ซินหนงชุน โมเดลเกษตรสมัยใหม่ที่คนไทยคิดแต่ไม่อาจเกิดขึ้นในเมืองไทย (จะว่าเราม้าก็ได้ แต่ขอให้เปิดใจลองอ่านดูค่ะ)

สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ ชาวพันทิพ
จากกระแสของเพื่อนๆ ที่มาแสดงความคิดเห็นในกระทู้ของเราทั้ง
http://pantip.com/topic/33611406
http://pantip.com/topic/33621481

หลายๆ คนจะบอกว่า เจ้าสัวเห็นแก่ตัว เอารัดเอาเปรียบ ไหนๆ มาบอกหน่อยเซ่ ว่าทำอะไรให้สังคม ให้ประเทศชาติบ้าง
ตอนนี้เจ้าสัวโดนด่า จนแหยงแล้วค่ะ กลัวจะเป็นตัวปัญหาเวลาประเทศชาติจะทำโครงการใหญ่ๆ ถ้ามีข่าวว่าเจ้าสัวมีส่วนร่วมด้วยนี่อาจเจอแรงต้านจนสะดุด

กระทู้นี้เราจะพาไปดูเมืองจีน ไปดูว่ารัฐบาลจีนเขาฉลาดใช้เจ้าสัวจากเมืองไทย คนนี้ขนาดไหน
ซีพี. เข้าไปลงทุนในเมืองจีนเมื่อ 30 กว่าปีที่แล้ว รัฐบาลจีนมักให้ชีพี. ช่วยเสนอความเห็นในการพัฒนาประเทศของเขา
ที่เมืองจีน ปัญหาเขาคล้ายๆ เมืองไทยตรงที่เกษตรกรเขาขาดความรู้ และถือที่ดินกันคนละเล็กละน้อย รู้กันอยู่นะคะว่าที่นั่นเป็นคอมมิวนิสต์ รัฐบาลจะจัดสรรที่ดินทำกินให้เกษตรกรคนละนิดละหน่อย
รัฐบาลจีนเขาอยากพัฒนาเกษตรกรของเขา จึงมาให้ซีพี. ช่วยคิดวิธี
จึงเกิดโมเดลนำร่องที่ “เขตผิงกู่” กรุงปักกิ่ง
โครงการนี้เป็นโครงการเลี้ยงไก่ไข่ 3 ล้านตัว โดยร่วมกันทำ 4 ฝ่ายคือ รัฐบาล ธนาคาร เกษตรกรและ ซีพี.



รัฐบาลทำอะไร?
-    เป็นคนรวบรวมที่ดินจากเกษตรกร กว่า 1,000 ครอบครัว เอามาทำฟาร์มเลี้ยงไก่ไข่ โรงงานอาหารสัตว์  โรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์จากไข่ โรงทำปุ๋ยจากขี้ไก่ (สร้างอยู่ในบริเวณเดียวกันทั้งหมด)
-    จัดหาเงินทุน 15% ของเงินลงทุนทั้งหมด
เกษตรกรทำอะไร?
-    เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทที่จะจัดตั้งขึ้นมา
-    รับเงินค่าเช่าที่ดินและโรงงานจาก ซีพี.
-    มาทำงานที่นี่ก็ได้ หรือไม่ทำก็ได้  
ธนาคารทำอะไร?
-    ปล่อยเงินกู้ให้โครงการนี้  แต่ๆๆๆ เมืองจีนธนาคารเขาจะปล่อยกู้ให้แค่ 70% อีก 30 % ผู้กู้ต้องมีทุนของตัวเองอยู่แล้ว นี่คือ สาเหตุว่า ทำไมรัฐบาลจีนจึงต้องหาเงินทุน 15% มา อีก 15% มาจากไหน มาดูกันต่อไป
ซีพี. ทำอะไร?
-    ลงทุนในส่วน 15% ที่เหลือ
-    เช่าฟาร์มเลี้ยงไก่ไข่  โรงงานอาหารสัตว์  โรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์จากไข่ โรงทำปุ๋ยจากขี้ไก่
-    บริหารฟาร์มและโรงงาน และจัดจำหน่ายผลผลิต

อันนี้เป็นภาพบริเวณโครงการ

ส่วนอันนี้เป็นภาพในโรงงาน ใหม่วิ้งค์เลยค่ะ

เกษตรกรกว่า1,000 ครอบครัวนี้ได้อะไร?
-    ค่าเช่าต่อปีประมาณ 375 ล้านบาท (ค่าเข่า 10% คิดจากมูลค่าโรงงาน 3,750 ล้านบาท)
-    รายได้จากการทำงานในฟาร์มหรือในโรงงานนี้ (กรณีที่ทำงานที่นี่ด้วยเลย)
-    รายได้จากการประกอบอาชีพอื่นๆ (กรณีที่อยากไปทำงานอื่นตามความถนัด)
-    10 ปีหลังจากนี้ เกษตรกรทั้ง กว่า 1,000 ครอบครัวจะใช้หนี้ธนาคารหมด ทรัพย์สินทุกอย่าง ฟาร์ม โรงงานทั้งหลาย ตกเป็นของเกษตรกรทั้ง กว่า 1,000 ครอบครัว
-    10 ปีหลังจากใช้หนี้ธนาคารหมด เกษตรกรมีสิทธิตัดสินใจว่า จะให้ ซีพี. เช่าต่อหรือให้คนอื่นเช่าต่อ และรับเงินค่าเช่าเต็มๆ เพราะปลอดหนี้ธนาคารแล้ว
รัฐบาลจีนได้อะไร?
-    ลดภาระด้านงบประมาณในการมาดูแลเกษตรกรกลุ่มนี้ สามารถเอาเงินที่เหลือไปช่วยคนอื่นๆ ที่เดือดร้อนต่อไปได้
ซีพี. ได้อะไร?
-    บริหารฟาร์มและโรงงาน ถ้าบริหารดีก็ได้กำไร แต่ถ้าบริหารแย่ก็ขาดทุน


อันนี้เป็นภาพสายพานลำเลียงไข่จากฟาร์มไปโรงงานที่อยู่บริเวณเดียวกันค่ะ


ส่วนนี่ตัวอย่างสินค้าที่พร้อมเอาไปขายค่ะ

โครงการนี้เราไปดูมา 3 รอบแล้ว มีครั้งนึงไปกับคณะสื่อมวลชนกับนักวิชาการ
มีนักวิชาการท่านหนึ่ง (เคยเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยเราด้วยล่ะ) ถามเจ้าสัวว่า ทำไมไม่เอาโมเดลนี้ไปใช้เมืองไทย?

คำตอบคือ  การรวบรวมที่ดินในเมืองไทยทำได้ยาก จะให้ ซีพี. ไปรวบรวมเอง ก็โดนหาว่า มาฮุบที่ดินเกษตรกรแน่ จะให้รัฐบาลรวบรวม รัฐบาลก็จะโดนข้อหาฮั้วกับ ซีพี. แบบนี้รัฐบาลไหนก็ไม่เอาด้วยหรอก เขากลัวเสียฐานเสียง
แบบนี้เมืองไทยเราจะเสียโอกาสมั้ยอ่ะ
คนไทยคิดแท้ๆ แต่เอามาใช้ช่วยเมืองไทยไม่ได้ เศร้าป่ะล่ะ ประเทศชาติ

ปล. ขอขอบคุณภาพจากพี่ช่างภาพที่มิสามารถเอ่ยนามได้ พี่คะหนูขออนุญาติเอามาลงนิดหน่อยนะคะ เพื่อให้เพื่อนๆ เห็นภาพของโครงการผิงกู่
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่