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก ที่สำคัญ
ราคาถูกมาก! ค่าที่พักตกหัวละ 150 บาท/คน นอนพักในเรือนเดียวกันกับชาวบ้านเลย
ตรงนี้คือจุดถ่ายรูปริมน่าน อยู่หน้าทางเข้าหมู่บ้านค่ะ เดี๋ยวเข้าไปดูที่พักกัน
ภาพโฮมสเตย์ที่เราไปพักค่ะ มีสองชั้น ชั้นบนมีห้องพัก 2 ห้อง ส่วนชั้นล่างเป็นห้องนั่งเล่น ห้องน้ำ ห้องครัว และห้องพักเจ้าของบ้านค่ะ
เจ้าของบ้านมี 2 ชีวิตค่ะ คนแรกคือพี่ณัชชา เป็นผู้หญิงใจดีน่ารักมาก ลูกของพี่เขามาเรียนที่กรุงเทพฯ อยู่คนเดียวเลยเปิดบ้านเป็นโฮมสเตย์ค่ะ พี่เขาทำอาหารอร่อยมาก
ส่วนเจ้าของบ้านรายที่สอง ทำตัวกร่างเป็นที่สุด คือเจ้าถุงเงิน ชอบเดินนวยนาดมานอนบนเตียงและขอบหน้าต่าง แล้วสั่งให้มนุษย์เกาคอให้
ที่พักโฮมสเตย์แบบนี้มีข้อเสียคือไม่สวยงาม ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกแบบโรงแรมในเมือง แต่อยู่กันแบบบ้านๆ เหมือนครอบครัว ทั้งหมู่บ้านมีโฮมสเตย์ 14 หลัง บ้านที่มีผู้ใหญ่อายุมากหน่อย เขาจะแทนตัวเองว่า “พ่อ” หรือ “แม่” แล้วเรียกเราว่าลูกทุกคำ เราว่ามันอบอุ่น น่ารักดีนะ แล้วเขาตั้งใจดูแลเราจริงๆ
สำหรับอาหาร ตกลงกับเจ้าของบ้านให้เขาเตรียมให้ได้ค่ะ จะกินอาหารเหนือหรืออาหารภาคกลางก็ได้ ค่าอาหารคิดเป็นคนๆไป ตกหัวละประมาณ 100 กว่าบาท/มื้อ จำราคาแน่นอนไม่ได้
ไฮไลต์เด็ดของที่นี่คือการล่องแพชมแม่น้ำน่าน ตรงริมน้ำจะมีแพไม้ไผ่กับร้านอาหารเรียงกัน เวลาล่องแพก็สั่งอาหารมากินบนแพหรือจะเอาอาหารมาเองก็ได้ค่ะ แม่น้ำที่นี่ใสมากกก สองข้างทางเป็นป่าเขียวๆ กินไปชมวิวไปเพลินๆ จะเล่นน้ำก็ได้แต่ควรบอกคนถ่อแพก่อน ให้เขาหยุดตรงจุดตื้นๆค่ะ เริ่มล่องแพได้ตั้งแต่ตอนสายๆไปจนถึงเย็นๆก่อนพระอาทิตย์ตกดิน ตอนเช้าจะตื่นมาดูหมอกกับพระอาทิตย์ขึ้นก็ได้ แต่เราหลับเลยอดมีรูปมาฝาก

นี่ภาพแพต่างๆ เป็นธุรกิจเล็กๆของชาวบ้าน แพนึงรับได้ 7 คน ค่าเช่าแพละ 300 บาทเองค่ะ ถูกเว่อร์ ส่วนค่าอาหารขึ้นอยู่กับจำนวนอาหารที่สั่งค่ะ
ส่วนนี่มื้อกลางวันค่ะ แซ่บบบบ
เราไปช่วงเดือนกุมภาฯ ถือว่าเป็นช่วงโลว์ซีซัน ทำให้ล่องแพได้นานเพราะลูกค้าน้อย ช่วงคนเยอะคือสงกรานต์ ต้องจองล่วงหน้าและล่องได้แค่ชั่วโมงเดียวค่ะ เขาบอกว่าแพเปิดให้ล่องตอนหน้าหนาวกับหน้าร้อน หน้าฝนน้ำจะเชี่ยวเกิน ล่องไม่ได้ ส่วนช่วงล่องแพที่ดีที่สุดคือ มี.ค. – เม.ย. เห็นว่าระดับน้ำจะกำลังดีค่ะ ส่วนตัวเราว่าไปช่วงคนน้อยๆน่าจะดี เราเจอกลุ่มวัยรุ่นแค่ 2-3 แก๊งค์ยังรู้สึกหนวกหูเลย เพราะบรรยากาศมันเงียบมาก
แม่น้ำน่านใสมากค่ะ นี่แอบขอติดเรือเล็กชาวบ้านมาถ่ายรูป
ระหว่างล่องแพจะเจอสาหร่ายน้ำจืดเป็นระยะ เห็นว่าขึ้นแค่แถบนี้ค่ะ มีเยอะมากๆ ชาวบ้านเอามาทำเป็นอาหาร เรียกว่า “ไกยี” เป็นผงๆสาหร่าย กินกะน้ำพริกกับข้าวสวยอร่อยดี เป็นสินค้าโอท็อปของหมู่บ้าน แต่ตอนนี้มันแก่เกิน เป็นสีเขียวเหลืองจะทำกับข้าวไม่ได้ละ ต้องเก็บตอนมันสีเขียวปี๋ค่ะ
นอกจากล่องแพ ที่นี่มีวัดหาดผาคำเป็นวัดประจำหมู่บ้าน ตอนที่เราไปมีงานฉลองพอดี เลยไปดูขบวนแห่ไปวัดตอนเช้า มีสวดและเลี้ยงอาหารกลางวันฟรีค่ะ อิ่มเลย แทบจะกลิ้งมาลงแพแน่ะ
ภาพขบวนแห่ค่ะ
กิจกรรมอื่นๆของที่นี่ก็มีโชว์เล่นดนตรีไทย ฟ้อนรำ กับพิธีบายศรีสู่ขวัญ เหมาะกับกลุ่มคณะ แต่เอาจริงๆเราว่าไม่สนุกเลยอ่ะ คงแล้วแต่รสนิยมคน เราว่าที่นี่เหมาะกะมาเป็นกลุ่ม มาล่องแพกับเพื่อนๆหรือครอบครัวน่าจะสนุก หรือถ้าจะมาอยู่ยาวๆคืออยากหนีจากโลกภายนอกมาอ่านหนังสือเงียบๆ ชมธรรมชาติ อยู่ใกล้ชิดชาวบ้านค่ะ
เดี๋ยวมาต่อในเมืองกันบ้างดีกว่า
[CR][SR] เที่ยวน่านกันไหมวัยรุ่น? รีวิวโฮมสเตย์และที่เที่ยวฮิปสเตอร์
ครั้งแรกไปกับแก๊งค์เพื่อนวัยรุ่นไปงาน Nan Arts Festival จะเที่ยวแบบฮิปสเตอร์ชิวๆ ส่วนครั้งที่ 2 ไปทริปเที่ยวโฮมเตย์กับกรมการท่องเที่ยว ทั้ง 2 ทริปมีจุดร่วมคือการไป “วัด” ค่ะ (ฮา) ถามคนน่านว่าน่านมีอะไรให้เที่ยวบ้าง คนน่านก็ตอบว่า “วัด” ครั้นจะให้เรารีวิวเที่ยววัดก็คงจะเฝือเชย หาข้อมูลละเอียดในกูเกิ้ลได้เยอะแยะ กระทู้นี้จึงเป็นลูกผสมระหว่าง 2 ทริป คัดเฉพาะที่เด็ดนอกเหนือจากวัด ที่เราเห็นว่าน่าสนใจ ถ้าพร้อมแล้วก็เริ่มกันเลยค่ะ
เริ่มจากไปนอกเมืองกันก่อน เราไปพักที่โฮมสเตย์บ้านหาดผาขนค่ะ เป็นหมู่บ้านติดริมน้ำน่าน ห่างจากตัวเมือง 10 กว่ากิโลเมตร เปิดเป็นโฮมสเตย์มาหลายปีแล้วแต่สงบเงียบและยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก ที่สำคัญราคาถูกมาก! ค่าที่พักตกหัวละ 150 บาท/คน นอนพักในเรือนเดียวกันกับชาวบ้านเลย
ตรงนี้คือจุดถ่ายรูปริมน่าน อยู่หน้าทางเข้าหมู่บ้านค่ะ เดี๋ยวเข้าไปดูที่พักกัน
ภาพโฮมสเตย์ที่เราไปพักค่ะ มีสองชั้น ชั้นบนมีห้องพัก 2 ห้อง ส่วนชั้นล่างเป็นห้องนั่งเล่น ห้องน้ำ ห้องครัว และห้องพักเจ้าของบ้านค่ะ
เจ้าของบ้านมี 2 ชีวิตค่ะ คนแรกคือพี่ณัชชา เป็นผู้หญิงใจดีน่ารักมาก ลูกของพี่เขามาเรียนที่กรุงเทพฯ อยู่คนเดียวเลยเปิดบ้านเป็นโฮมสเตย์ค่ะ พี่เขาทำอาหารอร่อยมาก
ส่วนเจ้าของบ้านรายที่สอง ทำตัวกร่างเป็นที่สุด คือเจ้าถุงเงิน ชอบเดินนวยนาดมานอนบนเตียงและขอบหน้าต่าง แล้วสั่งให้มนุษย์เกาคอให้
ที่พักโฮมสเตย์แบบนี้มีข้อเสียคือไม่สวยงาม ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกแบบโรงแรมในเมือง แต่อยู่กันแบบบ้านๆ เหมือนครอบครัว ทั้งหมู่บ้านมีโฮมสเตย์ 14 หลัง บ้านที่มีผู้ใหญ่อายุมากหน่อย เขาจะแทนตัวเองว่า “พ่อ” หรือ “แม่” แล้วเรียกเราว่าลูกทุกคำ เราว่ามันอบอุ่น น่ารักดีนะ แล้วเขาตั้งใจดูแลเราจริงๆ
สำหรับอาหาร ตกลงกับเจ้าของบ้านให้เขาเตรียมให้ได้ค่ะ จะกินอาหารเหนือหรืออาหารภาคกลางก็ได้ ค่าอาหารคิดเป็นคนๆไป ตกหัวละประมาณ 100 กว่าบาท/มื้อ จำราคาแน่นอนไม่ได้
ไฮไลต์เด็ดของที่นี่คือการล่องแพชมแม่น้ำน่าน ตรงริมน้ำจะมีแพไม้ไผ่กับร้านอาหารเรียงกัน เวลาล่องแพก็สั่งอาหารมากินบนแพหรือจะเอาอาหารมาเองก็ได้ค่ะ แม่น้ำที่นี่ใสมากกก สองข้างทางเป็นป่าเขียวๆ กินไปชมวิวไปเพลินๆ จะเล่นน้ำก็ได้แต่ควรบอกคนถ่อแพก่อน ให้เขาหยุดตรงจุดตื้นๆค่ะ เริ่มล่องแพได้ตั้งแต่ตอนสายๆไปจนถึงเย็นๆก่อนพระอาทิตย์ตกดิน ตอนเช้าจะตื่นมาดูหมอกกับพระอาทิตย์ขึ้นก็ได้ แต่เราหลับเลยอดมีรูปมาฝาก
นี่ภาพแพต่างๆ เป็นธุรกิจเล็กๆของชาวบ้าน แพนึงรับได้ 7 คน ค่าเช่าแพละ 300 บาทเองค่ะ ถูกเว่อร์ ส่วนค่าอาหารขึ้นอยู่กับจำนวนอาหารที่สั่งค่ะ
ส่วนนี่มื้อกลางวันค่ะ แซ่บบบบ
เราไปช่วงเดือนกุมภาฯ ถือว่าเป็นช่วงโลว์ซีซัน ทำให้ล่องแพได้นานเพราะลูกค้าน้อย ช่วงคนเยอะคือสงกรานต์ ต้องจองล่วงหน้าและล่องได้แค่ชั่วโมงเดียวค่ะ เขาบอกว่าแพเปิดให้ล่องตอนหน้าหนาวกับหน้าร้อน หน้าฝนน้ำจะเชี่ยวเกิน ล่องไม่ได้ ส่วนช่วงล่องแพที่ดีที่สุดคือ มี.ค. – เม.ย. เห็นว่าระดับน้ำจะกำลังดีค่ะ ส่วนตัวเราว่าไปช่วงคนน้อยๆน่าจะดี เราเจอกลุ่มวัยรุ่นแค่ 2-3 แก๊งค์ยังรู้สึกหนวกหูเลย เพราะบรรยากาศมันเงียบมาก
แม่น้ำน่านใสมากค่ะ นี่แอบขอติดเรือเล็กชาวบ้านมาถ่ายรูป
ระหว่างล่องแพจะเจอสาหร่ายน้ำจืดเป็นระยะ เห็นว่าขึ้นแค่แถบนี้ค่ะ มีเยอะมากๆ ชาวบ้านเอามาทำเป็นอาหาร เรียกว่า “ไกยี” เป็นผงๆสาหร่าย กินกะน้ำพริกกับข้าวสวยอร่อยดี เป็นสินค้าโอท็อปของหมู่บ้าน แต่ตอนนี้มันแก่เกิน เป็นสีเขียวเหลืองจะทำกับข้าวไม่ได้ละ ต้องเก็บตอนมันสีเขียวปี๋ค่ะ
นอกจากล่องแพ ที่นี่มีวัดหาดผาคำเป็นวัดประจำหมู่บ้าน ตอนที่เราไปมีงานฉลองพอดี เลยไปดูขบวนแห่ไปวัดตอนเช้า มีสวดและเลี้ยงอาหารกลางวันฟรีค่ะ อิ่มเลย แทบจะกลิ้งมาลงแพแน่ะ
ภาพขบวนแห่ค่ะ
กิจกรรมอื่นๆของที่นี่ก็มีโชว์เล่นดนตรีไทย ฟ้อนรำ กับพิธีบายศรีสู่ขวัญ เหมาะกับกลุ่มคณะ แต่เอาจริงๆเราว่าไม่สนุกเลยอ่ะ คงแล้วแต่รสนิยมคน เราว่าที่นี่เหมาะกะมาเป็นกลุ่ม มาล่องแพกับเพื่อนๆหรือครอบครัวน่าจะสนุก หรือถ้าจะมาอยู่ยาวๆคืออยากหนีจากโลกภายนอกมาอ่านหนังสือเงียบๆ ชมธรรมชาติ อยู่ใกล้ชิดชาวบ้านค่ะ
เดี๋ยวมาต่อในเมืองกันบ้างดีกว่า
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว